สธ.แถลงผู้ป่วย‘โควิด’ลดเหลือ 91 ราย แต่เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย
วันศุกร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563, 10.52 น.
27 มีนาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ประจำวันที่ 27 มีนาคม 2563 ระบุว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 91 ราย รวมผู้ป่วยทั้งหมด 1,136 ราย กลับบ้านแล้ว 97 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 5 ราย ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1,035 ราย อาการหนัก 11 ราย
สำหรับกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 91 ราย แยกเป็น...
1. สัมผัสผู้ป่วย/สถานที่ก่อน 30 คน ดังนี้ สนามมวย 5 คน , สถานบันเทิง 7 คน , สัมผัสผู้ป่วยเคสก่อน 18 คน
2. ผู้ป่วยรายใหม่ 19 คน ดังนี้ มาจากต่างประเทศ 10 คน เป็นคนไทย 9 คน และต่างชาติ 1 คน , ทำงานที่แออัด/เกี่ยวข้องต่างชาติ 5 คน , กลุ่มอื่นๆ ที่เข้าเกณฑ์ 4 คน
3. ระหว่างสอบสวนโรค 42 คน
ทั้งนี้ พบผู้ติดเชื้อ 52 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว โดยสถานการณ์ตอนนี้อยู่ในจุดเปลี่ยน ที่ต้องขอความร่วมมือในการรักษาระยะห่าง Social Distancing
นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 หากประชาชนร่วมมือ 80% เราจะมีผู้ติดเชื้อ 7,745 ราย แต่ถ้าประชาชนร่วมมือ 50% เราจะมีผู้ติดเชื้อ 17,635 ราย แต่ถ้าเราไม่ร่วมมือรักษาระยะห่าง/Social distancing ไทยอาจจะมีผู้ป่วยได้ถึง 25,225 ราย ในวันที่ 15 เมษายน 2563 ดังนั้นจุดนี้สำคัญมาก เพราะถ้าผู้ป่วยไม่มาก เราก็จะยังรักษา ดูแลกันได้ แต่ถ้ามากเกินไป คงไม่ไหว
https://www.naewna.com/local/482095
https://www.sanook.com/news/8020722/
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.เวลา 13.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19. ) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ว่า นายกฯมอบหมายให้ตนเป็นเลขาฯ โดยในที่ประชุมนายกฯได้แจ้งถึงสาระสำคัญการแพร่ระบาดสถานการณ์โควิด-19 ดำเนินมาถึงจุดที่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อระดมทุกสรรพกำลังหยุดยั้งการแพร่ระบาดและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
โดยนายกฯให้แนวทางการทำงาน 6 ข้อ คือ
1.ให้ผู้รับผิดชอบงานแต่ละด้านเสนอแผน และแนวทางปฏิบัติโดยระเอียด
2. ให้บูรณาการจัดระบบความร่วมมือดึงทุกภาคส่วนในสังคม
3. ติดตามผลกระทบที่เกิดกับประชาชนทุกกลุ่มจากการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเสนอแนวทางแก้ปัญหาพร้อมกับมาตรการเยียวยา 4.ให้ความเชื่อมั่นระบบการแพทย์ต่อประชาชน พร้อมระดมสรรพกำลัง ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจากรัฐและเอกชน ซึ่งวันนี้ที่ประชุมเน้นย้ำเรื่องเวชภัณฑ์ สถานพยาบาล ที่ขาดแคลนไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงต้องประสานกับภาคส่วนต่างๆทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เพื่อละในข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการนำเข้า เป็นต้น
5. เน้นสื่อสารในยามวิกฤติ ประสานผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสื่อมวลชน เพื่อให้ความรู้กับประชาชน โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างของบุคคลในสังคม และ
6. เรื่องงบประมาณขอให้ทุกส่วนราชการ ปรับแผนโครงการ เพื่อเน้นเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านสาธารณสุข
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/872828
ฟังถ่ายทอดสดค่ะ...😗
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยค่ะ
ลุงตู่สั่งงานแล้วงานได้ผลเพราะประชาชนร่วมมืออยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงไปต่ำร้อย เป็นเรื่องน่ายินดีนะคะ
เราคงต้องติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกๆฝ่ายที่รับผิดชอบภาระงานนี้ต่อไป
🌍มาลาริน/มีทั้งได้ผลและสูญเสีย...สธ.แถลงผู้ป่วย‘โควิด’ลดเหลือ 91 ราย แต่เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย อาการหนัก 11 ราย
วันศุกร์ ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2563, 10.52 น.
