ฤดูร้อนย่างกรายเข้ามาทำให้อดนึกถึงอดีตอันหอมหวนชวนฝันในดินแดนไกลบ้าน เหมือนต้องมนต์เสน่ห์ของภาษาและวัฒนธรรม จนตบปากรับคำมั่นสัญญาเป็นมั่นเหมาะกับชาวจีนที่เป็นทั้งเพื่อนและครูว่าจะกลับไปในฤดูร้อนของปลายเดือนมีนาคมนี้ แต่เหตุการณ์พลิกผันทำให้ต้องกลืนกินน้ำลายตัวเอง สถานการณ์ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน วิกฤตการณ์ที่กำลังคร่าชิวิตมนุษย์โลกและกำลังเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ (Talk of The Town) กันในตอนนี้นั่นก็คือไวรัส Covid-19
เมื่อปลายปีที่แล้วเราได้มีโอกาสไปศึกษาภาษาจีน ในมลฆลฝั่งทางตะวันออกของจีน สถานที่ที่มีภูเขาโอมกอดแม่น้ำไว้และมีต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นร่มเย็น ชาวจีนที่นั่นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก จนทำให้เราลืมอดีตความป่าเถื่อนของพวกเขาไปได้เลย ถ้าจะเปรียบเปรยแล้วก็คงไม่ต่างจากคนต่างจังหวัดของบ้านเเรานัก ขอเท้าความก่อนว่าเราได้มีโอกาสไปเยือนเมืองใหญ่ๆของจีนมาแล้ว เช่นปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ก่อนที่จะมาตกหลุมรัก ‘’กุ้ยหลิน’’ เราเลือกเรียนภาษาจีนที่เมืองนี้ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ และด้วยคุณค่าที่เราคู่ควร ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ หลังจากอารัมภบทมาพอสมควรแล้ว
เนื่องจาก จขกท ทำงานอยู่ในสายอาชีพที่ต้องใช้ภาษาจีนทำมาหารับประทาน ต้องยอมรับเลยว่าภาษาจีนมีอิทธิพลมากกับ จขกท จุดมุ่งหมายอยากพูดภาษาจีนได้อย่างมั่นหน้ามั่นโหนก กะโหลกกะลา มาม่าปลากระป๋องไม่เอา เริ่มศึกษาว่ามีที่ไหนที่เรียนภาษาแบบคอร์สสั้นๆ ได้ผลปุ๊บปั๊บ เรื่องนี้ทำคนเดียวคงไม่สำเร็จ เราเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแฟนหนุ่มวัยกลางคน พระเอกของเรื่องนี้ซึ่งพยายามช่วยเราทุกวิถีทาง ช่วยหาข้อมูลคุยกับโรงเรียน และพาเราไปดูสถานที่จริงไปคุยกับเจ้าหน้าที่ที่นั้น เราชอบมาก จริงๆ ไม่ต้องไปดูก็ได้ แต่เราเวอร์วัง เนื่องจากเราพยายามหาข้อมูลแต่ยังไม่มีการพูดถึงมากนัก หลังจากนั้นเราได้ปรึกษากับแฟนหนุ่มและตัดสินใจจะเรียนที่นั่นเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากเรามีงบประมาณจำกัด ทุกอย่างเป็นไปตามแผนดีงามพระรามเก้า นางเป็นธุระจัดการทุกอย่างให้จขกท. แต่ไม่ใช่ว่าเราเป็นง่อยไม่ทำอะไรนะ เราก็คุยกับทางสถาบันและก็มีส่วนของแบบฟอร์มที่เราต้องกรอก เราเลือกที่พักที่เป็นของหอพักของสถาบันซึ่งถูกกว่าตัวเลือกอื่นๆ
เรียนจีนที่แผ่นดินใหญ่
เมื่อปลายปีที่แล้วเราได้มีโอกาสไปศึกษาภาษาจีน ในมลฆลฝั่งทางตะวันออกของจีน สถานที่ที่มีภูเขาโอมกอดแม่น้ำไว้และมีต้นไม้ที่ให้ความร่มรื่นร่มเย็น ชาวจีนที่นั่นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาก จนทำให้เราลืมอดีตความป่าเถื่อนของพวกเขาไปได้เลย ถ้าจะเปรียบเปรยแล้วก็คงไม่ต่างจากคนต่างจังหวัดของบ้านเเรานัก ขอเท้าความก่อนว่าเราได้มีโอกาสไปเยือนเมืองใหญ่ๆของจีนมาแล้ว เช่นปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ ก่อนที่จะมาตกหลุมรัก ‘’กุ้ยหลิน’’ เราเลือกเรียนภาษาจีนที่เมืองนี้ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ และด้วยคุณค่าที่เราคู่ควร ขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ หลังจากอารัมภบทมาพอสมควรแล้ว
เนื่องจาก จขกท ทำงานอยู่ในสายอาชีพที่ต้องใช้ภาษาจีนทำมาหารับประทาน ต้องยอมรับเลยว่าภาษาจีนมีอิทธิพลมากกับ จขกท จุดมุ่งหมายอยากพูดภาษาจีนได้อย่างมั่นหน้ามั่นโหนก กะโหลกกะลา มาม่าปลากระป๋องไม่เอา เริ่มศึกษาว่ามีที่ไหนที่เรียนภาษาแบบคอร์สสั้นๆ ได้ผลปุ๊บปั๊บ เรื่องนี้ทำคนเดียวคงไม่สำเร็จ เราเลยเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาแฟนหนุ่มวัยกลางคน พระเอกของเรื่องนี้ซึ่งพยายามช่วยเราทุกวิถีทาง ช่วยหาข้อมูลคุยกับโรงเรียน และพาเราไปดูสถานที่จริงไปคุยกับเจ้าหน้าที่ที่นั้น เราชอบมาก จริงๆ ไม่ต้องไปดูก็ได้ แต่เราเวอร์วัง เนื่องจากเราพยายามหาข้อมูลแต่ยังไม่มีการพูดถึงมากนัก หลังจากนั้นเราได้ปรึกษากับแฟนหนุ่มและตัดสินใจจะเรียนที่นั่นเป็นเวลา 1 เดือน เนื่องจากเรามีงบประมาณจำกัด ทุกอย่างเป็นไปตามแผนดีงามพระรามเก้า นางเป็นธุระจัดการทุกอย่างให้จขกท. แต่ไม่ใช่ว่าเราเป็นง่อยไม่ทำอะไรนะ เราก็คุยกับทางสถาบันและก็มีส่วนของแบบฟอร์มที่เราต้องกรอก เราเลือกที่พักที่เป็นของหอพักของสถาบันซึ่งถูกกว่าตัวเลือกอื่นๆ