สวัสดีครับ เป็นล้อคอินใหม่ แต่จริงๆแล้วเล่นมานาน ล็อคอินเก่า ถูก แอดมินพันทิป ลบไป เพราะ กระทู้เทศกาลเชงเม้ง ที่ผมขอให้รัฐบาลลองพิจารณาดู
ว่าจะมีคนไทยเชื้อสายจีน รวมตัวกันมากน้อยแค่ไหน อยากให้รัฐบาลลองให้คำแนะนำประชาชนดู และ แอดมินพันทิป ก็ตัดสินว่า กระทู้ผมเป็นกระทู้
สร้างความแตกแยก สร้างการทะเลาะกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้ามาดูสองวัน ก็ไม่รู้ว่า มันเลยเถิดไปถึงไหน ล็อคอินอีกที ก็โดนซะละ
หวังว่า กระทู้นี้ จะไม่ได้สร้างความร้าวฉาน อีก
ง่ายๆเลย ต้องเริ่มจากพฤติกรรม ของคนยุโรป กับ คนจีน รวมถึง คนอเมริกา ที่อยู่ในเขตเส้น ลองติจูดใกล้ๆกัน คือ ประเทศหนาว
ถ้าคุณเคยอยู่ในประเทศหนาวๆ อุณหภูมิติดลบ จะทราบว่า
1. เราจะไม่ค่อยอาบน้ำครับ (แต่คนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศหนาว ก็อาบน้ำมากกว่าคนพื้นที่) ล้างมือยังไม่อยากทำ จะเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดถูบ้านนี่
ไม่ต้องพูดถึงเลย ถามว่า น้ำร้อนมีไหม มีครับ แต่ ต้องคิดว่า ค่าไฟ ค่าแก๊ส จะพุ่งขนาดไหน เพราะ จุดสำคัญการดำรงชีวิตผ่านหน้าหนาว เราจะทุ่มเงิน
ไปที่ค่าไฟ หรือ แก๊ส ที่ทำให้ห้องเราอบอุ่น คุณเชื่อไหม ผมจ่ายค่าไฟ ค่าแก๊ส ในช่วงฤดูหนาวแพงกว่า ฤดูร้อนมาก ทั้งๆ ฤดูร้อนเปิดแอร์ แต่หน้าหนาว
แทบจะต้องเปิดเครื่องทำความร้อนทั้งวันทั้งคืนเลย แต่.......... ห้องหรือบ้านของเรา จะมีหลายจุดมากที่ยังเย็นเฉียบอยู่ ถ้าคุณไปจับโต๊ะไม้ หรือโลหะ
คุณจะพบว่า มันไม่ได้อุ่นมาก แบบประเทศร้อนๆแบบไทย แม้เราจะเปิดเครื่องทำความร้อน แน่นอน ตามแหล่งชุมชน สถานีรถไฟ รถไฟใต้ดิน สนามบิน
สถานที่พวกนี้ เค้าก็เปิดเครื่องทำความร้อน แต่มันจะร้อนเฉพาะ จุด มันยังมีอีกหลายบริเวณเลย ที่ มันเย็นเฉียบ เป็นที่หลบซ่อนไวรัส แล้วเวลามือเปื้อน
หรือ ตามร่างกายสกปรกทำไง ถ้าไม่อยากใช้น้ำเย็นๆล้าง ก็ใช้ เบบี้วิป (กระดาษเปียก) เช็ดเอา นี่ก็อีกเหตุผลที่ คนอาศัยในประเทศหนาว จะเหมาซื้อ
กระดาษ กระดาษเปียกไปจนหมด ถามว่า ประเทศไทยต้องใช้ไหมครับ เปิดน้ำยังร้อนเลย จะไปเหมากระดาษทำไมครับ เราเอาสบู่ล้างเลย (ในเคสที่เรา
ยังอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน) ดังนั้น คนอาศัยในประเทศหนาวทั้งหลาย ความสะอาดจากการอาบน้ำ โดยเฉพาะหน้าหนาว ไม่มีแน่ๆครับ หมักหมม
