ระหว่างรอให้สถานการณ์ Covid-19 ดีขึ้น มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ขายของกันค่ะ

ลากยาวกันมาตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ กราดยิง ยาวมาจนโรคระบาด เชื่อว่าหลายคนคงได้รับผลกระทบกันพอสมควร เราเองก็หนึ่งในนั้น เมื่อต้นปีโดนบริษัทเลิกจ้าง ตอนนี้ก็รับงานฟรีแลนซ์เล็กน้อย และหาของมาขายออนไลน์ บอกตรงๆว่าตอนแรกคิดง่ายกว่านี้ หลังจากกันเงินก้อนนึงไปเก็บสำรองค่าผ่อนบ้านแล้ว ก็จะเอาไปลงทุนสั่งของจากจีนมาขาย แต่เหมือนพายุซ้ำอีกรอบด้วยโรคโควิด บอกตามตรงว่าตอนนั้นเสียอาการอยู่ค่ะ ทุกอย่างมันดูยากไปหมด

การขายของออนไลน์ไม่ใช่เราโพสต์รูปลงแล้วจะมีคนมาซื้อเลย ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเราเคยขายบิกินี่ในอินสตราแกรมมาก่อนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ตอนนั้นขายดีพอสมควร แต่งานประจำยุ่งมากจนไม่ได้โฟกัสและค่อยๆหายออกมา พอกลับมาอีกทีเหมือนเริ่มต้นใหม่หมด เทรนด์การซื้อการขายเปลี่ยนไป ลูกค้ามีตัวเลือกมากขึ้น แม่ค้ามีจำนวนมากขึ้น และราคาที่แข่งกันหนักมาก ตอนนี้เลยหยุดเรื่องการสั่งของจากจีนมาก่อน และหันมาทำแบรนด์เสื้อผ้า เลือกแบบที่คลาสสิกหน่อย เพราะเราสายป่านไม่ยาว สู้แฟชั่นไปไวมาไวไม่ไหว และเตรียมสมัครงานควบคู่ไปด้วย จากเดิมที่คิดว่าออกจากงานครั้งนี้จะไม่กลับไปทำงานแล้ว เบื่อชีวิตออฟฟิศ แต่สุดท้ายดูสถานการณ์รอบตัวเวลานี้คงต้องหาเงินหลายๆทาง 

ขอย้อนกลับไปตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเราต้องหาเงินค่าเทอมมาจ่าย เพราะ กยศ ไม่สามารถให้กู้ได้เต็มจำนวนเงิน อาจด้วยตอนนั้นน้ำท่วมใหญ่หลายคนไม่ได้ผ่อนชำระเพราะได้รับผลกระทบ และ กยศ เองก็ไม่มีเงินเพียงพอจะให้เต็มจำนวนทุกคน เลยจ่ายได้แค่บางส่วนและเราต้องหามาเติมเพื่อที่จะได้มีสิทธ์สอบ เป็นวิกฤตชีวิตที่ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน พ่อกับแม่ก็ไม่ได้มีเงิน ตัดสินใจนั่งเรือไปสำเพ็งหาของมาขาย ลงทุนไปไม่ถึง 500 บาท จำได้แม่นว่าวันนั้นปูพื้นขายได้เงินมา 300 บาท ดีใจมาก เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้หันมาขายของ ช่วงแรกๆไม่มีทุนก็เอาเสื้อผ้าตัวเองมาขาย หลังๆก็มีพี่ๆเพื่อนๆมาช่วยบริจาคเสื้อผ้าให้เราเอาไปขายบ้าง พอมีเงินเก็บก็ไปหาเสื้อยืดมาขาย จุดพีคอยู่ที่ไปขายตลาดนัดรถไฟ จตุจักร ตอนนั้นยังไม่บูมมาก เราไปต่อคิวไม่นานแล้วก็ปูพื้นขายได้เลย จนพี่ที่ขายล้อคใกล้กันเค้าเห็นใจ แบ่งล้อคให้เราล้อคนึงเพื่อขายของ ขายไปเรื่อยๆก็เริ่มมีเต้นท์มากาง มีรถเข็นเก็บของ ตอนนั้นมีความสุขมาก อยากให้ถึงวันศุกร์เร็วๆ จะได้ไปหาซื้อของมาขาย วันเสาร์อาทิตย์ก็รีบตื่นมาแต่งตัวเพื่อไปขายของ ตอนยังไม่มีเต้นท์หน้าฝนก็ไม่ได้ขายบ้าง เก็บของหนีฝนบ้าง ทุลักทุเลเอาเรื่องอยู่ แต่ตอนนั้นเรามองว่ามันดีที่สุดในชีวิตแล้ว จนตลาดนัดรถไฟปิดตัวลง แล้วเราเรียนจบพอดี เลยเป็นจุดเปลี่ยนให้ไปสมัครงาน ทำงานประจำ แล้วก็ไม่ได้วนกลับมาตั้งร้านขายของตลาดนัดอีกเลย 

ตอนนี้เราก็ต้องประหยัดทุกทางเพื่อให้เงินอยู่กับเรานานที่สุด และก็ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนนะคะ เราจะต้องผ่านกันไปให้ได้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่