เรามีปัญหากับแฟนเรื่องเงินมาสักระยะแล้ว
เมื่อก่อนตอนแฟนยังมีเงิน เขาก็ซัพพอร์ตเราตลอด จนวันที่เขาลำบาก
เราก็ให้ความช่วยเหลือจนแทบไม่มีกิน ต้องกดบัตรกดเงินสดออกมาใช้
แรกๆเราไม่คิดอะไรเพราะคิดว่า เขาเคยช่วยเราเราก็ช่วยเขา พอนานวันเข้าเราเริ่มเครียดกับหนี้สินในชื่อของเรา
เพราะเขาตอบง่ายๆแค่ว่าไม่มี หลังๆเราเริ่มด่าเริ่มว่าเขาบ้าง เพราะชอบใช้เงินเกินตัวและขี้โกหก
โกหกว่าขอเงินไปใช้อย่างนึง จริงๆแล้วไปใช้อีกอย่าง กู้เงินมาโดยไม่บอก พอถามบอกว่าเพื่อนคืนเงิน
ถามว่าเพื่อนยืมตั้งแต่เมื่อไร เขาบอกว่ายืมตั้งแต่สมัยมีเงิน แต่ไปแอบดูโทรศัพท์จนรู้ว่าเขากู้มา
วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่ต่ำกว่า 5 เดือน
เขาบอกว่าหนี้สินของพี่ พี่จัดการเอง แต่ถ้าเขาไม่มีกินก็คือต้องขอเรากินแล้วมันไม่เกี่ยวกับเราตรงไหน ?
เขาโกหกจนคนรอบข้างรู้นิสัย ทั้งแม่ ทั้งเพื่อน ทั้งเรา คำพูดเขาบางทีไม่รู้ว่าจริงหรือโกหก
บัตรกดเงินสดขึ้นชื่อเรื่องดอกเบี้ยอยู่แล้ว เขาแทบไม่เคยจ่ายเลย บอกว่ายังไม่มีถ้ามีเขาก็ให้อยู่แล้ว
เขาไม่มีเราก็เข้าใจ แต่ไม่เคยแม้แต่จะถามสักนิดว่าดอกเท่าไร ส่งเดือนเท่าไร เงินเหลือบ้างไหมเดือนนี้
มีแต่ พี่ขอ... พอทะเลาะกันก็มาพูดว่า พอพี่ล้มพี่ก็ได้รู้ว่าคนรอบข้างเป็นยังไง ตอนพี่มีพี่ให้ไม่เคยพูด
แต่เขาไม่ได้ให้ทั้งหมดที่เขามี เขาแบ่งส่วนของเขาไว้ใช้ชัดเจน แล้วให้เราก็เหมือนฝาก ให้ไว้ก้อนนึง แล้วก็มาทยอยขอเบิกไปใช้ด้วย
แต่เราช่วยด้วยเงินทั้งหมดที่มี เงินเดือนเราไม่ได้เยอะแยะแต่ก็ช่วยเขาจนเป็นหนี้สิน
เพราะคิดว่าชีวิตคู่ก็แบบนี้ต้องคอยประคับประครองกัน (เรามีลูกด้วยกันแล้ว 1 คน)
ช่วงเวลาที่ตึงเครียดต่างคนต่างพูดจาทำร้ายจิตใจกันไว้เยอะ
ในเดือน เมษานี้เป็นเดือนที่เขาเริ่มตั้งตัวได้ เรื่องเงินไม่ต้องพึ่งเราแล้ว
ใจนึงเราก็คิดว่าพอแค่นี้ดีไหม เขาก็ดูแลตัวเองได้แล้ว อีกเหตุผลคือเขาเป็นคนขี้โกหก ไม่สามารถแก้นิสัยนี้ได้
เราไม่รู้ว่าเงินที่เขาได้มาได้มายังไง เขาใช้กับอะไรไปหมด แล้วเขาก็เป็นคนใช้เงินเกินตัว
ใช้ก่อนค่อยคิด
อีกใจก็คิดว่าอดทนด้วยกันจนเขาตั้งตัวได้แล้ว อยู่ต่อก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรื่องเงินก็ตกลงกันแล้วว่าจะแยกกระเป๋า
ไม่ยุ่งกัน แต่ถ้าเขาเดือดร้อนอีก ยังไงเราก็ต้องช่วยอยู่แล้ว
