บรรพบุรุษเก่าแก่ของมนุษย์

 พิคาเอีย
(บรรพบุรุษที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ที่พบในแผ่นหิน )
นักวิทยาศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เผยผลการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ลงในวารสาร "ไบโอโลจิคัล รีวิวส์" ว่า "พิคาเอีย" ขนาดตัวยาว 2 นิ้ว อาศัยอยู่ในทะเล อายุมากกว่า 500 ล้านปี เป็นบรรพบุรุษหรือต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตต่างๆ ทั้ง "มนุษย์" รวมไปถึง ปลา นก สัตว์เลื้อยคลาน ฯลฯ เนื่องจากเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังชนิดแรกของโลก

พิคาเอีย ไม่มีตา ไม่มีฟัน มีเพียงแค่ลำตัวยาว อาศัยเหงือในการหายใจ ส่วนหัวมีหนวด 2 เส้นเล็ก ทำหน้าที่คล้ายเซ็นเซอร์ สำหรับสัตว์มีกระดูกสันหลังนั้น จำแนกได้จากสัตว์ที่มี "โนโทคอร์ด" หรือแท่งยาวสำหรับพยุงลำตัว สามารถโค้งงอได้ อยู่บริเวณส่วนหลังของสิ่งมีชีวิต 

ซึ่งทั้ง 2 ข้างของโนโทคอร์ดของเจ้าพิคาเอียนั้น เรียงเป็นรูปซิกแซก มีท่อนมัดกล้ามเล็ก ราว 100 ท่อน เรียกว่า "ไมโอเมียร์" ช่วยให้การเคลื่อนไหวในน้ำสามารถไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการบิดตัว ซ้าย-ขวา คล้ายกับการเลื้อยของ งู หรือ ปลาไหล ที่พบเห็นได้ทั่วไปในทุกวันนี้

ศาสตราจารย์ ไซมอน คอนเวย์ หัวหน้าทีมวิจัยครั้งนี้ ระบุว่า "การค้นพบไมโอเมียร์ในตัวพิคาเอีย เป็นเหมือนการค้นพบสิ่งที่เราหาคำตอบกันมานาน สำหรับไมโอเมียร์นั้น มีทั้งเส้นประสาทใหญ่ โนโทคอร์ด และระบบไหลเวียนเลือด ทำให้การวิจัยนี้สามารถยืนยันได้ว่า พิคาเอีย เป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังชนิดแรกในโลก"

การวิจัยดังกล่าว วิเคราะห์จากสิ่งมีชีวิต 114 สายพันธุ์ จากแหล่งซากดึกดำบรรพ์หินตะกอนเบอร์จิสส์ ที่ประเทศแคนาดา โดยอาศัยเทคนิคสมัยใหม่ รวมไปถึงการสแกนอิเล็กตรอนไมโครสโคป เพื่อหารายละเอียดต่างๆ ของฟอสซิลพิคาเอีย 


อย่างไรก็ดี ขณะนี้ยังไม่สามารถหาคำตอบที่แน่ชัดว่า เพราะเหตุใด พิคาเอีย จึงเป็นสัตว์ที่มีกระดูกสันหลัง แต่อาจสันนิษฐานได้ว่า เกิดจากการพัฒนาให้สามารถหลบหนีสัตว์นักล่าได้รวดเร็ว ขณะที่ทีมนักวิทยาศาตร์ระบุว่า จะมุ่งค้นคว้าต่อไปเพื่อให้เข้าใจถึงประวัติการกำเนิดมนุษย์ที่แท้จริง.
Cr.http://www.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=2306&Itemid=4&limit=1&limitstart=8




Saccorhytus coronaries 
 
นักวิทยาศาสตร์ค้นพบซากฟอสซิลในมณฑลส่านซี ประเทศจีน เมื่อทำการศึกษาพบว่ามันคือสิ่งมีชีวิตเมื่อ 540 ล้านปีก่อน ขนาดตัวไม่ถึง 1 มิลลิเมตร เท่ากับขนาดเม็ดทรายเท่านั้น มันมีชื่อว่า Saccorhytus coronaries และยังได้รับการขนานนามว่าเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์อีกด้วย 

