พยาบาลสาวสุดช้ำ โดนเตือนห้ามให้ใส่ชุดไปไหนให้ใครเห็น เหตุผลทำโกรธ ร้องไห้ เพราะสังคมรังเกียจ





จากสถานการณ์โรคปอดอักเสบชนิดรุนแรงที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด -19 ที่ชาวไทยกำลังต่อสู้อย่างสุดกำลัง ซึ่งขณะนี้ มีผู้ป่วยสะสมทั่วโลกอยู่ที่ 796,397 ราย มีผู้เสียชีวิต 38,576 ในจำนวนนี้มีผู้รักษาหายแล้ว 169,218 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 17.00 น.) 

โดยสหรัฐอเมริกายังคงครองอันดับหนึ่งของโลกที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 164,359 ราย รองลงมาคืออิตาลีที่มียอดผู้ป่วยสะสมที่ 101,739 ราย อันดับสามเป็นสเปนอยู่ที่ 94,417 ราย อันดับสี่เป็นจีนที่ 81,518 ราย และอันดับที่ห้าเป็นเยอรมันนีที่ 67,051 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 17.00 น.)

กระทั่ง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 โดยนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 10 และ โฆษกกระทรวงสาธารณสุข ได้แถลงเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ล่าสุดว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 127 ราย มีกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องเฝ้าระวัง รวมผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 1,651 รายเสียชีวิตเพิ่ม 1 รายรวมเป็น 10 รายแบ่งเป็นผู้ป่วยสัญชาติไทย 1,478 รายและสัญชาติอื่นอีก 244 ราย

โดยจากสถานการณ์นี้ทำให้เหล่าหมอ และพยาบาลต้องทำงานกันอย่างหนัก แต่ล่าสุด ผู้ใช้เฟซบุ๊ก สุพิชญ์ชญา วัฒนะเลิศเมธา ได้ขอระบายผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า “เจอคำสั่งตอนหกทุ่ม .. ห้ามให้รู้ว่าเราเป็นพยาบาล ห้ามใส่ชุดพยาบาลไปซื้อข้าว ห้ามไปเซเว่น ห้ามไปตลาด ห้ามไปไหนมาไหน .. เพราะตอนนี้คนเขาบอกว่า เราดูแลคนไข้ เราคือตัวแพร่เชื้อโรค #ขอโกรธแล้วร้องไห้อีกรอบได้บ่เนี่ย

ชุดพยาบาลอันมีเกียรติ ตอนนี้เดินไปไหนสังคมก็รังเกียจ เราเสียสละแต่เราโดนรังเกียจ #เราดูแลตัวเราเองครอบครัวเราคนรักเราได้ดีกว่าคุณอีกนะ #เราดูแลคนไข้เพราะเราไม่รังเกียจคนไข้ทำไมคุณถึงรังเกียจเรา แล้วถ้าเราไม่ดูแลคุณ ใครจะดูแล เรารังเกียจคุณบ้างได้มั้ย รังเกียจความคิดต่ำๆตรรกะป่วยๆ แบบนี้อะ ดูแลตัวเองให้ดี อย่าทำตัวเป็นภาระของสังคม อย่าป่วย อย่ามาโรงพยาบาล อยู่บ้าน และควรปรับทัศนคติให้คิดดีๆ ให้เป็น เราเชื่อว่า คุณมีเซลล์ในสมองมากกว่า 84,000 เซลล์

#Saveพยาบาล #Saveตรูด้วยตรูทำงานอยู่โรงพยาบาลมากกว่าอยู่บ้านอีก #ตรูเซง #เมื่อยใจ #รอยยิ้มช้านหายไป #แชร์ให้โลกรับรู้ด้วยว่าพยาบาลก็มีความรู้สึกเราก็มีหัวใจอย่าว่าเราเลยเราเลือกเกิดไม่ได้”

อย่างไรก็ตามหลังจากที่เธอได้ระบายความอัดอั้นตันใจออกไป ก็ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างต่อเนื่อง โดนส่วนใหญ่เข้ามาให้กำลังใจ และขอให้เธออย่ายอมแพ้ต่อหน้าที่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่