สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
อเมริกาอาจจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงมากจนกลายเป็นประมาท ส่วนการเข้าถึงการแพทย์ยากไหม ใช่ครับ 'เมกามีระบบเป็นขั้นเป็นตอนกว่า และมีราคาแพงมากอีกด้วย
ภาพหมอและพยาบาลช่วยเหลือคนไข้หามรุ่งหามค่ำแบบในบ้านเราเป็นไปได้ยาก หรือแบบปวดหัวมาแล้วเดินเข้าห้องฉุกเฉินเองแบบในไทยก็ทำไม่ได้ในบางประเทศ
ในช่วงเวลาปกติ คนไทยอาจจะดูทำตัวง่าย ๆ จนดูมักง่ายไม่ใส่ใจระเบียบวินัย แต่เวลาเกิดวิกฤตขึ้น คนไทย ดูจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ช่วยเหลือแบบถึงไหนถึงกันกันเป็นอันดับต้น ๆ เพราะความไม่ค่อยมีระเบียบมันกลายเป็นความยืดหยุ่นแบบลุยถึงไหนถึงกันในสถานการณ์ที่ไมปกติ
ภาพหมอและพยาบาลช่วยเหลือคนไข้หามรุ่งหามค่ำแบบในบ้านเราเป็นไปได้ยาก หรือแบบปวดหัวมาแล้วเดินเข้าห้องฉุกเฉินเองแบบในไทยก็ทำไม่ได้ในบางประเทศ
ในช่วงเวลาปกติ คนไทยอาจจะดูทำตัวง่าย ๆ จนดูมักง่ายไม่ใส่ใจระเบียบวินัย แต่เวลาเกิดวิกฤตขึ้น คนไทย ดูจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ช่วยเหลือแบบถึงไหนถึงกันกันเป็นอันดับต้น ๆ เพราะความไม่ค่อยมีระเบียบมันกลายเป็นความยืดหยุ่นแบบลุยถึงไหนถึงกันในสถานการณ์ที่ไมปกติ
Snowdust ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5255774 ถูกใจ, aloha023 ถูกใจ, Takato ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4364342 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1643685 ถูกใจ, Typical me ถูกใจ, Typical me ถูกใจ, คุณครูหน้าโหด ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3333333 ถูกใจรวมถึงอีก 148 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 23
จะเรียกว่าประมาท มั๊ย ก็ไม่เชิง ถ้ามองจากมุมมองประเทศอื่นคือประมาท แต่ถ้ามองจากมุมมองคนที่อยู่ที่นู่นก็ไม่ เพราะเขาเฉยๆ
ที่เคยใช้ชีวิตที่นู่นมา
คือคนเขาไม่ค่อยซีเรียส
ยังต้องการอิสระ ปาร์ตี้อยู่ ต่อให้ติดเป็นล้านคน คนก็ยังไม่แคร์
คือมุมมองการใช้ชีวิตของคนฝั่งนู้น ไม่เหมือนคนเอเชีย
คือ กล้าได้กล้าเสีย ติดก็ติดไป ไรประมาณนี้
รัฐบาลกลางคุม เท่าที่คุมได้ เที่ยวบินยังมีทุกรัฐ ทุกเมือง
รัฐใครรัฐมัน ก็คุมอีกที
ไม่ได้ต้องการล็อคเมืองอะไร ให้เศรษฐกิจเสียหายมากกว่าเดิม
ไม่แคร์ว่าจะติดเชื้อกี่คน
เพราะต่อให้ติดเป็นล้าน คนตายเป็นหมื่น เป็นแสน เขาก็ไม่สะทกสะท้าน เพราะเขาไม่ได้อินกับโรคระบาดจากการปลูกฝังให้กลัว
สิ่งที่สำคัญกว่าในมุมมองเขา คือการใช้ชีวิต อย่างอิสระแค่นั้น ใครดีก็รอด ไม่สนว่าคนอ่อนแอ คนไร้บ้าน คนจน จะตายหรือยังไง
ปชช. ฝากทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร แพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น อย่างเดียว
เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดแทนคนเมกัน ว่าประมาท เพราะเขาคิดว่านี่ไม่ได้ประมาท งงมั๊ย
ที่เคยใช้ชีวิตที่นู่นมา
คือคนเขาไม่ค่อยซีเรียส
ยังต้องการอิสระ ปาร์ตี้อยู่ ต่อให้ติดเป็นล้านคน คนก็ยังไม่แคร์
คือมุมมองการใช้ชีวิตของคนฝั่งนู้น ไม่เหมือนคนเอเชีย
คือ กล้าได้กล้าเสีย ติดก็ติดไป ไรประมาณนี้
รัฐบาลกลางคุม เท่าที่คุมได้ เที่ยวบินยังมีทุกรัฐ ทุกเมือง
รัฐใครรัฐมัน ก็คุมอีกที
ไม่ได้ต้องการล็อคเมืองอะไร ให้เศรษฐกิจเสียหายมากกว่าเดิม
ไม่แคร์ว่าจะติดเชื้อกี่คน
เพราะต่อให้ติดเป็นล้าน คนตายเป็นหมื่น เป็นแสน เขาก็ไม่สะทกสะท้าน เพราะเขาไม่ได้อินกับโรคระบาดจากการปลูกฝังให้กลัว
สิ่งที่สำคัญกว่าในมุมมองเขา คือการใช้ชีวิต อย่างอิสระแค่นั้น ใครดีก็รอด ไม่สนว่าคนอ่อนแอ คนไร้บ้าน คนจน จะตายหรือยังไง