หลายคนต่างคิดว่าเจ้าซากดึกดำบรรพ์ตัวนี้ดูไม่เหมือนกับมนุษย์ แต่มันมีลักษณะคล้ายกันตรงที่เป็นประเภทสัตว์ที่ช่องปากเกิดภายหลังช่องทวารหนัก (Deuterostomes) ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ที่สุดที่มีโครงสร้างคล้ายมนุษย์ที่ค้นพบมา

ลักษณะร่างกายของมันดูคล้ายกระเป๋า และมีปากหลายชั้น พวกมันไม่มีช่องทวารหนัก หรือส่วนร่างกายท่อนล่างเลย ลำตัวที่ขนานกัน ทำให้มันดูไม่เหมือนกับบรรพบุรุษของมนุษย์
นักวิทยาศาสตร์เปิดเผยว่า “การศึกษาลักษณะทางกายภาพ ทำให้เรารู้ว่ามันมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ถึงแม้ว่าพวกมันจะมีขนาดเล็กเพียงขนาดของเม็ดทรายก็ตาม” นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตที่ช่องปากเกิดภายหลังช่องทวารหนัก (Deuterostomes) นั้นมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์

แต่นิตยสารแวดวงวิทยาศาสตร์มีความเห็นว่า สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตัวนี้ยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากพวกมันยังมีความเป็นไปได้สูงว่าอาจเป็นบรรพบุรุษของปลาดาวทะเล ปลิงทะเล หรือหอยทากด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าปากของพวกมันทำหน้าเป็น “ทวารหนัก” ด้วยตัวมันเอง และบนโลกปัจจุบันนี้ ยังมีสัตว์อีกหลายชนิดที่ไม่มีทวารหนัก พวกมันถ่ายของเสียผ่านทางช่องปากแทน




ปากที่เหี่ยวย่นของมัน ทำให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า พวกมันมีผิวหนังที่ค่อนข้างยืดหยุ่นพอตัว นั่นหมายความว่าอาจเป็นกล้ามเนื้อก็เป็นได้ อีกทั้งยังสามารถเลื้อยคลานได้ ลำตัวทั้งสองข้างของมันมีรูอยู่สี่จุด เนื่องจากมันใช้ชีวิตอยู่ก้นทะเลลึกในอดีตกาล ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตที่มีเหงือก ซึ่งภายหลังวิวัฒนาการมาเป็นใบหูของมนุษย์ในปัจจุบัน
 
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กนี้ถือเป็นการค้นพบครั้งใหม่ในหน้าประวัติศาสตร์ ที่อาจไขปริศนาเกี่ยวกับการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตได้ ตั้งแต่เป็นปลาในทะเลจนกลายมาเป็นมนุษย์
Cr.http://www.liekr.com/post_148265.html



 
Hypothetical Placental Ancestor
 
 
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลันสโตนี บรูค ในมลรัฐนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ และนักวิจัยจากพิพิธภัณฑ์"อเมริกัน มิวเซียม ออฟ เนเชอรัล ฮิสทอรี" เปิดเผยผลการศึกษาล่าสุดซึ่งพบว่า บรรพบุรุษที่มีอายุเก่าแก่มากที่สุดของมนุษย์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์สามารถสืบค้นได้ในปัจจุบัน คือ สัตว์ที่พวกเขาเรียกว่า Hypothetical Placental Ancestor  โดยสัตว์ชนิดนี้เกิดขึ้นบนโลกในยุคหลังการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์เมื่อราว 65 ล้านปีที่ผ่านมา เป็นสัตว์กินแมลงที่มีขนาดเท่ากับหนู และอาศัยอยู่ตามพื้นดิน

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า บรรพบุรุษของมนุษย์ยุคแรกเริ่มที่ว่านี้ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีการขยายพันธุ์ผ่านสายรก อีกทั้งยังถือเป็นบรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นๆอีกหลากหลายสายพันธุ์ ซึ่งรวมถึงหนู และวาฬ ด้วย
 
การค้นพบครั้งนี้ เกิดขึ้นจากการวิจัยโดยใช้โครงสร้างทางพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอของสัตว์ชนิดต่างๆ มาประกอบการร่างแบบจำลองของสัตว์ดึกดำบรรพ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นบรรพบุรุษของสัตว์ที่มีอยู่บนโลกใบนี้  และได้ถูกเผยแพร่ในนิตยสาร Science ฉบับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556

