สวัสดีครับ จะรบกวนปรึกษาเพื่อนๆเกี่ยวกับความรักครับ อาจจะเขียนไม่ค่อยรู้เรื่องบ้าง ยาวไปบ้าง เพราะอยากให้เข้าใจรายละเอียด ต้องขออภัยด้วยครับ
ผมอายุ27ปี บ้านอยู่กทม. แฟนอายุ27ปีเท่ากัน บ้านอยู่สุพรรณ
ขอเล่าก่อนว่าพื้นเพเดิมผมเป็นคนกทม. ฐานะทางบ้านปานกลาง คือมีบ้านเป็นห้องแถว มีรถ ที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัว ผมเป็นคนเรียนปานกลาง ความรับผิดชอบก็ค่อนข้างโอเค บวกกับค่อนข้างจะมีโชค เลยสอบติดมหาลัยคณะดีๆ ชอบเล่นกีฬา เล่นเกม เป็นคนสบายๆ ช้าๆ บางทีก็ช้าเกินไป ไม่ค่อยคิดอะไรมาก อะไรก็ได้ ใจเย็น ใช้เหตุผลมากกว่าอารม บุคคลิกน่าเชื่อถือ เป็นที่รักของผู้ใหญ่
ส่วนแฟนพื้นเพเป็นคนกทม. แต่ย้ายบ้านไปสุพรรณเพราะที่บ้านเปลี่ยนธุรกิจไปทำอยู่สุพรรณ ฐานะปานกลางค่อนไปทางรวย อยู่บ้านเดี่ยว (คือน่าจะรวยกว่าบ้านผมพอสมควร) แฟนเป็นคนทำงานเร็ว ทำงานเก่ง เรียนเก่ง คุยเก่ง ทำอะไรจริงจัง จนบางครั้งคนที่ทำงานด้วยกันจะรู้สึกว่าดุมากไป(เหมือนสังคมไทยจะอลุ่มอล่วยกัน แต่แฟนผมถ้าเจอเพื่อนร่วมงานที่ทำงานมักง่ายก็จะไม่โอเคทันที) แต่โดยรวมคือคนรอบข้างรักมากกว่าคนเกลียด ผู้ใหญ่มักจะชื่นชม นิสัยแฟนเป็นคนไม่เล่นเกม ไม่เล่นกีฬา(ยกเว้นวิ่ง) ชอบดูเกาหลี ชอบท่องเที่ยวเดินทาง
เราเริ่มคบกันตั้งแต่เรียนมหาลัย จากนั้นก็มาทำงานที่เดียวกันอยู่จ.ศรีสะเกษ ปีนี้คบกันเข้าปีที่8แล้ว ช่วงที่คบกันแรกๆมันก็ไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไร กินเที่ยวสนุกกัน ถึงความชอบเราจะแทบเหมือนกันเลย แต่มันก็อยู่กันได้มีความสุขดี แต่พอเริ่มเข้าวัยทำงานเราก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น เพราะมีอะไรให้รับผิดชอบมากขึ้น ชีวิตมีความเครียดเรื่องงานมากขึ้น แต่ผมก็เข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาของทุกคู่ เรื่องที่เราทะเลาะกันผมลองคิดดูมีอยู่ประมาณ3-4สาเหตุใหญ่ๆเรียงจากเรื่องที่ผมคิดว่าใหญ่ไปเรื่องเล็กนะครับ
1.ผมวางแผนอนาคตไม่ดี/ไม่วางแผน ไม่รอบครอบ เช่น เวลาไปเที่ยวส่วนใหญ่แฟนจะเป็นคนวางแผนเที่ยวผมจะช่วยเรื่องเดินทางเพราะแฟนไม่เก่งเรื่องดูแผนที่ ล่าสุดไปเขาใหญ่เช่ารถขับไปผมก็ลืมเช็คแบตเตอรี่ แบตเสื่อมต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนทำให้เวลาเที่ยวน้อยลง
2.ผมไม่ค่อยคิดถึงแฟน เช่น เวลาผมเดินทางไปอบรมหรือลากลับบ้านยาวๆผมก็จะไม่ค่อยได้โทรไปคุย อาจจะแค่ไลน์ไป ความคิดถึงที่พูดมามันก็เป็นความคิดถึงทั่วๆไปว่าอยากเจออยากคุย แต่มันจะมีความคิดถึงอีกแบบ คือเค้าจะรู้ว่าเราอาจจะเจอปัญหาอะไรแล้วก็จะช่วยคิดแทนเราล่วงหน้าได้เสมอ ยกตัวอย่างช่วงที่PM2.5เยอะเค้าก็ไลน์มาถามว่าจะฝากซื้อเครื่องฟอกอากาศมั้ย ช่วงที่covid19ระบาด เค้าก็ไลน์มาถามผมว่ามีหน้ากากอนามัยพอใส่มั้ย ทำประกันcovid19รึยัง อย่าลืมซื้ออาหารน้ำตุนไว้
