หลังจากพักทริปใหญ่ๆมาครบปีก็ได้เวลาที่จะขี่ออกเที่ยวอีกรอบ โดยเป้าหมายครั้งนี้คือการไปดูดอกชมพูภูคาที่ จ.น่าน และเก็บบางจุดที่ไม่เคยแวะไปในคราวก่อนสมัยที่ยังขี่นินจา 300 ออกทริป และรอบนี้ไม่ได้บินเดี่ยวมี 500X ร่วมทริปไปด้วยอีกหนึ่งคัน
การออกทริปครั้งนี้ถือเป็นประสบการใหม่อีกแบบเพราะว่าออกเดินทางตอนกลางคืน เคยมีประสบการออกทริปกลางคืนครั้งเดียวก็ตอนขี่ฮอนด้าแฟนท่อมจากบ้านที่สมุทรปราการไปจันทบุรี ไม่ได้หวดยาวๆแบบครั้งนี้
ข้อดีของการออกทริปตอนกลางคืนคือมันไม่เพลียแดด ขี่ไปได้เรื่อยๆ ส่วนข้อเสียคือทัศนวิสัยมันสู้ตอนกลางวันไม่ได้อยู่แล้ว และพอขี่ไปถึงกลางทางก็ต้องแวะงีบกันบ้าง บางช่วงมีเพลียก็แวะนอนตามเซเว่นในปั๊ม ปตท.
การจองที่พักกับเอกชนไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่ การติดต่อถือว่าสะดวกและมีหลายช่องทางมาก แต่การจองที่พักอุทยานมีช่วงเวลาในการจองถ้าคิดจองล่วงหน้ายาวมากๆตัดทิ้งได้เลย(ผมจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน)
ถ้าเอาความสะดวกสบายแนะนำจองกับเอกชน
วันแรกที่ถึง จ.น่าน ผมพักที่มิ่งเมืองแมนชั่น อยู่ใกล้ๆกับวัดภูมินทร์เดินไป 5 นาทีก็ถึง ร้านอาหารใกล้ๆคือข้าวซอยต้นน้ำ และมารอบนี้ผมกะให้ตรงกับช่วงที่มีกาดหน้าวัดภูมินทร์ด้วย
วันที่สองผมไปพักที่บ่อเกลือ พักที่บ้านสะปัน retreat ซึ่งที่นี่บรรยากาศดีที่สุดในทริปนี้ ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตรมากๆ อากาศช่วงกลางวันยี่สิบองศากลางๆ พอตอนดึกอากาศแค่สิบองศาต้นๆเท่านั้นเอง
วันที่สามเปลี่ยนที่นอนไปนอนอุทยาน ระหว่างทางก็เจอไฮไลท์สำคัญของทริปนี้คือ ดอกชมพูภูคา แต่เอาตรงๆก็ผิดหวังเมื่อเทียบกับที่คิดไว้ เพราะดอกมันอยู่สูงและขึ้นกระจายไม่รวมกลุ่มเลยดูไม่อลังการ
การย้ายที่พักมาลิ้มรสบ้านพักในอุทยานก็ได้รสชาติอีกแบบ ที่พักอุทยานที่จองไว้รอบนี้เป็นแบบห้องน้ำรวมเลยไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ตอนเช้าจะอาบน้ำเลยมีชั่วโมงวัดใจเกิดขึ้นเพราะอากาศสิบองศานิดๆเอง ส่วนอาหารการกินต้องซื้อข้าวมาตุน ถ้าไม่จองและ walk in ต้องมาถึงก่อน 17.00 บรรยากาศโดยรวมดีมากห้องน้ำมีทั่วแทบทุกจุด จ่ายสามร้อยบาทเหมือนเหมาอุทยานเลยทีเดียว แถมมี wifi แรงๆให้ใช้ด้วย