2. เราไม่ค่อยซักผ้า ที่ทุกท่านเห็นใส่ เสื้อโอเวอร์โคด เสื้อขนเป็ด เสื้อหนัง ใส่สามสี่ชั้น ดูเทห์ แบบพระเอกนางเอก หนังเกาหลี ลองไปดมดูสิครับ
เหม็น .......... ถ้ายิ่งไปกินร้านเนื้อย่าง ร้านปิ้งๆ ที่ปิด เสื้อกันหนาวเหม็นทุกตัว เหม็นแล้วเอาไปซักไหมครับ ตอบว่า ซักไม่ได้ เพราะ ซักแล้วกว่าจะแห้ง
ไม่รู้นานแค่ไหน นอกจากเอาไปอังใกล้ๆ เครื่องทำความร้อน เสื้อหนาวธรรมดา เสื้อยืดที่ใส่ข้างในซักยังแห้งยาก แล้วเสื้อโอเวอร์โคดหนาๆ นานแค่ไหน
จะแห้ง เมื่อไม่ได้ซัก ออกไปข้างนอก สัมผัสอะไร ติดไวรัสอะไร ก็ไม่ได้ทำความสะอาด แถมเสื้อพวกนี้ ด้านในอุ่นครับ เพราะ อุ่นจากอุณหภูมิจากร่างกาย
ของเราเอง เสื้อหนาวมันกักเก็บอุณหภูมิของเราไม่ให้เล็ดลอดออกไป แต่ผิวเสื้อ มันหนาวสุดๆ ไวรัสอยู่สบาย (ที่นี้ทุกท่านทราบแล้วใช่ไหม ทำไมไวรัส
มันถึงได้กระจาย ถึงได้อยู่ทน ในเมืองหนาว)
3. เมื่อเราไม่ได้ซักเสื้อมากนัก แน่นอน ถุงมือ หมวกไหมพรมคลุมหัว เราก็ไม่ได้ซัก ถุงมือนี่ตัวดีเลย หยิบจับ ผิวข้างนอกแน่นอน หนาวเย็นชัวร์ ไวรัสชอบ
ผมใช้ชีวิตแบบต้องประหยัด ดังนั้น ผมไม่ทราบว่า คนรวยๆ เค้าอยู่เค้าซักผ้ากันแบบนี้รึเปล่านะ เค้าอาจจะซักบ่อยก็ได้ มีอบผ้าเสร็จอะไรแบบนี้ แต่คิดว่าก็
ไม่น่าจะซักบ่อย
4. อย่างที่ระบุไว้ในข้อหนึ่ง ชีวิตส่วนใหญ่ ใช้รถสาธารณะ รถไฟ รถบัส ดังนั้น สถานีมีเครื่องทำความร้อน แต่ ผิวเฟอร์นิเจอร์ไม่ร้อนครับ และเราไม่จำเป็น
ต้องให้ผิวเฟอร์นิเจอร์มันร้อน เพราะ เครื่องทำความร้อนมันไม่สามารถจะทำให้ ห้องนั้นๆ ร้อนแบบบ้านเราได้ ร้อนแบบ สิบกว่าองศาปลายๆ นี่แพงมาก
และทุกคนก็มีเสื้อกันหนาวของตัวเองอยู่แล้ว ขอแค่มันไม่หนาวเหมือนข้างนอก อยู่ได้เป็นอันใช้ได้ ดังนั้น เชื้อไวรัส ที่ติดตามโลหะ ก็ยิ้ม เย็นสบาย
5. เรื่องอาหารการกิน อันนี้ ต้องอ้างอิงจากลูกค้า เพราะ เมืองหนาวทางยุโรป อเมริกา จะต่างจากไทยมากๆ ไทยมีของกินขาย ทุกซอกซอย เปิดขาย เช้า
ยันดึก แต่ ตปท. ขอโทษครับ ลงเครื่องทุ่มนึง ออกข้างนอกสองสามทุ่ม จะไปหากินที่ไหน ถ้าที่บ้านไม่มีอาหารหรือ วัตถุดิบแช่ไว้ อดตายแน่ๆ
ทำไมเค้าไม่ขาย เช้า ยันดึก แบบบ้านเรา ก็เพราะ ค่าแรงมันแพงครับ และ เครื่องขายแบบญี่ปุ่น ขายอัตโนมัติ ก็ดูจะไม่มีมากซะด้วย ดังนั้นบ้านเรา
ถ้าท่านไหน คิดว่าสบายใจที่จะไปซื้อมาตุน ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หลายท่านที่ดูไลน์ อ่านไลน์แล้วตระหนก ว่าฝรั่ง จีน มันยังไปซื้อตุน แล้วเราจะไม่ทำตาม