3.ผมลืมสิ่งที่คุยกันไป เช่น ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่แฟนไปเจอมาแล้วเค้าเล่าให้เราฟัง(เรื่องที่มันสำคัญกับตัวเค้า ไม่ใช่เรื่องไร้สาระทั่วไป)
4.ถ่ายรูปไม่สวย เรื่องนี้คิดๆดูก็โดนบ่นบ่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทะเลาะกันหนัก แค่จะรู้สึกไม่ดีเวลาไปเที่ยวกัน นอนตื่นวันรุ่งขึ้นก็หาย ปัญหาที่เจอก็พวกผมบังหน้าบ้าง เก็บองค์ประกอบไม่ครบ ถ่ายฉากหลังเบี้ยว หน้าเบลอ ดูอ้วน ซึ่งหลังๆผมก็พยายามตั้งใจถ่ายมากขึ้น ดูองค์ประกอบให้ดี ดูผม มันก็ดีขึ้นนิดนึง พอผมบอกให้ถ่ายแก้บ่อยๆแฟนก็จะไม่อยากถ่ายแล้ว ก็จะพาทำให้อารมณ์ไม่ดี
ความเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว แฟนผมเปลี่ยนสาขาต้องย้ายที่ทำงานไปอยู่กทม. ต้องปรับตัวกับงานใหม่ที่หนักกว่าเดิม ไม่ค่อยมีเวลาว่าง เวลาผมกลับไปที่บ้านผมก็จะไปหาแฟนประมาณเดือนละครั้ง แรกๆเราก็ติดต่อคุยกันไลน์หากันดี หลังๆก็ห่างออกๆ แล้วก็อย่างที่บอกทีแรกคือผมไม่ค่อยคิดถึงแฟนส่วนใหญ่แฟนก็จะเป็นคนโทรมา พอเราไม่ได้อยู่ด้วยกันมันก็มีเรื่องคุยน้อยลง
แล้วก็มีน้องผู้หญิงที่ทำงานเข้ามาใหม่ เป็นคนขอนแก่น อายุน้อยกว่าผม2ปี ทำงานตำแหน่งเดียวกับผม น้องเค้าคุยเก่ง เข้าหาคนง่าย ผมเริ่มรู้สึกชอบน้องเค้า แต่ก็ไม่ได้บอก เพราะเรามีแฟนแล้ว เราก็รู้สึกว่ามันผิด ส่วนน้องเค้าก็เหมือนจะชอบผมด้วยทั้งๆที่รู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว ปกติเวลาไปกินข้าวผมก็จะชวนที่ทำงานไปกันทั้งหมด แต่บางทีก็แยกๆกันไปจะเหลือผม น้องคนนี้ แล้วก็น้องผู้ชายอีกคน ถ้ามันเหลือแค่ผมกับน้องผู้หญิงผมก็จะไม่ไปเพราะมันดูไม่เหมาะสม แต่เวลาผ่านไปผมก็เริ่มรู้สึกผิดน้อยลง กะว่าก็คุยๆไปเดี๋ยวผมก็จะย้ายไปกทม.กลางปี63แล้ว แค่อย่าให้เลยเถิดก็พอ จากที่ไม่กินข้าวด้วยกัน2คนก็ไป จากที่ไลน์ถามคำตอบคำก็กลายเป็นคุยเยอะ ส่งสติ๊กเกอร์กัน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านี้ ไม่ได้ซื้อของให้ ไม่ได้เลี้ยงข้าว ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบกอดหรือนอนด้วยกัน
ต่อจากนี้คือเหตุการ์ที่ทำให้ผมได้กลับมาคิดทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับแฟน
