ดิฉันผ่าตัดเนื้องอกไทรอยด์ออกทั้งสองข้าง (ไม่ได้ตัดพาราไทรอยด์) เมื่อเดือนเมษายน 2563 และเริ่มกินยาไทร็อกซิน เมื่อเดือนพฤษภาคม 2563 โดยกินขนาด 100 วันละ 1 เม็ด และคุณหมอให้กินแคลเซี่ยมเสริมทุกวัน

ทานได้ 5 เดือน เริ่มมีอาการใจสั่น ใจเต้นเร็ว กระสับกระส่าย เหนื่อยง่าย ผมร่วง นอนไม่หลับ เหงื่อออกมาก มีตะคริวที่ขาเป็นพักๆ ในเวลากลางคืน มีอาการซึมเศร้า เจาะเลือดดู Free T4,TSH,Calcium,Vitamin D คุณหมอบอกว่าทุกตัวปกติหมด ให้ทานยาเหมือนเดิม

ทานต่อได้ 3 เดือน อาการรุนแรงขึ้น ไปพบหมอเจาะเลือด ผลก็ปกติเหมือนเดิม แต่พอคุณหมอเห็นความดันกับอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงผิดปกติ ก็ปรับลดยาให้กินเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ วันเสาร์อาทิตย์ให้งด ระหว่างที่กินก็มีอาการเดิม แต่พอหยุดยาช่วงเสาร์อาทิตย์มีอาการดีขึ้น ไม่เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นปกติ อารมณ์สดชื่น หลับดีขึ้น แต่สังเกตว่าช่วงหยุดยาจะมีผมร่วงมากกว่าเดิม ท้องผูก แต่พอวันจันทร์เริ่มกินยาก็มีอาการใจเต้นเร็วอีก แต่ผมร่วงลดลง ขับถ่ายดีขึ้น

อีก 3 เดือนจะพบหมอเจาะเลือด คิดว่าถ้าผลเลือดยังเหมือนเดิม คุณหมอคงให้กินแบบเดิมอีก ถ้ากินไปแบบนี้เรื่อยๆ ร่างกายจะปรับตัวดีขึ้นไหมคะ ตอนนี้ช่วงที่กินยาวันจันทร์ถึงวันพุธ ยังพอไหว แต่พอวันพฤหัสกับศุกร์ อาการหนักมาก เช่น ปกติความดัน 115-120 ขึ้นไป 136-142 อัตราการเต้นของหัวใจจาก 80 ขึ้นไปเกือบ 100

ตอนนี้ทรมาณมากค่ะ พยายามไปเดินออกกำลังทุกวัน สวดมนต์ ฟังธรรมะ ก็ดีขึ้นบ้าง แล้วปลายปีจะต้องผ่าตัดต้อกระจก ยังไม่ทราบว่าถ้ามีอาการไทรอยด์แบบนี้จะผ่าได้หรือเปล่า หมอบอกไม่น่าจะมีปัญหา แต่ดิฉันก็กังวลค่ะ

ดิฉันเคยคิดว่าถ้าผ่าไทรอยด์ออกแล้วกินยาทดแทน คงจะไม่มีปัญหาอะไร ใช้ชีวิตได้ปกติ แต่ตอนนี้ผ่านมาเกือบปีก็ยังไม่เข้าที่เลยค่ะ 

ท่านใดมีคำแนะนำดีๆ ขอแบ่งปันหน่อยนะคะ ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