ในช่วงวิกฤต เงินไม่เข้าใครออกใคร ประสบการณ์ทำธุรกิจกับคนรู้จักแล้วโดนเบี้ยวเงิน

สวัสดีครับ เพื่อนๆชาวพันทิพ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์การโดนเบี้ยวเงินจากคนรู้จัก เพื่อถือเป็นคติสอนใจคนในยุคที่วิกฤตครับ 

ผมเป็นนักธุรกิจ เจ้าของโรงงานที่ก็ทำธุรกิจไปเรื่อยๆ มีเพื่อนพ้องอุดหนุนบ้าง ลูกค้าสัญจรบ้าง ซึ่งก็ไปได้เรื่อยๆ แต่ต้องบอกว่าในช่วงวิกฤตแบบนี้ การทำมาค้าขายนั้นยากลำบากมาก 

แต่ยังโชคดีที่ตัวธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารนั้นยังพอมีออเดอร์อยู่ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ก็พออยู่ได้ 

เรื่องที่ผมพบเจอเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีเพื่อนผม (นาย A) มาขอสั่งสินค้ากับผม เป็นออเดอร์ระดับกลาง ส่วนใหญ่พูดคุยผ่าน Line 

ซึ่งที่ผ่านมาถ้าเป็นคนรู้จัก ผมจะไม่ได้ใช่อีเมลพูดคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราว เพราะด้วยความเชื่อใจกัน จึงส่งงานผ่านทาง Line แต่เนื่องจากออเดอร์ไม่ใช่ออเดอร์เล็ก จึงให้เซ็นใบเสนอราคากันเป็นระบบ และขอเงินมัดจำก่อนเปิดออเดอร์ 

เมื่อมีการเซ็นใบเสนอราคา ผมก็นึกว่าจะไม่มีอะไร และมีการยืนยันออเดอร์ผ่านทาง Line และการพูดคุยผ่านโทรศัพท์ จึงทำให้ผมก็ไม่ได้ให้เปิด PO และ Invoice เพราะเห็นเป็นเพื่อนกัน และได้วางการผลิตไปเป็นที่เรียบร้อย แต่เงินมัดจำยังไม่ได้มีการโอนเข้ามา ผมจึงขอให้อย่างน้อยโอนมัดจำมา 50% ก่อนการรับสินค้า 7 วัน 

ทุกอย่างดูเหมือนจะผ่านไปด้วยดี จนถึง 4 วันก่อนการรับมอบสินค้า อยู่ดีๆ นาย A ก็ดึงคนอีกคนนึงเข้ามาผ่าน Line และบอกว่า คนๆนี้คือคนสั่งที่แท้จริงไม่ใช่ตัวเค้า แต่ผมก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะมีหลายครั้งเหมือนกันที่เพื่อนแนะนำกันไปมา จึงบอกให้คนๆนี้ (ขอเรียกว่า นาย B) โอนเงินมัดจำก่อนรับสินค้า 

แต่กลายเป็นว่า นาย B ขอโทรมาพูดคุย และขอยกเลิกออเดอร์ทั้งหมด ที่สั่งมา เพราะอ้างว่า กำหนดส่งสินค้าล่าช้ากว่ากำหนด (ทั้งๆที่ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ก่อนจะมา เฉลยทีหลังว่า ได้มีการซื้อสินค้าไปกับอีกที่นึงแล้ว)  จึงเกิดการโต้เถียงกันยกใหญ่ และไกล่เกลี่ยกัน 

ตอนจบ จบลงที่ ขอซื้อเพียงครึ่งเดียว ทั้งๆที่มีการคอนเฟิร์มเป็นที่เรียบร้อย ทั้งการผลิต และซื้อวัดถุดิบ เสร็จสิ้นไปหมดแล้ว และนาย A ที่เป็นคนคุยเรื่องการซื้อขาย ก่อนหน้านี้ หายหัวไปเลย โดยไม่ขอเข้ามายุ่งเกี่ยว (ทั้งๆที่เป็นคนมาเปิดออเดอร์ และเป็นคนส่งใบเสนอราคา และยืนยันการรับสินค้า อ้างว่า เป็นแค่คนกลาง) 

เรื่องนี้ผมขอแชร์เป็นคติเตือนใจว่า การทำธุรกิจนั้น ห้ามไว้วางใจเป็นอันขาด ถึงแม้จะเป็นเพื่อน และญาติพี่น้อง 

1. ก่อนการผลิตใดๆ ให้วางเงินมัดจำ และเขียนใบเสนอราคาอย่างละเอียด เรื่องการส่งมอบสินค้า และเงื่อนไขการจ่ายเงิน 
2. เงินไม่มา ห้ามผลิต 
3. การพูดคุยทุกอย่าง ให้มีการจดบันทึก เพื่อเป็นหลักฐาน 

สุดท้ายนี้ ขอย้ำอีกครั้ง เรื่องการทำธุรกิจ ห้ามเชื่อใจกันครับ Business is Business it's not personal.

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่