นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี เปิดเผยว่า มีความพร้อมเดินหน้า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ยืนยันว่าจะไม่หยุดก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 4 ปีข้างหน้าตามเป้าหมาย ซึ่งจะเป็นช่วงรับเศรษฐกิจที่กลับมาบูมอีกครั้งทันที เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมาบอกว่า หลังวิกฤต เศรษฐกิจจะเติบโตแบบก้าวกระโดด มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีอย่างคาดไม่ถึง ดังนั้น ซีพีจะไม่ล่าช้าแน่นอน
เจ้าสัวธนินท์ยังบอกด้วยว่า รัฐบาลต้องคิดและวางนโยบายให้ชัดเจน สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนทั่วโลกได้เห็นว่า แม้ในยามวิกฤต รัฐบาลไทยยังพร้อมจะเดินหน้า โครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง จะไม่หยุดชะงัก โดยเฉพาะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเดินหน้าเต็มที่ พร้อมไปชักชวนคนเก่งจากทั่วโลกมาลงทุน โดยมีอินเซนทีฟให้ เป็นต้น
วัฒนธรรมของไทยนั้นน่าสนใจ ใครมาเที่ยวก็ชอบมาเที่ยวอีก พอมาอยู่ไทย 1-2 ปี ก็ไม่กลับประเทศแล้ว ดังนั้น เรื่องนี้เราต้องรักษาไว้ และรัฐบาลต้องไม่ตั้งเป้าว่าจะเป็นเพียงศูนย์กลางอาเซียน เราต้องตั้งเป้าว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก เพราะที่สุดแล้วอาเซียนรวมกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย และอินเดีย จะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากประชากรที่มีมากกว่า 3,000 ล้านคน ครึ่งโลกแล้ว ในจำนวนนี้มี 20-50% ที่เป็นประเทศร่ำรวย เพราะมีทั้งจีนและญี่ปุ่นที่กำลังเติบโต ซึ่งญี่ปุ่นเองก็รวยที่สุด ตามด้วยจีนที่กำลังเติบโต 1.4 พันล้านคน อินเดียที่มีประมาณ 1.2 พันล้านคน อีกทั้งรัสเซียเองก็อยู่ในภูมิภาคนี้ อาเซียน 10 ประเทศ มีประชากร 600 กว่าล้านคน เราเป็นศูนย์กลางระดับโลกและเจริญเติบโตได้
“ผมบอกกับบริษัทในเครือฯ ทั่วโลกว่าเรามีวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม อย่าทิ้งวัฒนธรรมเหล่านี้ ต้องรักษาไว้ รับรองว่าการที่เราเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกจะเกิดขึ้นได้แน่แท้ แต่รัฐบาลต้องเข้าใจ ต้องมีเป้าหมาย สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันคิดและชี้แนะรัฐบาล ต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของนโยบายรัฐบาล พร้อมเติมเต็มด้วยโอกาส” เจ้าสัวธนินท์กล่าวทิ้งท้าย
เจ้าสัวพร้อมลุยไฮสปีด เชื่ออีอีซีพาไทยเปลี่ยน มั่นใจศักยภาพประเทศเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก
เจ้าสัวธนินท์ยังบอกด้วยว่า รัฐบาลต้องคิดและวางนโยบายให้ชัดเจน สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนทั่วโลกได้เห็นว่า แม้ในยามวิกฤต รัฐบาลไทยยังพร้อมจะเดินหน้า โครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง จะไม่หยุดชะงัก โดยเฉพาะโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จะเดินหน้าเต็มที่ พร้อมไปชักชวนคนเก่งจากทั่วโลกมาลงทุน โดยมีอินเซนทีฟให้ เป็นต้น
วัฒนธรรมของไทยนั้นน่าสนใจ ใครมาเที่ยวก็ชอบมาเที่ยวอีก พอมาอยู่ไทย 1-2 ปี ก็ไม่กลับประเทศแล้ว ดังนั้น เรื่องนี้เราต้องรักษาไว้ และรัฐบาลต้องไม่ตั้งเป้าว่าจะเป็นเพียงศูนย์กลางอาเซียน เราต้องตั้งเป้าว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลก เพราะที่สุดแล้วอาเซียนรวมกับจีน ญี่ปุ่น เกาหลี รัสเซีย และอินเดีย จะกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากประชากรที่มีมากกว่า 3,000 ล้านคน ครึ่งโลกแล้ว ในจำนวนนี้มี 20-50% ที่เป็นประเทศร่ำรวย เพราะมีทั้งจีนและญี่ปุ่นที่กำลังเติบโต ซึ่งญี่ปุ่นเองก็รวยที่สุด ตามด้วยจีนที่กำลังเติบโต 1.4 พันล้านคน อินเดียที่มีประมาณ 1.2 พันล้านคน อีกทั้งรัสเซียเองก็อยู่ในภูมิภาคนี้ อาเซียน 10 ประเทศ มีประชากร 600 กว่าล้านคน เราเป็นศูนย์กลางระดับโลกและเจริญเติบโตได้
“ผมบอกกับบริษัทในเครือฯ ทั่วโลกว่าเรามีวัฒนธรรมที่ยอดเยี่ยม อย่าทิ้งวัฒนธรรมเหล่านี้ ต้องรักษาไว้ รับรองว่าการที่เราเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกจะเกิดขึ้นได้แน่แท้ แต่รัฐบาลต้องเข้าใจ ต้องมีเป้าหมาย สื่อมวลชนก็ต้องช่วยกันคิดและชี้แนะรัฐบาล ต้องเปลี่ยนแปลงความคิดของนโยบายรัฐบาล พร้อมเติมเต็มด้วยโอกาส” เจ้าสัวธนินท์กล่าวทิ้งท้าย