ในช่วงนี้ COVID-19 ใกล้ตัวเรามากขึ้นทุกที แม้แต่ห้างสรรพสินค้าเองก็ปิดให้บริการบางส่วนไปแล้ว ส่วนคนทำงานก็ต้องหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน ทำให้หลายองค์กรใช้มาตรการ Work from Home หรือการทำงานที่บ้านมากขึ้น เพราะการไม่ต้องเข้าออฟฟิศลดความเสี่ยงในการติดและแพร่กระจายเชื้อไวรัส COVID-19 จากการพบเจอผู้คนได้มาก ไม่ว่าจะจากคนแปลกหน้าในรถไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งคนที่ทำงานอยู่ออฟฟิศเดียวกัน เพราะเราแทบจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเราหรือคนรอบตัวเราเป็นพาหะของเชื้ออยู่รึเปล่า แต่ความอิสระที่ได้มานี้ คนทำงานต้องมีวินัยในตัวเอง เมื่อไม่มีหัวหน้ามายืนมอง รวมไปถึงความสะดวกสบายที่จะนั่งหรือนอนทำงานที่บ้านตอนไหนก็ได้ ทำให้หลายครั้งงานของเราไม่เสร็จตามที่วางไว้ JobThai Tips จึงมีวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้การทำงานที่บ้านมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ตัดสิ่งรบกวนออกไป
การนั่งทำงานอยู่ที่บ้านจะมีสิ่งรบกวนสมาธิเราอยู่เสมอ ถ้าอยากทำงานให้ได้ประสิทธิภาพก็ต้องจัดการทุกอย่างรอบ ๆ ตัวให้เรียบร้อย เช่น ปิดโทรทัศน์ ปิดเสียงโทรศัพท์ งดเล่น Social Media และคุยกับคนที่บ้านด้วยว่าช่วงไหนที่เราจะต้องทำงาน เพื่อเขาจะได้ไม่เข้ามารบกวนและทำให้เราเสียสมาธิ
วางตารางและแบ่งเวลาให้ดี
เวลาที่เรานั่งทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่มีเพื่อนร่วมงาน ไม่มีหัวหน้าที่มาคอยดู อาจทำให้ความตั้งใจที่จะทำงานให้เสร็จนั้นถูกเลื่อนออกไป เราเลยต้องวางแผนและจัดการตารางการทำงานให้ดี กำหนดเดตไลน์ของงาน ทำ To-do list ในแต่ละวัน และพยายามทำให้เสร็จตามเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
อีกเรื่องที่ต้องมีวินัยและจัดการเวลาให้ดีก็คือ การแยกเรื่องงานออกจากชีวิตส่วนตัว ถ้าต้องทำงานบ้าน ซักผ้า อาบน้ำให้หมาและแมว ก็ควรเก็บไว้ทำหลังจากเวลาที่เราทำงานหลักเสร็จแล้ว
แยกพื้นที่ทำงานกับพื้นที่พักผ่อนให้ชัดเจน
หลายคนชอบยกคอมพิวเตอร์มานั่งทำงานบนที่นอน หรือโซฟา แล้วเปิดซีรีส์เกาหลีไปด้วย เพราะรู้สึกว่ามันผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศการทำงานแบบสบาย ๆ แต่ที่จริงแล้วเราควรแยกพื้นที่ทำงานกับการพักผ่อนให้เป็นสัดส่วน อาจเลือกสักห้องหนึ่งในบ้านมาทำเป็นที่ทำงาน และพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่คนที่บ้านมักจะมารวมตัวกันด้วย
ไม่ต้องขนาดผูกเนคไท แต่ก็ไม่ใส่ชุดนอน
ถึงจะทำงานที่บ้านก็จริง แต่การใส่ชุดนอนมานั่งทำงานอาจจะทำให้เรารู้สึกสบายเกินไปจนไม่ได้เริ่มต้นทำงานอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดใส่สูท ผูกเนคไท หรือใส่เดรสแบบที่เป็นทางการเหมือนออกไปทำงานข้างนอก อย่างน้อยที่สุดก็ควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอื่น เพื่อร่างกายจะรู้สัญญาณว่าเราพร้อมแล้วสำหรับการทำงาน
หาเวลาพักให้ตัวเอง
ระหว่างวันให้หาเวลาลุกเดินเล่น พักสายตาจากหน้าคอมเป็นระยะ หรือหาของว่างกินตอนบ่ายบ้าง เหมือนวันที่เราไปทำงานที่ออฟฟิศแบบปกติ ที่จะต้องมีลุกไปเข้าห้องน้ำ และพักกินข้าวกลางวัน การหาเวลาพักระหว่างวันนอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพของเราแล้ว ยังช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
Feedback งานกันอยู่เสมอ
การ Feedback เป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน เวลาทำงานที่ออฟฟิศเราเจอหน้ากัน เราจะสามารถคุยกันได้ทันทีเพราะแค่หันหน้าไปก็เจอแล้ว แต่การทำงานกันคนละที่จะทำให้การพูดคุยกันนั้นน้อยลง ซึ่งสุดท้ายอาจทำให้งานล่าช้า หรือมีปัญหาได้ เพราะฉะนั้นต้องมีการพูดคุยหรือ Review งานกันอยู่เสมอ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมให้เราได้ Video Conference มากมาย เช่น Microsoft Teams หรือ Google Hangouts
นอกเหนือจากเทคนิคทั้งหมดแล้ว สิ่งสำคัญที่จะทำให้การ Work from Home ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ เราต้องมีวินัยในตัวเอง และพยายามรักษาคุณภาพของงานให้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะจะเป็นผลดีกับการทำงานและอาชีพของเรานั่นเอง
ตอนนี้คนทำงานทั้งทำที่บ้านหรือคนที่ทำงานที่ออฟฟิศอยู่ เป็นอย่างไรกันบ้าง มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานช่วงนี้กัน
หนี COVID-19 มา Work from Home แต่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพทำไงดี ?