ช่วงกลางเดือนมีค63ผมเช่ารถไปเที่ยวเขาใหญ่กับแฟน เจอแฟนผมก็มีความสุข คุยกันสนุกดี ไม่ได้รู้สึกเกร็งอะไร คือผมคิดว่าผมคุยกับน้องผู้หญิงเยอะไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้กะจะเลิกกับแฟนไปคบกับน้องเค้า อนาคตที่จะแต่งงานด้วยก็คือแฟนคนนี้แหละ จนช่วงที่ขับรถกลับกทมไปส่งหอแฟน ปกติแฟนผมไม่ได้เช็คมือถือเพราะผมก็ทำตัวดีมาตลอด(ผมก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าเป็นเพราะมีแฟนอยู่ด้วยตลอดรึเปล่า) แฟนผมก็เชื่อใจเรื่องนี้มาก แต่รอบนี้แฟนเปิดโทรศัพท์ดูเห็นว่าผมคุยกับน้องคนนี้เยอะ (ก่อนน้านี้น้องผู้หญิงเค้าเลยโพสรูปลงIGแล้วมักจะมีรูปผมเยอะเป็นพิเศษ แฟนก็ไลน์มาถามไปทีนึง ผมก็บอกว่าน้องเค้ามีคนคุยอยู่แล้ว คือตอนนั้นน้องเค้าก็มีคนคุยอยู่จริงๆ) หลังจากแฟนเห็นที่ผมไลน์คุยกับน้องผู้หญิง เค้าก็ร้องไห้อย่างหนักแล้วก็โกรธมาก คือแฟนเราเคยบอกว่าแล้วว่าเรื่องอื่นๆที่ผมบกพร่องแฟนรับได้หมดแต่เรื่องนี้แฟนรับไม่ได้
>>ต่อจากนี้จะเป็นคำพูด/ความรู้สึกของแฟนผมตอนที่เราเคลียกัน<< ในtimelineที่ผมคุยกับน้องผู้หญิงมันมีเรื่องที่ต่อเนื่องจากที่ผมคุยกับแฟนแล้วแฟนผมก็จำได้ เช่น แฟนผมเตือนผมเรื่องประกันcovidผมก็เอาไปบอกน้องผู้หญิงให้ทำประกัน มันเหมือนกับผมไม่ห่วงแฟนแต่ไปห่วงน้องเค้า รองเท้าวิ่งที่เคยซื้อด้วยกันก็เอาไปวิ่งกับน้องเค้า2คน ทำไมผมถึงทำกับเค้าแบบนี้ เค้าไม่รู้เลยว่าผมกับน้องจะจูงมือกันเข้าห้องนอนหรือไปเปิดโรงแรมด้วยกันเมื่อไหร่ เครื่องฟอกอากาศที่ซื้อไปให้จะเอาไปให้น้องเค้านอนมั้ย ความเชื่อใจมันกลายเป็นศูนย์ หลังจากนี้เค้าจะยังเชื่อใจผมได้อีกมั้ย แล้วความคิดพวกนี้มันต้องอยู่ในหัวเค้าอีกถึงเมื่อไหร่
>>ผมก็บอกแฟนผมประมาณว่า<< ผมขอโทษ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะคุยกันเยอะแบบนี้ ทีแรกผมก็รู้สึกผิดต่อมาผมก็ลืมความรู้สึกผิดนั้นไป กะว่าเดี๋ยวก็แยกกันไปไม่น่ามีปัญหา ผมก็คิดจะแต่งงานกับแฟนไม่ได้จะไปคบกับน้องเค้า ถ้ากลับไปศรีสะเกษรอบนี้ผมจะแยกตัว ไม่ไปกินข้าวกับน้องเค้า ไม่คุยเล่นกับน้องคุยแค่เรื่องงาน ถ้าไลน์มาก็ถามคำตอบคำ
หลังจากเราแยกกับ ผมกลับบ้านก็ได้ไปปรึกษาแม่บอกว่าผมนอกใจแล้วแฟนจับได้
ผมก็ลองคิดทบทวนดู ผมแยกเป็นประเด็นๆ เรียงลำดับความสำคัญ
1.ผมยังรักแฟนมั้ย?
2.ผมจะทำยังไงกับน้องคนนั้น?
3.ผมจะทำยังไงกับตัวเอง?
วันต่อมาผมก็โทรไปคุยกับแฟน ยืนยันว่าผมยังรักแฟนอยุ่และอยากจะแต่งงานกับแฟนคนนี้ จะเลิกคุยกับน้อง ผมคิดว่าผมทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องความเชื่อใจมันคงไม่มีอะไรจะยืนยันได้เหมือนเดิมได้แต่ต้องรอเวลาพิสูจน์ ต่อไปนี้จะโทร/ติดต่อไปทุกวัน ถ้าไม่ติดต่อไปก็ให้ถือว่าผมไม่คิดถึง/ไม่จริงจังกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง แฟนผมก็รับฟัง(คือผมก็ดูออกว่าแฟนรักผมมากพร้อมที่จะให้อภัยอยู่แล้วแต่ก็เสียใจมากจริงๆ)
ทีนี้ปัญหาผมรู้สึกว่า
1.หรือไม่รักแฟนแล้ว? ปัญหานี้ใหญ่ที่สุดสำหรับผม ผมคิดกับตัวเองไม่ตกจริงๆว่า รักคืออะไร? ถ้าไม่คิดถึงกันมันคือไม่รักรึเปล่า? ความรักมันหมดอายุ?
