เกริ่นนำ
เนื่องจากแฟนผมไม่ค่อยสบาย มีอาการบางอย่างคล้ายกับคนที่ติดเชื้อ Covid-19 โดยมีอาการไข้ 36.9-37.8 องศา (ซื้อที่ตรวจของ 7-11 มาตรวจเองวันละหลายรอบ วัดไต้ลิ้น เป็นค่าที่ค่อนข้างแน่นอน) มีอาการหายใจไม่ค่อยอิ่ม และปวดหัวตลอดเวลา มีคลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน มีเสมหะเล็กน้อยในลำคอ ซึ่งต้องขออนุญาติบอกก่อนว่า แฟนผมเป็นคนที่เรียนจบสาขาที่เกี่ยวข้องกับสายสุขภาพมา เลยค่อนข้างเป็นคน active ต่อสถานการณ์ covid-19 พอสมควรครับ จะเป็นคนใส่หน้ากากมาโดยตลอด (ช่วงปกติที่ยังไม่มี covid-19 ก็ใส่ไปทำงานทุกวัน) ยิ่งช่วงนี้มีสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งดูแลตัวเองมากขึ้น ใช้แอลกอฮอล ใช้เจล และเตรียมหน้ากาก รวมถึงถุงมือเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่คนส่วนใหญ่จะเริ่มตื่นตัวกันเสียอีก ผมเลยพลอยได้อานิสงส์ ได้หน้ากาก ได้เจล ได้แอลกอฮอล ไปด้วยครับ สบายเลย..
อันที่จริง แฟนผมไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่จะรับเชื้อเลยครับ เพราะการไปกลับที่ทำงานจะไปกับรถของที่ทำงาน ที่พักก็เป็นที่พักของที่ทำงาน วันๆไปกลับแค่ที่ทำงานไม่ได้แวะที่ไหนเลย อย่างมากก็ไปเดินตลาดใกล้ๆที่ทำงานครับ จะมีออกไปข้างนอกก็แค่วันที่เจอผมสัปดาห์ละแค่วันเดียวในวันเสาร์ครับ ส่วนใหญ่ก็ไปกินข้าวร้านตามในซอยใน กทม ร้านส้มตำ ร้านก๋วยเตี๋ยว หรือออก ตจว ไปบ้านยายผม แล้วก็อาจจะไปซื้อของสดตามบิ๊กซี แวะเซเว่น ก่อนกลับไปส่งที่ห้อง ส่วนการทำงานก็จะมีเคสมาขอรับบริการทุกวันแต่แค่วันละ 3-4 คนที่ต้องนั่งคุย จะมีวันนึงที่ต้องออกไปยืนต้อนรับเคส รับเอกสารจากเคสที่มาติดต่อรวมๆก็อาจจะ 20+ คน และก็มีการออกพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านเคส ของเดือนที่ผ่านมาคือ 5 หลัง ไม่มีไปเที่ยวสถานบันเทิงกลางคืน ไม่ได้ไปสนามมวย ไม่ได้กลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งบางทีผมคิดว่าผมเองที่ไปทำงานโดยการนั่งรถไฟฟ้า (MRT และต่อ BTS) ดูน่าจะมีความเสี่ยงสูงกว่าแฟนเสียอีก..