ต้องบอกว่า ไม่ต้องตกใจ ผมเชื้อว่า บ้านเราไม่ขาดแคลนอาหาร ไม่ขาดแคลนมาม่า อาหารกระป๋อง หรือ ต่อให้ไม่มี ร้านหมู่ปิ่ง ร้านข้าวมันไก่ ยังเปิดขาย
แน่นอน
6. ทำไมสิงคโปร์ มาเลเซีย ประเทศเขตร้อน ก็ติด ไหนบอก ที่ร้อนๆไม่ติดไง ถ้าทุกท่านลองสังเกตดู จะพบว่า เคสที่ติด ส่วนใหญ่ ติดมากจากสถานที่ปิด
คือ อากาศมันไหลเวียนวนอยู่ในอาคาร เช่น สนามบิน สถานีรถ โรงหนัง บาร์ ร้านอาหาร และ สถานที่เหล่านี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ เครื่องปรับอากาศ
และ สถานที่เหล่านี้ ทำเหมือนกัน คือ เปิดเครื่องปรับอากาศแบบ เย็นสุดๆ เย็นแบบหนาวมากกกกกกก แน่นอน สถานที่อากาศปิด ก็รวมถึง ท่านที่ต้อง
โดยสารเครื่องบิน รถบัสปรับอากาศ รถแท็กซี่ ฯ และอื่นๆ ที่ต้องอยู่ในนี้เป็นเวลานานๆ ดังนั้น ถ้าท่านอยู่ไทย ขอให้ท่านหลีกเลี่ยงที่จะไปรวมตัวใน
สถานที่ปรับอากาศ จะเดินห้าง ก็เดินห้างแบบแนวราบ ที่เค้ามีเปิดให้อากาศถ่ายเถ แน่นอน ตลาดสด ตลาดนัด บ้านเรา อากาศถ่ายเถ น่าจะไม่มีปัญหา
สถานที่ท่องเที่ยวบ้านเรา ตลาดน้ำ วัดวาอาราม แหล่งประวัติศาสตร์ ทั้งหลาย ถ้า ทุกท่าน ขอให้ไปเที่ยวตามปกติ คือ ไม่ใช่แห่กันไป แบบมีเทศกาล
หรือแห่กันไป เพราะ วัดจัดงานวัด จัดคอนเสริต ให้ไปรวมๆตัวกัน ผมว่า ทุกท่านไปเที่ยวได้ ไม่ต้องกลัว เลือกเที่ยวในสถานที่ ที่คนไม่ไปกันเยอะๆ
เดินออกจากบ้าน ไปสวนสาธารณะใกล้ๆ เดินไปรอบๆบ้าน อากาศร้อนๆบ้านเรา ลมโกรกๆ น่าจะไม่ทำให้ท่านติดเชื้อโรคได้ง่าย ท่านสามารถอุดหนุน
อาหารท้องถิ่น ริมทาง ของกินตามตลาดนัดได้ตามปกติ ขอให้ มันไม่ได้อยู่ในห้องปิด มีอากาศถ่ายเท น่าจะไม่มีปัญหาใดๆ
สุดท้าย ผมเชื่อว่า คนไทยเรา ภูมิคุ้มกันค่อนข้างดีกว่า ฝรั่งมาก เพราะ เรากินอาหารที่ไม่ได้สะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์มาตั้งแต่เด็กจนแก่
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในยุโรป ไก่ หมู ปลา จะไม่วางขายในอุณหภูมิห้อง ตลาดสดบ้านเรา ขายของสดแบบนี้ ถ้าขายในยุโรป โดนจับหมด
ของสดเค้า ต้องเก็บในอุณหภูมิที่กำหนด ที่จะไม่ทำให้เชื้อโรคเติบโต ต้องมีการตรวจนั่นนี่เยอะแยะ แล้วผลเป็นยังไง ผลคือ อาหารแพงขึ้น
เพราะ ขั้นตอนมันเยอะ แถมฝรั่งพวกนี้ ภูมิต้านทานต่ำ มาไทย กินอะไรก็จะท้องเสียง่าย สะอาดมากจนร่างกายๆเคย สัมผัส เชื้อโรคอะไร
เหมือน ทหารไม่เคยออกรบ พอเจอ ข้าศึกก็แพ้เอาง่ายๆ คนไทย เรา ภูมิคุ้มกัน ต้องทำงานตลอดเวลา เราก็เลยต้องแข็งแรงกว่าปกติ
