กลับมาพบกันอีกครั้ง หลังจากที่หายหน้าหายตาไปนาน วันนี้พอได้มีโอกาส work from home ทำให้มีเวลาทำอย่างอื่นมากขึ้นเลยขออนุญาติพี่สาวมาเขียนกระทู้ ซะเลยเพราะเพิ่งได้มือถือของ Infinix มาใช้ โดยรุ่นที่ผมจะเอามารีวิววันนี้จะเป็น Infinix S5 Pro สีเขียวครับ ซึ่งกำลังจะเปิด Pre-order วันที่ 3 - 8 ที่ลาซาด้า (Lazada) และขายจริง 9 เม.ย. นี้ ซึ่งก็ไม่พลาดที่ผมจะเอามาแกะกล่องดูเครื่องว่า มันทำอะไรได้บ้าง มาดูกัน

อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่าย และ ประกอบการรีวิว
Cannon EOS M50 มารับชมไปพร้อมกันครับ
Part 1 : Unboxing . . .

สิ่งที่บรรจุในกล่องก็จะมีดังนี้ครับ
1. ตัวเครื่อง
2. สายชาร์จ
3. อะแดปเตอร์
4. หูฟังแบบ หัว 3.5 mm.
5. เคส
6. เข็มจิ้มถาดซิม
7. คู่มือการใช้งาน
8. หนังสือการรับประกัน

ตัวเครื่องจะมีขนาด 162.5 x 76.9 x 9 mm น้ำหนักอยู่ที่ 195 g จอจะมีขนาดกว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ความหนาแน่นพิกเซล 403 ppi ใช้จอแสดงผลแบบ IPS LCD capacitive touchscreen, 16M colors มีให้เลือก 3 สี สีเขียว Forest Green , ฟ้าน้ำทะเล Sea Blue และสีม่วง Violet ตัวมือถือจะใช้ระบบปฎิบัติการ Android เวอร์ชั่น 10 (รู้สึกว่าจะอัพเดทล่าสุดเลยนะครับ) รองรับการเชื่อมต่อ WiFi ทั้ง 2.4 GHz และ 5GHz
ใช้ชิปเซ็ตของ Mediatek MT6765 Helio P35 และ CPU Octa-core (4x2.3 GHz Cortex-A53 & 4x1.8 GHz Cortex-A53) GPU PowerVR GE8320
หน่วยความความจำ จะรองรับแบบ micro SD สูงสุด 256 GB ส่วนความจำภายในจะอยู่ที่ 64GB 4GB RAM ใช้เล่นเกมหรือดูหนังสบาย (เดี๋ยวจะมีทดลองเล่นเกมในกระทู้หน้า )
มาดูสภาพตัวเครื่องกันครับ ด้านหลัง สีสวยมากครับ จะเป็นสีเขียว (นอกจากนี้ก็มีสีม่วง ,สีฟ้าน้ำทะเล)

โดยถ้าแกะสติ๊กเกอร์ด้านหลังออกก็จะเป็นแบบนี้นะครับ

อันนี้ผมลองใส่กับเคสที่เขาแถมมากับตัวเครื่อง

สีตัวเครื่องที่ผมได้มาจะเป็นสีเขียวที่มีความเงาเหลือบ
สวยดีครับ เพราะปกติผมชอบมือถือสีเข้มๆอยู่แล้ว
รอบๆ Body เครื่องด้านล่างจะเป็นช่องหูฟังแบบ 3.5 ช่องไมโครโฟน , ลำโพง , Port Micro USB 2.0, ส่วนถาดซิมจะอยู่บริเวณด้านซ้ายของตัวเครื่องและด้านขวามันจะเป็นแบบ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง ด้านหลังจะมีที่สแกนลายนิ้วมือเพื่อเข้าใช้งาน

ส่วนอันนี้ก็คือเข็มจิ้มซิมการ์ดครับ
ตัวกล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า

กล้องความละเอียด 32 MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.0 จะบอกว่ากล้องหน้ามีความละเอียดที่คมชัดมากและภาพที่ถ่ายออกมาจะค่อนข้างจะคมกริบเลยทีเดียวและอีกอย่างนะครับ คือเมื่อถ่ายภาพย้อนแสงก็สามารถทำได้ดี ภาพไม่ดูมืด เพราะตัวกล้องจะมี AI และรองรับ HDR ด้วย ฉะนั้นซื้อเครื่องแล้ว มาถ่ายโหมดปกติก็สวยครับ หรือ ถ้าเป็นสายเล่นฟิลเตอร์ หรืออยากให้เวลาถ่ายหน้าดูวิ้งค์หน่อยก็ใช้ ใช้หมวด Beauty ก็ได้ครับ แนะนำให้ปรับระดับ 1 พอนะครับ ไม่งั้นหน้าคุณ ๆ จะฟุ้งเกินพอดี 555

ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า โหมดถ่ายภาพบุคคลทำได้ดี ตัดขอบได้ เวลาถ่ายจากที่แสงน้อยหน้าจอจะเพิ่มแสงทำให้หน้าไม่มืดเวลาถ่ายภาพ
กล้องหลัง

ความละเอียด 16 MP + 2 MP + QVGA เป็นเลนส์ AI 3 ตัว มีรูรับแสง ƒ/1.8 ซึ่งผมรู้สึกว่ามันทำให้ผู้ใช้มีความสนุกในการถ่ายรูปมากขึ้นนะครับ โดยรูปที่แล้วออกมามันก็สวยงามแล้วก็คมชัด ในระดับราคาเท่านี้ถือว่าใช้ได้เลยครับ

บอกง่าย ๆ เลยครับกล้องของ Infinix จะมี UI ที่คล้าย ๆ กัน การปรับตั้งค่าก็คล้าย ๆ กัน จะถ่ายสวยหรือไม่สวย หรือจะออกมาเทพ ไม่เทพนั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้ถ่ายด้วยนะครับเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากตัวเซ็นเซอร์นั่นเอง กล้องหลังโหมดถ่ายภาพบุคคลทำได้ดี เพราะมีโหมด 3D ในการวิเคราะห์ปรับแต่งรูปร่าง

ข้อสังเกตของกล้อง
ถ้าใครไม่อยากให้ภาพดูเวอร์เกินจริงมากก็ปิดโหมด AI ลงก็ได้ครับสีมันอาจจะดรอปลงนิดหน่อย แต่ไม่ได้น่าเกลียดอะไร
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง

อันนี้ภาพถ่ายดอกไม้กับภาพถ่ายรถผมเองนะครับ ขออนุญาติเบลอป้ายทะเบียนนิดหนึ่งครับ
แล้วก็เอาไปลองถ่ายพวกอาหารเครื่องดื่มข้างนอก ภาพก็ชัดดีนะครับ

การปลดล็อคหน้าจอใช้งาน
สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบมากทั้งการใส่รหัส PIN รวมถึงการใช้ลายเส้นในการวาด แต่ผมจะเอามาให้ดูก็คือการปลดล็อคโดยสแกนลายนิ้วมือ และการปลดล็อคด้วยใบหน้า ซึ่งปกติจะมีแต่มือถือราคาระดับ Hi-end เท่านั้น แต่เจ้าเครื่องนี้ก็สามารถทำได้แถมยังลื่นปรี๊ดอีกด้วย
การสแกนนิ้วเข้าเครื่อง
Infinix S5 Pro ตัวนี้ จะใช้วิธีสแกนนิ้วจากด้านหลังหน้า ทำให้ด้านหน้าแทบจะเป็นจอแสดงผลอย่างเดียว 100 % โดยตำแหน่งการวางนิ้วแสกนก็จะพอดีกับการถือมือถืออีกด้วย ทำให้ไม่เกะกะด้วย

การปลดล็อคโดยสแกนใบหน้า
เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรกตัวมือถือ จะจดจำใบหน้าของเจ้าของประมาณ 15 วินาที โดยจะใช้กล้องหน้าที่เป็น Pop-up สแกนเมื่อมือถือสามารถจดจำใบหน้าได้แล้ว เมื่อเราต้องการใช้งานมือถือหลังจากที่พักหน้าจอไปก็ให้กดปุ่มเปิดเครื่องพร้อมให้มือถืออยู่บริเวณที่ตรงกับใบหน้า ตัวกล้อง Pop-up ก็จะเด้งขึ้นอัตโนมัติแล้วทำการสแกน เมื่อใบหน้าตรงตามเซ็นเซอร์แล้ว เราก็สามารถใช้มือถือได้ตามปกติ