สำหรับแฟนผมให้นิยามความรักคือ อยู่กับผมแล้วรู้สึกสบายใจคุยได้ทุกเรื่อง
สำหรับผม ไม่รู้ว่านิยามความรักคืออะไร ผมคิดว่าผมชอบแฟนผมก็เหมือนกับที่คนอื่นๆชอบ ชอบในความเก่ง ความน่ารัก คิดว่าคนๆนี้จะเป็นแม่ที่ดีได้
เวลาผมเห็นเค้ามีความสุขผมก็มีความสุข เวลาเห็นเค้าทุกข์ผมก็ทุกข์ ผมรู้สึกอยากทำให้เค้ามีความสุข แต่ถ้าเราไม่ได้อยู่ใกล้กันผมก็มักจะไม่ได้คิดถึง
(ผมเป็นคนไม่ชอบให้ใครมีความทุกข์ อะไรยอมได้ผมก็ยอม อะไรช่วยได้ผมก็ช่วย แต่อาจจะไม่ได้ไปเสนอตัวช่วยตั้งแต่แรก)
>>หรือความรู้สึกนี้มันก็เป็นความรู้สึกทั่วๆไปที่ผมก็รู้สึกกับเพื่อนๆทุกคน/คนที่ทำงาน/คนในครอบครัวอยู่แล้ว?
2.หรือผมยังไม่พร้อมจะดูแลใคร? ผมควรจะอยู่คนเดียวไปก่อน? ถ้าผมเป็นคนที่วางแผนชีวิตดีแบ่งเวลาดีมีความรับผิดชอบมากขึ้น เราก็จะทะเลาะกันน้อยลง เวลาเราเจอกันก็จะมีแต่ความรู้สึกดีๆ ก็น่าจะทำให้ความสัมพันธ์เราดีกว่านี้ (คือเวลามีปัญหากันแต่ละครั้งผมค่อนข้างจะsensitive มันจะรู้สึกซึมไปเกือบทั้งวัน ต้องได้นอนตื่นมาถึงจะดีขึ้น เหมือนสมองมันจะพยายามลืมๆไป ผมไม่รู้ว่าแฟนเป็นแบบนี้มั้ย)
3.ทำยังไงผมถึงจะพัฒนาตัวเองได้? ผมรู้ว่าผมควรทำอะไร แต่พอถึงเวลามันก็ขี้เกียจทำ อยากจะหาความสุขไปวันๆ ดูยูทู้ป ฟังเพลง เล่นเกม...
ผมควรจะจนตารางงานให้ชัดเจน วางแผนเป็นวัน สัปดาห์ เดือน
ถ้าผมเป็นคนขี้ลืม ก็พกกระดาษเล็กๆใส่กระเป๋า มีเรื่องอะไรที่สำคัญในแต่ละวันก็จดๆไปก่อนแล้วค่อยเอามาจดลงสมุดวางแผนของเราอีกที
ผมต้องอ่านหนังสือหาความรู้ในสาขางานที่กำลังจะย้ายไปทำกลางปีนี้
ผมต้องนอนให้เร็วขึ้น ต้องออกกำลังกาย ต้องเลิกเกินอาหารไม่ดีอายุจะ30แล้ว
น่าจะมีเท่านี้ล่ะครับ
คิดว่าปัญหานี้น่าจะเกิดกับใครหลายคน
ตอนเด็กๆผมก็ไม่คิดว่าตอนผมอายุจะ30มันจะมีปัญหาให้คิดไม่ตกได้แบบนี้
ถึงสุดท้ายไม่ได้คำตอบ อย่างน้อยผมก็ได้ระบาย แล้วก็ได้ทบทวนความคิดตัวเอง มันก็ดีเหมือนกันครับ
ลองมาแชร์กันได้ครับ อยากได้ความเห็นในเชิงสร้างสรรค์ แต่ถ้าโดนด่าบ้างผมก็เข้าใจครับ
ผมยังรักแฟนอยู่มั้ย?