ผมเขียน ข้อความยาวๆนี้ขึ้นมา เพราะ เห็นว่า คนไทยหลายคน อาจจะไม่มีภาพ ว่า คนที่อาศัยในประเทศเขตหนาว มันมีชีวิตอยู่ ที่แตกต่าง กับ
ประเทศเขตร้อนมากๆ แบบบ้านเรายังไง แม้คนไทยจะไปเที่ยวเมืองหนาวบ่อยๆ แต่ก็ไม่ทราบว่า คนเค้าดำรงชีวิตจริงๆแบบไหน
และหลายคนที่อาศัยอยู่จริง ก็อยู่จนไม่ได้ตระหนัก (หรือลืมไปว่า) วิถีชีวิตนี่แหละ ที่ทำให้ ทำไม ประเทศเขตหนาว มันดูสถานการณ์น่ากลัว
และ ประเทศเขตร้อนบ้านเรา มันดูไม่น่ากลัว (หลายคนก็บอกว่า เราตรวจน้อย ถ้าตรวจเยอะๆ ต้องเจอเยอะแน่ อันนี้ผมไม่เถียง แต่ผมยังเชื่อว่า
คนไทย ถ้าติดเยอะ ก็มีโอกาศที่เราจะแข็งแรงกว่า และหายได้เร็ว) เอ่อ ทำไมผมคิดแบบนี้ เพราะ ผมเคยเป็นไข้หวัด ในเมืองหนาว
ต้องบอกเลยว่า เป็นยาวนานมาก ต่างจากการที่เป็นหวัดในเมืองไทย
สรุปสุดท้าย อันนี้เป็นข้อคิดส่วนตัว ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ แต่ส่วนตัวก็เชื่อว่า วิถีชีวิตที่เกิดมาจากอุณหภูมิที่ต่างกันสุดขั่วนี่แหละ
ที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกัน ไม่อยากให้คนไทย ตระหนก กลัว จนมากไป หลายคนกลัวจนไม่อยากออกไปเที่ยว ไม่อยากออกไปซื้อของ
มนุษย์ไม่ใช่ไม่ตาย แต่มันไม่ตายง่ายขนาดนั้น แน่นอน
((อยากให้ตั้งสติกันก่อนที่จะตื่นตระหนก))ประเทศเขตร้อน ทำไมถึงน่าจะติด โควิท 19 ได้ยากกว่าประเทศเขตหนาว
ว่าจะมีคนไทยเชื้อสายจีน รวมตัวกันมากน้อยแค่ไหน อยากให้รัฐบาลลองให้คำแนะนำประชาชนดู และ แอดมินพันทิป ก็ตัดสินว่า กระทู้ผมเป็นกระทู้
สร้างความแตกแยก สร้างการทะเลาะกัน ซึ่งผมก็ไม่ได้เข้ามาดูสองวัน ก็ไม่รู้ว่า มันเลยเถิดไปถึงไหน ล็อคอินอีกที ก็โดนซะละ
หวังว่า กระทู้นี้ จะไม่ได้สร้างความร้าวฉาน อีก
ง่ายๆเลย ต้องเริ่มจากพฤติกรรม ของคนยุโรป กับ คนจีน รวมถึง คนอเมริกา ที่อยู่ในเขตเส้น ลองติจูดใกล้ๆกัน คือ ประเทศหนาว
ถ้าคุณเคยอยู่ในประเทศหนาวๆ อุณหภูมิติดลบ จะทราบว่า
1. เราจะไม่ค่อยอาบน้ำครับ (แต่คนไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศหนาว ก็อาบน้ำมากกว่าคนพื้นที่) ล้างมือยังไม่อยากทำ จะเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดถูบ้านนี่
ไม่ต้องพูดถึงเลย ถามว่า น้ำร้อนมีไหม มีครับ แต่ ต้องคิดว่า ค่าไฟ ค่าแก๊ส จะพุ่งขนาดไหน เพราะ จุดสำคัญการดำรงชีวิตผ่านหน้าหนาว เราจะทุ่มเงิน
ไปที่ค่าไฟ หรือ แก๊ส ที่ทำให้ห้องเราอบอุ่น คุณเชื่อไหม ผมจ่ายค่าไฟ ค่าแก๊ส ในช่วงฤดูหนาวแพงกว่า ฤดูร้อนมาก ทั้งๆ ฤดูร้อนเปิดแอร์ แต่หน้าหนาว