ภาพของบรรพบุรุษของสัตว์ชนิดนี้ทำร่วมกับศิลปินวาดภาพ พบว่ามันมีลักษณะคล้ายหนู มีหางเป็นพวงใหญ่ กินแมลงเป็นอาหาร มีน้ำหนักตัวราวตั้งแต่ 6-245 กรัม และมีความว่องไวเป็นพิเศษ นอกจากนั้น ในส่วน cerebral cortex ซึ่งเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของสมอง อาจมีความซับซ้อนและมีลักษณะขดม้วน ที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมส่วนใหญ่ของสมอง

โดยนอกจากมนุษย์ และสัตว์อื่นๆตามที่กล่าวมาแล้ว นักวิทยาศาสตร์สหรัฐฯ ยังระบุว่า สัตว์คล้ายหนูที่ค้นพบใหม่นี้ ยังถือเป็นบรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีรกชนิดอื่นๆอย่างหมูดิน และม้าลาย รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมสายพันธุ์ต่างๆอีกกว่า 5,100 ชนิด ที่มีชีวิตอยู่บนโลกในปัจจุบัน

ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1360319916&grpid=01&catid=&subcatid=
Cr.https://www.voicetv.co.th/read/63144
Cr.https://writer.dek-d.com/angeltvxq/blog/?blog_id=10168983




ทิกทาลิก


กรกฏาคม ๒๕๔๗  ณ เกาะเอลส์เมียร์  เขตนูวาวูท ประเทศแคนาดา ห่างจากขั้วโลกเหนือ ๑,๐๐๐ ไมล์  “นีล ชูบิน” (Neil Shubin) และเพื่อนร่วมคณะสำรวจอีก 2 คน คือ “เท็ด แดชเลอร์” (Ted Daeschler) และ “ดร.ฟาริช เอ เจนกินส์ จูเนียร์” (Dr.Farish A. Jenkins,Jr) ได้ค้นพบฟอสซิลปลาโบราณ
เพื่อเป็นเกียรติแก่ชนพื้นเมืองแถบนั้น ทีมสำรวจขอให้สภาผู้เฒ่าของเผ่าอินุทตั้งชื่อ  ได้ชื่อมา ๒ ชื่อคือ ซิกซาเจียกค์-Siksagiaq  และ ทิกทาลิก-Tiktaalik   โดยใช้ชื่อที่ ๒ 

ทิกทาลิก เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์เก่าแก่ มีลักษณะผสมระหว่างปลาและสัตว์สี่เท้า โดยลำตัวเป็นเกล็ดและมีครีบคล้ายกับปลา แต่ภายในครีบกลับพบกระดูกที่มีลักษณะหักพับได้คล้ายกับหัวไหล่ ข้อศอกและข้อมือของสัตว์สี่เท้ายุคโบราณ ฉะนั้นครีบของมันจึงไม่ได้มีประโยชน์แค่ใช้แหวกว่ายอยู่ในน้ำแต่ยังสามารถใช้ครีบดันตัวเองเพื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเมื่ออยู่บนบกได้ด้วย

ส่วนบริเวณกระโหลกศีรษะและลำตัวของ ทิกทาลิก นั้นมีลักษณะแบนคล้ายจระเข้ ทั้งยังมีตาอยู่ด้านบนกะโหลกซึ่งต่างจากปลาทั่วไปที่อยู่บริเวณด้านข้าง นอกจากนี้ยังมีคอที่ช่วยให้หันหัวได้อย่างอิสระซึ่งเอื้อต่อการดำรงชีวิตและหายใจบนบก การค้นพบ ทิกทาลิก จึงถือเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่อธิบายว่ามนุษย์วิวัฒนาการมาจากสัตว์น้ำ

การค้นพบของ ชูบิน ถือเป็นผลงานชิ้นเอกที่มีค่าต่อมนุษย์มหาศาลในการทราบว่าตัวเองมาจากอะไร และวิวัฒนาการมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เขาได้บันทึกเรื่องราวการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่นี้ไว้ในหนังสือชื่อ ‘Your inner Fish’  และยังกล่าวอีกว่า “มนุษย์และสัตว์ต่างมีรากเหง้าประวัติศาสตร์เดียวกัน”

