แต่งงานได้อาทิตย์เดียว แยกออกมาอยู่เพราะตกลงเรื่องเงินที่ผัวให้เมียไม่ได้ ขอความคิดเห็นหน่อยครับ

สวัสดีครับ ผมเพิ่งแต่งงานได้อาทิตย์เดียว แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นครับ
ผมอยู่บ้านภรรยาที่ต่างจังหวัด ผมเงินเดือนเยอะกว่าเค้า โดยตอนแรกก่อนแต่งตกลงว่าจะคนละกระเป๋า มีเงินกองกลาง ซึ่งเธอบอกยังไงก็ได้ แล้วผมชวนไปเปิดบัญชีฝากเงินเท่าๆ กัน ซึ่งถ้าซื้อรถผมบอกจะผ่อนเอง ซึ่งภายหลังเค้ามาบอกว่าที่บ้านรู้เข้าว่าจะให้ฝากเข้าบัญชีกลางเท่าๆ กัน ที่บ้านบอกไม่แฟร์ จนเป็นเรื่องทะเลาะกันเรื่อยๆ เค้าบอกต้องการหมื่นนึง ซึ่งผมคิดแล้วว่าโอเค ผมพอใช้จ่ายส่วนตัว เหลือเก็บอีกบ้างไม่เยอะ แต่ให้จ่ายในบ้าน 5,000 และฝากเป็นบัญชีร่วมกันเท่าๆกัน อีก 5,000 ซึ่งทีแรกเค้าก็ตกลงตามนี้

ผ่านวันหยุดไป ผมไปทำงาน เค้าบอกขอทวนอีกครั้ง ตอนนี้มีสติ ผมก็บอกไปตามเดิม ทีนี้เริ่มทะเลาะกัน เค้าถามว่าที่เหลือเอาไปไหนทำอะไร เท่าไร ซึ่งผมคิดว่ามันมากไป ผมบอกใช้ส่วนตัวและเหลือเก็บ แล้วทีนี้มีเหตุผลมาบอกว่า ผัวต้องทำหน้าที่ให้ดีซึ่งงานบ้านผมก็ช่วยทำ โสเภณียังได้เงิน เค้าเป็นเมียทำไมไม่ได้ใช้จ่ายส่วนตัว ผมมันเห็นแก่ตัว ซึ่งผมคิดว่า 5000 ใช้จ่ายในบ้านพอและเหลือแน่นอน เค้าบอกมันไม่พอ ซื้อสบู่ ผงซักฟอกก็หมดแล้ว เงินใช้ส่วนตัวก็ไม่ได้ และจะไม่ยอมนอนด้วย ถ้าไม่ให้ ไม่ให้แตะเนื้อต้องตัว ผมไม่มีน้ำใจ ใจไม่มีน้ำ ผมบอกถ้าวันนึงผมทำงานไม่ได้ มีอะไรฉุกเฉิน ผมป่วยเธอไม่เลี้ยง จะเอาเงินที่ไหน เธอบอกยังมีเงินของเธอ เพราะผมรักเธอไม่มากพอ เลยไม่ไว้ใจให้จัดการเรื่องเงิน วันนั้นผมทำงานไม่ได้ กลืนข้าวไม่ลง ขมคอไปหมด เครียดมาก หลังจากนั้นผมเลยไม่กลับไปกินข้าวที่บ้านอาทิตย์นึง เพราะเค้าบอกไม่ทำหน้าที่สามีที่ควรทำ แค่มาอยู่ มานอน ผมรู้สึกเสียเกียรติ และเสียความรู้สึกไปหมดแล้ว เธอมีแต่ความกลัวว่าถ้าผมทิ้งเธอไป เธอจะเหลืออะไร แต่ผมไม่รู้ทำไมเธอไม่ไว้ใจผมเลย

ผมคิดมากทุกวันกับสิ่งที่เค้าพูดออกมา เพราะไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับคนที่มั่นใจจะแต่งงานด้วย ผมเห็นถึงความจริงใจ ความรักและทุ่มเทจนทำให้ผมมั่นใจแล้วเธอรักผมจริงๆ มันทำให้ผมภูมิใจและรักเธอมากเช่นกัน เรื่องเงินก็ไม่เคยมีปัญหาเลยก่อนแต่ง สินสอดช่วงทองแพง เค้าก็เอาทองตัวเองออกมาบางส่วนมาวางก่อนแล้วค่อยให้ซื้อคืน เราเคยทะเลาะกันหนักจนเกือบเลิกเรื่องเข้าใจผิดเพราะผมไปถ่ายรูปหน้าใกล้ผู้หญิงอีกคน แต่คิดว่าคงไม่มีเรื่องอะไรให้ทะเลาะแล้ว แต่ปัญหาของเธอคือชอบเอาชนะ และเอาเรื่องเก่ามาพูด เรื่องทองที่ให้ยืมก่อนเธอบอกเธอไม่น่ายอมตั้งแต่ทีแรก แหวนแต่งงานสองวงเธอก็เอามาเป็นประเด็น เพราะตอนแรกตกลงช่วยกันซื้อคนละวง ซึ่งตอนนี้ผมโอนเงินคืนไปแล้วตอนครั้งแรกที่เริ่มทะเลาะ อยากให้ปัญหาจบ เพราะเธอบอกมันคือความรู้สึกของผู้หญิงที่อยากให้ผู้ชายซื้อให้ ซึ่งผมไม่เคยรู้เพราะคิดว่าต้องช่วยๆกันซึ่งเธอก็โอเค แต่จริงๆเธอบอกต้องยอมทำเพราะผมเสนอไปแบบนั้น เงินสินสอดเป็นหน้าที่ของผมทั้งหมด แต่เธอช่วยเรื่องทองบางส่วน ปีที่แล้วเธออยากแต่งงานจนทะเลาะกับผมหนักมากเพราะกลัวไม่ได้แต่ง แต่เพราะผมยังไม่อยากย้ายไปต่างจังหวัด

