เรื่องกำลังเข้มข้นเลย หลังจากที่ดูบ้างไม่ดูบ้าง อาทิตย์นี้ตามดูตลอด เห็นพัฒนาการที่เปลี่ยนไปทั้งทางฝั่งกาสิก และ พันธุรัฐ
โดยเฉพาาะตอนเมื่อคืน เพิ่งจะได้เห็นเจ้าหลวงแสดงความอ่อนไหว (อย่างที่พระน้องนางปรามาสไว้) เสียศูนย์ เสียความคูล จากที่เคยเสมือนเป็นผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า กลับต้องมาหวั่นไหวกับสิ่งที่ตัวเองพยายามทำมาตลอด เพียงเพราะอยากชนะใจผู้หญิงที่รักมานานเหลือเกินด้วยการกระทำสไตล์คนภูเขา พูดน้อยปากหนัก ซึ่งต่างจากฝั่งพันธุรัฐ (ได้เชื้อแม่) ที่จะมีลักษณะอ่อนโยนนุ่มนวลกว่า เปรียบเป็นธาตุ กาสิก เป็นเหมือนธาตุดิน มั่นคงซื่อตรงจริงใจไม่ชอบพูดมากถนัดแสดงออกซึ่งอาจจะดูแข็งกร้าวไปบ้างทื่อๆไปบ้าง เข้ากันได้ดีกับการเลือกใส่เสื้อผ้าสีทึบหนาเหมือนต้องการปกป้องตัวเองไม่ให้ใครเห็นส่วนที่อ่อนไหว (เพราะจะว่าไปแล้วรัฐนี้มีแต่เพชรนิลแต่ไม่มีทางน้ำทางทะเลติดต่อค้าขายต้องพึ่งพาสองรัฐนั้นมาก) ต่างกับพันธุรัฐที่เป็นเหมือนธาตุน้ำ ที่เย็นใจกว่า อ่อนโยนจนดูเหมือนอ่อนแอ เสื้อผ้าจึงออกมาแนว earth tone สีน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ให้ความรู้สึกสบายตาสบายใจ ส่วนทานตะนั่นก็ธาตุลมด้วยเป็นคนที่ไหลไปตามสถานการณ์ ไม่ค่อยมีความมั่นคง เสื้อผ้าพริ้วไหวบางเบาจึงแสดงออกถึงตัวตนด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่เป็นมุมมองของเราเองนะ ไม่รู้ว่าฝ่ายคอสตูมมีความคิดจริงๆเช่นไร แต่หลังจากที่เริ่มรู้จักคาแรกเตอร์ตัวละครก็พอจะเห็นว่ามันมัมพันธ์กันได้ดี
เปิดมาเมื่อคืนก็สมใจเราเสียที ที่ได้เห็นเจ้ากับเจ้าคุยกันตรงไปตรงมาซึ่งๆหน้า ไม่ต้องอาศัยคำคนอื่นพูดถึงอีกฝ่าย ทยุติธรที่ผ่านมาไม่เป็นโล้เป็นพาย แก้ปัญหาก็ไม่ค่อยได้ แต่เราเริ่มเห็นความเป็นผู้นำของเขา แม้จะอ่อนด้อยทางกายแต่ใจก็แน่วแน่มีอุดมการณ์ในแบบของสุภาพบุรุษที่ไม่นิยมนำผู้หญิงมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง (แม่เลี้ยงลูกมาดี ให้เกียรติผู้หญิง) เราชอบคำพูดของทยุมาก เห็นเหตุผลในการกระทำของเขามากขึ้นแม้ว่าเขาจะแอบชอบมนิสราแต่ไม่เคยสักครั้งที่จะออกปากเรื่องเงื่อนไขสงบศึกนี้ เพราะต้องการให้มนิสรารักโดยไม่รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้จำยอมภายใต้ความหวาดกลัว ถ้าจะตกลงทางการเมืองก็ตกลงไป ไม่ใช่ใช้ผู้หญิงเป็นตัวเชื่อม ตอนที่ทยุพูดและเสนอให้นำทรรศิกากลับมาก่อนเพื่อที่จะดูว่าน้องรู้สึกยังไงกับเจ้าหลวง เราเห็นเหมือนเจ้าหลวงแอบอึ้ง แอบลุ้นว่าเจ้าหลวงอาจจะเริ่มคิดได้ว่าควรส่งนางกลับซะที แต่ก็นั่นแหละความที่พูดไม่ค่อยเก่ง กลายเป็นว่ายังไม่ทันอธิบายก็เกิดเหตุเจ้าหญิงตกบันไดเสียก่อน ความรู้สึกที่ได้รับจากเจ้าหญิงที่ยอมตายเสียดีกว่าที่จะยอมมาแต่งงานด้วย คงทำให้พระองค์เจ็บเหลือเกิน พอเจ้าหญิงฟื้นจึงตัดพ้อส่งท้าย ฟังแล้วก็สงสาร เหมือนยอมแพ้แล้วยังไงเธอก็ไม่รักฉัน แต่ครั้นจะส่งเขากลับง่ายๆคงไม่ใช่สไตล์ นี่เราแอบคิดเองนะ เลยสร้างเกมชิงเชลย เพื่อเปิดทางให้เจ้าหญิงหนี เปิดโอกาสให้องครักษ์ช่วยเหลือการหนีเสียอีก เราแอบคิดว่านี่เป็นแผนส่งตัวเนียนๆสไตล์เจ้าหลวงอ่ะ 55