แทบจะต้องเปิดเครื่องทำความร้อนทั้งวันทั้งคืนเลย แต่.......... ห้องหรือบ้านของเรา จะมีหลายจุดมากที่ยังเย็นเฉียบอยู่ ถ้าคุณไปจับโต๊ะไม้ หรือโลหะ
คุณจะพบว่า มันไม่ได้อุ่นมาก แบบประเทศร้อนๆแบบไทย แม้เราจะเปิดเครื่องทำความร้อน แน่นอน ตามแหล่งชุมชน สถานีรถไฟ รถไฟใต้ดิน สนามบิน
สถานที่พวกนี้ เค้าก็เปิดเครื่องทำความร้อน แต่มันจะร้อนเฉพาะ จุด มันยังมีอีกหลายบริเวณเลย ที่ มันเย็นเฉียบ เป็นที่หลบซ่อนไวรัส แล้วเวลามือเปื้อน
หรือ ตามร่างกายสกปรกทำไง ถ้าไม่อยากใช้น้ำเย็นๆล้าง ก็ใช้ เบบี้วิป (กระดาษเปียก) เช็ดเอา นี่ก็อีกเหตุผลที่ คนอาศัยในประเทศหนาว จะเหมาซื้อ
กระดาษ กระดาษเปียกไปจนหมด ถามว่า ประเทศไทยต้องใช้ไหมครับ เปิดน้ำยังร้อนเลย จะไปเหมากระดาษทำไมครับ เราเอาสบู่ล้างเลย (ในเคสที่เรา
ยังอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหน) ดังนั้น คนอาศัยในประเทศหนาวทั้งหลาย ความสะอาดจากการอาบน้ำ โดยเฉพาะหน้าหนาว ไม่มีแน่ๆครับ หมักหมม
2. เราไม่ค่อยซักผ้า ที่ทุกท่านเห็นใส่ เสื้อโอเวอร์โคด เสื้อขนเป็ด เสื้อหนัง ใส่สามสี่ชั้น ดูเทห์ แบบพระเอกนางเอก หนังเกาหลี ลองไปดมดูสิครับ
เหม็น .......... ถ้ายิ่งไปกินร้านเนื้อย่าง ร้านปิ้งๆ ที่ปิด เสื้อกันหนาวเหม็นทุกตัว เหม็นแล้วเอาไปซักไหมครับ ตอบว่า ซักไม่ได้ เพราะ ซักแล้วกว่าจะแห้ง
ไม่รู้นานแค่ไหน นอกจากเอาไปอังใกล้ๆ เครื่องทำความร้อน เสื้อหนาวธรรมดา เสื้อยืดที่ใส่ข้างในซักยังแห้งยาก แล้วเสื้อโอเวอร์โคดหนาๆ นานแค่ไหน
จะแห้ง เมื่อไม่ได้ซัก ออกไปข้างนอก สัมผัสอะไร ติดไวรัสอะไร ก็ไม่ได้ทำความสะอาด แถมเสื้อพวกนี้ ด้านในอุ่นครับ เพราะ อุ่นจากอุณหภูมิจากร่างกาย
ของเราเอง เสื้อหนาวมันกักเก็บอุณหภูมิของเราไม่ให้เล็ดลอดออกไป แต่ผิวเสื้อ มันหนาวสุดๆ ไวรัสอยู่สบาย (ที่นี้ทุกท่านทราบแล้วใช่ไหม ทำไมไวรัส
มันถึงได้กระจาย ถึงได้อยู่ทน ในเมืองหนาว)
3. เมื่อเราไม่ได้ซักเสื้อมากนัก แน่นอน ถุงมือ หมวกไหมพรมคลุมหัว เราก็ไม่ได้ซัก ถุงมือนี่ตัวดีเลย หยิบจับ ผิวข้างนอกแน่นอน หนาวเย็นชัวร์ ไวรัสชอบ
ผมใช้ชีวิตแบบต้องประหยัด ดังนั้น ผมไม่ทราบว่า คนรวยๆ เค้าอยู่เค้าซักผ้ากันแบบนี้รึเปล่านะ เค้าอาจจะซักบ่อยก็ได้ มีอบผ้าเสร็จอะไรแบบนี้ แต่คิดว่าก็
ไม่น่าจะซักบ่อย
