กระทู้นี้ผมอยากแชร์ประสบการ การรักษาโรคมะเร็งปอดของคุณแม่ผม อยากให้ทุกๆท่านที่ประสบเหตุการณ์แบบนี้ หรือคนใกล้ตัวที่กำลังประสบเหตุการณ์แบบนี้อยู่ มีกำลังใจ เข้มแข็ม และสู้ๆนะครับ (ขออนุญาตระบุชื่อ รพ.นะครับ แล้วก็ขอให้กระทู้นี้เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านด้วยนะครับ)
อาการตอนพบเจอโรค
เริ่มต้นจากช่วงเดือน มิถุนายน 2562 แม่ผมมีอาการไอมานาน 2-3 เดือน น้ำหนักลด และปวดหลัง ซึ่งในตอนแรกเข้าใจกันว่าเป็นโรคไอ100วัน เพราะผมเป็นบ่อย ทีนี้ไอไม่หายซักที เลยตัดสินใจไปหาหมอ ที่ รพ. พญาไท3 หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ให้ยามากิน กินไปซักระยะเวลาหนึ่งก็ยังไม่หายเลยไปหาหมออีกรอบที่ รพ.เดิม ผล x-ray ออกมาพบว่าปอดมีสีขาวๆอยู่ในฟิล์มอาจจะเป็นเนื้องอก หมอเลยถามว่ามีบัตรประกันสังคมที่ไหนไหม แล้วบอกให้ไปที่ที่สังกัดอยู่ โดยให้เหตุผลว่าค่ารักษาค่อนข้างสูง
ทางบ้านผมและพ่อ ก็เลยพาแม่ไปหาหมอที่ รพ.เซนต์หลุยส์ นำผล x-ray ไปให้ดูและทำการ scan ใหม่ อีกครั้งหลังจากนั้นหมอได้ทำการเจาะก้อนเนื้อที่ปอดเพื่อนำไปตรวจ นัดดูผลประมาณ 1 อาทิตย์ ผลออกมาหมอบอกว่าเป็นเนื้อร้าย นั่นก็คือมะเร็งที่ปอด ตอนนี้ทุกคนรู้สึกเสียใจมาก และชาไปทั้งตัว ร้อนหน้าไปหมด หมอท่านนี้เลยส่งไปหาหมอสาขามะเร็งนอกเวลาแผนกข้างๆตรวจดูอีกรอบ โดยนัดมาอีก 1 อาทิตย์
พอมาพบคุณหมอท่านนี้ เขาก็ยืนยันว่าเป็นมะเร็ง ก้อนมะเร็งมีขนาด 5.7*3.5 เซน ข้างขวาของปอด แต่หมอคนนี้ประจำอยู่ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาด เขาเลยถามความสมัครใจว่าจะรักษาที่นี่ หรือที่ รพ.จุฬา ทางบ้านตัดสินใจไปรักษากับหมอท่านนี้ต่อที่ รพ.จุฬา เป็นคลินิกนอกเวลา ไป 16.00 -22.00 โดยประมาณ
อีก 2 อาทิตย์ หมอนัดให้ส่องกล้องเจาะต่อมน้ำเหลืองไปตรวจกับหมออีกท่าน เพื่อดูว่ามีการกระจายไหม พอเจาะเสร็จแล้วรอผลอีกประมาณ 1 อาทิตย์ปรากฏว่ามีกระจายไป 2 จุด ช่วงนี้เทียวไปเทียวมาที่โรงพยาบาลค่อนข้างบ่อย และได้ออกจากโรงพยาบาลประมาณ 22.00 เกือบทุกวัน
หลังจากนั้นอีก 3 อาทิตย์ หมอนัดทำ PET Scan เพื่อตรวจในส่วนของสมอง ผลออกมาปกติดี ไม่ได้เป็นอะไร
ช่วงก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ออกเองทั้งหมด แต่ตอนนี้กำลังดำเนินการเรื่องบัตรทอง และขอย้ายจากการรักษานอกเวลา มาเป็นรักษาในเวลา