ส่วนทยุติธรก็ได้รุ้จักความเป็นชายชาติทหาร ความเป็นผู้นำของเจ้าหลวงมากขึ้น จึงเริ่มปฏิวัติตัวเองเสียที หวั่นแต่ตอนนี้ ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์ อาจจะเสียรู้เสนาบดีกลาโหมกับหัวหน้าหน่วยโควิน ส่วนเจ้าหลวงเองที่ดูเสียศูนย์ไปไม่น้อย (หลุดโมโหกับพระน้องนางและองครักษ์) ก็น่าเป็นห่วงว่าจะโดนโค่นอำนาจ (ชอบที่พระน้องนางจะคิดยึดอำนาจ ไม่ใช่ตามริษยาทรรศิกา) โดยใช้อสรพิษจากทานตะเป็นผู้ร่วมขบวนการ
มีความอยากดูตอนหน้าแล้ว สงสารเจ้าหลวงรอเลย
(เรื่องนี้โดนด่ามาเยอะ เรื่องซีจี ก็ตามที่เขาว่าแหละ แต่เรายังชอบดูอยู่เพราะไม่เคยดูไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนแรกก็เลี่ยนๆบ้าง เสื้อผ้าที่เขาติกันเราว่าบางชุดมันสวยด้วยซ้ำและบางชุดยังดูบางเกินไปด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นควันออกปากนักแสดงจากการถ่ายทำที่สถานที่จริงอันนี้แหละฟินสุดๆ หนาวจริงหนาวจัง
พวกตัวร้ายอาจจะดูไร้สาระไปบ้างในตอนแรก แต่ตอนนี้กลับน่ากลัวเมื่อรวมหัวกันคิดการใหญ่กว่าแค่แย่งชิงความรัก มันทำให้เรื่องมีน้ำหนักน่าสนใจมากขึ้น
ลุ้นสองคู่ว่ากว่าจะสมหวังจะต้องเจออะไรอีก)
ถึงจุดเปลี่ยน เจ้าหลวงกาสิกกำลังเสียศูนย์ ทยุติธรกำลังตั้งศูนย์
โดยเฉพาาะตอนเมื่อคืน เพิ่งจะได้เห็นเจ้าหลวงแสดงความอ่อนไหว (อย่างที่พระน้องนางปรามาสไว้) เสียศูนย์ เสียความคูล จากที่เคยเสมือนเป็นผู้ที่ถือไพ่เหนือกว่า กลับต้องมาหวั่นไหวกับสิ่งที่ตัวเองพยายามทำมาตลอด เพียงเพราะอยากชนะใจผู้หญิงที่รักมานานเหลือเกินด้วยการกระทำสไตล์คนภูเขา พูดน้อยปากหนัก ซึ่งต่างจากฝั่งพันธุรัฐ (ได้เชื้อแม่) ที่จะมีลักษณะอ่อนโยนนุ่มนวลกว่า เปรียบเป็นธาตุ กาสิก เป็นเหมือนธาตุดิน มั่นคงซื่อตรงจริงใจไม่ชอบพูดมากถนัดแสดงออกซึ่งอาจจะดูแข็งกร้าวไปบ้างทื่อๆไปบ้าง เข้ากันได้ดีกับการเลือกใส่เสื้อผ้าสีทึบหนาเหมือนต้องการปกป้องตัวเองไม่ให้ใครเห็นส่วนที่อ่อนไหว (เพราะจะว่าไปแล้วรัฐนี้มีแต่เพชรนิลแต่ไม่มีทางน้ำทางทะเลติดต่อค้าขายต้องพึ่งพาสองรัฐนั้นมาก) ต่างกับพันธุรัฐที่เป็นเหมือนธาตุน้ำ ที่เย็นใจกว่า อ่อนโยนจนดูเหมือนอ่อนแอ เสื้อผ้าจึงออกมาแนว earth tone สีน้ำตาลเป็นส่วนใหญ่ให้ความรู้สึกสบายตาสบายใจ ส่วนทานตะนั่นก็ธาตุลมด้วยเป็นคนที่ไหลไปตามสถานการณ์ ไม่ค่อยมีความมั่นคง