ผ่านไปสามสี่วัน ผมคุยกับเธอ ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ เธอบอกว่า คนแถวบ้านเธอเป็นแบบนี้ ผัวหาเงินมาต้องให้เมียเก็บ ซึ่งเหมือนกับพ่อแม่ของเธอ หรือไม่ก็ต้องมีเงินให้มีใช้ส่วนตัว ซึ่งผมไม่เข้าใจ เนื่องจากเธอก็มีเงินเดือนตามเรทหน่วยงานราชการ ในส่วนที่ผมตกลงจะให้ ก็ถือว่าไม่น้อยแล้ว เธอบอกว่าถ้าที่บ้านรู้ว่าผมจะแยกค่าใช้จ่ายแบบนี้ ที่บ้านคงไม่ให้แต่งตั้งแต่แรก ผมทุกข์มาก ทำไมถึงคิดแบบนี้ เรื่องสินสอดหลังจากหักค่าจัดงานที่จะเอามาดาวน์รถเธอบอกแม่คงไม่ให้คืนแล้ว เพราะผมทำตัวแบบนี้ เป็นสิทธิ์ของแม่เธอ สุดท้ายเธอก็พูดว่ายอมแบบไม่เต็มใจ ซึ่งใช้ห้าพันฝากห้าพัน แต่ความรู้สึกของคำพูดคืนนั้น และความคิดของคนแถวนั้น ผมรับไม่ได้จริงๆ หรืออาจจะเป็นเพราะผมโตมาในครอบครัวที่พ่อกับแม่ต่างมีคนละบัญชี รับผิดชอบหน้าที่กัน ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเงินแม้ไม่ได้รวย ผมปรึกษาเพื่อนหลายคน หลายคนแยกกระเป๋า สามีไม่ให้เลย แต่แยกกันจัดการค่าใช้จ่ายในบ้าน ผมพยายามเช็คกับหลายๆคน ว่าสิ่งที่ผมทำเห็นแก่ตัวรึเปล่า เนื่องจากคนอื่นอาจมองต่างมุม แต่ก็ไม่รู้เพื่อนที่ปรึกษาเป็นเพื่อนผมมั้ย เลยไม่เห็นอีกมุม เธอบอกผมความคิดแบบคนสมัยใหม่ ซึ่งเธอก็เคยไปเรียนต่างประเทศ ความคิดก็น่าจะทันสมัยพอควร แต่เรื่องนี้ดันเอาวัฒนธรรมแถวบ้านมายึดติด

ส่วนเรื่องรถที่ตอนแรกผมว่าจบไปแล้ว เธอเอาขึ้นมา ไม่รู้ว่าผมพูดไม่เคลียร์ หรือเธอเข้าใจผิด เธอบอกไม่มีใครเค้าทำหรอก ที่จะให้เธอกู้แล้วเป็นชื่อของผม ซึ่งจริงๆแล้วความหมายของผมคือ ตอนนี้ผมทำงานได้ไม่นาน ไปทำเรื่องกู้ไม่ได้ เธอต้องไปทำเรื่อง เธอถามว่าจะให้เป็นชื่อใคร ผมอึ้งนิดนึง เธอบอกต้องปก้ป้องตัวเอง กลัวผมหนีไป ผมเลยบอกว่าถ้าเป็นชื่อผมผมผ่อนคนเดียว ถ้าเป็นชื่อเธอเราจะช่วยผ่อนคนละครึ่ง สุดท้ายตกลงกันกันที่เป็นชื่อเธอแต่ผ่อนคนละครึ่ง แต่เรื่องนี้ดันมาเป็นประเด็นในคืนนั้นอีก จนผมต้องอธิบายให้เข้าใจใหม่อีกรอบ

ตอนนี้ ผมหนีแยกออกมาอยู่คนเดียวใกล้ที่ทำงาน เธอไม่อยากให้ผมออกมา เราทั้งสองคนร้องไห้เสียใจตอนที่ผมออกมา ผมต้องการเพื่อให้มีสมาธิมากขึ้น แต่เธอกำลังเข้าใจว่าผมกำลังจะเลิก มีคนใหม่ เธอบอกว่าเรื่องแค่นี้มันเล็กน้อยมาก คุยกันใหม่ได้ แต่ผมเจ็บไปแล้ว ตอนนี้ยังหลอนเข้ามาในหัว ผมกลัวเธอ ยังไม่อยากเจอตอนนี้ ตอนนี้เธอพยายามให้ผมกลับไป แต่ผมยังทำใจไม่ได้เลย เธอเล่าให้เพื่อนๆเธอฟัง แล้วแคปไลน์มาให้ดู ผมเป็นคนไม่ดีทำให้เธอต้องเสียใจ เรื่องแค่นี้ยังหนี ขอความคิดเห็นหน่อยนะครับ อนาคตของเราข้างหน้าจะไหวมั้ย หรือมีคำแนำนำอย่างไร
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่