เนื่องจากผ่านมา 10 ตอนแล้ว และเหมือนว่า EP ต่อไปจะมีความเกี่ยวพันกับคดีก่อนๆที่ทางทนายยูนฮีแจ (จูจีฮุน) และ ทนายจองกึมจา (คิมฮเยซู) เคยทำเอาไว้ เราเลยสรุปคดีหลักๆ ที่ทั้งสองคนทำตั้งแต่ EP.1-EP10 มาให้อ่านกันจ้า เผื่อดู EP.11 คืนนี้จะได้ต่อติดเลย
Case 1 : คดีไวท์สแกนดัล
โจทย์ : บริษัทไวท์เวนเจอร์
ทนายฝ่ายโจทย์ : อัยการควอนยงอุน (อัยการรัฐ)
จำเลย : รมต. อีฮยอนจอง (รัฐมนตรีกิจการพลเรือน)
ทนายฝ่ายจำเลย : ยูนฮีแจ (ซง & คิม)
ข้อหา : ใช้อำนาจโดยมิชอบ ติดสินบน บังคับ ข่มขู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้บริษัทไวท์เวนเจอร์ กล่าวหาว่าถูกกดดันให้ลงทุนใน บริษัทเทคสตาร์ทอัพ ซึ่งทางทำเนียบกดดันให้บริษัทใหญ่ๆหลายบริษัทร่วมลงทุน ตั้งแต่ 5,000 – 30,000 ล้านวอน โดยผู้ได้ผลประโยชน์คือลูกพี่ลูกน้องของ รมต. อีฮยอนจอง
- จากการสืบคดี ทางอัยการแจ้งหลักฐานบันทึกการนัดพบ ในเอกสารของทาง บ.ไวท์เวนเจอร์ ระบุว่าถูกกดดันโดยทำเนียบ ทางทนายแย้งว่าในเอกสารไม่มืชื่อของ รมต.อีฮยอนจอง ระบุอยู่ในเอกสารฉบับนั้น
- ทางอัยการยกหลักฐานว่า ผู้ดูแลด้านการลงทุนของ บ.เทค ก็คือ รมต.อีฮยอนจอง ซึ่งทนายแย้งที่มาของเอกสารฉบับนี้ว่าไม่ได้มาจากการยึดเอกสารภายในห้อง รมต.กิจการพลเรือน แต่ได้มาจาก รมต.เศรษฐกิจ
- อัยการยกเหตุผลว่าการเงินของ บ.เทค ไม่สู้ดี ถ้าไม่มีการกดดัน ทาง บ.ไวท์ จะไม่ยอมให้เกิดการลงทุนขึ้น ทางทนายแย้งว่าทาง บ.ไวท์ อยากได้เงินทุนสนับสนุน เพราะ บ.เทค เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ และมีรายชื่อบริษัทอีกหลายบริษัทที่ร่วมลงทุนกับ บ.ไวท์
- อัยการยกเอกสารใบขอจดลิขสิทธิ์ของ บ.เทค ซึ่งทนายแย้งว่ายังไม่ได้สิทธิบัตรเป็นเพียงแต่การยื่นเรื่อง แต่ทาง บ.ไวท์ เห็นว่าดูมีอนาคต ทำให้เลือกลงทุนกับ บ.เทคเอง ดังนั้นจำเลย (รมต.อีฮยอนจอง) จึงไม่ได้เกี่ยวข้องในการลงทุนใดๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุปคดี : อัยการทำได้เพียงตอกย้ำข้อสงสัยต่างๆที่นำเสนอระหว่างการสืบพยาน แต่ในการพิจารณาคดี หลักฐานเหล่านั้นไม่ได้ยืนยันว่าจำเลยมีความผิด ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกฟ้อง ขอให้พ้นผิดทุกข้อกล่าวหาข้อความ
Case 2 : คดีฟ้องหย่า ของประธานฮาชานโฮ (บ. ISSUME) กับภรรยา อีซอจุน (คดีนี้คือคดีสื่อรักอ่ะ)
โจทย์ : ฮาชานโฮ (ประธาน บ. อิสซูม)
ทนายฝ่ายโจทย์ : ยูนฮีแจ (ซง & คิม)
