ทิวทัศน์ศิลปะผลงานจากธรรมชาติสร้างสรร

เกล็ดหิมะอัญมณี (Diamond dust)



เกล็ดหิมะอัญมณี (Diamond dust) เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอันสวยงาม ที่จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเงื่อนไขทางสภาพอากาศหลาย ๆ อย่างบรรจบกันพอดี อย่างเช่นอยู่ในช่วงฤดูหนาวที่มีความหนาวเย็นสูงสุดเท่านั้น ในตอนเช้าอากาศแจ่มใสอุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส และอยู่ในสภาพที่ไม่มีลมพัด ไอน้ำจะแข็งตัวอย่างรวดเร็วกลายเป็นหยดน้ำแข็งก่อนที่จะกลายเป็นหมอก หยดน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนที่ร่วงปลิว สะท้อนเข้ากับแสดงแดดทำให้เกิดปรากฏการณ์แสงสะท้อนเกล็ดหิมะที่ส่องประกายระยิบระยับจนถูกเรียกว่า Diamond dust  ช่วงที่เหมาะสมในการชมคือเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์

แหล่งที่มีเงื่อนไข ที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์เกล็ดหิมะอัญมณี (Diamond dust) ขึ้น ได้แก่
- อุณหภูมิต้องต่ำกว่า -10 องศาเซลเซียส
- ไม่มีลม
- อากาศแจ่มใส
- ช่วงฟ้าสาง หรือ พลบค่ำ

สถานที่ที่มีเงื่อนไขครบแบบนี้มีไม่มาก จึงเป็นปรากฏการณ์ที่ล้ำค่ามาก ในจังหวัดฮอกไกโด ได้แก่ บริเวณเมืองอะซะฮิคะวะ (Asahikawa) เมืองนะโยะโระ (Nayoro) บริเวณโทคะจิ (Tokachi) และ คาวะยุอนเซ็น (Kawayu Onsen)ในเมืองเทะชิคะงะ (Teshikaga) เป็นต้น
Cr.https://www.jnto.or.th/newsletter/natural-wonders/



“บันไดของเทวดา”



แสงสาดส่องจากท้องฟ้าที่เรียกกันว่า“บันไดของเทวดา” นี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ดวงอาทิตย์หลบเข้าไปหลังกลุ่มเมฆแล้วสาดแสงส่องลอดผ่านก้อนเมฆเหล่านั้นลงมาสู่พื้นดินในรูปแบบเส้นรัศมีเป็นปรากฏการณ์ที่สามารถจะชมได้ในระยะใกล้
ช่วงเช้าตรู่และช่วงเย็นของฤดูหนาวที่มุมของดวงอาทิตย์จะต่ำลง

ที่มา องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
ขอบคุณภาพจาก https://twitter.com/arakencloud/status/1194380649156628480/photo/1
Cr.https://www.jnto.or.th/newsletter/natural-wonders/#Sunshine



มหัศจรรย์ 2 ขั้วธรรมชาติ ทะเลทรายนามิบ กับ มหาสมุทรแอตแลนติก



ทะเลทรายนามิบ (อังกฤษ: Namib Desert) ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งประเทศนามิเบีย ทอดตัวยาวตั้งแต่ประเทศแองโกลาทางทิศเหนือทาบชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกในประเทศนามิเบีย ไปสุดที่แม่น้ำออเรนจ์ตรงพรมแดนระหว่างประเทศนามิเบียกับประเทศแอฟริกาใต้ มีความยาวประมาณ 2,000 กิโลเมตร มีช่วงความกว้างตั้งแต่ 10-160 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางกิโลเมตร 

เป็นหนึ่งที่ทะเลทรายที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดของโลก โดยคาดว่ามีอายุอย่างน้อย 55 ล้านปี สภาพโดยทั่วไปเวิ้งว้างและเต็มไปด้วยหมอก ทะเลทรายนามิบถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยแม่น้ำควีเซบซึ่งไหลลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกที่อ่าววอลวิส

ทะเลทรายนามิบทางส่วนเหนือเป็นที่ราบกรวดหินชายฝั่งทางทิศตะวันตกได้ชื่อว่า "ชายฝั่งโครงกระดูก" (Skeleton Coast) เพราะในอดีตมีทั้งเรือและคนขึ้นฝั่งมาเพื่อล้มตายทะเลทรายนามิบทางส่วนใต้เป็นทะเลทรายอันกว้างใหญ่ มีเนินทรายสลับร่องกว้างเป็นแนวยาวสม่ำเสมอ ภายใต้เนินทรายเป็นแหล่งขุมเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

ซึ่งเกิดจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากของแม่น้ำออเรนจ์ได้พันพาเพชรมาปนกับกรวดเลนในเมืองคิมเบอร์ลีย์ของแอฟริกาใต้ก่อนจะไหลลงสูมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งขณะที่กรวดทรายจมน้ำจะถูกกระแสน้ำเย็นพัดขึ้นฝั่งไปทางเหนือ และมาสะสมบริเวณชายฝั่งทะเลประเทศนามิบก่อนจะโดนปิดทับด้วยโคลนเลนและทรายละเอียด
ที่มา ภาพ @catz_drama /  เนื้อหา wikipedia
เรื่องโดย Nation TV 
Cr.https://www.nationtv.tv/main/content/378398722/