4. อย่างที่ระบุไว้ในข้อหนึ่ง ชีวิตส่วนใหญ่ ใช้รถสาธารณะ รถไฟ รถบัส ดังนั้น สถานีมีเครื่องทำความร้อน แต่ ผิวเฟอร์นิเจอร์ไม่ร้อนครับ และเราไม่จำเป็น
ต้องให้ผิวเฟอร์นิเจอร์มันร้อน เพราะ เครื่องทำความร้อนมันไม่สามารถจะทำให้ ห้องนั้นๆ ร้อนแบบบ้านเราได้ ร้อนแบบ สิบกว่าองศาปลายๆ นี่แพงมาก
และทุกคนก็มีเสื้อกันหนาวของตัวเองอยู่แล้ว ขอแค่มันไม่หนาวเหมือนข้างนอก อยู่ได้เป็นอันใช้ได้ ดังนั้น เชื้อไวรัส ที่ติดตามโลหะ ก็ยิ้ม เย็นสบาย
5. เรื่องอาหารการกิน อันนี้ ต้องอ้างอิงจากลูกค้า เพราะ เมืองหนาวทางยุโรป อเมริกา จะต่างจากไทยมากๆ ไทยมีของกินขาย ทุกซอกซอย เปิดขาย เช้า
ยันดึก แต่ ตปท. ขอโทษครับ ลงเครื่องทุ่มนึง ออกข้างนอกสองสามทุ่ม จะไปหากินที่ไหน ถ้าที่บ้านไม่มีอาหารหรือ วัตถุดิบแช่ไว้ อดตายแน่ๆ
ทำไมเค้าไม่ขาย เช้า ยันดึก แบบบ้านเรา ก็เพราะ ค่าแรงมันแพงครับ และ เครื่องขายแบบญี่ปุ่น ขายอัตโนมัติ ก็ดูจะไม่มีมากซะด้วย ดังนั้นบ้านเรา
ถ้าท่านไหน คิดว่าสบายใจที่จะไปซื้อมาตุน ก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่หลายท่านที่ดูไลน์ อ่านไลน์แล้วตระหนก ว่าฝรั่ง จีน มันยังไปซื้อตุน แล้วเราจะไม่ทำตาม
ต้องบอกว่า ไม่ต้องตกใจ ผมเชื้อว่า บ้านเราไม่ขาดแคลนอาหาร ไม่ขาดแคลนมาม่า อาหารกระป๋อง หรือ ต่อให้ไม่มี ร้านหมู่ปิ่ง ร้านข้าวมันไก่ ยังเปิดขาย
แน่นอน
6. ทำไมสิงคโปร์ มาเลเซีย ประเทศเขตร้อน ก็ติด ไหนบอก ที่ร้อนๆไม่ติดไง ถ้าทุกท่านลองสังเกตดู จะพบว่า เคสที่ติด ส่วนใหญ่ ติดมากจากสถานที่ปิด
คือ อากาศมันไหลเวียนวนอยู่ในอาคาร เช่น สนามบิน สถานีรถ โรงหนัง บาร์ ร้านอาหาร และ สถานที่เหล่านี้ มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน คือ เครื่องปรับอากาศ
และ สถานที่เหล่านี้ ทำเหมือนกัน คือ เปิดเครื่องปรับอากาศแบบ เย็นสุดๆ เย็นแบบหนาวมากกกกกกก แน่นอน สถานที่อากาศปิด ก็รวมถึง ท่านที่ต้อง
โดยสารเครื่องบิน รถบัสปรับอากาศ รถแท็กซี่ ฯ และอื่นๆ ที่ต้องอยู่ในนี้เป็นเวลานานๆ ดังนั้น ถ้าท่านอยู่ไทย ขอให้ท่านหลีกเลี่ยงที่จะไปรวมตัวใน
สถานที่ปรับอากาศ จะเดินห้าง ก็เดินห้างแบบแนวราบ ที่เค้ามีเปิดให้อากาศถ่ายเถ แน่นอน ตลาดสด ตลาดนัด บ้านเรา อากาศถ่ายเถ น่าจะไม่มีปัญหา
สถานที่ท่องเที่ยวบ้านเรา ตลาดน้ำ วัดวาอาราม แหล่งประวัติศาสตร์ ทั้งหลาย ถ้า ทุกท่าน ขอให้ไปเที่ยวตามปกติ คือ ไม่ใช่แห่กันไป แบบมีเทศกาล
หรือแห่กันไป เพราะ วัดจัดงานวัด จัดคอนเสริต ให้ไปรวมๆตัวกัน ผมว่า ทุกท่านไปเที่ยวได้ ไม่ต้องกลัว เลือกเที่ยวในสถานที่ ที่คนไม่ไปกันเยอะๆ