การดำเนินการเรื่องบัตรทอง ขั้นตอนคือต้องไปติดต่อที่คลินิกที่เราสังกัดบัตรทองอยู่ คลินิกนั้นจะตรวจสอบและส่งเราไปยัง รพ.ต้นสังกัด หลังจากนั้นถ้า รพ. ต้นสังกัดไม่มีเครื่องมือในการรักษา ก็จะส่งต่อไปยัง รพ.ที่มีเครื่องมือพร้อม
ซึ่งขั้นตอนที่ทางบ้านผมประสานงานจริงคือ ไปติดต่อคลินิกขอใบส่งตัวตามวันที่กำหนด >> นำใบส่งตัวไป รพ.ในเครือของคลินิก เพื่อขอเอกสารยืนยัน >> นำเอกสารยืนยันกลับไปที่ คลินิก ตามเวลาที่กำหนด เพื่อยืนยันใบส่งตัวพร้อมระบุเวลาที่เอกสารมีผลให้เหมือนกัน >> นำเอกสารยืนยันไปยื่นใช้สิทธิที่ รพ. ที่เราทำการรักษาอยู่ (จะทำแบบนี้ทุกๆ 3 เดือน)
อีก 1 อาทิตย์ หมอนัดวินิจฉัยว่าอาจจะทำการฉายแสงก่อน จึงนัดทำร่าง ฉีดสี ตีเส้นบนร่างกายตรงตำแหน่งที่จะฉายแสง ขั้นตอนนี้ค่าใช้จ่ายประมาณ 24,000 บาท
อีก 3 วัน หมอให้ทำ CT Scan ซึ่งช่วงนั้น ทาง รพ.จุฬาเกิดเหตุไฟไหม้ชั้นสอง ทำให้เครื่อง CT Scan พัง เขาเลยบอกว่าให้ทำ Bone Scan จาก รพ.อื่นมาก็ได้แล้วเอาผลมาให้ดู สรุปได้ที่ทำ Bone Scan เป็นที่ รพ.กรุงเทพ ค่าใช้จ่ายประมาณ 9,000 บาท ผลออกมาว่า มีจุดที่กระดูกสันหลัง ข้อที่ 10 อยู่ 1 จุด
อีก 1 อาทิตย์ นำผลไปให้หมอที่ รพ.จุฬาดู วินิจฉัยว่าต้องให้เคมีบำบัดก่อน ถึงค่อยฉายแสง หมอนัดมาให้เคมีบำบัดครั้งแรกวันศุกร์ โดยทุกวันพฤหัสบดีก่อนที่จะมาหาหมอต้องมาเจาะเลือดก่อน ตรงนี้จะเจาะที่จุฬา หรือที่อื่นก็ได้ แต่ถ้าเจาะที่จุฬา ผลเลือดจะออนไลน์ในคอมหมอตลอด ทางบ้านเลยเจาะที่รพ. จุฬา
ขั้นตอนการให้เคมีบำบัด
หมอนัดมาให้คีโม 4 ครั้ง ใช้เวลาครั้งละ 5 ชั่วโมง โดยมา 3 อาทิตย์ครั้ง หลังจากให้ไปครั้งแรกอีก 2 อาทิตย์หมอจะนัดเข้ามาคุยเรื่องผลข้างเคียง ถ้าไม่ติดปัญหาอะไร อีก 1 อาทิตย์มาเจาะเลือดและให้คีโมรอบที่สองได้ ครั้งถัดๆไปจะเป็นลักษณะเดิมคือวันพฤหัสบดีเจาะเลือด วันศุกร์เช้าพบหมอ และให้คีโมต่อหลังคุยกับหมอเสร็จ เวลาให้คีโมทางบ้านผมจะมาถึง รพ.ประมาณ ตี 05.00 เพื่อต่อแถวกดบัตรคิวครับ
โดยยาคีโมที่แม่ผมได้รับมีอยู่ 2 ตัวครับ ขวดเล็กและขวดใหญ่ ช่วงให้คีโมสองอาทิตย์แรกเกล็ดเลือดจะต่ำ ซึ่งถ้าต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะให้ยาไม่ได้ ทางบ้านปั่นน้ำผักต้ม ผลไม้สดแบบมีเปลือกหนาๆให้แม่ทาน รวมถึงให้ทานไข่ต้ม นมเอนชัวร์ทุกวันครับ ใน 4 ครั้งนี้ผลตรวจเลือดผ่านทุกครั้ง
ผลข้างเคียงตลอดการให้คีโม 4 ครั้งคือ