ผมอายุ27ปี บ้านอยู่กทม. แฟนอายุ27ปีเท่ากัน บ้านอยู่สุพรรณ
ขอเล่าก่อนว่าพื้นเพเดิมผมเป็นคนกทม. ฐานะทางบ้านปานกลาง คือมีบ้านเป็นห้องแถว มีรถ ที่บ้านทำธุรกิจส่วนตัว ผมเป็นคนเรียนปานกลาง ความรับผิดชอบก็ค่อนข้างโอเค บวกกับค่อนข้างจะมีโชค เลยสอบติดมหาลัยคณะดีๆ ชอบเล่นกีฬา เล่นเกม เป็นคนสบายๆ ช้าๆ บางทีก็ช้าเกินไป ไม่ค่อยคิดอะไรมาก อะไรก็ได้ ใจเย็น ใช้เหตุผลมากกว่าอารม บุคคลิกน่าเชื่อถือ เป็นที่รักของผู้ใหญ่
ส่วนแฟนพื้นเพเป็นคนกทม. แต่ย้ายบ้านไปสุพรรณเพราะที่บ้านเปลี่ยนธุรกิจไปทำอยู่สุพรรณ ฐานะปานกลางค่อนไปทางรวย อยู่บ้านเดี่ยว (คือน่าจะรวยกว่าบ้านผมพอสมควร) แฟนเป็นคนทำงานเร็ว ทำงานเก่ง เรียนเก่ง คุยเก่ง ทำอะไรจริงจัง จนบางครั้งคนที่ทำงานด้วยกันจะรู้สึกว่าดุมากไป(เหมือนสังคมไทยจะอลุ่มอล่วยกัน แต่แฟนผมถ้าเจอเพื่อนร่วมงานที่ทำงานมักง่ายก็จะไม่โอเคทันที) แต่โดยรวมคือคนรอบข้างรักมากกว่าคนเกลียด ผู้ใหญ่มักจะชื่นชม นิสัยแฟนเป็นคนไม่เล่นเกม ไม่เล่นกีฬา(ยกเว้นวิ่ง) ชอบดูเกาหลี ชอบท่องเที่ยวเดินทาง
เราเริ่มคบกันตั้งแต่เรียนมหาลัย จากนั้นก็มาทำงานที่เดียวกันอยู่จ.ศรีสะเกษ ปีนี้คบกันเข้าปีที่8แล้ว ช่วงที่คบกันแรกๆมันก็ไม่ได้มีเรื่องเครียดอะไร กินเที่ยวสนุกกัน ถึงความชอบเราจะแทบเหมือนกันเลย แต่มันก็อยู่กันได้มีความสุขดี แต่พอเริ่มเข้าวัยทำงานเราก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น เพราะมีอะไรให้รับผิดชอบมากขึ้น ชีวิตมีความเครียดเรื่องงานมากขึ้น แต่ผมก็เข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาของทุกคู่ เรื่องที่เราทะเลาะกันผมลองคิดดูมีอยู่ประมาณ3-4สาเหตุใหญ่ๆเรียงจากเรื่องที่ผมคิดว่าใหญ่ไปเรื่องเล็กนะครับ
1.ผมวางแผนอนาคตไม่ดี/ไม่วางแผน ไม่รอบครอบ เช่น เวลาไปเที่ยวส่วนใหญ่แฟนจะเป็นคนวางแผนเที่ยวผมจะช่วยเรื่องเดินทางเพราะแฟนไม่เก่งเรื่องดูแผนที่ ล่าสุดไปเขาใหญ่เช่ารถขับไปผมก็ลืมเช็คแบตเตอรี่ แบตเสื่อมต้องเสียเวลาไปเปลี่ยนทำให้เวลาเที่ยวน้อยลง
2.ผมไม่ค่อยคิดถึงแฟน เช่น เวลาผมเดินทางไปอบรมหรือลากลับบ้านยาวๆผมก็จะไม่ค่อยได้โทรไปคุย อาจจะแค่ไลน์ไป ความคิดถึงที่พูดมามันก็เป็นความคิดถึงทั่วๆไปว่าอยากเจออยากคุย แต่มันจะมีความคิดถึงอีกแบบ คือเค้าจะรู้ว่าเราอาจจะเจอปัญหาอะไรแล้วก็จะช่วยคิดแทนเราล่วงหน้าได้เสมอ ยกตัวอย่างช่วงที่PM2.5เยอะเค้าก็ไลน์มาถามว่าจะฝากซื้อเครื่องฟอกอากาศมั้ย ช่วงที่covid19ระบาด เค้าก็ไลน์มาถามผมว่ามีหน้ากากอนามัยพอใส่มั้ย ทำประกันcovid19รึยัง อย่าลืมซื้ออาหารน้ำตุนไว้
