ถามเพื่อเกิดความรู้และผลประโยชน์ส่วนรวม เชื่อว่าอาจจะมีบางท่านที่สงสัยเหมือนกัน งดดราม่า ขอสาระ และ ความคิดเห็นเชิงตรรกะล้วนๆครับ
อยากทราบว่า เคอร์ฟิวนี้มันช่วยกักกันเชื้อโรคได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรบ้างครับ?
ผมเข้าใจว่าการกักกันไม่ให้คนออกมาเพ่นพ่านและทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการใกล้ชิดผู้อื่นจะกำหนดเป็นช่วงเวลาที่คนไม่มีความจำเป็นจะต้องออกจากบ้าน เช่นไปเที่ยว, กินเลี้ยง, ปาร์ตี้, เยี่ยมเพื่อนเยี่ยมญาติ, ช้อปปิ้ง, ซื้ออาหาร —> “ในยามค่ำคืน”
แล้วคนที่ยังมีงานต้องทำงานอยู่ในช่วงเวลากลางวัน และไม่สะดวกในช่วงเวลานี้
รัฐจะอณุญาติเป็นรายๆไปถูกไหมครับ
แต่มันจะเพิ่มจำนวนคนที่จะแห่มาเจอกันแค่ตอนกลางวันไหมครับ?
อย่างไรก็ยังดีกว่าการปล่อยปะละเลยคนหรือวัยรุ่นกลางคืนที่ชอบอยู่รวมกันมากกว่า2คนขึ้นไป
ถ้ายิ่งเคอร์ฟิวหลายชั่วโมงต่อวัน ยกตัวอย่าง 12 ชม. ต่อวัน แบบนี้อาจจะช่วยกักกันเชื้อโรคได้เกือบ 50% ตามวิถีชีวิตคนทั่วไปใช่ไหมครับ เพราะถ้า 90%ขึ้นไปคือการให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน มีคนส่งข้าวส่งน้ำให้ บนถนนจะต้องร้างไร้รถไร้คนไปเลย
ตรรกะนี้ถูกไหม?
มาตราการเคอร์ฟิวช่วยแก้ไขการแพร่ระบาดโควิด-19 อย่างไร?
อยากทราบว่า เคอร์ฟิวนี้มันช่วยกักกันเชื้อโรคได้มากน้อยแค่ไหน อย่างไรบ้างครับ?
ผมเข้าใจว่าการกักกันไม่ให้คนออกมาเพ่นพ่านและทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการใกล้ชิดผู้อื่นจะกำหนดเป็นช่วงเวลาที่คนไม่มีความจำเป็นจะต้องออกจากบ้าน เช่นไปเที่ยว, กินเลี้ยง, ปาร์ตี้, เยี่ยมเพื่อนเยี่ยมญาติ, ช้อปปิ้ง, ซื้ออาหาร —> “ในยามค่ำคืน”
แล้วคนที่ยังมีงานต้องทำงานอยู่ในช่วงเวลากลางวัน และไม่สะดวกในช่วงเวลานี้
รัฐจะอณุญาติเป็นรายๆไปถูกไหมครับ
แต่มันจะเพิ่มจำนวนคนที่จะแห่มาเจอกันแค่ตอนกลางวันไหมครับ?
อย่างไรก็ยังดีกว่าการปล่อยปะละเลยคนหรือวัยรุ่นกลางคืนที่ชอบอยู่รวมกันมากกว่า2คนขึ้นไป
ถ้ายิ่งเคอร์ฟิวหลายชั่วโมงต่อวัน ยกตัวอย่าง 12 ชม. ต่อวัน แบบนี้อาจจะช่วยกักกันเชื้อโรคได้เกือบ 50% ตามวิถีชีวิตคนทั่วไปใช่ไหมครับ เพราะถ้า 90%ขึ้นไปคือการให้ทุกคนอยู่แต่ในบ้าน มีคนส่งข้าวส่งน้ำให้ บนถนนจะต้องร้างไร้รถไร้คนไปเลย
ตรรกะนี้ถูกไหม?