แต่ในช่วงที่ผ่านมา (ช่วงที่แฟนยังไม่มีอาการป่วยใดๆ) ผมกับแฟนก็มีไปร้านก๋วยเตี๋ยวที่สุขุมวิท มีไปกินข้าวที่ร้านอาหารจีนที่สุขุมวิท มีไปเดินจตุจักร (ตรงดิ่งไปร้านของชำร่วยร้านเดียว ไม่ได้เดินเที่ยว) มีไปเดินตลาดนัดที่ ตจว (บ้านยาย) และไปนวดที่ศูนย์แพทย์ (มีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิและน่าจะมีการทำความสะอาดพื้นที่ดีกว่าร้านนวดทั่วๆไป) ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ๆมีความเสี่ยงอยู่บ้างเหมือนกัน ถึงแม้ในร้านอาหารคนจะน้อยมากเพราะเป็นวันหยุด แต่โซนที่ไปมันก็ห่างจากเอกมัยทองหล่อมาไม่กี่ กม. ครับ (ช่วงนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่กี่สิบคน ผู้เสียชีวิตเพียง 1 คน สถานการณ์ยังไม่รุนแรง จึงยังไม่ได้ระวังตัวกันเหมือนวันนี้ครับ แต่ก็ใส่แมส ใช้เจล ใช้แอลกอฮอลพ่นตลอดกันอยู่แล้วครับ)
ไปหาหมอที่แรก ที่ รพ. รัฐ
หลังจากเริ่มมีอาการมากขึ้น (ก่อนหน้าไปตรวจ 2-3 วัน) อาการที่เพิ่มคือ ไข้เพิ่มเป็น 37.0-37.6 ปวดหัวมากขึ้น มีอาการเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย มีอาการไอแห้งๆ และรู้สึกเจ็บๆในคอ (ปกติแฟนผมก็เป็นไข้บ่อยๆ ปวดหัวบ่อยๆ เป็นประจำมาตั้งนานแล้ว พอมีอาการก็เลยสับสนว่าป่วยแบบปกติ หรือป่วยเพราะ Covid หรือแค่ประสาทเสียเพราะ Covid กันแน่) แต่ด้วยความไม่ประมาทก็เริ่มแจ้งที่ทำงานและเลิกไปเดินตลาด และไปหาหมอที่ รพ.รัฐ ซึ่งหมอก็สอบถามอาการแล้วก็มีความเห็นว่าอาการคล้าย Covid-19 แต่ทาง รพ. ไม่สามารถตรวจให้ได้เพราะไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง 3 กลุ่ม คือ เป็นหรือเป็นคนใกล้ชิดของคนที่ไปสนามมวย เที่ยวสถานบันเทิง และกลุ่มที่กลับจากต่างประเทศ คุณหมอจึงแนะนำให้ไปตรวจที่ รพ.เอกชน เลยหาข้อมูลและว่าจะไปตรวจ Drive Thru Test ที่ รพ.รามคำแหงครับ
ลงทะเบียนก่อนไปตรวจ
ก่อนอื่นเพื่อความสะดวก สามารถสมัครผ่านทางหน้าเวบก่อนได้ครับ กรอกข้อมูลส่วนตัว สมัคร แล้วรอ sms ตอบกลับ ส่วนถ้าไม่ได้สมัครก็สามารถ`Walk-in ได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้รับความสะดวก อาจจะไปตอนน้ำยาหมดพอดีแล้วไม่ได้รับการตรวจก็ได้ครับ สรุปแล้ว แนะนำให้สมัครก่อน ชัวร์สุดครับ..
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScx4fin3N94iyL_9r74mkJZAhOd6Ilk42SN1yyi0xSUkVWsTA/viewform
หลังจากนั้น มี sms ตอบกลับมาบอกว่าน้ำยาหมด ><"
แต่สักพักนึงก็ส่งข้อความมายืนยันว่าสามารถเข้าไปรับการตรวจเได้ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม ครับ..
เดินทางไปตรวจที่ รพ. รามคำแหง
4 ขั้นตอนในการตรวจเชื้อ..
(รูปจากหน้าเวบของทาง รพ.รามคำแหง ครับ)
พร้อมรับการตรวจแล้วค่ะ!
ผมมาถึง รพ. ประมาณ 10 โมงกว่าครับ สถานที่ตรวจเป็นเหมือนเต๊น outdoor ใหญ่ๆ 2 เต๊น อยู่ลึกเข้าไปด้านในสุดของลานจอดรถของ รพ. เลยครับ มาถึงก็เข้าคิวก่อน จำนวนรถที่เข้ามาไม่มากครับ ต้องรอประมาณ 2 คิว ก็แปปเดียว..
ขั้นตอนแรก - คัดกรอง ทำการตรวจวัดไข้ และตรวจสอบข้อมูลการสมัคร โดยใช้หลักฐานคือบัตรประชาชนครับ ไม่ต้องลงจากรถ ไม่มีการโดนตัวกัน และไม่ต้องส่งต่อหรือจับต้องบัตรประชาชนเลย เราแค่ยื่นให้เขาดูจากในรถครับ แล้วขับรถต่อไป
ขั้นตอนที่สอง - ลงทะเบียนและชำระเงิน ค่าตรวจจำนวน
6500 บาท ถ้าจำไม่ผิดสามารถเลือกชำระด้วยเงินสด บัตรเครติด หรือโอนเงินก็ได้ แฟนผมเลือกชำระด้วยเงินสดครับ เสร็จแล้วเลื่อนรถต่อไป
ขั้นตอนที่สาม - เข้าตรวจ โดยการตรวจจะเอาอุปกรณ์สอดเข้าไปในปากแล้วถูๆที่ลำคอ และในจมูกครับ ซึ่งแฟนบอกว่าตอนที่เข้าไปถูๆในสมูกเจ็บมาก เจ็บจนปวดหัวเลย หลังจากตรวจเสร็จก็ยังเจ็บต่อเนื่องไปอีกนาน..