3.ผมลืมสิ่งที่คุยกันไป เช่น ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่แฟนไปเจอมาแล้วเค้าเล่าให้เราฟัง(เรื่องที่มันสำคัญกับตัวเค้า ไม่ใช่เรื่องไร้สาระทั่วไป)
4.ถ่ายรูปไม่สวย เรื่องนี้คิดๆดูก็โดนบ่นบ่อย แต่ก็ไม่ได้ทำให้ทะเลาะกันหนัก แค่จะรู้สึกไม่ดีเวลาไปเที่ยวกัน นอนตื่นวันรุ่งขึ้นก็หาย ปัญหาที่เจอก็พวกผมบังหน้าบ้าง เก็บองค์ประกอบไม่ครบ ถ่ายฉากหลังเบี้ยว หน้าเบลอ ดูอ้วน ซึ่งหลังๆผมก็พยายามตั้งใจถ่ายมากขึ้น ดูองค์ประกอบให้ดี ดูผม มันก็ดีขึ้นนิดนึง พอผมบอกให้ถ่ายแก้บ่อยๆแฟนก็จะไม่อยากถ่ายแล้ว ก็จะพาทำให้อารมณ์ไม่ดี
ความเปลี่ยนแปลงมันเกิดขึ้นเมื่อประมาณกลางปีที่แล้ว แฟนผมเปลี่ยนสาขาต้องย้ายที่ทำงานไปอยู่กทม. ต้องปรับตัวกับงานใหม่ที่หนักกว่าเดิม ไม่ค่อยมีเวลาว่าง เวลาผมกลับไปที่บ้านผมก็จะไปหาแฟนประมาณเดือนละครั้ง แรกๆเราก็ติดต่อคุยกันไลน์หากันดี หลังๆก็ห่างออกๆ แล้วก็อย่างที่บอกทีแรกคือผมไม่ค่อยคิดถึงแฟนส่วนใหญ่แฟนก็จะเป็นคนโทรมา พอเราไม่ได้อยู่ด้วยกันมันก็มีเรื่องคุยน้อยลง
แล้วก็มีน้องผู้หญิงที่ทำงานเข้ามาใหม่ เป็นคนขอนแก่น อายุน้อยกว่าผม2ปี ทำงานตำแหน่งเดียวกับผม น้องเค้าคุยเก่ง เข้าหาคนง่าย ผมเริ่มรู้สึกชอบน้องเค้า แต่ก็ไม่ได้บอก เพราะเรามีแฟนแล้ว เราก็รู้สึกว่ามันผิด ส่วนน้องเค้าก็เหมือนจะชอบผมด้วยทั้งๆที่รู้ว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว ปกติเวลาไปกินข้าวผมก็จะชวนที่ทำงานไปกันทั้งหมด แต่บางทีก็แยกๆกันไปจะเหลือผม น้องคนนี้ แล้วก็น้องผู้ชายอีกคน ถ้ามันเหลือแค่ผมกับน้องผู้หญิงผมก็จะไม่ไปเพราะมันดูไม่เหมาะสม แต่เวลาผ่านไปผมก็เริ่มรู้สึกผิดน้อยลง กะว่าก็คุยๆไปเดี๋ยวผมก็จะย้ายไปกทม.กลางปี63แล้ว แค่อย่าให้เลยเถิดก็พอ จากที่ไม่กินข้าวด้วยกัน2คนก็ไป จากที่ไลน์ถามคำตอบคำก็กลายเป็นคุยเยอะ ส่งสติ๊กเกอร์กัน แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยกว่านี้ ไม่ได้ซื้อของให้ ไม่ได้เลี้ยงข้าว ไม่ได้จับมือ ไม่ได้จูบกอดหรือนอนด้วยกัน
ต่อจากนี้คือเหตุการ์ที่ทำให้ผมได้กลับมาคิดทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ของผมกับแฟน
ช่วงกลางเดือนมีค63ผมเช่ารถไปเที่ยวเขาใหญ่กับแฟน เจอแฟนผมก็มีความสุข คุยกันสนุกดี ไม่ได้รู้สึกเกร็งอะไร คือผมคิดว่าผมคุยกับน้องผู้หญิงเยอะไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้กะจะเลิกกับแฟนไปคบกับน้องเค้า อนาคตที่จะแต่งงานด้วยก็คือแฟนคนนี้แหละ จนช่วงที่ขับรถกลับกทมไปส่งหอแฟน