ปชช. ฝากทุกอย่างให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร แพทย์ และผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น อย่างเดียว
เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดแทนคนเมกัน ว่าประมาท เพราะเขาคิดว่านี่ไม่ได้ประมาท งงมั๊ย
สมาชิกหมายเลข 4107239 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1643685 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 839221 ถูกใจ, UOEI ถูกใจ, กระต่ายลงพุง สยอง, สมาชิกหมายเลข 3333333 ถูกใจ, นูเบ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5251428 ถูกใจ, ช่างซ่อมบ้าน ถูกใจ, หอมหวนอวลกลิ่นดอกแก้ว ถูกใจรวมถึงอีก 28 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 28
สรอ. และประเทศแถบยุโรป มีแนวความคิดทางระบบสาธารณสุขว่า กลุ่มโรคระบาด หากปล่อยให้ค่อยๆแพร่ระบาดไป (ควบคุม ดูแล ให้การรักษาตามสถานการณ์) เมื่อถึงจุดๆหนึ่งก็จะสามารถเกิดภูมิคุ้มกันได้เอง และจะบรรเทาลง แต่สถานการณ์กาแพร่ระบาดมันรวดเร็ว รุนแรงเกินไปเกินที่จะไหวตัวทัน
แต่จีน เกาหลี ญี่ปุ่น(บางเมือง) สิงคโปร์ จะใช้วิธีการควบคุมการแพร่ระบาดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตั้งแต่แรก เพราะมั่นใจในศักยภาพจองระบบสาธรณสุขของตนเอง จึงพอบรรเทาไม่ให้หนักเกินไป
ในไทยเองใช้แนวทางตรงกลาง คือพิจารณาตามศักยภาพของสังคมและระบบสาธารณสุข จึงค่อยๆเพิ่มการควบคุมทีละขั้นตอน ค่อยๆคัดแยก ค่อยๆตรวจผู้เสี่ยง เพื่อไม่ให้มีจำนวนผู้ป่วยทะลักเข้าสู่ระบบการรักษา เพราะเราจะทำไม่ทัน แบกรับไม่ไหว แล้วจะมีการสูญเสียอย่างมาก
ประเทศเราประเมินสถานการณ์ก่อน แล้วพิจารณาตนเอง ก่อนเริ่มมาตรการต่างๆ จนมาถึงปัจจุบันนี้
"เป็นข้อมูลที่ได้คุยกับลูกชายครับ เลยเอามาแบ่งปันกันในเชิงข้อมูล มิใช่ข้อเท็จจริง"
เพิ่มเติม..
ข้อมูลนี้ได้คุยกับลูชายตั้งแต่ประมาณต้นเดือนมีนาคมนะครับ ซึ่งเขาได้บอกด้วยว่า อิตาลี สหราชอาณาจักร น่าจะเดินมาผิดทาง และน่าจะสูญเสียมาก (เป็นทรรศนะและการพูดคุยกันในกลุ่มของเขา รวมถึงความเห็นของ อ.อาวุโสผู้มีคุณวุฒิที่ได้ร่วมพูดคุยกันในครั้งนั้นด้วย)
แต่จีน เกาหลี ญี่ปุ่น(บางเมือง) สิงคโปร์ จะใช้วิธีการควบคุมการแพร่ระบาดแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตั้งแต่แรก เพราะมั่นใจในศักยภาพจองระบบสาธรณสุขของตนเอง จึงพอบรรเทาไม่ให้หนักเกินไป
ในไทยเองใช้แนวทางตรงกลาง คือพิจารณาตามศักยภาพของสังคมและระบบสาธารณสุข จึงค่อยๆเพิ่มการควบคุมทีละขั้นตอน ค่อยๆคัดแยก ค่อยๆตรวจผู้เสี่ยง เพื่อไม่ให้มีจำนวนผู้ป่วยทะลักเข้าสู่ระบบการรักษา เพราะเราจะทำไม่ทัน แบกรับไม่ไหว แล้วจะมีการสูญเสียอย่างมาก
ประเทศเราประเมินสถานการณ์ก่อน แล้วพิจารณาตนเอง ก่อนเริ่มมาตรการต่างๆ จนมาถึงปัจจุบันนี้
"เป็นข้อมูลที่ได้คุยกับลูกชายครับ เลยเอามาแบ่งปันกันในเชิงข้อมูล มิใช่ข้อเท็จจริง"
เพิ่มเติม..
ข้อมูลนี้ได้คุยกับลูชายตั้งแต่ประมาณต้นเดือนมีนาคมนะครับ ซึ่งเขาได้บอกด้วยว่า อิตาลี สหราชอาณาจักร น่าจะเดินมาผิดทาง และน่าจะสูญเสียมาก (เป็นทรรศนะและการพูดคุยกันในกลุ่มของเขา รวมถึงความเห็นของ อ.อาวุโสผู้มีคุณวุฒิที่ได้ร่วมพูดคุยกันในครั้งนั้นด้วย)
aloha023 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 839221 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1080275 ถูกใจ, ช่างซ่อมบ้าน ถูกใจ, chaokha ถูกใจ, นิแอน ถูกใจ, เกาะแน่นแน่นนะน้องนะ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5512162 ถูกใจ, ข้าวเหนียวชุบไข่ใส่หมูหวาน ถูกใจ, นกแคปหมู ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ทำไม อเมริกา ถึงมีผู้ติดเชื้อโควิดสูงที่สุดในโลก