JJNY : "อ๋อย"ส่ายหัว หลังฟัง"ประยุทธ์"/สมชัยอาสาเขียนสคริปต์ให้แถลง/เย้ยคำสั่งตู่! พปชร.จัดปาร์ตี้/โควิดคร่าเฉียด7,200

"อ๋อย" ส่ายหัว หลังฟัง "ประยุทธ์" แถลงโควิด-19 สอน 8 ข้อ เรื่องที่ควรพูดให้ชัด
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3767150
 

 

"จาตุรนต์" แนะ "ประยุทธ์" 8 ข้อที่ควรแถลงให้ชัด สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน แถลงเรื่องที่ควรแถลง
 
วันนี้ (17 มี.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังจากนายกรัฐมนตรีแถลงเรื่องสถานการณ์ โควิด-19 ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (16 มี.ค.) โดยระบุว่า
 
ที่นายกฯควรแถลง แต่ไม่ได้แถลง
 
ฟังนายกฯแถลงแล้ว แม้จะไม่ผิดคาด แต่ก็รู้สึกผิดหวัง เพราะนึกว่าประชุมกันมาอย่างดีแล้ว คงจะมีมาตรการต่างๆที่ชัดเจนและมีคนเตรียมร่างสปีชให้ น่าจะดีกว่าพูดสดๆมากกว่านี้หน่อย
 
ที่เห็นปัญหาข้อแรกก็คือมีบางส่วนที่เป็นเฟคนิวส์อย่างชัดเจนเช่น (ที่ผ่านมา) "....คัดกรองผู้ป่วยตามมาตรฐานสากลอย่างมีประสิทธิภาพ มีการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ มีการจัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ สถานพยาบาล และเวชภัณฑ์ทั่วประเทศอย่างเพียงพอเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ...”
 
ที่ว่าเป็นเฟคนิวส์เพราะการคัดกรองผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยตามสนามบินและแม้แต่โรงพยาบาลหลายแห่งไม่ได้มาตรฐานเพราะไม่มีเครื่องมือส่วนสถานพยาบาลและเวชภัณฑ์นั้นที่จริงไม่เพียงพอ ข่าวจากทางราชการเองก็บอกว่ามีปัญหาการส่งต่อผู้ป่วยจากโรงพยาบาลเอกชนไปโรงพยาบาลรัฐหรือแม้แต่โรงพยาบาลรัฐด้วยกันแล้วทั้งๆที่ผู้ป่วยยังไม่มาก
 
ที่นึกไม่ออกว่าแปลว่าอะไรคือที่ว่ายกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศอย่างเข้มข้น ที่ผ่านมาทำเพียงวัดไข้ซึ่งเกือบจะไม่บอกอะไร จากนี้ไปจะทำอย่างไรไม่ได้บอก นอกนั้นส่วนใหญ่จะเป็นคำแนะนำในการปฏิบัติตัวสำหรับประชาชนซึ่งน่าจะให้แพทย์เป็นผู้แนะนำจะดีกว่า
 
อีกส่วนหนึ่งคือนายกฯดูจะเห็นว่าการที่ประชาชนตื่นตระหนกเป็นเพราะการกระจายข่าว ที่ไม่เป็นความจริง ทั้งๆที่ประชาชนตื่นตระหนกเพราะไม่เห็นว่ารัฐบาลมีมาตรการที่เข้มงวดแข็งแรงเพียงพอเสียมากกว่า แถลงทางทีวีพูลทั้งที
สิ่งที่นายกฯควรจะได้ชี้แจงให้ประชาชนเกิดความมั่นใจแต่พลาดโอกาสไปก็คือมาตรการดังต่อไปนี้
 