ตัดสิ่งรบกวนออกไป
การนั่งทำงานอยู่ที่บ้านจะมีสิ่งรบกวนสมาธิเราอยู่เสมอ ถ้าอยากทำงานให้ได้ประสิทธิภาพก็ต้องจัดการทุกอย่างรอบ ๆ ตัวให้เรียบร้อย เช่น ปิดโทรทัศน์ ปิดเสียงโทรศัพท์ งดเล่น Social Media และคุยกับคนที่บ้านด้วยว่าช่วงไหนที่เราจะต้องทำงาน เพื่อเขาจะได้ไม่เข้ามารบกวนและทำให้เราเสียสมาธิ
วางตารางและแบ่งเวลาให้ดี
เวลาที่เรานั่งทำงานอยู่ที่บ้าน ไม่มีเพื่อนร่วมงาน ไม่มีหัวหน้าที่มาคอยดู อาจทำให้ความตั้งใจที่จะทำงานให้เสร็จนั้นถูกเลื่อนออกไป เราเลยต้องวางแผนและจัดการตารางการทำงานให้ดี กำหนดเดตไลน์ของงาน ทำ To-do list ในแต่ละวัน และพยายามทำให้เสร็จตามเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
อีกเรื่องที่ต้องมีวินัยและจัดการเวลาให้ดีก็คือ การแยกเรื่องงานออกจากชีวิตส่วนตัว ถ้าต้องทำงานบ้าน ซักผ้า อาบน้ำให้หมาและแมว ก็ควรเก็บไว้ทำหลังจากเวลาที่เราทำงานหลักเสร็จแล้ว
แยกพื้นที่ทำงานกับพื้นที่พักผ่อนให้ชัดเจน
หลายคนชอบยกคอมพิวเตอร์มานั่งทำงานบนที่นอน หรือโซฟา แล้วเปิดซีรีส์เกาหลีไปด้วย เพราะรู้สึกว่ามันผ่อนคลาย สร้างบรรยากาศการทำงานแบบสบาย ๆ แต่ที่จริงแล้วเราควรแยกพื้นที่ทำงานกับการพักผ่อนให้เป็นสัดส่วน อาจเลือกสักห้องหนึ่งในบ้านมาทำเป็นที่ทำงาน และพยายามหลีกเลี่ยงบริเวณที่คนที่บ้านมักจะมารวมตัวกันด้วย
ไม่ต้องขนาดผูกเนคไท แต่ก็ไม่ใส่ชุดนอน
ถึงจะทำงานที่บ้านก็จริง แต่การใส่ชุดนอนมานั่งทำงานอาจจะทำให้เรารู้สึกสบายเกินไปจนไม่ได้เริ่มต้นทำงานอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ต้องถึงขนาดใส่สูท ผูกเนคไท หรือใส่เดรสแบบที่เป็นทางการเหมือนออกไปทำงานข้างนอก อย่างน้อยที่สุดก็ควรอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอื่น เพื่อร่างกายจะรู้สัญญาณว่าเราพร้อมแล้วสำหรับการทำงาน
หาเวลาพักให้ตัวเอง
ระหว่างวันให้หาเวลาลุกเดินเล่น พักสายตาจากหน้าคอมเป็นระยะ หรือหาของว่างกินตอนบ่ายบ้าง เหมือนวันที่เราไปทำงานที่ออฟฟิศแบบปกติ ที่จะต้องมีลุกไปเข้าห้องน้ำ และพักกินข้าวกลางวัน การหาเวลาพักระหว่างวันนอกจากจะช่วยเรื่องสุขภาพของเราแล้ว ยังช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
Feedback งานกันอยู่เสมอ
การ Feedback เป็นสิ่งสำคัญในการทำงาน เวลาทำงานที่ออฟฟิศเราเจอหน้ากัน เราจะสามารถคุยกันได้ทันทีเพราะแค่หันหน้าไปก็เจอแล้ว แต่การทำงานกันคนละที่จะทำให้การพูดคุยกันนั้นน้อยลง ซึ่งสุดท้ายอาจทำให้งานล่าช้า หรือมีปัญหาได้ เพราะฉะนั้นต้องมีการพูดคุยหรือ Review งานกันอยู่เสมอ ซึ่งเดี๋ยวนี้มีโปรแกรมให้เราได้ Video Conference มากมาย เช่น Microsoft Teams หรือ Google Hangouts
นอกเหนือจากเทคนิคทั้งหมดแล้ว สิ่งสำคัญที่จะทำให้การ Work from Home ออกมามีประสิทธิภาพมากที่สุดก็คือ เราต้องมีวินัยในตัวเอง และพยายามรักษาคุณภาพของงานให้ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะจะเป็นผลดีกับการทำงานและอาชีพของเรานั่นเอง
ตอนนี้คนทำงานทั้งทำที่บ้านหรือคนที่ทำงานที่ออฟฟิศอยู่ เป็นอย่างไรกันบ้าง มาร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงานช่วงนี้กัน