ปกติแฟนผมไม่ได้เช็คมือถือเพราะผมก็ทำตัวดีมาตลอด(ผมก็ไม่แน่ใจตัวเองว่าเป็นเพราะมีแฟนอยู่ด้วยตลอดรึเปล่า) แฟนผมก็เชื่อใจเรื่องนี้มาก แต่รอบนี้แฟนเปิดโทรศัพท์ดูเห็นว่าผมคุยกับน้องคนนี้เยอะ (ก่อนน้านี้น้องผู้หญิงเค้าเลยโพสรูปลงIGแล้วมักจะมีรูปผมเยอะเป็นพิเศษ แฟนก็ไลน์มาถามไปทีนึง ผมก็บอกว่าน้องเค้ามีคนคุยอยู่แล้ว คือตอนนั้นน้องเค้าก็มีคนคุยอยู่จริงๆ) หลังจากแฟนเห็นที่ผมไลน์คุยกับน้องผู้หญิง เค้าก็ร้องไห้อย่างหนักแล้วก็โกรธมาก คือแฟนเราเคยบอกว่าแล้วว่าเรื่องอื่นๆที่ผมบกพร่องแฟนรับได้หมดแต่เรื่องนี้แฟนรับไม่ได้
>>ต่อจากนี้จะเป็นคำพูด/ความรู้สึกของแฟนผมตอนที่เราเคลียกัน<< ในtimelineที่ผมคุยกับน้องผู้หญิงมันมีเรื่องที่ต่อเนื่องจากที่ผมคุยกับแฟนแล้วแฟนผมก็จำได้ เช่น แฟนผมเตือนผมเรื่องประกันcovidผมก็เอาไปบอกน้องผู้หญิงให้ทำประกัน มันเหมือนกับผมไม่ห่วงแฟนแต่ไปห่วงน้องเค้า รองเท้าวิ่งที่เคยซื้อด้วยกันก็เอาไปวิ่งกับน้องเค้า2คน ทำไมผมถึงทำกับเค้าแบบนี้ เค้าไม่รู้เลยว่าผมกับน้องจะจูงมือกันเข้าห้องนอนหรือไปเปิดโรงแรมด้วยกันเมื่อไหร่ เครื่องฟอกอากาศที่ซื้อไปให้จะเอาไปให้น้องเค้านอนมั้ย ความเชื่อใจมันกลายเป็นศูนย์ หลังจากนี้เค้าจะยังเชื่อใจผมได้อีกมั้ย แล้วความคิดพวกนี้มันต้องอยู่ในหัวเค้าอีกถึงเมื่อไหร่
>>ผมก็บอกแฟนผมประมาณว่า<< ผมขอโทษ ผมก็ไม่คิดว่ามันจะคุยกันเยอะแบบนี้ ทีแรกผมก็รู้สึกผิดต่อมาผมก็ลืมความรู้สึกผิดนั้นไป กะว่าเดี๋ยวก็แยกกันไปไม่น่ามีปัญหา ผมก็คิดจะแต่งงานกับแฟนไม่ได้จะไปคบกับน้องเค้า ถ้ากลับไปศรีสะเกษรอบนี้ผมจะแยกตัว ไม่ไปกินข้าวกับน้องเค้า ไม่คุยเล่นกับน้องคุยแค่เรื่องงาน ถ้าไลน์มาก็ถามคำตอบคำ
หลังจากเราแยกกับ ผมกลับบ้านก็ได้ไปปรึกษาแม่บอกว่าผมนอกใจแล้วแฟนจับได้
ผมก็ลองคิดทบทวนดู ผมแยกเป็นประเด็นๆ เรียงลำดับความสำคัญ
1.ผมยังรักแฟนมั้ย?
2.ผมจะทำยังไงกับน้องคนนั้น?
3.ผมจะทำยังไงกับตัวเอง?
วันต่อมาผมก็โทรไปคุยกับแฟน ยืนยันว่าผมยังรักแฟนอยุ่และอยากจะแต่งงานกับแฟนคนนี้ จะเลิกคุยกับน้อง ผมคิดว่าผมทำได้ ไม่มีปัญหาอะไร เรื่องความเชื่อใจมันคงไม่มีอะไรจะยืนยันได้เหมือนเดิมได้แต่ต้องรอเวลาพิสูจน์ ต่อไปนี้จะโทร/ติดต่อไปทุกวัน ถ้าไม่ติดต่อไปก็ให้ถือว่าผมไม่คิดถึง/ไม่จริงจังกับการเปลี่ยนแปลงตัวเอง แฟนผมก็รับฟัง(คือผมก็ดูออกว่าแฟนรักผมมากพร้อมที่จะให้อภัยอยู่แล้วแต่ก็เสียใจมากจริงๆ)
ทีนี้ปัญหาผมรู้สึกว่า
1.หรือไม่รักแฟนแล้ว? ปัญหานี้ใหญ่ที่สุดสำหรับผม ผมคิดกับตัวเองไม่ตกจริงๆว่า รักคืออะไร? ถ้าไม่คิดถึงกันมันคือไม่รักรึเปล่า? ความรักมันหมดอายุ?