1.รัฐบาลมีหลักเกณฑ์กำหนดประเทศเสี่ยงอย่างไร จะเพิ่มจะลดด้วยเงื่อนไขอะไร มีคำถามเช่นมาเลเซียมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วและมีพรมแดนติดกับไทย จัดเป็นประเทศเสี่ยงหรือไม่ ประเทศในยุโรปหลายประเทศมีผู้ป่วยเพิ่มเร็วมาก ต้องเพิ่มเป็นเท่าไรจึงถือว่าเป็นประเทศเสี่ยง ไม่ควรใช้วิธีรอให้ประเทศต่างๆปิดประเทศกันไปเอง
2.กำหนดเงื่อนไขในการอนุญาตให้ชาวต่างประเทศที่เดินทางจากประเทศเสี่ยงมาได้เท่าที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น งดการให้วีซ่าท่องเที่ยวที่ควรทำมานานแล้ว กำหนดให้ทั้งคนไทยและชาวต่างประเทศที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงจะต้องมีการคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพและกักตัวโดยการควบคุมดูแลของทางราชการอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่ปล่อยเสรีอย่างที่ทำอยู่
 
3.การเตรียมสถานที่และวัสดุอุปกรณ์สำหรับการกักตัวเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงและผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อในประเทศให้เพียงพอ ซึ่งเร็วๅนี้อาจต้องใช้เป็นจำนวนมาก
4.แสดงความพร้อมในการเตรียมบุคลากร สถานพยาบาล เวชภัณฑ์ วัสดุอุปกรณ์เช่นเครื่องช่วยหายใจ ฯลฯ ให้เพียงพอในกรณีที่มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นมากๆ โดยระบุจำนวนที่ชัดเจน
 
5.มาตรการในการแก้ปัญหาหน้ากากและเยลล้างมือขาดแคลนที่เชื่อได้ว่าจะแก้ปัญหาได้จริง
 
6.ที่แถลงว่ามีมาตรการอย่างเข้มข้น เพื่อหยุดการแพร่กระจายเชื้อ โดยงดกิจกรรมในสถานที่ที่มีการชุมนุมจำนวนมาก ปิดสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สถานบันเทิง สนามกีฬา และสถานศึกษา นั้นยังมีสถานที่ประเภทอื่นใดอีกบ้าง ห้ามจัดกิจกรรมที่มีคนเกิน 50 คนหรือไม่ มีบทบังคับตามกฎหมายอย่างไร
 
7.มาตรการที่แต่ละจังหวัดพึงใช้โดยกำหนดเงื่อนไขหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ เช่นการติดตามรวบรวมข้อมูลผู้อยู่ในข่ายเสี่ยงที่จะเป็นผู้ติดเชื้อ การกำชับหรือบังคับให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวเองหรือต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ ไม่ใช่ปล่อยให้ทำกันบ้างไม่ทำบ้างตามอัธยาศัยอย่างที่เป็นอยู่
 
8.การมีระบบชี้แจงให้ข้อมูลความรู้แก่ประชาชนโดยองค์กรและบุคลากรที่เหมาะสม เชื่อถือได้ ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาหรือแตกต่างขัดแย้งกันเองบ่อยๆอย่างที่เป็นอยู่
 
น่าจะได้ประมาณนี้ เสียดายที่นายกฯเกือบจะไม่ได้พูดถึงสิ่งเหล่านี้เลย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาคนร่างสปีชหรอกครับ เป็นเพราะไม่ได้มีการกำหนดมาตรการเหล่านี้ต่างหาก คือไม่ใช่ปัญหาควรพูดอะไร แล้วไม่ได้พูด แต่เป็นควรทำอะไร แล้วไม่ได้ทำหรือไม่ได้คิดจะทำเสียมากกว่า
 
https://www.facebook.com/Chaturon.FanPage/photos/a.10151849945962359/10158197414277359/

 
สมชัย อาสาเขียนสคริปต์ให้ผู้นำแถลงแนวทางป้องกันปัญหาการระบาดโควิด- 19
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2061841
  
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผอ.ศูนย์วิจัยการเมืองและการพัฒนา มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 
  
เปิดคอมพ์ตอนสามทุ่ม มีแต่เสียงสวดลุงมากมายเรื่องการออกทีวีพูล เลยลองเขียนบทให้ลุงบ้าง ไม่รู้จะถูกใจไหม
  
พี่น้องประชาชนร่วมชาติที่รักครับ ผมเชื่อว่าพี่น้องทุกคนคงตระหนักเช่นเดียวกับผมว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ โควิด 19 นี้ เป็นเรื่องที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าจะเป็นสิ่งที่คนทั้งโลกต้องเผชิญ และยังอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถป้องกันแก้ไขอะไรได้มาก
  