เดินออกจากบ้าน ไปสวนสาธารณะใกล้ๆ เดินไปรอบๆบ้าน อากาศร้อนๆบ้านเรา ลมโกรกๆ น่าจะไม่ทำให้ท่านติดเชื้อโรคได้ง่าย ท่านสามารถอุดหนุน
อาหารท้องถิ่น ริมทาง ของกินตามตลาดนัดได้ตามปกติ ขอให้ มันไม่ได้อยู่ในห้องปิด มีอากาศถ่ายเท น่าจะไม่มีปัญหาใดๆ
สุดท้าย ผมเชื่อว่า คนไทยเรา ภูมิคุ้มกันค่อนข้างดีกว่า ฝรั่งมาก เพราะ เรากินอาหารที่ไม่ได้สะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์มาตั้งแต่เด็กจนแก่
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าในยุโรป ไก่ หมู ปลา จะไม่วางขายในอุณหภูมิห้อง ตลาดสดบ้านเรา ขายของสดแบบนี้ ถ้าขายในยุโรป โดนจับหมด
ของสดเค้า ต้องเก็บในอุณหภูมิที่กำหนด ที่จะไม่ทำให้เชื้อโรคเติบโต ต้องมีการตรวจนั่นนี่เยอะแยะ แล้วผลเป็นยังไง ผลคือ อาหารแพงขึ้น
เพราะ ขั้นตอนมันเยอะ แถมฝรั่งพวกนี้ ภูมิต้านทานต่ำ มาไทย กินอะไรก็จะท้องเสียง่าย สะอาดมากจนร่างกายๆเคย สัมผัส เชื้อโรคอะไร
เหมือน ทหารไม่เคยออกรบ พอเจอ ข้าศึกก็แพ้เอาง่ายๆ คนไทย เรา ภูมิคุ้มกัน ต้องทำงานตลอดเวลา เราก็เลยต้องแข็งแรงกว่าปกติ
ผมเขียน ข้อความยาวๆนี้ขึ้นมา เพราะ เห็นว่า คนไทยหลายคน อาจจะไม่มีภาพ ว่า คนที่อาศัยในประเทศเขตหนาว มันมีชีวิตอยู่ ที่แตกต่าง กับ
ประเทศเขตร้อนมากๆ แบบบ้านเรายังไง แม้คนไทยจะไปเที่ยวเมืองหนาวบ่อยๆ แต่ก็ไม่ทราบว่า คนเค้าดำรงชีวิตจริงๆแบบไหน
และหลายคนที่อาศัยอยู่จริง ก็อยู่จนไม่ได้ตระหนัก (หรือลืมไปว่า) วิถีชีวิตนี่แหละ ที่ทำให้ ทำไม ประเทศเขตหนาว มันดูสถานการณ์น่ากลัว
และ ประเทศเขตร้อนบ้านเรา มันดูไม่น่ากลัว (หลายคนก็บอกว่า เราตรวจน้อย ถ้าตรวจเยอะๆ ต้องเจอเยอะแน่ อันนี้ผมไม่เถียง แต่ผมยังเชื่อว่า
คนไทย ถ้าติดเยอะ ก็มีโอกาศที่เราจะแข็งแรงกว่า และหายได้เร็ว) เอ่อ ทำไมผมคิดแบบนี้ เพราะ ผมเคยเป็นไข้หวัด ในเมืองหนาว
ต้องบอกเลยว่า เป็นยาวนานมาก ต่างจากการที่เป็นหวัดในเมืองไทย
สรุปสุดท้าย อันนี้เป็นข้อคิดส่วนตัว ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารองรับ แต่ส่วนตัวก็เชื่อว่า วิถีชีวิตที่เกิดมาจากอุณหภูมิที่ต่างกันสุดขั่วนี่แหละ
ที่ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้แตกต่างกัน ไม่อยากให้คนไทย ตระหนก กลัว จนมากไป หลายคนกลัวจนไม่อยากออกไปเที่ยว ไม่อยากออกไปซื้อของ
มนุษย์ไม่ใช่ไม่ตาย แต่มันไม่ตายง่ายขนาดนั้น แน่นอน