- ผมร่วง
- ปวดเมื่อยตามตัว ปวดมาก
- ท้องผูก
- คันผิวแดงตามแขน ขา
- ลิ้นชาๆ กินอะไรไม่ค่อยอร่อย
- เจ็บคอ
แต่แม่ผมทานอาหารได้ไม่อ้วก ไม่อาเจียนนะครับ ถือว่ายังดี ก่อนให้คีโมหมอจะฉีดยาแก้แพ้ และน้ำเกลือให้ก่อน แล้วให้ยาแก้อาเจียน 2 ตัวกลับบ้านมาทาน ตัวแรกให้ทาน 3 วันติด และตัวที่สองถ้ายังมีอาการอาเจียนหลังจาก 3 วันค่อยทาน พอให้คีโมครบ 4 ครั้งผลปรากฏว่า หมอบอกว่าก้อนมะเร็งยุบไปเกิน 50% แล้วครับ ยาเคมีตอบสนองกับโรคดี
ขั้นตอนการฉายแสง พร้อมให้คีโม
หมอจึงนัดทำร่าง ฉีดสี ตีเส้นบนร่างกายบริเวณปอด และต่อมน้ำเหลืองเพื่อทำการฉายแสง โดยที่ให้ยาคีโมต่อ แต่ลดขนาดยาลงมาให้ทั้งหมด 6 ครั้ง ทุกวันศุกร์ใช้เวลาครั้งละ 3.5 ชั่วโมง โดยมาอาทิตย์ละครั้ง ทำควบคู่กับฉายแสง ช่วงแรกจะวุ่นหน่อยครับ ช่วงวันศุกร์เพราะบางทีต้องฉายแสงก่อนให้คีโม แต่เวลาดันชนกัน เช่นหมอคีโมนัด 8.00 หมอฉายแสงก็ 8.00 ต้องมาหาหมอคีโมก่อนแล้วไปฉายแสง (ขั้นตอนนี้บางวันก็สลับกันแล้วแต่คิว) หลังจากนั้นวันไหนที่มีให้คีโม ก็ขึ้นไปรอคิวรับคีโมต่อได้เลย
แผนการฉายแสงทั้งหมด 33 ครั้ง ฉายทุกวันจันทร์ - ศุกร์ หยุดวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยวันศุกร์หลังฉายแสงจะให้ยาเคมีบำบัดต่อ และวันพฤหัสบดีจะต้องมาเจาะเลือดก่อน ซึ่งการฉายแสงแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ10-15 นาทีครับ
ผลข้างเคียงของการให้คีโม พร้อมฉายแสง ทุกอาทิตย์
- บางอาทิตย์เกล็ดเลือดไม่ผ่าน ต้องงดให้คีโม หรือให้ได้แต่ตัดยาบางตัวออก แล้วค่อยให้อาทิตย์ถัดไปแทน แม่ผมโดนงดให้คีโมไป 2 ครั้ง โดนลดยา 1 ครั้ง ในช่วงนี้
- กินอะไรไม่อร่อย
- เจ็บคอ
- ผื่นแดง คันบริเวณที่ฉายแสง
- ผื่นขึ้นจนเป็นแผลอักเสบ มีหนองออกตรงบริเวณที่ฉายแสง
- มีอาการไอ ช่วงที่ฉายแสงครบ 33 ครั้งไปแล้ว
หลังจากนั้นหลังฉายแสงเสร็จนับไปอีก 2 เดือน หมอนัดมา x-ray ปอดเพื่อดูผลการรักษาเบื้องต้นครับ ผลออกมาว่าคุณหมอบอกดูจากแผ่นฟิล์ม ไม่พบก้อนมะเร็งในปอดแล้ว ทีนี้นับไปอีก 1 เดือน มาพอดีกับกลางเดือนเมษายน 63 คุณหมดนัดมาทำ CT Scan เพื่อดูผลการรักษาแบบละเอียด ว่ายังเหลือส่วนไหนอีกไหมจะได้วางแผนการรักษาต่อ แต่ว่าช่วงนี้แม่ผมไอบ่อย หมอแจ้งว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉายแสงครับ
.............ไว้มาเล่าให้ฟังต่อนะครับ (สิ่งสำคัญคือกำลังใจ หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงที่มีควันต่างๆ กินของที่มีประโยชน์กินให้เยอะๆๆๆเลยครับ ต้องกินๆ สุขภาพจะได้แข็งแรงครับ สู้ๆ)
แชร์ประสบการณ์ การรักษามะเร็งปอด
อาการตอนพบเจอโรค
เริ่มต้นจากช่วงเดือน มิถุนายน 2562 แม่ผมมีอาการไอมานาน 2-3 เดือน น้ำหนักลด และปวดหลัง ซึ่งในตอนแรกเข้าใจกันว่าเป็นโรคไอ100วัน เพราะผมเป็นบ่อย ทีนี้ไอไม่หายซักที เลยตัดสินใจไปหาหมอ ที่ รพ. พญาไท3 หมอบอกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ให้ยามากิน กินไปซักระยะเวลาหนึ่งก็ยังไม่หายเลยไปหาหมออีกรอบที่ รพ.เดิม ผล x-ray ออกมาพบว่าปอดมีสีขาวๆอยู่ในฟิล์มอาจจะเป็นเนื้องอก หมอเลยถามว่ามีบัตรประกันสังคมที่ไหนไหม แล้วบอกให้ไปที่ที่สังกัดอยู่ โดยให้เหตุผลว่าค่ารักษาค่อนข้างสูง
ทางบ้านผมและพ่อ ก็เลยพาแม่ไปหาหมอที่ รพ.เซนต์หลุยส์ นำผล x-ray ไปให้ดูและทำการ scan ใหม่ อีกครั้งหลังจากนั้นหมอได้ทำการเจาะก้อนเนื้อที่ปอดเพื่อนำไปตรวจ นัดดูผลประมาณ 1 อาทิตย์ ผลออกมาหมอบอกว่าเป็นเนื้อร้าย นั่นก็คือมะเร็งที่ปอด ตอนนี้ทุกคนรู้สึกเสียใจมาก และชาไปทั้งตัว ร้อนหน้าไปหมด หมอท่านนี้เลยส่งไปหาหมอสาขามะเร็งนอกเวลาแผนกข้างๆตรวจดูอีกรอบ โดยนัดมาอีก 1 อาทิตย์
พอมาพบคุณหมอท่านนี้ เขาก็ยืนยันว่าเป็นมะเร็ง ก้อนมะเร็งมีขนาด 5.7*3.5 เซน ข้างขวาของปอด แต่หมอคนนี้ประจำอยู่ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาด เขาเลยถามความสมัครใจว่าจะรักษาที่นี่ หรือที่ รพ.จุฬา ทางบ้านตัดสินใจไปรักษากับหมอท่านนี้ต่อที่ รพ.จุฬา เป็นคลินิกนอกเวลา ไป 16.00 -22.00 โดยประมาณ
อีก 2 อาทิตย์ หมอนัดให้ส่องกล้องเจาะต่อมน้ำเหลืองไปตรวจกับหมออีกท่าน เพื่อดูว่ามีการกระจายไหม พอเจาะเสร็จแล้วรอผลอีกประมาณ 1 อาทิตย์ปรากฏว่ามีกระจายไป 2 จุด ช่วงนี้เทียวไปเทียวมาที่โรงพยาบาลค่อนข้างบ่อย และได้ออกจากโรงพยาบาลประมาณ 22.00 เกือบทุกวัน
หลังจากนั้นอีก 3 อาทิตย์ หมอนัดทำ PET Scan เพื่อตรวจในส่วนของสมอง ผลออกมาปกติดี ไม่ได้เป็นอะไร
ช่วงก่อนหน้านี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมด ออกเองทั้งหมด แต่ตอนนี้กำลังดำเนินการเรื่องบัตรทอง และขอย้ายจากการรักษานอกเวลา มาเป็นรักษาในเวลา