ผมรู้ว่าพี่น้องทุกคนเป็นกังวลว่าวันหนึ่งภัยร้ายนี้จะมาถึงตัว และปรารถนาจะเห็นรัฐบาลของผมทำอะไรหลายอย่าง ที่ช่วยให้เกิดความมั่นใจ ว่าสามารถช่วยเหลือพวกเราให้ผ่านภัยอันตรายนี้ไปได้
  
ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ผมอยากรายงานให้พี่น้องทราบว่ารัฐบาลของท่าน ได้พยายามทำอย่างเต็มที่ทุกวิถีทางที่จะให้ประชาชนในประเทศเรานั้นปลอดภัยที่สุด แม้สิ่งนั้นอาจจะกระเทือนถึงความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างประเทศบ้าง หรืออาจทำให้ประเทศเรามีรายได้น้อยลงบ้าง แต่ผมถือว่าความปลอดภัยของประชาชนในประเทศนั้นสูงสุดเหนือกว่าสิ่งใดทั้งปวง
  
ในด้านการให้ความรู้ในการป้องกันนั้น ผมได้ตั้งศูนย์ที่จะทำหน้าที่สื่อสารให้ข้อมูลอย่างทุกต้องและเป็นปัจจุบันแก่พี่น้อง โดยศูนย์ดังกล่าวจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง และผลิตสื่อเพื่อกระจายให้ถึงพี่น้องทุกช่องทาง ขอให้สื่อมวลชนหรือพี่น้องประชาชนช่วยทำหน้าที่เป็นสื่อ ที่จะช่วยรัฐในการแพร่กระจายข่าวต่างๆนี้ด้วย
 
ในด้านการรักษา ผมได้จัดสรรเงินงบกลางจำนวน 50,000 ล้านบาท ให้กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการในการบริการตรวจและรักษา โดยให้โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งมีความพร้อมในการดำเนินการดังกล่าว และให้สามารถใช้งบประมาณดังกล่าว ในการป้องกันบุคลากรทางแพทย์ และมีมาตรการในการสร้างขวัญกำลังใจให้กับบุคลากรในแนวหน้าเหล่านั้น และบอกกับ รมต.สาธารณสุขไปแล้วว่า หากไม่พออย่างไรให้รายงานถึงผมอย่างเร่งด่วนโดยตรง
 
สำหรับการขาดแคลนหน้ากากอนามัยนั้น ผมได้ขอให้โรงงานผลิตทุกโรงยุติการผลิตเพื่อส่งออกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากชนิดใดก็ตาม และให้ทุกโรงงานมุ่งผลิตหน้ากากอนามัยเพื่อคนในประเทศเท่านั้น ส่วนผู้ที่กักตุน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง หรือผู้บริหารในภาคราชการคนใด ขณะนี้ผมได้สั่งการให้การสอบสวน หากมีความผิดจะดำเนินการโดยเด็ดขาดไม่ไว้หน้า โดยไม่สนใจว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรครัฐบาลเองก็ตาม
 
แม้ว่าวันนี้ เรายังจะอยู่ในระยะที่สองของการแพร่เชื้อ แต่เราต้องไม่ประมาทและต้องเตรียมการให้พร้อมหากการแพร่กระจายของโรคนั้นพัฒนาไปสู่ระยะที่สาม โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเตรียมการรองรับขั้นสูงสุดแล้ว
 
สุดท้ายนี้ผมขออภัยพี่น้องประชาชนที่ในเวลาที่ผ่านมารัฐบาลอาจทำอะไรที่เชื่องช้า ไม่เป็นเอกภาพ ไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน แต่สัญญาว่าจากนี้ไปผมจะพยายามทำอย่างเต็มที่และขอเชื้อเชิญทุกฝ่ายมาช่วยกันในการฝ่าวิกฤตครั้งนี้
  
จากวันนี้ ต้องไม่มีเขา ไม่มีเรา ทุกคนทุกฝ่ายต้องเดินไปข้างหน้าพร้อมกันเพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ครับ
 
https://www.facebook.com/Somchai.Srisutthiyakorn/posts/2700126260036760
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่