ชีวิตคู่กับเรื่องเงินไปต่อหรือพอแค่นี้ดี
เมื่อก่อนตอนแฟนยังมีเงิน เขาก็ซัพพอร์ตเราตลอด จนวันที่เขาลำบาก
เราก็ให้ความช่วยเหลือจนแทบไม่มีกิน ต้องกดบัตรกดเงินสดออกมาใช้
แรกๆเราไม่คิดอะไรเพราะคิดว่า เขาเคยช่วยเราเราก็ช่วยเขา พอนานวันเข้าเราเริ่มเครียดกับหนี้สินในชื่อของเรา
เพราะเขาตอบง่ายๆแค่ว่าไม่มี หลังๆเราเริ่มด่าเริ่มว่าเขาบ้าง เพราะชอบใช้เงินเกินตัวและขี้โกหก
โกหกว่าขอเงินไปใช้อย่างนึง จริงๆแล้วไปใช้อีกอย่าง กู้เงินมาโดยไม่บอก พอถามบอกว่าเพื่อนคืนเงิน
ถามว่าเพื่อนยืมตั้งแต่เมื่อไร เขาบอกว่ายืมตั้งแต่สมัยมีเงิน แต่ไปแอบดูโทรศัพท์จนรู้ว่าเขากู้มา
วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่ต่ำกว่า 5 เดือน
เขาบอกว่าหนี้สินของพี่ พี่จัดการเอง แต่ถ้าเขาไม่มีกินก็คือต้องขอเรากินแล้วมันไม่เกี่ยวกับเราตรงไหน ?
เขาโกหกจนคนรอบข้างรู้นิสัย ทั้งแม่ ทั้งเพื่อน ทั้งเรา คำพูดเขาบางทีไม่รู้ว่าจริงหรือโกหก
บัตรกดเงินสดขึ้นชื่อเรื่องดอกเบี้ยอยู่แล้ว เขาแทบไม่เคยจ่ายเลย บอกว่ายังไม่มีถ้ามีเขาก็ให้อยู่แล้ว
เขาไม่มีเราก็เข้าใจ แต่ไม่เคยแม้แต่จะถามสักนิดว่าดอกเท่าไร ส่งเดือนเท่าไร เงินเหลือบ้างไหมเดือนนี้
มีแต่ พี่ขอ... พอทะเลาะกันก็มาพูดว่า พอพี่ล้มพี่ก็ได้รู้ว่าคนรอบข้างเป็นยังไง ตอนพี่มีพี่ให้ไม่เคยพูด
แต่เขาไม่ได้ให้ทั้งหมดที่เขามี เขาแบ่งส่วนของเขาไว้ใช้ชัดเจน แล้วให้เราก็เหมือนฝาก ให้ไว้ก้อนนึง แล้วก็มาทยอยขอเบิกไปใช้ด้วย
แต่เราช่วยด้วยเงินทั้งหมดที่มี เงินเดือนเราไม่ได้เยอะแยะแต่ก็ช่วยเขาจนเป็นหนี้สิน
เพราะคิดว่าชีวิตคู่ก็แบบนี้ต้องคอยประคับประครองกัน (เรามีลูกด้วยกันแล้ว 1 คน)
ช่วงเวลาที่ตึงเครียดต่างคนต่างพูดจาทำร้ายจิตใจกันไว้เยอะ
ในเดือน เมษานี้เป็นเดือนที่เขาเริ่มตั้งตัวได้ เรื่องเงินไม่ต้องพึ่งเราแล้ว
ใจนึงเราก็คิดว่าพอแค่นี้ดีไหม เขาก็ดูแลตัวเองได้แล้ว อีกเหตุผลคือเขาเป็นคนขี้โกหก ไม่สามารถแก้นิสัยนี้ได้
เราไม่รู้ว่าเงินที่เขาได้มาได้มายังไง เขาใช้กับอะไรไปหมด แล้วเขาก็เป็นคนใช้เงินเกินตัว
ใช้ก่อนค่อยคิด
อีกใจก็คิดว่าอดทนด้วยกันจนเขาตั้งตัวได้แล้ว อยู่ต่อก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เรื่องเงินก็ตกลงกันแล้วว่าจะแยกกระเป๋า
ไม่ยุ่งกัน แต่ถ้าเขาเดือดร้อนอีก ยังไงเราก็ต้องช่วยอยู่แล้ว