การดำเนินการเรื่องบัตรทอง ขั้นตอนคือต้องไปติดต่อที่คลินิกที่เราสังกัดบัตรทองอยู่ คลินิกนั้นจะตรวจสอบและส่งเราไปยัง รพ.ต้นสังกัด หลังจากนั้นถ้า รพ. ต้นสังกัดไม่มีเครื่องมือในการรักษา ก็จะส่งต่อไปยัง รพ.ที่มีเครื่องมือพร้อม
ซึ่งขั้นตอนที่ทางบ้านผมประสานงานจริงคือ ไปติดต่อคลินิกขอใบส่งตัวตามวันที่กำหนด >> นำใบส่งตัวไป รพ.ในเครือของคลินิก เพื่อขอเอกสารยืนยัน >> นำเอกสารยืนยันกลับไปที่ คลินิก ตามเวลาที่กำหนด เพื่อยืนยันใบส่งตัวพร้อมระบุเวลาที่เอกสารมีผลให้เหมือนกัน >> นำเอกสารยืนยันไปยื่นใช้สิทธิที่ รพ. ที่เราทำการรักษาอยู่ (จะทำแบบนี้ทุกๆ 3 เดือน)
อีก 1 อาทิตย์ หมอนัดวินิจฉัยว่าอาจจะทำการฉายแสงก่อน จึงนัดทำร่าง ฉีดสี ตีเส้นบนร่างกายตรงตำแหน่งที่จะฉายแสง ขั้นตอนนี้ค่าใช้จ่ายประมาณ 24,000 บาท
อีก 3 วัน หมอให้ทำ CT Scan ซึ่งช่วงนั้น ทาง รพ.จุฬาเกิดเหตุไฟไหม้ชั้นสอง ทำให้เครื่อง CT Scan พัง เขาเลยบอกว่าให้ทำ Bone Scan จาก รพ.อื่นมาก็ได้แล้วเอาผลมาให้ดู สรุปได้ที่ทำ Bone Scan เป็นที่ รพ.กรุงเทพ ค่าใช้จ่ายประมาณ 9,000 บาท ผลออกมาว่า มีจุดที่กระดูกสันหลัง ข้อที่ 10 อยู่ 1 จุด
อีก 1 อาทิตย์ นำผลไปให้หมอที่ รพ.จุฬาดู วินิจฉัยว่าต้องให้เคมีบำบัดก่อน ถึงค่อยฉายแสง หมอนัดมาให้เคมีบำบัดครั้งแรกวันศุกร์ โดยทุกวันพฤหัสบดีก่อนที่จะมาหาหมอต้องมาเจาะเลือดก่อน ตรงนี้จะเจาะที่จุฬา หรือที่อื่นก็ได้ แต่ถ้าเจาะที่จุฬา ผลเลือดจะออนไลน์ในคอมหมอตลอด ทางบ้านเลยเจาะที่รพ. จุฬา
ขั้นตอนการให้เคมีบำบัด
หมอนัดมาให้คีโม 4 ครั้ง ใช้เวลาครั้งละ 5 ชั่วโมง โดยมา 3 อาทิตย์ครั้ง หลังจากให้ไปครั้งแรกอีก 2 อาทิตย์หมอจะนัดเข้ามาคุยเรื่องผลข้างเคียง ถ้าไม่ติดปัญหาอะไร อีก 1 อาทิตย์มาเจาะเลือดและให้คีโมรอบที่สองได้ ครั้งถัดๆไปจะเป็นลักษณะเดิมคือวันพฤหัสบดีเจาะเลือด วันศุกร์เช้าพบหมอ และให้คีโมต่อหลังคุยกับหมอเสร็จ เวลาให้คีโมทางบ้านผมจะมาถึง รพ.ประมาณ ตี 05.00 เพื่อต่อแถวกดบัตรคิวครับ
โดยยาคีโมที่แม่ผมได้รับมีอยู่ 2 ตัวครับ ขวดเล็กและขวดใหญ่ ช่วงให้คีโมสองอาทิตย์แรกเกล็ดเลือดจะต่ำ ซึ่งถ้าต่ำกว่าเกณฑ์ก็จะให้ยาไม่ได้ ทางบ้านปั่นน้ำผักต้ม ผลไม้สดแบบมีเปลือกหนาๆให้แม่ทาน รวมถึงให้ทานไข่ต้ม นมเอนชัวร์ทุกวันครับ ใน 4 ครั้งนี้ผลตรวจเลือดผ่านทุกครั้ง
ผลข้างเคียงตลอดการให้คีโม 4 ครั้งคือ
- ผมร่วง
- ปวดเมื่อยตามตัว ปวดมาก
- ท้องผูก
- คันผิวแดงตามแขน ขา
- ลิ้นชาๆ กินอะไรไม่ค่อยอร่อย
- เจ็บคอ