วันที่สี่เป้าหมายคือไปนอนที่ดอยเสมอดาว ระหว่างทางแวะจุดที่น่าสนใจสามจุด คือวัดภูเก็ต แวะกินข้าวที่ร้านกาแฟไทลื้อ และแวะวัดก๋งอีกที่ หลังจากนี้คือขี่ขึ้นดอยเสมอดาว อาหารบนดอยที่มีก็คือหมูกะทะ ซึ่งเป็นทางเอกชนนำขึ้นไปขาย ส่วนของอุทยานมีน้ำเปล่า น้ำอัดลม มาม่า และมีร้านกาแฟจะเปิดในตอนเช้า บนดอยเสมอดาวจะมีแค่เต๊นท์เท่านั้น ถ้าจะนอนบ้านพักต้องลงมาตรงจุดทำการอุทยานด้านล่าง ถ้ามีผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องการเดินควรหลีกเลี่ยงเพราะเดินเข้าห้องน้ำถือว่าไกล
วันที่ห้า เป้าหมายวันนี้คือไปแวะดูผาชู้ และไปลงแพที่ประมงปากนาย เพราะคราวก่อนที่ขี่นินจามา ฝนตกหนักจนลงแพไม่ได้ และไปพักนอนอีกคืนที่พิษณุโลก โดยผมพักที่โรงแรมอู่ทอง ทำเลถือว่าดีตรงที่ใกล้ถนนคนเดินในช่วงเย็นๆ ของกินเพียบ ส่วนตอนเช้าโรงแรมมีอาหารเช้าให้ เป็นพวกข้าวต้มเครื่อง ข้าวราดแกง กาแฟ ขนมปังปิ้ง ระหว่างทางจากดอยเสมอดาวลงประมงปากนาย ไปจนถึงโรงแรมที่พิษณุโลกนี่ร้อนมาก สองข้างทางเป็นป่าแบบแห้งแล้ง และบางจุดมีทั้งที่ไฟเพิ่งสงบ และไฟที่กำลังลุกอยู่ด้วย
วันที่หก วันนี้ไม่มีอะไรมากแวะไหว้พระแล้วขี่กลับบ้านอย่างเดียว
สรุปจากกระทู้ก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/38945333
สมาชิกบางท่านบอกว่ารถกินน้ำมันมากไป ซึ่งก่อนที่จะมาทริปล่าสุดนี้รถผมก็อัพเดตอีกรอบ คือมีการจูนเนื่องจากใส่ท่อแต่ง จูนจากศูนย์พระรามห้า ถอดอุปกรณ์แต่งออก อย่างกระเป๋าข้างและพนักพิงหลัง น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์ร้อยเบอร์ 50 น้ำมันที่ใช้คือ e20
เท่าที่จับดูอัตราการกินน้ำมันดีขึ้น ขี่ในเมืองกินเฉลี่ย 17 กม./ลิตร น้ำมันเตือนตอนวิ่งได้ระยะทาง 170 กม.
ขี่ยาวๆออกทริปเฉลี่ย 25 กม./ลิตร น้ำมันเตือนตอนวิ่งได้ระยะทาง 200 กม.
ถังจุได้เต็มที่ 13 ลิตร น้ำมันจะเตือนตอนเหลือ 2.8 ลิตร แต่ผมตีกลมๆเป็น 3 ลิตร จะได้คิดค่าเฉลี่ยง่ายหน่อย
[CR] เรื่อยเปื่อยไรเดอร์ ตอน ขึ้นดอยไปคอยเธอ
การออกทริปครั้งนี้ถือเป็นประสบการใหม่อีกแบบเพราะว่าออกเดินทางตอนกลางคืน เคยมีประสบการออกทริปกลางคืนครั้งเดียวก็ตอนขี่ฮอนด้าแฟนท่อมจากบ้านที่สมุทรปราการไปจันทบุรี ไม่ได้หวดยาวๆแบบครั้งนี้
ข้อดีของการออกทริปตอนกลางคืนคือมันไม่เพลียแดด ขี่ไปได้เรื่อยๆ ส่วนข้อเสียคือทัศนวิสัยมันสู้ตอนกลางวันไม่ได้อยู่แล้ว และพอขี่ไปถึงกลางทางก็ต้องแวะงีบกันบ้าง บางช่วงมีเพลียก็แวะนอนตามเซเว่นในปั๊ม ปตท.