การสัมผัส (ทัชสกรีน) และ ความจุของแบต
สำหรับ Infinix S5 Pro ตัวนี้สัมผัสดี ติดมือเลยครับ เท่าที่ใช้มาผมยังไม่เห็นอาการงอแงของระบบสัมผัสมันเลย คือได้ทดสอบโดยการลองเล่นเกม คือผมเล่น ROV ก็ยังไม่เจออาการของการสัมผัสเพี้ยนแต่อย่างใด เพื่อน ๆ ไว้ใจได้เลยครับผม ผมลองมาแล้ว และ ความจุของแบตคือ 4000 mAh จะอยู่ที่อยู่ได้นาน 3 วัน ส่วนการใช้งานทั่วไปไม่ร้อนหรอกจร้า เหมือน ๆ มือถือทั่วไป การเล่นเกมทั่วไป โดยรวมแล้วก็ไม่ร้อนจี๋ มันแค่พออุ่น ๆ จับถือได้สบาย จร้า เชื่อผมเถอะ (ผมใส่เคสใสเล่นนะครับเลยไม่ค่อยรู้สึก นอกจากเล่นนาน ๆ หรือ ปรับโหมดเล่นเกมแบบความละเอียดสูง ๆ ซึ่งเครื่องทั่วไปก็ร้อนแบบอุ่น ๆ ซึ่งก็ต้องพักบ้างนะครับ 5555 )
สรุป
1. กล้องดีทั้งกลางวันและกลางคืน กล้องเป็น AI หน้าจะไม่มืดแม้ถ่ายตอนแสงน้อย ๆ ก็ตาม ชอบที่กล้องหน้ามันเป็นแบบ Pop – up ฉะนั้นใครที่ชอบดูหนังแบบไม่ให้มีอะไรมาบังหน้าจอน่าจะชอบตัวนี้ ส่วนกล้องหลังก็ถ่ายเก็บรายละเอียดได้ดี เหมือนใช้กล้องโปร
2. จอสีสวย ทัชไม่เพี้ยนนะจ๊ะ
3. รูปทรงสวยมาก ด้านหลังเป็นสีเขียวแบบน้ำทะเล ( ช่วงนี้เขาน่าจะฮิตสีแบบนี้กัน เห็นทำกันออกมาเยอะมาก )
4. ที่สแกนนิ้วดี เพราะอยู่ด้านหลังไม่เกะกะเวลาเล่นเกม หรือดูหนัง
5. สแกนหน้าเร็วเกิน เร็วเหมือนเราไม่ได้ล็อคเครื่องไว้ 5555 มันเรื่องดีไหมหว่า
6. ความร้อนไม่สะสมจนโอเวอร์
7. เปลี่ยนเป็น Dark mode ได้ช่วยถนอมสายตา
8. มีระบบเสียง DTS Sound เป็นระบบเสียงรอบทิศทาง เวลาเปิดหนังฟังเพลงก็ได้ยินชัด ไม่มีสะดุด ทดสอบกับการเปิดเพลงในความดังสูงสุด
9. ที่ชาร์จยังเป็นแบบ Micro USB 2.0 อยากให้เป็นแบบ Type C
[SR] แกะกล่องดู "Infinix S5 PRO" สวยจริงเหมือนที่เขาว่ากันไหม
อุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่าย และ ประกอบการรีวิว
Cannon EOS M50 มารับชมไปพร้อมกันครับ
Part 1 : Unboxing . . .
สิ่งที่บรรจุในกล่องก็จะมีดังนี้ครับ
1. ตัวเครื่อง
2. สายชาร์จ
3. อะแดปเตอร์
4. หูฟังแบบ หัว 3.5 mm.
5. เคส
6. เข็มจิ้มถาดซิม
7. คู่มือการใช้งาน
8. หนังสือการรับประกัน
ตัวเครื่องจะมีขนาด 162.5 x 76.9 x 9 mm น้ำหนักอยู่ที่ 195 g จอจะมีขนาดกว้าง 6.53 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD+ ความหนาแน่นพิกเซล 403 ppi ใช้จอแสดงผลแบบ IPS LCD capacitive touchscreen, 16M colors มีให้เลือก 3 สี สีเขียว Forest Green , ฟ้าน้ำทะเล Sea Blue และสีม่วง Violet ตัวมือถือจะใช้ระบบปฎิบัติการ Android เวอร์ชั่น 10 (รู้สึกว่าจะอัพเดทล่าสุดเลยนะครับ) รองรับการเชื่อมต่อ WiFi ทั้ง 2.4 GHz และ 5GHz