เก็บเชื้อในลำคอ..
เก็บเชื้อในโพรงจมูก
เป็นอันเสร็จสิ้นการตรวจครับ ใช้เวลาทั้งสิ้นไม่นาน ราวๆ 15 นาที ถือว่าสะดวกมากเลย แต่แอบเคืองที่ค่าตรวจแพงมากๆ (ไม่ได้ว่า รพ. นะครับ หมายถึงค่าตรวจโรคนี้ที่ไหนๆมันก็แพงจริงๆ) หลังจากนี้ก็กลับบ้านได้เลย ทาง รพ. แจ้งว่าจะทราบผลภายใน 1-3 วัน โดยจะส่งผลตรวจไปทาง SMS และจะส่งใบรับรองแพทย์กับเอกสารผลตรวจทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในตอนสมัครครับ..
ก่อนจากกัน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจ และเผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับท่านที่กำลังหาข้อมูลในการตรวจเชื้อ Covid-19 อยู่ครับ หากรีวิวครั้งนี้มีสิ่งใดผิดพลาดหรือผมใช้คำไม่เหมาะสม ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
*** อัพเดทผลตรวจ ***
หลังจากที่เข้าตรวจเชื้อเมื่อวาน (28 มีนา 2563) ก่อนเที่ยง วันนี้ (29 มีนา 2563) ช่วงบ่าย ทาง รพ. ก็ได้ส่งผลตรวจมาทาง SMS ยืนยันแล้วว่าไม่ติดเชื้อ ดังรูปด้านล่างนี้ครับ ทั้งๆที่อาการทุกอย่างทำให้คิดว่าน่าจะเป็น แต่พอตรวจแล้วก็สบายใจครับ..
ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจ และติดตามผลงานได้ที่เพจ Need For Slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน ครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิวสามัญชน: Drive Thru Test ตรวจเชื้อ Covid-19 ที่โรงพยาบาลรามคำแหง
เนื่องจากแฟนผมไม่ค่อยสบาย มีอาการบางอย่างคล้ายกับคนที่ติดเชื้อ Covid-19 โดยมีอาการไข้ 36.9-37.8 องศา (ซื้อที่ตรวจของ 7-11 มาตรวจเองวันละหลายรอบ วัดไต้ลิ้น เป็นค่าที่ค่อนข้างแน่นอน) มีอาการหายใจไม่ค่อยอิ่ม และปวดหัวตลอดเวลา มีคลื่นไส้แต่ไม่อาเจียน มีเสมหะเล็กน้อยในลำคอ ซึ่งต้องขออนุญาติบอกก่อนว่า แฟนผมเป็นคนที่เรียนจบสาขาที่เกี่ยวข้องกับสายสุขภาพมา เลยค่อนข้างเป็นคน active ต่อสถานการณ์ covid-19 พอสมควรครับ จะเป็นคนใส่หน้ากากมาโดยตลอด (ช่วงปกติที่ยังไม่มี covid-19 ก็ใส่ไปทำงานทุกวัน) ยิ่งช่วงนี้มีสถานการณ์แบบนี้ ยิ่งดูแลตัวเองมากขึ้น ใช้แอลกอฮอล ใช้เจล และเตรียมหน้ากาก รวมถึงถุงมือเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่คนส่วนใหญ่จะเริ่มตื่นตัวกันเสียอีก ผมเลยพลอยได้อานิสงส์ ได้หน้ากาก ได้เจล ได้แอลกอฮอล ไปด้วยครับ สบายเลย..