การจองที่พักกับเอกชนไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่ การติดต่อถือว่าสะดวกและมีหลายช่องทางมาก แต่การจองที่พักอุทยานมีช่วงเวลาในการจองถ้าคิดจองล่วงหน้ายาวมากๆตัดทิ้งได้เลย(ผมจองล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน)
ถ้าเอาความสะดวกสบายแนะนำจองกับเอกชน
วันแรกที่ถึง จ.น่าน ผมพักที่มิ่งเมืองแมนชั่น อยู่ใกล้ๆกับวัดภูมินทร์เดินไป 5 นาทีก็ถึง ร้านอาหารใกล้ๆคือข้าวซอยต้นน้ำ และมารอบนี้ผมกะให้ตรงกับช่วงที่มีกาดหน้าวัดภูมินทร์ด้วย
วันที่สองผมไปพักที่บ่อเกลือ พักที่บ้านสะปัน retreat ซึ่งที่นี่บรรยากาศดีที่สุดในทริปนี้ ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตรมากๆ อากาศช่วงกลางวันยี่สิบองศากลางๆ พอตอนดึกอากาศแค่สิบองศาต้นๆเท่านั้นเอง
วันที่สามเปลี่ยนที่นอนไปนอนอุทยาน ระหว่างทางก็เจอไฮไลท์สำคัญของทริปนี้คือ ดอกชมพูภูคา แต่เอาตรงๆก็ผิดหวังเมื่อเทียบกับที่คิดไว้ เพราะดอกมันอยู่สูงและขึ้นกระจายไม่รวมกลุ่มเลยดูไม่อลังการ
การย้ายที่พักมาลิ้มรสบ้านพักในอุทยานก็ได้รสชาติอีกแบบ ที่พักอุทยานที่จองไว้รอบนี้เป็นแบบห้องน้ำรวมเลยไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ตอนเช้าจะอาบน้ำเลยมีชั่วโมงวัดใจเกิดขึ้นเพราะอากาศสิบองศานิดๆเอง ส่วนอาหารการกินต้องซื้อข้าวมาตุน ถ้าไม่จองและ walk in ต้องมาถึงก่อน 17.00 บรรยากาศโดยรวมดีมากห้องน้ำมีทั่วแทบทุกจุด จ่ายสามร้อยบาทเหมือนเหมาอุทยานเลยทีเดียว แถมมี wifi แรงๆให้ใช้ด้วย
วันที่สี่เป้าหมายคือไปนอนที่ดอยเสมอดาว ระหว่างทางแวะจุดที่น่าสนใจสามจุด คือวัดภูเก็ต แวะกินข้าวที่ร้านกาแฟไทลื้อ และแวะวัดก๋งอีกที่ หลังจากนี้คือขี่ขึ้นดอยเสมอดาว อาหารบนดอยที่มีก็คือหมูกะทะ ซึ่งเป็นทางเอกชนนำขึ้นไปขาย ส่วนของอุทยานมีน้ำเปล่า น้ำอัดลม มาม่า และมีร้านกาแฟจะเปิดในตอนเช้า บนดอยเสมอดาวจะมีแค่เต๊นท์เท่านั้น ถ้าจะนอนบ้านพักต้องลงมาตรงจุดทำการอุทยานด้านล่าง ถ้ามีผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาเรื่องการเดินควรหลีกเลี่ยงเพราะเดินเข้าห้องน้ำถือว่าไกล
วันที่ห้า เป้าหมายวันนี้คือไปแวะดูผาชู้ และไปลงแพที่ประมงปากนาย เพราะคราวก่อนที่ขี่นินจามา ฝนตกหนักจนลงแพไม่ได้ และไปพักนอนอีกคืนที่พิษณุโลก โดยผมพักที่โรงแรมอู่ทอง ทำเลถือว่าดีตรงที่ใกล้ถนนคนเดินในช่วงเย็นๆ ของกินเพียบ ส่วนตอนเช้าโรงแรมมีอาหารเช้าให้ เป็นพวกข้าวต้มเครื่อง ข้าวราดแกง กาแฟ ขนมปังปิ้ง ระหว่างทางจากดอยเสมอดาวลงประมงปากนาย ไปจนถึงโรงแรมที่พิษณุโลกนี่ร้อนมาก สองข้างทางเป็นป่าแบบแห้งแล้ง และบางจุดมีทั้งที่ไฟเพิ่งสงบ และไฟที่กำลังลุกอยู่ด้วย
วันที่หก วันนี้ไม่มีอะไรมากแวะไหว้พระแล้วขี่กลับบ้านอย่างเดียว
สรุปจากกระทู้ก่อน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สมาชิกบางท่านบอกว่ารถกินน้ำมันมากไป ซึ่งก่อนที่จะมาทริปล่าสุดนี้รถผมก็อัพเดตอีกรอบ คือมีการจูนเนื่องจากใส่ท่อแต่ง จูนจากศูนย์พระรามห้า ถอดอุปกรณ์แต่งออก อย่างกระเป๋าข้างและพนักพิงหลัง น้ำมันเครื่องใช้สังเคราะห์ร้อยเบอร์ 50 น้ำมันที่ใช้คือ e20
เท่าที่จับดูอัตราการกินน้ำมันดีขึ้น ขี่ในเมืองกินเฉลี่ย 17 กม./ลิตร น้ำมันเตือนตอนวิ่งได้ระยะทาง 170 กม.
ขี่ยาวๆออกทริปเฉลี่ย 25 กม./ลิตร น้ำมันเตือนตอนวิ่งได้ระยะทาง 200 กม.
ถังจุได้เต็มที่ 13 ลิตร น้ำมันจะเตือนตอนเหลือ 2.8 ลิตร แต่ผมตีกลมๆเป็น 3 ลิตร จะได้คิดค่าเฉลี่ยง่ายหน่อย
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้