.................ย่างเข้าฤดูฝน...เรากำลังเจอเรื่องที่คาดไม่ถึง
รู้หรือไม่ #ไข่ของหอยเชอรี่มีความทนทานสูงมาก...แม้แต่สารเคมีกำจัดศัตรูพืชยังทำอะไรไม่ได้
หากเอ่ยชื่อของหอยเชอรี่ คงไม่มีใครไม่รู้จักหอยต่างถิ่นสัญชาติอเมริกาใต้ชนิดนี้ เนื่องจากเป็นหอยต่างถิ่นชนิดรุกรานที่สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ และสัตว์น้ำพื้นเมืองหลายชนิดมาเป็นเวลานานนับสิบปี ทั้งการเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตร เป็นพาหะของโรคระบาด และปรสิตในสัตว์น้ำ รวมทั้งมีส่วนทำให้สัตว์น้ำพื้นเมืองบางชนิดหายไปจากระบบนิเวศอีกด้วย
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าหอยเชอรี่เป็นสัตว์น้ำที่มีความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดี กินอาหารได้หลากหลาย โตเร็ว และขยายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ ......แต่หลายๆท่านอาจยังไม่ทราบว่า
#ไข่ของหอยเชอรี่นั้นมีความทนทานสูงมาก ....แม้แต่สารเคมีกำจัดศัตรูพืชยังทำอะไรไม่ได้
จากผลงานวิจัยของ “ชุติมา และคณะ (2562) ซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสารวิจัยเทคโนโลยีการประมง ปีที่ 13 ฉบับที่ 1”ได้ทำการทดลอง โดยนำไข่ของหอยเชอรี่มาสัมผัสกับสารละลายซึ่งเป็นสารเคมีทางการเกษตรที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน 3 ชนิด ได้แก่ ไกลโฟเสท (ยาฆ่าหญ้า), ไซเปอร์เมทริน (ยาฆ่าแมลง) และ เมทัลดีไฮด์ (ยาฆ่าหอย) จากนั้นนำอัตราการฟักของไข่ มาเปรียบเทียบกับไข่หอยเชอรี่ที่ไม่ได้สัมผัสกับสารเคมีทางการเกษตร
พบว่า...
ไข่ของหอยเชอรี่ที่สัมผัสกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช มีอัตราการฟักที่สูงมาก และไม่แตกต่างจากไข่ที่ไม่ได้สัมผัสกับสารเคมีเลยโดยมีอัตราการฟักสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่า สารเคมีกำจัดศัตรูพืชแทบจะทำอะไรไข่ของหอยเชอรี่ไม่ได้ที่สำคัญหอยเชอรี่อาจไข่ได้สูงสุดถึงครั้งละ 3,000 ฟอง และหอยเชอรี่สามารถวางไข่ได้ทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูฝนอาจวางไข่ได้มากถึง 10 ครั้งในฤดูเดียว ซึ่งหากคำนวณคร่าวๆจากตัวเลขดังกล่าวในฤดูฝนแม่หอยเชอรี่ 1 ตัว อาจออกลูกออกหลานได้สูงสุดถึง 27,000 ตัวซึ่งไข่ของหอยเชอรี่จะฟักเป็นตัวได้ภายใน 1 – 2 อาทิตย์
โอ้โหหหหหหหหหห...
รู้อย่างนี้แล้ว...ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่หอยเชอรี่จะเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ที่แพร่สายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วมากจนยากที่จะควบคุมได้ในปัจจุบัน...
Save Wildlife Thailand
https://www.facebook.com/savewildlifeThailand/ 
รู้หรือไม่... ไข่หอยเชอรี่อึดกว่าที่คุณคิด
รู้หรือไม่ #ไข่ของหอยเชอรี่มีความทนทานสูงมาก...แม้แต่สารเคมีกำจัดศัตรูพืชยังทำอะไรไม่ได้
หากเอ่ยชื่อของหอยเชอรี่ คงไม่มีใครไม่รู้จักหอยต่างถิ่นสัญชาติอเมริกาใต้ชนิดนี้ เนื่องจากเป็นหอยต่างถิ่นชนิดรุกรานที่สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศ และสัตว์น้ำพื้นเมืองหลายชนิดมาเป็นเวลานานนับสิบปี ทั้งการเข้าทำลายพืชผลทางการเกษตร เป็นพาหะของโรคระบาด และปรสิตในสัตว์น้ำ รวมทั้งมีส่วนทำให้สัตว์น้ำพื้นเมืองบางชนิดหายไปจากระบบนิเวศอีกด้วย
เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าหอยเชอรี่เป็นสัตว์น้ำที่มีความสามารถในการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดี กินอาหารได้หลากหลาย โตเร็ว และขยายพันธุ์ได้เป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ ......แต่หลายๆท่านอาจยังไม่ทราบว่า #ไข่ของหอยเชอรี่นั้นมีความทนทานสูงมาก ....แม้แต่สารเคมีกำจัดศัตรูพืชยังทำอะไรไม่ได้
จากผลงานวิจัยของ “ชุติมา และคณะ (2562) ซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสารวิจัยเทคโนโลยีการประมง ปีที่ 13 ฉบับที่ 1”ได้ทำการทดลอง โดยนำไข่ของหอยเชอรี่มาสัมผัสกับสารละลายซึ่งเป็นสารเคมีทางการเกษตรที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน 3 ชนิด ได้แก่ ไกลโฟเสท (ยาฆ่าหญ้า), ไซเปอร์เมทริน (ยาฆ่าแมลง) และ เมทัลดีไฮด์ (ยาฆ่าหอย) จากนั้นนำอัตราการฟักของไข่ มาเปรียบเทียบกับไข่หอยเชอรี่ที่ไม่ได้สัมผัสกับสารเคมีทางการเกษตร
พบว่า...
ไข่ของหอยเชอรี่ที่สัมผัสกับสารเคมีกำจัดศัตรูพืช มีอัตราการฟักที่สูงมาก และไม่แตกต่างจากไข่ที่ไม่ได้สัมผัสกับสารเคมีเลยโดยมีอัตราการฟักสูงกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ นั่นหมายความว่า สารเคมีกำจัดศัตรูพืชแทบจะทำอะไรไข่ของหอยเชอรี่ไม่ได้ที่สำคัญหอยเชอรี่อาจไข่ได้สูงสุดถึงครั้งละ 3,000 ฟอง และหอยเชอรี่สามารถวางไข่ได้ทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูฝนอาจวางไข่ได้มากถึง 10 ครั้งในฤดูเดียว ซึ่งหากคำนวณคร่าวๆจากตัวเลขดังกล่าวในฤดูฝนแม่หอยเชอรี่ 1 ตัว อาจออกลูกออกหลานได้สูงสุดถึง 27,000 ตัวซึ่งไข่ของหอยเชอรี่จะฟักเป็นตัวได้ภายใน 1 – 2 อาทิตย์
โอ้โหหหหหหหหหห...
รู้อย่างนี้แล้ว...ก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่หอยเชอรี่จะเป็นเอเลี่ยนสปีชีส์ที่แพร่สายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วมากจนยากที่จะควบคุมได้ในปัจจุบัน...
Save Wildlife Thailand
https://www.facebook.com/savewildlifeThailand/