แต่แม่ผมทานอาหารได้ไม่อ้วก ไม่อาเจียนนะครับ ถือว่ายังดี ก่อนให้คีโมหมอจะฉีดยาแก้แพ้ และน้ำเกลือให้ก่อน แล้วให้ยาแก้อาเจียน 2 ตัวกลับบ้านมาทาน ตัวแรกให้ทาน 3 วันติด และตัวที่สองถ้ายังมีอาการอาเจียนหลังจาก 3 วันค่อยทาน พอให้คีโมครบ 4 ครั้งผลปรากฏว่า หมอบอกว่าก้อนมะเร็งยุบไปเกิน 50% แล้วครับ ยาเคมีตอบสนองกับโรคดี
ขั้นตอนการฉายแสง พร้อมให้คีโม
หมอจึงนัดทำร่าง ฉีดสี ตีเส้นบนร่างกายบริเวณปอด และต่อมน้ำเหลืองเพื่อทำการฉายแสง โดยที่ให้ยาคีโมต่อ แต่ลดขนาดยาลงมาให้ทั้งหมด 6 ครั้ง ทุกวันศุกร์ใช้เวลาครั้งละ 3.5 ชั่วโมง โดยมาอาทิตย์ละครั้ง ทำควบคู่กับฉายแสง ช่วงแรกจะวุ่นหน่อยครับ ช่วงวันศุกร์เพราะบางทีต้องฉายแสงก่อนให้คีโม แต่เวลาดันชนกัน เช่นหมอคีโมนัด 8.00 หมอฉายแสงก็ 8.00 ต้องมาหาหมอคีโมก่อนแล้วไปฉายแสง (ขั้นตอนนี้บางวันก็สลับกันแล้วแต่คิว) หลังจากนั้นวันไหนที่มีให้คีโม ก็ขึ้นไปรอคิวรับคีโมต่อได้เลย
แผนการฉายแสงทั้งหมด 33 ครั้ง ฉายทุกวันจันทร์ - ศุกร์ หยุดวันเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยวันศุกร์หลังฉายแสงจะให้ยาเคมีบำบัดต่อ และวันพฤหัสบดีจะต้องมาเจาะเลือดก่อน ซึ่งการฉายแสงแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ10-15 นาทีครับ
ผลข้างเคียงของการให้คีโม พร้อมฉายแสง ทุกอาทิตย์
- บางอาทิตย์เกล็ดเลือดไม่ผ่าน ต้องงดให้คีโม หรือให้ได้แต่ตัดยาบางตัวออก แล้วค่อยให้อาทิตย์ถัดไปแทน แม่ผมโดนงดให้คีโมไป 2 ครั้ง โดนลดยา 1 ครั้ง ในช่วงนี้
- กินอะไรไม่อร่อย
- เจ็บคอ
- ผื่นแดง คันบริเวณที่ฉายแสง
- ผื่นขึ้นจนเป็นแผลอักเสบ มีหนองออกตรงบริเวณที่ฉายแสง
- มีอาการไอ ช่วงที่ฉายแสงครบ 33 ครั้งไปแล้ว
หลังจากนั้นหลังฉายแสงเสร็จนับไปอีก 2 เดือน หมอนัดมา x-ray ปอดเพื่อดูผลการรักษาเบื้องต้นครับ ผลออกมาว่าคุณหมอบอกดูจากแผ่นฟิล์ม ไม่พบก้อนมะเร็งในปอดแล้ว ทีนี้นับไปอีก 1 เดือน มาพอดีกับกลางเดือนเมษายน 63 คุณหมดนัดมาทำ CT Scan เพื่อดูผลการรักษาแบบละเอียด ว่ายังเหลือส่วนไหนอีกไหมจะได้วางแผนการรักษาต่อ แต่ว่าช่วงนี้แม่ผมไอบ่อย หมอแจ้งว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉายแสงครับ
.............ไว้มาเล่าให้ฟังต่อนะครับ (สิ่งสำคัญคือกำลังใจ หลีกเลี่ยงพื้นที่เสี่ยงที่มีควันต่างๆ กินของที่มีประโยชน์กินให้เยอะๆๆๆเลยครับ ต้องกินๆ สุขภาพจะได้แข็งแรงครับ สู้ๆ)