ซึ่งใจความในหนังสือบอกว่า “ปลา” ไม่ได้เป็นแค่บรรพบุรุษของคนอย่างเดียว แต่สัตว์มีกระดูกสันหลังทั้งหมด ทั้งนก หนู จิ้งจก ซาลาแมนเดอร์ เมื่อสืบเชื้อสายกลับไปจะพบว่ามีบรรพบุรุษร่วมกันเป็นปลาสายพันธุ์หนึ่งที่ ยกพลขึ้นบกเมื่อ 375 ล้านปีก่อน

ทิกทาลิกเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างปลาและสัตว์บกโบราณ
โฉมหน้าทิกทาลิกที่ส่วนครีบเริ่มวิวัฒนาการเพื่อเตรียมยกพลขึ้นบก
Cr.https://wtfintheworld.com/human-evolution-3164/
Cr.http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3296.945
Cr.http://www.reurnthai.com/index.php?topic=3296.945
Cr.http://www.rmutphysics.com/science-news/index.php?option=com_content&task=view&id=1791&Itemid=0 ( อ่านเพิ่มเติม )


มนุษย์คนแรกของโลก
 ลูซี่(LUCY)เป็น ซากฟอสซิล ของออสตราโลพิเธคคัส อฟาร์เอนซิส(AUSTRALOPITHECUS AFARENSIS) มีชีวิตอยู่ในช่วง 3-3.9 ล้านปีก่อน ซากฟอสซิล ของลูซี่ ที่สมบูรณ์เกือบ 40%ให้ข้อมูลมากมายเกี่ยวกับ บรรพบุรุษของมนุษย์ในสมัยนั้น  ออสตราโลพิเธคคัส อฟาร์เอนซิสมีความสูงประมาณ 107-152 CM โดยเพศชาย มีขนาด ร่างกาย ใหญ่กว่าเพศหญิงมาก  (SEXUAL DIMORPHISM ลักาษณะแบบนั้น ยังพบได้ในกอริลล่า)
    
 การค้นพบกระดูกลูซี่ย์ ซึงเป็นมนุษย์โบราณกลุ่ม “โฮมินิด” ทำให้นักวิทยาศาสตร์มหลักฐานพิสูจน์ว่า บรรพบุรุษมนุษย์เดิน 2 ขา แยกสายพันธุ์ออกจากกันอย่างชัดเจนจากลิงวานรและสัตว์คล้ายมนุษย์พวก “โอมินอยค์”   
ชื่อของลูซี่ย์ มีที่มาจากเพลง  “ ลูซี่ย์ อิน เดอะ สกาย วิธไดมอนด์” ของเดอะบีทเทิลส์ ซึ่งคณะผู้ค้นพบฟอศซิลเปิดฟังขณะจัดงานเลียงฉลองความสำเร็จ

นี่คือลูกของ “ลูซี่” มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ซีแลม  หมายถึง ซากฟอสซิลบรรพบุรุษมนุษย์วัยผู้ใหญ่ยุคแรกๆที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากในวงการมนุษย์วิทยาการภาพและถูกเก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณพ์แห่งชาติเอธิโอเปีย

ย้อนกลับไปปี 2517 ดร. โดนัลด์ โจฮันสัน นักวิทยาศาสตร์สรหรัฐและคณะร่วมกันขุดพบฟอสซิลลูซี่ย์ ในเขตฮาดาร์ของเอธิเปียซึงห่างจากที่ทีมของ
เซเรเนย์พบ ซีแลม เพียง 4 กิโลเมตรเศษ   ถึงแม้แลมจะมีอายุมากกว่าลูซี่ย์ แต่เมื่อเป็นฟอสซิลโครงกระดูกวัยเด็ก จึงถูกเรียกว่า “ลูกของลูซี่” ไปโดยปริยาย
ที่มา เว็บไซต์ต้นกำเนิดและวิวัฒนาการของมนุษย์
Cr./sites.google.com/site/welcometohumanevolution/mnusy-khn-raek-khn-lok

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ชีววิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ สัตว์เลื้อยคลาน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่