27 มีนาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 ประจำวันที่ 27 มีนาคม 2563 ระบุว่า พบผู้ป่วยเพิ่ม 91 ราย รวมผู้ป่วยทั้งหมด 1,136 ราย กลับบ้านแล้ว 97 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย รวมเป็น 5 ราย ยังคงรักษาตัวที่โรงพยาบาล 1,035 ราย อาการหนัก 11 ราย
สำหรับกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ 91 ราย แยกเป็น...
1. สัมผัสผู้ป่วย/สถานที่ก่อน 30 คน ดังนี้ สนามมวย 5 คน , สถานบันเทิง 7 คน , สัมผัสผู้ป่วยเคสก่อน 18 คน
2. ผู้ป่วยรายใหม่ 19 คน ดังนี้ มาจากต่างประเทศ 10 คน เป็นคนไทย 9 คน และต่างชาติ 1 คน , ทำงานที่แออัด/เกี่ยวข้องต่างชาติ 5 คน , กลุ่มอื่นๆ ที่เข้าเกณฑ์ 4 คน
3. ระหว่างสอบสวนโรค 42 คน
ทั้งนี้ พบผู้ติดเชื้อ 52 จังหวัดทั่วประเทศแล้ว โดยสถานการณ์ตอนนี้อยู่ในจุดเปลี่ยน ที่ต้องขอความร่วมมือในการรักษาระยะห่าง Social Distancing
นอกจากนี้ จากการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 หากประชาชนร่วมมือ 80% เราจะมีผู้ติดเชื้อ 7,745 ราย แต่ถ้าประชาชนร่วมมือ 50% เราจะมีผู้ติดเชื้อ 17,635 ราย แต่ถ้าเราไม่ร่วมมือรักษาระยะห่าง/Social distancing ไทยอาจจะมีผู้ป่วยได้ถึง 25,225 ราย ในวันที่ 15 เมษายน 2563 ดังนั้นจุดนี้สำคัญมาก เพราะถ้าผู้ป่วยไม่มาก เราก็จะยังรักษา ดูแลกันได้ แต่ถ้ามากเกินไป คงไม่ไหว
https://www.naewna.com/local/482095
https://www.sanook.com/news/8020722/
เมื่อวันที่ 26 มี.ค.เวลา 13.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19. ) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ว่า นายกฯมอบหมายให้ตนเป็นเลขาฯ โดยในที่ประชุมนายกฯได้แจ้งถึงสาระสำคัญการแพร่ระบาดสถานการณ์โควิด-19 ดำเนินมาถึงจุดที่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อระดมทุกสรรพกำลังหยุดยั้งการแพร่ระบาดและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
โดยนายกฯให้แนวทางการทำงาน 6 ข้อ คือ
1.ให้ผู้รับผิดชอบงานแต่ละด้านเสนอแผน และแนวทางปฏิบัติโดยระเอียด
2. ให้บูรณาการจัดระบบความร่วมมือดึงทุกภาคส่วนในสังคม
3. ติดตามผลกระทบที่เกิดกับประชาชนทุกกลุ่มจากการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเสนอแนวทางแก้ปัญหาพร้อมกับมาตรการเยียวยา 4.ให้ความเชื่อมั่นระบบการแพทย์ต่อประชาชน พร้อมระดมสรรพกำลัง ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจากรัฐและเอกชน ซึ่งวันนี้ที่ประชุมเน้นย้ำเรื่องเวชภัณฑ์ สถานพยาบาล ที่ขาดแคลนไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงต้องประสานกับภาคส่วนต่างๆทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เพื่อละในข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการนำเข้า เป็นต้น
5. เน้นสื่อสารในยามวิกฤติ ประสานผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสื่อมวลชน เพื่อให้ความรู้กับประชาชน โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างของบุคคลในสังคม และ
6. เรื่องงบประมาณขอให้ทุกส่วนราชการ ปรับแผนโครงการ เพื่อเน้นเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านสาธารณสุข
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/872828
ฟังถ่ายทอดสดค่ะ...😗
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยค่ะ
ลุงตู่สั่งงานแล้วงานได้ผลเพราะประชาชนร่วมมืออยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ
จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงไปต่ำร้อย เป็นเรื่องน่ายินดีนะคะ
เราคงต้องติดตามการทำงานของเจ้าหน้าที่ทุกๆฝ่ายที่รับผิดชอบภาระงานนี้ต่อไป