อันที่จริง แฟนผมไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงที่จะรับเชื้อเลยครับ เพราะการไปกลับที่ทำงานจะไปกับรถของที่ทำงาน ที่พักก็เป็นที่พักของที่ทำงาน วันๆไปกลับแค่ที่ทำงานไม่ได้แวะที่ไหนเลย อย่างมากก็ไปเดินตลาดใกล้ๆที่ทำงานครับ จะมีออกไปข้างนอกก็แค่วันที่เจอผมสัปดาห์ละแค่วันเดียวในวันเสาร์ครับ ส่วนใหญ่ก็ไปกินข้าวร้านตามในซอยใน กทม ร้านส้มตำ ร้านก๋วยเตี๋ยว หรือออก ตจว ไปบ้านยายผม แล้วก็อาจจะไปซื้อของสดตามบิ๊กซี แวะเซเว่น ก่อนกลับไปส่งที่ห้อง ส่วนการทำงานก็จะมีเคสมาขอรับบริการทุกวันแต่แค่วันละ 3-4 คนที่ต้องนั่งคุย จะมีวันนึงที่ต้องออกไปยืนต้อนรับเคส รับเอกสารจากเคสที่มาติดต่อรวมๆก็อาจจะ 20+ คน และก็มีการออกพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านเคส ของเดือนที่ผ่านมาคือ 5 หลัง ไม่มีไปเที่ยวสถานบันเทิงกลางคืน ไม่ได้ไปสนามมวย ไม่ได้กลับมาจากต่างประเทศ ซึ่งบางทีผมคิดว่าผมเองที่ไปทำงานโดยการนั่งรถไฟฟ้า (MRT และต่อ BTS) ดูน่าจะมีความเสี่ยงสูงกว่าแฟนเสียอีก..
แต่ในช่วงที่ผ่านมา (ช่วงที่แฟนยังไม่มีอาการป่วยใดๆ) ผมกับแฟนก็มีไปร้านก๋วยเตี๋ยวที่สุขุมวิท มีไปกินข้าวที่ร้านอาหารจีนที่สุขุมวิท มีไปเดินจตุจักร (ตรงดิ่งไปร้านของชำร่วยร้านเดียว ไม่ได้เดินเที่ยว) มีไปเดินตลาดนัดที่ ตจว (บ้านยาย) และไปนวดที่ศูนย์แพทย์ (มีการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิและน่าจะมีการทำความสะอาดพื้นที่ดีกว่าร้านนวดทั่วๆไป) ก็ถือว่าเป็นพื้นที่ๆมีความเสี่ยงอยู่บ้างเหมือนกัน ถึงแม้ในร้านอาหารคนจะน้อยมากเพราะเป็นวันหยุด แต่โซนที่ไปมันก็ห่างจากเอกมัยทองหล่อมาไม่กี่ กม. ครับ (ช่วงนั้นจำนวนผู้ติดเชื้อยังไม่กี่สิบคน ผู้เสียชีวิตเพียง 1 คน สถานการณ์ยังไม่รุนแรง จึงยังไม่ได้ระวังตัวกันเหมือนวันนี้ครับ แต่ก็ใส่แมส ใช้เจล ใช้แอลกอฮอลพ่นตลอดกันอยู่แล้วครับ)
ไปหาหมอที่แรก ที่ รพ. รัฐ
หลังจากเริ่มมีอาการมากขึ้น (ก่อนหน้าไปตรวจ 2-3 วัน) อาการที่เพิ่มคือ ไข้เพิ่มเป็น 37.0-37.6 ปวดหัวมากขึ้น มีอาการเหนื่อยหอบ อ่อนเพลีย มีอาการไอแห้งๆ และรู้สึกเจ็บๆในคอ (ปกติแฟนผมก็เป็นไข้บ่อยๆ ปวดหัวบ่อยๆ เป็นประจำมาตั้งนานแล้ว พอมีอาการก็เลยสับสนว่าป่วยแบบปกติ หรือป่วยเพราะ Covid หรือแค่ประสาทเสียเพราะ Covid กันแน่) แต่ด้วยความไม่ประมาทก็เริ่มแจ้งที่ทำงานและเลิกไปเดินตลาด และไปหาหมอที่ รพ.รัฐ ซึ่งหมอก็สอบถามอาการแล้วก็มีความเห็นว่าอาการคล้าย Covid-19 แต่ทาง รพ. ไม่สามารถตรวจให้ได้เพราะไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง 3 กลุ่ม คือ เป็นหรือเป็นคนใกล้ชิดของคนที่ไปสนามมวย เที่ยวสถานบันเทิง และกลุ่มที่กลับจากต่างประเทศ คุณหมอจึงแนะนำให้ไปตรวจที่ รพ.เอกชน เลยหาข้อมูลและว่าจะไปตรวจ Drive Thru Test ที่ รพ.รามคำแหงครับ
ลงทะเบียนก่อนไปตรวจ
ก่อนอื่นเพื่อความสะดวก สามารถสมัครผ่านทางหน้าเวบก่อนได้ครับ กรอกข้อมูลส่วนตัว สมัคร แล้วรอ sms ตอบกลับ ส่วนถ้าไม่ได้สมัครก็สามารถ`Walk-in ได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ได้รับความสะดวก อาจจะไปตอนน้ำยาหมดพอดีแล้วไม่ได้รับการตรวจก็ได้ครับ สรุปแล้ว แนะนำให้สมัครก่อน ชัวร์สุดครับ..