จำเลย : อีซอจุน (ภรรยาของฮาชานโฮ)
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
ข้อหา : ฟ้องหย่า เพราะทางฝ่ายหญิงนอกใจ เรียกร้องขอสิทธิในการเลี้ยงดูบุตร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทนายกึมจายอมรับว่าทางจำเลยฝ่ายหญิงนอกใจจริง แต่โจทย์ตามเก็บหลักฐาน สอดส่อง ขุดคุ้ย ทำแบบนี้มาเป็นเวลานานแล้ว ถ้าโจทย์ยังอยากคงสถานะตั้งแต่แรกคงไม่ทำเช่นนี้ ดังนั้นจำเลยไม่มีความจำเป็นต้องมารับผิดของต่อการหย่าทั้งหมด การนอกใจเป็นเรื่องนึง สิทธิการเลี้ยงดูบุตรก็เป็นอีกเรื่องนึง ทนายฮีแจแย้งว่าทางฝ่ายโจทย์ส่งเสียอย่างดี แต่ทางทนายกึมจาได้แย้งว่าทางฝ่ายโจทย์มีแนวโน้มคุกคามสวัสดิการของบุตร โดยยกหลักฐาน ใบความเห็นแพทย์ ว่าทางฝ่ายโจทย์มีอาการทางจิต เสพโคเคน ควบคุมความโกรธไม่ได้ เป็นโรควิตกกังวลขั้นรุนแรง ใช้ชีวิตประจำวันได้ยาก หากไม่ได้รับยา ต้องมีการให้ยานอนหลับ อีกทั้งผู้ป่วยไม่มีความรู้สึกผูกพันธ์ใดๆกับบุตร ลักษณะนิสัยที่ฉุนเฉียวก้าวร้าว ส่งอิทธิพลในทางลบต่อบุตร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุปคดี : ทนายทั้งสองฝ่ายทำการไกล่เกลี่ย โดยทางฝ่ายหญิงได้สิทธิในการเลี้ยงดูบุตรไป พร้อมทั้งค่าเลี้ยงดู 25%ของเงินจำนวน 60,000 ล้านวอน
Case 3 : คดีทำร้ายร่างกายแม่บ้าน
โจทย์ : แม่บ้านของฮวังมีรา
ทนายฝ่ายโจทย์ : อัยการรัฐ
จำเลย : คนขับรถของฮวังมีรา & ฮวังมีรา (ลูกคนโต ธนาคารเอเจ ดีเวลล็อปเม้น)
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
ข้อหา : ทำร้ายร่างกาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฮวังมีราสั่งให้คนขับรถซอ ทำร้ายร่างกายแม่บ้าน (เนื่องจากไม่พอใจอะไรสักอย่างไม่ได้กล่าวถึงในละคร) ทางแม่บ้านต้องการฟ้องฮวังมีรา ไม่ได้ต้องการฟ้องคนขับรถ แต่ทางคนขับรถยอมรับความผิดแทน (เนื่องจากได้อพาร์ตเม้นท์เป็นค่าตอบแทนในการยอมรับความผิดนั้น)
สรุปคดี : ทางกึมจาเข้าไปคุยไกล่เกลี่ยให้ยอมความกันไป ให้โดยให้ทางแม่บ้านรับข้อเสนอ เป็นทุนการศึกษาพร้อมค่าใช้จ่ายต่างๆของลูกชายแม่บ้าน (น่าจะโดยตลอดถ้ายังเรียนอยู่)
Case 4 : คดีกักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ซอจองฮวา
** คดีนี้เกี่ยวพันกับการแย่งชิงตำแหน่งประธาน บ.อีสซูม ระหว่าง ฮาชานโฮ และ ฮาฮเยวอน (ลูกสาวคนรองของประธานใหญ่บริษัทอีสซูม) ซึ่งทางยูฮีแจโน้มน้าวให้ฮาฮเยวอนยกเลิกความร่วมมือกับทางบริษัทกฏหมาย JD พร้อมทั้งเสนอตัวเข้าไปทำคดีให้ซอจองฮวาในชื่อบริษัทอื่น (สำนักงานทนายความจองวอน) หากซอจองฮวาชนะ ทางซงแอนด์คิมจะอุ้มฮาฮเยวอนเป็นประธานอีสซูมแทนฮาชานโฮ **
โจทย์ : ซอจองฮวา