สำหรับแฟนผมให้นิยามความรักคือ อยู่กับผมแล้วรู้สึกสบายใจคุยได้ทุกเรื่อง
สำหรับผม ไม่รู้ว่านิยามความรักคืออะไร ผมคิดว่าผมชอบแฟนผมก็เหมือนกับที่คนอื่นๆชอบ ชอบในความเก่ง ความน่ารัก คิดว่าคนๆนี้จะเป็นแม่ที่ดีได้
เวลาผมเห็นเค้ามีความสุขผมก็มีความสุข เวลาเห็นเค้าทุกข์ผมก็ทุกข์ ผมรู้สึกอยากทำให้เค้ามีความสุข แต่ถ้าเราไม่ได้อยู่ใกล้กันผมก็มักจะไม่ได้คิดถึง
(ผมเป็นคนไม่ชอบให้ใครมีความทุกข์ อะไรยอมได้ผมก็ยอม อะไรช่วยได้ผมก็ช่วย แต่อาจจะไม่ได้ไปเสนอตัวช่วยตั้งแต่แรก)
>>หรือความรู้สึกนี้มันก็เป็นความรู้สึกทั่วๆไปที่ผมก็รู้สึกกับเพื่อนๆทุกคน/คนที่ทำงาน/คนในครอบครัวอยู่แล้ว?
2.หรือผมยังไม่พร้อมจะดูแลใคร? ผมควรจะอยู่คนเดียวไปก่อน? ถ้าผมเป็นคนที่วางแผนชีวิตดีแบ่งเวลาดีมีความรับผิดชอบมากขึ้น เราก็จะทะเลาะกันน้อยลง เวลาเราเจอกันก็จะมีแต่ความรู้สึกดีๆ ก็น่าจะทำให้ความสัมพันธ์เราดีกว่านี้ (คือเวลามีปัญหากันแต่ละครั้งผมค่อนข้างจะsensitive มันจะรู้สึกซึมไปเกือบทั้งวัน ต้องได้นอนตื่นมาถึงจะดีขึ้น เหมือนสมองมันจะพยายามลืมๆไป ผมไม่รู้ว่าแฟนเป็นแบบนี้มั้ย)
3.ทำยังไงผมถึงจะพัฒนาตัวเองได้? ผมรู้ว่าผมควรทำอะไร แต่พอถึงเวลามันก็ขี้เกียจทำ อยากจะหาความสุขไปวันๆ ดูยูทู้ป ฟังเพลง เล่นเกม...
ผมควรจะจนตารางงานให้ชัดเจน วางแผนเป็นวัน สัปดาห์ เดือน
ถ้าผมเป็นคนขี้ลืม ก็พกกระดาษเล็กๆใส่กระเป๋า มีเรื่องอะไรที่สำคัญในแต่ละวันก็จดๆไปก่อนแล้วค่อยเอามาจดลงสมุดวางแผนของเราอีกที
ผมต้องอ่านหนังสือหาความรู้ในสาขางานที่กำลังจะย้ายไปทำกลางปีนี้
ผมต้องนอนให้เร็วขึ้น ต้องออกกำลังกาย ต้องเลิกเกินอาหารไม่ดีอายุจะ30แล้ว
น่าจะมีเท่านี้ล่ะครับ
คิดว่าปัญหานี้น่าจะเกิดกับใครหลายคน
ตอนเด็กๆผมก็ไม่คิดว่าตอนผมอายุจะ30มันจะมีปัญหาให้คิดไม่ตกได้แบบนี้
ถึงสุดท้ายไม่ได้คำตอบ อย่างน้อยผมก็ได้ระบาย แล้วก็ได้ทบทวนความคิดตัวเอง มันก็ดีเหมือนกันครับ
ลองมาแชร์กันได้ครับ อยากได้ความเห็นในเชิงสร้างสรรค์ แต่ถ้าโดนด่าบ้างผมก็เข้าใจครับ