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScx4fin3N94iyL_9r74mkJZAhOd6Ilk42SN1yyi0xSUkVWsTA/viewform
หลังจากนั้น มี sms ตอบกลับมาบอกว่าน้ำยาหมด ><"
แต่สักพักนึงก็ส่งข้อความมายืนยันว่าสามารถเข้าไปรับการตรวจเได้ในวันเสาร์ที่ 28 มีนาคม ครับ..
เดินทางไปตรวจที่ รพ. รามคำแหง
4 ขั้นตอนในการตรวจเชื้อ..
(รูปจากหน้าเวบของทาง รพ.รามคำแหง ครับ)
พร้อมรับการตรวจแล้วค่ะ!
ผมมาถึง รพ. ประมาณ 10 โมงกว่าครับ สถานที่ตรวจเป็นเหมือนเต๊น outdoor ใหญ่ๆ 2 เต๊น อยู่ลึกเข้าไปด้านในสุดของลานจอดรถของ รพ. เลยครับ มาถึงก็เข้าคิวก่อน จำนวนรถที่เข้ามาไม่มากครับ ต้องรอประมาณ 2 คิว ก็แปปเดียว..
ขั้นตอนแรก - คัดกรอง ทำการตรวจวัดไข้ และตรวจสอบข้อมูลการสมัคร โดยใช้หลักฐานคือบัตรประชาชนครับ ไม่ต้องลงจากรถ ไม่มีการโดนตัวกัน และไม่ต้องส่งต่อหรือจับต้องบัตรประชาชนเลย เราแค่ยื่นให้เขาดูจากในรถครับ แล้วขับรถต่อไป
ขั้นตอนที่สอง - ลงทะเบียนและชำระเงิน ค่าตรวจจำนวน 6500 บาท ถ้าจำไม่ผิดสามารถเลือกชำระด้วยเงินสด บัตรเครติด หรือโอนเงินก็ได้ แฟนผมเลือกชำระด้วยเงินสดครับ เสร็จแล้วเลื่อนรถต่อไป
ขั้นตอนที่สาม - เข้าตรวจ โดยการตรวจจะเอาอุปกรณ์สอดเข้าไปในปากแล้วถูๆที่ลำคอ และในจมูกครับ ซึ่งแฟนบอกว่าตอนที่เข้าไปถูๆในสมูกเจ็บมาก เจ็บจนปวดหัวเลย หลังจากตรวจเสร็จก็ยังเจ็บต่อเนื่องไปอีกนาน..
เก็บเชื้อในลำคอ..
เก็บเชื้อในโพรงจมูก
เป็นอันเสร็จสิ้นการตรวจครับ ใช้เวลาทั้งสิ้นไม่นาน ราวๆ 15 นาที ถือว่าสะดวกมากเลย แต่แอบเคืองที่ค่าตรวจแพงมากๆ (ไม่ได้ว่า รพ. นะครับ หมายถึงค่าตรวจโรคนี้ที่ไหนๆมันก็แพงจริงๆ) หลังจากนี้ก็กลับบ้านได้เลย ทาง รพ. แจ้งว่าจะทราบผลภายใน 1-3 วัน โดยจะส่งผลตรวจไปทาง SMS และจะส่งใบรับรองแพทย์กับเอกสารผลตรวจทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในตอนสมัครครับ..
ก่อนจากกัน
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านมาจนจบนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับท่านที่สนใจ และเผื่อจะเป็นข้อมูลสำหรับท่านที่กำลังหาข้อมูลในการตรวจเชื้อ Covid-19 อยู่ครับ หากรีวิวครั้งนี้มีสิ่งใดผิดพลาดหรือผมใช้คำไม่เหมาะสม ผมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
*** อัพเดทผลตรวจ ***
หลังจากที่เข้าตรวจเชื้อเมื่อวาน (28 มีนา 2563) ก่อนเที่ยง วันนี้ (29 มีนา 2563) ช่วงบ่าย ทาง รพ. ก็ได้ส่งผลตรวจมาทาง SMS ยืนยันแล้วว่าไม่ติดเชื้อ ดังรูปด้านล่างนี้ครับ ทั้งๆที่อาการทุกอย่างทำให้คิดว่าน่าจะเป็น แต่พอตรวจแล้วก็สบายใจครับ..
ฝากกดไลค์เป็นกำลังใจ และติดตามผลงานได้ที่เพจ Need For Slow - ดังแต่ท่อ ล้อไม่หมุน ครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้