ทนายฝ่ายโจทย์ : ยูนฮีแจ (สำนักทนายความจองวอน)
จำเลย : ฮาชานโฮ
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
ข้อหา : กักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ซอจองฮวา (เมียน้อยของฮาซานโฮ) ต้องการฟ้องฮาชานโฮ ข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย ซึ่งทางกึมจา แอบทำการไกล่เกลี่ย (แบล็คเมล์ ข่มขู่ โน้มน้าวเล็กๆ นั่นแหละ) ขอให้ทางซอจองฮวาถอนฟ้อง มันก็มีซัมติงอยู่ในเรื่อง ทำให้ซอจองฮวา ถอนฟ้องไป (ไม่อยากสปอยด์เยอะ ใครยังไม่ได้ดูก็รีบดูเนอะ พลิกไปพลิกมาสนุกมาก)
Case 5 : คดีฟ้องร้องสัญญาที่ไม่เป็นธรรมของนักไวโอลิน โกอีมัน
โจทย์ : โกอีมัน (นักไวโอลินชื่อดัง)
ทนายฝ่ายโจทย์ : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
จำเลย : แม่ของโกอีมัน
ทนายฝ่ายจำเลย : ยูนฮีแจ (ซง & คิม) แต่ทางฮีแจขอไม่ใส่ชื่อลงไปในเอกสาร ให้ทางทนายบูฮยอนอา ดำเนินการไกล่เกลี่ยกับทนายฝ่ายโจทย์จองกึมจาแทนตนเอง
ข้อหา : สัญญาไม่เป็นธรรม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โกอีมัน (นักไวโอลิน ขวัญใจยูนฮีแจ) ไปหาจองกึมจาเพื่อขอให้ช่วยแก้ไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรมของเค้ากับทางต้นสังกัด สัญญานี้ต้นสังกัด (แม่ของโกอีมัน นั่นแหละ) ทำขึ้นตั้งแต่สมัยที่โกอีมันยังเด็ก แล้วก็ต่อสัญญาโดยอัตโนมัติ ซึ่งมีหลายๆข้อที่ทางโกอีมันรับไม่ได้ อาทิ ห้ามมีแฟน (เอิ่ม....) ทางโกอีมันเองไม่ต้องการการฟ้องร้องแตกหักสักเท่าไหร่ เพราะยังไงต้นสังกัดก็คือแม่ของเขา โกอีมันมีความสุขในการเล่นดนตรี ความต้องการของเค้าคือต้องการอิสรภาพเท่านั้น
สรุปคดี : ทนายยูนไกล่เกลี่ยสำเร็จ โดยต้นสังกัดออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมดเหมือนเดิม ทางโกอีมันจะได้รับเงินเดือน เดือนละ 5 ล้านวอน สำหรับคิวตารางงานต่างๆนั้นทางโกอีมันก็มีสิทธิจ้างเอง ทั้งนี้กฏห้ามมีแฟนก็ได้รับการยกเลิกไป ทางโกอีมันพอใจแค่นี้ ทำให้ไม่ได้มีการฟ้องร้องแต่อย่างใด
Case 6 : คดีละเมิดกฏหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บ. D&T [ FinTech Group ] บริษัทให้บริการด้านการเงิน (ฟินเทค สตาร์ทอัพ)