ใช้ชิปเซ็ตของ Mediatek MT6765 Helio P35 และ CPU Octa-core (4x2.3 GHz Cortex-A53 & 4x1.8 GHz Cortex-A53) GPU PowerVR GE8320
หน่วยความความจำ จะรองรับแบบ micro SD สูงสุด 256 GB ส่วนความจำภายในจะอยู่ที่ 64GB 4GB RAM ใช้เล่นเกมหรือดูหนังสบาย (เดี๋ยวจะมีทดลองเล่นเกมในกระทู้หน้า )
มาดูสภาพตัวเครื่องกันครับ ด้านหลัง สีสวยมากครับ จะเป็นสีเขียว (นอกจากนี้ก็มีสีม่วง ,สีฟ้าน้ำทะเล)
โดยถ้าแกะสติ๊กเกอร์ด้านหลังออกก็จะเป็นแบบนี้นะครับ
อันนี้ผมลองใส่กับเคสที่เขาแถมมากับตัวเครื่อง
สีตัวเครื่องที่ผมได้มาจะเป็นสีเขียวที่มีความเงาเหลือบ
ส่วนอันนี้ก็คือเข็มจิ้มซิมการ์ดครับ
ตัวกล้องถ่ายภาพ
กล้องหน้า
กล้องความละเอียด 32 MP รูรับแสงขนาด ƒ/2.0 จะบอกว่ากล้องหน้ามีความละเอียดที่คมชัดมากและภาพที่ถ่ายออกมาจะค่อนข้างจะคมกริบเลยทีเดียวและอีกอย่างนะครับ คือเมื่อถ่ายภาพย้อนแสงก็สามารถทำได้ดี ภาพไม่ดูมืด เพราะตัวกล้องจะมี AI และรองรับ HDR ด้วย ฉะนั้นซื้อเครื่องแล้ว มาถ่ายโหมดปกติก็สวยครับ หรือ ถ้าเป็นสายเล่นฟิลเตอร์ หรืออยากให้เวลาถ่ายหน้าดูวิ้งค์หน่อยก็ใช้ ใช้หมวด Beauty ก็ได้ครับ แนะนำให้ปรับระดับ 1 พอนะครับ ไม่งั้นหน้าคุณ ๆ จะฟุ้งเกินพอดี 555
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหน้า โหมดถ่ายภาพบุคคลทำได้ดี ตัดขอบได้ เวลาถ่ายจากที่แสงน้อยหน้าจอจะเพิ่มแสงทำให้หน้าไม่มืดเวลาถ่ายภาพ
กล้องหลัง
ความละเอียด 16 MP + 2 MP + QVGA เป็นเลนส์ AI 3 ตัว มีรูรับแสง ƒ/1.8 ซึ่งผมรู้สึกว่ามันทำให้ผู้ใช้มีความสนุกในการถ่ายรูปมากขึ้นนะครับ โดยรูปที่แล้วออกมามันก็สวยงามแล้วก็คมชัด ในระดับราคาเท่านี้ถือว่าใช้ได้เลยครับ
บอกง่าย ๆ เลยครับกล้องของ Infinix จะมี UI ที่คล้าย ๆ กัน การปรับตั้งค่าก็คล้าย ๆ กัน จะถ่ายสวยหรือไม่สวย หรือจะออกมาเทพ ไม่เทพนั้นก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของผู้ถ่ายด้วยนะครับเป็นสิ่งที่นอกเหนือจากตัวเซ็นเซอร์นั่นเอง กล้องหลังโหมดถ่ายภาพบุคคลทำได้ดี เพราะมีโหมด 3D ในการวิเคราะห์ปรับแต่งรูปร่าง
ข้อสังเกตของกล้อง
ถ้าใครไม่อยากให้ภาพดูเวอร์เกินจริงมากก็ปิดโหมด AI ลงก็ได้ครับสีมันอาจจะดรอปลงนิดหน่อย แต่ไม่ได้น่าเกลียดอะไร
ตัวอย่างภาพถ่ายกล้องหลัง
อันนี้ภาพถ่ายดอกไม้กับภาพถ่ายรถผมเองนะครับ ขออนุญาติเบลอป้ายทะเบียนนิดหนึ่งครับ
แล้วก็เอาไปลองถ่ายพวกอาหารเครื่องดื่มข้างนอก ภาพก็ชัดดีนะครับ
การปลดล็อคหน้าจอใช้งาน
สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบมากทั้งการใส่รหัส PIN รวมถึงการใช้ลายเส้นในการวาด แต่ผมจะเอามาให้ดูก็คือการปลดล็อคโดยสแกนลายนิ้วมือ และการปลดล็อคด้วยใบหน้า ซึ่งปกติจะมีแต่มือถือราคาระดับ Hi-end เท่านั้น แต่เจ้าเครื่องนี้ก็สามารถทำได้แถมยังลื่นปรี๊ดอีกด้วย
Infinix S5 Pro ตัวนี้ จะใช้วิธีสแกนนิ้วจากด้านหลังหน้า ทำให้ด้านหน้าแทบจะเป็นจอแสดงผลอย่างเดียว 100 % โดยตำแหน่งการวางนิ้วแสกนก็จะพอดีกับการถือมือถืออีกด้วย ทำให้ไม่เกะกะด้วย
การปลดล็อคโดยสแกนใบหน้า
เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรกตัวมือถือ จะจดจำใบหน้าของเจ้าของประมาณ 15 วินาที โดยจะใช้กล้องหน้าที่เป็น Pop-up สแกนเมื่อมือถือสามารถจดจำใบหน้าได้แล้ว เมื่อเราต้องการใช้งานมือถือหลังจากที่พักหน้าจอไปก็ให้กดปุ่มเปิดเครื่องพร้อมให้มือถืออยู่บริเวณที่ตรงกับใบหน้า ตัวกล้อง Pop-up ก็จะเด้งขึ้นอัตโนมัติแล้วทำการสแกน เมื่อใบหน้าตรงตามเซ็นเซอร์แล้ว เราก็สามารถใช้มือถือได้ตามปกติ
การสัมผัส (ทัชสกรีน) และ ความจุของแบต
สำหรับ Infinix S5 Pro ตัวนี้สัมผัสดี ติดมือเลยครับ เท่าที่ใช้มาผมยังไม่เห็นอาการงอแงของระบบสัมผัสมันเลย คือได้ทดสอบโดยการลองเล่นเกม คือผมเล่น ROV ก็ยังไม่เจออาการของการสัมผัสเพี้ยนแต่อย่างใด เพื่อน ๆ ไว้ใจได้เลยครับผม ผมลองมาแล้ว และ ความจุของแบตคือ 4000 mAh จะอยู่ที่อยู่ได้นาน 3 วัน ส่วนการใช้งานทั่วไปไม่ร้อนหรอกจร้า เหมือน ๆ มือถือทั่วไป การเล่นเกมทั่วไป โดยรวมแล้วก็ไม่ร้อนจี๋ มันแค่พออุ่น ๆ จับถือได้สบาย จร้า เชื่อผมเถอะ (ผมใส่เคสใสเล่นนะครับเลยไม่ค่อยรู้สึก นอกจากเล่นนาน ๆ หรือ ปรับโหมดเล่นเกมแบบความละเอียดสูง ๆ ซึ่งเครื่องทั่วไปก็ร้อนแบบอุ่น ๆ ซึ่งก็ต้องพักบ้างนะครับ 5555 )
สรุป
1. กล้องดีทั้งกลางวันและกลางคืน กล้องเป็น AI หน้าจะไม่มืดแม้ถ่ายตอนแสงน้อย ๆ ก็ตาม ชอบที่กล้องหน้ามันเป็นแบบ Pop – up ฉะนั้นใครที่ชอบดูหนังแบบไม่ให้มีอะไรมาบังหน้าจอน่าจะชอบตัวนี้ ส่วนกล้องหลังก็ถ่ายเก็บรายละเอียดได้ดี เหมือนใช้กล้องโปร
2. จอสีสวย ทัชไม่เพี้ยนนะจ๊ะ
3. รูปทรงสวยมาก ด้านหลังเป็นสีเขียวแบบน้ำทะเล ( ช่วงนี้เขาน่าจะฮิตสีแบบนี้กัน เห็นทำกันออกมาเยอะมาก )
4. ที่สแกนนิ้วดี เพราะอยู่ด้านหลังไม่เกะกะเวลาเล่นเกม หรือดูหนัง
5. สแกนหน้าเร็วเกิน เร็วเหมือนเราไม่ได้ล็อคเครื่องไว้ 5555 มันเรื่องดีไหมหว่า
6. ความร้อนไม่สะสมจนโอเวอร์
7. เปลี่ยนเป็น Dark mode ได้ช่วยถนอมสายตา
8. มีระบบเสียง DTS Sound เป็นระบบเสียงรอบทิศทาง เวลาเปิดหนังฟังเพลงก็ได้ยินชัด ไม่มีสะดุด ทดสอบกับการเปิดเพลงในความดังสูงสุด
9. ที่ชาร์จยังเป็นแบบ Micro USB 2.0 อยากให้เป็นแบบ Type C
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้