เสื้อผ้าพริ้วไหวบางเบาจึงแสดงออกถึงตัวตนด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เปิดมาเมื่อคืนก็สมใจเราเสียที ที่ได้เห็นเจ้ากับเจ้าคุยกันตรงไปตรงมาซึ่งๆหน้า ไม่ต้องอาศัยคำคนอื่นพูดถึงอีกฝ่าย ทยุติธรที่ผ่านมาไม่เป็นโล้เป็นพาย แก้ปัญหาก็ไม่ค่อยได้ แต่เราเริ่มเห็นความเป็นผู้นำของเขา แม้จะอ่อนด้อยทางกายแต่ใจก็แน่วแน่มีอุดมการณ์ในแบบของสุภาพบุรุษที่ไม่นิยมนำผู้หญิงมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง (แม่เลี้ยงลูกมาดี ให้เกียรติผู้หญิง) เราชอบคำพูดของทยุมาก เห็นเหตุผลในการกระทำของเขามากขึ้นแม้ว่าเขาจะแอบชอบมนิสราแต่ไม่เคยสักครั้งที่จะออกปากเรื่องเงื่อนไขสงบศึกนี้ เพราะต้องการให้มนิสรารักโดยไม่รู้สึกเหมือนถูกบังคับให้จำยอมภายใต้ความหวาดกลัว ถ้าจะตกลงทางการเมืองก็ตกลงไป ไม่ใช่ใช้ผู้หญิงเป็นตัวเชื่อม ตอนที่ทยุพูดและเสนอให้นำทรรศิกากลับมาก่อนเพื่อที่จะดูว่าน้องรู้สึกยังไงกับเจ้าหลวง เราเห็นเหมือนเจ้าหลวงแอบอึ้ง แอบลุ้นว่าเจ้าหลวงอาจจะเริ่มคิดได้ว่าควรส่งนางกลับซะที แต่ก็นั่นแหละความที่พูดไม่ค่อยเก่ง กลายเป็นว่ายังไม่ทันอธิบายก็เกิดเหตุเจ้าหญิงตกบันไดเสียก่อน ความรู้สึกที่ได้รับจากเจ้าหญิงที่ยอมตายเสียดีกว่าที่จะยอมมาแต่งงานด้วย คงทำให้พระองค์เจ็บเหลือเกิน พอเจ้าหญิงฟื้นจึงตัดพ้อส่งท้าย ฟังแล้วก็สงสาร เหมือนยอมแพ้แล้วยังไงเธอก็ไม่รักฉัน แต่ครั้นจะส่งเขากลับง่ายๆคงไม่ใช่สไตล์ นี่เราแอบคิดเองนะ เลยสร้างเกมชิงเชลย เพื่อเปิดทางให้เจ้าหญิงหนี เปิดโอกาสให้องครักษ์ช่วยเหลือการหนีเสียอีก เราแอบคิดว่านี่เป็นแผนส่งตัวเนียนๆสไตล์เจ้าหลวงอ่ะ 55
ส่วนทยุติธรก็ได้รุ้จักความเป็นชายชาติทหาร ความเป็นผู้นำของเจ้าหลวงมากขึ้น จึงเริ่มปฏิวัติตัวเองเสียที หวั่นแต่ตอนนี้ ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์ อาจจะเสียรู้เสนาบดีกลาโหมกับหัวหน้าหน่วยโควิน ส่วนเจ้าหลวงเองที่ดูเสียศูนย์ไปไม่น้อย (หลุดโมโหกับพระน้องนางและองครักษ์) ก็น่าเป็นห่วงว่าจะโดนโค่นอำนาจ (ชอบที่พระน้องนางจะคิดยึดอำนาจ ไม่ใช่ตามริษยาทรรศิกา) โดยใช้อสรพิษจากทานตะเป็นผู้ร่วมขบวนการ
มีความอยากดูตอนหน้าแล้ว สงสารเจ้าหลวงรอเลย
(เรื่องนี้โดนด่ามาเยอะ เรื่องซีจี ก็ตามที่เขาว่าแหละ แต่เรายังชอบดูอยู่เพราะไม่เคยดูไม่เคยอ่านเรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนแรกก็เลี่ยนๆบ้าง เสื้อผ้าที่เขาติกันเราว่าบางชุดมันสวยด้วยซ้ำและบางชุดยังดูบางเกินไปด้วยซ้ำ ยิ่งเห็นควันออกปากนักแสดงจากการถ่ายทำที่สถานที่จริงอันนี้แหละฟินสุดๆ หนาวจริงหนาวจัง
พวกตัวร้ายอาจจะดูไร้สาระไปบ้างในตอนแรก แต่ตอนนี้กลับน่ากลัวเมื่อรวมหัวกันคิดการใหญ่กว่าแค่แย่งชิงความรัก มันทำให้เรื่องมีน้ำหนักน่าสนใจมากขึ้น
ลุ้นสองคู่ว่ากว่าจะสมหวังจะต้องเจออะไรอีก)