** คดีนี้ลูกค้าเป็นลูกชายของซนบงอู ประธานใหญ่เอสเอสกรุ๊พ หนึ่งในห้าบริษัทแถวหน้าของเกาหลี ซึ่งถือเป็น VVIP ของ ซง&คิม อีกรายนึง ทางประธานซงมอบหมายงานนี้ให้ทีม H … โจทย์คือต้องแก้ต่างให้กับทาง D&T และนำบริษัท D&T เข้าสู่ตลาดหุ้นให้ได้ **
โจทย์ : คิมยองจุน (อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท D&T)
ทนายฝ่ายโจทย์ : พัคฮยอกควอน (หัวหน้าอัยการรัฐ) & ควอนยงทุน (อัยการรัฐ)
จำเลย : ซนจินซู ประธานบริษัท D&T (ฟินเทค กรุ๊พ)
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา & ยูนฮีแจ >>> H team ของ ซง & คิม
ข้อหา : ปลอมแปลงเอกสารส่วนตัว ละเมินกฎหมายข้อมูลทะเบียนราษฎร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คิมยองจุน อดีตลูกจ้างของบริษัท D&T ยื่นฟ้องซนจินซู กล่าวหาว่าประธานซนนำข้อมูลของลูกค้า D&T ที่ลงทะเบียนไว้ ไปใช้เพื่ออัพโหลดคลิปลามกในเว็ปไซต์ Foxer นำกำไรไปซื้อเงินสกุลดิจิตัล ทำเงินได้ 4,500 ล้านวอน คำให้การของอดีตพนักงานทุกคนที่ออกไป กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ประธานซนมักจะกระทำการปั่นหัวลูกจ้าง ข่มเหงรังแกด้านจิตใจ เป่าหูให้ผู้ฟังรู้สึกผิดจนโทษตัวเอง หลอกใช้ สมดุลการทำงานไม่ดี บ้านช่องไม่ได้กลับ ซึ่งจากคำให้การต่างๆ ทำให้คำให้การของพยานดูมีความน่าเชื่อถือว่า ประธานซนน่าจะกระทำความผิดนั้นจริง
สรุปคดี : ทีม H พิสูจน์ความไม่น่าเชื่อถือของหลักฐานและพยานที่ทางอัยการส่งฟ้อง เปิดโปงว่าคิมยองจุนบิดเบือนหลักฐาน ให้การเท็จ กระทำการเช่นนั้นเพราะเกลียดและโกรธแค้นประธานซน ผู้กระทำผิดที่แท้จริงคือคิมยองจุน (โทษสูงสุดของข้อหาขโมยข้อมูล คือคุกไม่เกินสามปี) ซนจินซูจึงกลายเป็นผู้บริสุทธิ์สำหรับคดีนี้
Case 7 : คดีลูกคนรวยตีกัน
โจทย์ : คังฮโยมิน (ลูกชายของ คังซึงมุก ประธาน บ. อารีฮันบิวตี้)
ทนายฝ่ายโจทย์ : ทนายมาซอกกู (ซง & คิม)
จำเลย : อีอูจิน (ลูกชายขอ งอีอึนชาง ประธาน บ. อูจินแอปพาเรล)
ทนายฝ่ายจำเลย : ยูนฮีแจ (ซง & คิม)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อีอูจินและคังฮโยมิน ทะเลาะวิวาทและชกต่อยกันที่โรงเรียนประถมนานาชาติชานซอง ทางคังฮโยมินล้มลงแขนหัก ร้อนถึงผู้ใหญ่... ฝ่ายพ่อของเด็กทั้งสองไม่ยอมกัน ต่างฝ่ายต่างมีฐานะและมีเรื่องบาดหมางระหว่าง 2 ตระกูลมานานแล้ว ... ผู้วิวาทยังเด็กคดีนี้จึงไม่มีการสั่งฟ้อง จะเป็นลักษณะการไกล่เกลี่ยประนีประนอมยอมความ ขอโทษขอโพยกันซะมากกว่า ...