KANNESTEINEN ROCK  โขดหิน แคเน๊ตไซเน็น 



หินรูปเห็ดยักษ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งของหมู่บ้านออพพิดอลในประเทศนอร์เวย์ ซึ่งกว่าหินก้อนนี้จะกลายเป็นหินรูปเห็ดยักษ์อย่างที่เห็นกันทุกวันนี้ ต้องอาศัยการกัดเซาะของน้ำทะเลมานานกว่าพันปี กระทั่งด้านล่างของก้อนหินเล็กลงเรื่อย ๆ ในขณะที่ด้านบนของหินโดนกัดเซาะเพียงเล็กน้อย แต่ยังสามารถตั้งอยู่ได้โดยไม่เอนเอียงแต่อย่างใด


หินรูปทรงคล้ายเห็ดนี้มีความแข็งแรงและใหญ่พอที่จะขึ้นไป ยืนได้ 3-4 คน แสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ที่สามารถกัดเซาะและสร้างสรรค์ก้อนหินก้อนใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกๆ ก้อนนี้
Cr.https://www.guitarthai.com/webboard/question.asp?QID=387466
Cr.http://www.sunflowercosmos.org/Geology-021-Kannesteinen-Rock.html



 “Flysch” วิวทิวทัศน์มหัศจรรย์ชายหาดร่องหิน



ร่องหินสุดแปลกตานี่ถูกเรียกว่า “Flysch” เป็นหินตะกอนที่เกิดจากการสะสมของตะกอนและหินทรายบางๆ สามารถพบในบริเวณใกล้ชายฝั่งทะเลที่มีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำอย่างรวดเร็ว หินจะก่อตัวสร้างขึ้นจากใต้น้ำตามไหล่ของทวีปเมื่อพื้นที่บริเวณนั้นมีการเปลี่ยนแปลงของแผ่นเปลือกโลกที่ส่งผลให้แผ่นทวีปโดนรุกและร่อนลง
ทำให้ชั้นตะกอนตกตะกอนถล่มลง และด้วยความเร็วในการตกตะกอนที่แตกต่างกันทำให้ชั้นหินจึงมีการไล่ระดับและไม่เท่ากัน เมื่อหลายร้อยล้านปีผ่านไป จึงเกิดเป็นร่องหินขนาดยาวที่เรียกว่า Flysch อยู่ริมชายฝั่งทะเล

หนึ่งในร่องหิน Flysch ที่สวยงามที่สุด สามารถพบได้ที่เมืองซูมาเอียเอีย จังหวัดกีปุซโกอา ทางตอนเหนือของชายฝั่งทะเลประเทศสเปน ที่นี่มีการก่อตัวของหิน Flysch อยู่ที่ชาดหาด Itzurun เป็นกลุ่มร่องหินที่ทอดยาวไปกว่า 8 กิโลเมตร ระหว่างเมือง Deba และ Getaria โดยมี Zumaia อยู่ตรงกลาง 

โดยร่องหินแห่งนี้ได้ชื่อว่าเป็นชุดหิน Flysch ที่มีความยาวที่สุดในโลก และยังได้ก่อให้เกิดวิวทิวทัศน์สุดน่าทึ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาชมปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดแปลกตานี้ด้วยตัวเอง


หิน Flysch ใน Zumaia กำเนิดขึ้นในช่วง 100 ล้านปี จากการชนกันระหว่างแผ่นเปลือกโลกไอบีเรียและแผ่นทวีปยูเรเซีย ทำให้ตะกอนเหล่านี้เกิดขึ้นประมาณ 50 ล้านปีก่อน โดยร่องหินเอนตัวไปทางทิศตะวันออก ส่วนชั้นหินที่มีอายุมากตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ในขณะที่ชั้นหินบริเวณทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือมี Flysch อยู่มาก ซึ่งร่องหินเหล่านี้มีคุณค่าทางประประวัติศาสตร์การก่อกำเนิดโลกในช่วงเวลา 50-100 ล้านปีที่ผ่านมา

เครดิตที่มา  : amusingplanet.com
Cr.https://travel.thaiza.com/foreign/384568/



หินหมาจูกับเจ้าหญิงนิทรา



“เกาะกรีน” หรือลวี่เต๋า ตั้งอยู่นอกชายฝั่งทะเลของจังหวัดไถตง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวนอกเกาะที่คนไต้หวันชื่นชอบมากที่สุด 

หินหมาจูกับหินเจ้าหญิงนิทรา ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะกรีน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของเกาะกรีน ถ้ามองจากไห่ชานผิง ก็จะมองเห็นหินเจ้าหญิงนิทรานอนหลับอย่างสงบอยู่กลางทะเล โดยมีหาดทรายสีขาวเป็นเรือนผม และหินหมาจูที่มีหูยาวก็นอนอย่างสงบนิ่งอยู่ไม่ไกลนัก 

ในวันที่อากาศแจ่มใส ท้องฟ้าเป็นสีคราม น้ำทะเลก็สีคราม ก้อนเมฆสีขาว สีสันสวยงามราวกับภาพวาด ประกอบกับประติมากรรมหินที่แกะสลักโดยธรรมชาติ ด้วยบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเป็นเทพนิยายและจินตนาการ จากการมองหินหมาจูและหินเจ้าหญิงนิทราแบบไกลๆ ก็สามารถถ่ายภาพที่สนุกด้วยการอาศัย “การจัดตำแหน่งมุมกล้อง”
Cr.https://www.eastcoast-nsa.gov.tw/th/overview/attractions


(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ธรณีวิทยา ภูมิศาสตร์ ภาพถ่ายทิวทัศน์ หน้าต่างโลก
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่