ทางทนายยูนและทนายมาต้องเข้ามาทำการไกล่เกลี่ย เพราะอย่างไรเสียถ้าสื่อและสังคมทราบเรื่องนี้ ทั้งสองฝ่ายต้องโดนสังคมตำหนิทั้งคู่ โดยทางคังซึงมุก (อารีฮันบิวตี้) จะยอมความหากทางอีอึนชาง (อูจินแอปพาเรล) ขายที่ดินในพม่าที่ทางอูจินแอปพาเรลมีแผนสร้างโกดังที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียให้เค้าในราคาครึ่งเดียว
แต่อีอึนชางไม่ยอม ทางทนายยูนจึงต้องหาหลักฐานมาหักล้างความผิดของอีอูจิน ไม่เช่นนั้นทางคังซึงมุกจะนำเรื่องนี้ไปบอกสื่อทำให้ทางอูจินแอปพาเรลเสียหายได้
สรุปคดี : ทนายยูนสามารถหาหลักฐานได้ว่าอีอูจินถูกกระทำก่อน ทำให้ทางอารีฮันบิวตี้ต้องเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ยอมเซ็นต์ข้อตกลงกับทางอูจินแอปพาเรล แลกเปลี่ยนกับการไม่เผยแพร่หลักฐานนี้ออกสู่สาธารณะ
**** ยังเหลือ Case อีกนิดหน่อย แต่เค้าให้พิมพ์ข้อความจำกัด ... เดี่ยวต่อในคอมเม้นท์ละกันเนอะ ***
ก่อนดู EP.11 คืนนี้ เรามาสรุปเคสหลักๆในละคร Hyena ตั้งแต่ EP.1-10 กันเถอะ (เตือนก่อน...มีสปอยเล็กๆ แต่ไม่เยอะจ้า)
ทนายฝ่ายโจทย์ : อัยการควอนยงอุน (อัยการรัฐ)
จำเลย : รมต. อีฮยอนจอง (รัฐมนตรีกิจการพลเรือน)
ทนายฝ่ายจำเลย : ยูนฮีแจ (ซง & คิม)
ข้อหา : ใช้อำนาจโดยมิชอบ ติดสินบน บังคับ ข่มขู่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทนายฝ่ายโจทย์ : ยูนฮีแจ (ซง & คิม)
จำเลย : อีซอจุน (ภรรยาของฮาชานโฮ)
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
ข้อหา : ฟ้องหย่า เพราะทางฝ่ายหญิงนอกใจ เรียกร้องขอสิทธิในการเลี้ยงดูบุตร
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทนายฝ่ายโจทย์ : อัยการรัฐ
จำเลย : คนขับรถของฮวังมีรา & ฮวังมีรา (ลูกคนโต ธนาคารเอเจ ดีเวลล็อปเม้น)
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
ข้อหา : ทำร้ายร่างกาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โจทย์ : ซอจองฮวา
ทนายฝ่ายโจทย์ : ยูนฮีแจ (สำนักทนายความจองวอน)
จำเลย : ฮาชานโฮ
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
ข้อหา : กักขัง หน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทนายฝ่ายโจทย์ : จองกึมจา (สำนักงานกฏหมายชุง)
จำเลย : แม่ของโกอีมัน
ทนายฝ่ายจำเลย : ยูนฮีแจ (ซง & คิม) แต่ทางฮีแจขอไม่ใส่ชื่อลงไปในเอกสาร ให้ทางทนายบูฮยอนอา ดำเนินการไกล่เกลี่ยกับทนายฝ่ายโจทย์จองกึมจาแทนตนเอง
ข้อหา : สัญญาไม่เป็นธรรม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทนายฝ่ายโจทย์ : พัคฮยอกควอน (หัวหน้าอัยการรัฐ) & ควอนยงทุน (อัยการรัฐ)
จำเลย : ซนจินซู ประธานบริษัท D&T (ฟินเทค กรุ๊พ)
ทนายฝ่ายจำเลย : จองกึมจา & ยูนฮีแจ >>> H team ของ ซง & คิม
ข้อหา : ปลอมแปลงเอกสารส่วนตัว ละเมินกฎหมายข้อมูลทะเบียนราษฎร์
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ทนายฝ่ายโจทย์ : ทนายมาซอกกู (ซง & คิม)
จำเลย : อีอูจิน (ลูกชายขอ งอีอึนชาง ประธาน บ. อูจินแอปพาเรล)
ทนายฝ่ายจำเลย : ยูนฮีแจ (ซง & คิม)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้