หลานแอบพาเเฟนมาที่ห้องตอนเราไปทำงาน

เรื่องคือก่อนหน้านี้เราอยู่หอคนเดียวค่ะคือขึ้นมาเรียนป.ตรีจนจบ+ทำงาน รวมๆที่อยู่กรุงเทพมาก็ได้ประมาณ 6 ปี
  ทีนี้พี่สาวต่างแม่ลำบากหลานเพิ่งจบม.6 ต้องหยุดเรียนหนังสือ เลยมาขอความช่วยเหลือให้เราช่วยหางานที่กรุงเทพให้หลาน เราเลยให้ความช่วยเหลือด้วยการให้ส่งหลานมาทำงานที่กรุงเทพฯ โดยให้มาพักอยู่กับเรา
  ซึ่งเราก็ขอแค่ให้หลานช่วยค่าห้องเดือนละ 1000 บาท จากค่าห้องประมาณ 3500-3800 บาท สบู่ ยาสีฟัน ผงซักฟอก ยาสระผมใช้ด้วยกันโดยที่เราเป็นคนออกเงินซื้อเองหมด
  ซึ่งอันนี้ก็เป็นปัญหาเนื่องจากว่าหลานไม่ค่อยมีเซนส์เวลาของใช้หมดเค้าก็จะปล่อยให้หมด ไม่ซื้อ จนหลังๆเราก็ไม่ไหวเลยออกปากให้เค้าซื้ออันนี้เข้ามาบ้างแล้วเราก็ทำเนียนไม่หารเงิน
  โดยตอนนี้อยู่กับหลานมาได้ประมาณ 3 เดือนแล้ว เราก็พอรู้ว่าเค้ามีแฟนเพราะเค้าคุยโทรศัพท์ทั้งวันทั้งคืน เราก็ปล่อยไปไม่ได้ว่าอะไรเพราะถือว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่อยากเข้าไปยุ่งวุ่นวายทำให้รู้สึกอึดอัด เพราะเอาตรงๆก็สงสารที่เด็กคนนึงต้องหยุดเรียนหนังสือมารับภาระทำงานส่งเงินให้คนที่บ้าน เลยอยากให้อยู่กันแบบเป็นกันเองสบายใจไม่ยุ่งวุ่นวาย
  แต่ที่พีคถึงขั้นโกรธมากจนต้องมาตั้งกระทู้คือวันนี้เรากลับจากทำงานตอน 4 โมงเย็น ไขประตูห้องเข้ามาเจอหลานอยู่กับผู้ชายในห้อง เราเลยไปสงบสติอารมณ์ในห้องน้ำ
  ออกมาก็เห็นว่าหลานได้พาผู้ชายออกไปจากห้องเเล้ว จนถึงตอนนี้ตัวหลานเองก็ยังไม่กลับมาที่ห้อง       การที่เราเลือกสงบสติอารมณ์ทั้งๆที่ตอนนั้นคือโมโหมาก เพราะคิดว่าจะอาละวาดฝ่ายชายอย่างเดียวก็ไม่ถูกในเมื่อหลานเราก็เป็นคนที่พาเค้าเข้ามาเอง
 ณ ตอนนี้คืออยากปรึกษาทุกคนว่าควรทำไงดี ใจเราก็อยากให้โอกาสพูดไปว่าเราไม่โอเคนะที่พาผู้ชายแปลกหน้าสำหรับเราเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวครั้งต่อไปอย่าทำอีก โดยที่ครั้งนี้ยังไม่บอกพี่สาวก่อน
 แต่อีกใจก็ขอพูดตรงๆว่ารับไม่ได้มากๆที่ทำแบบนี้ อยากจะไล่ออกไปอยู่กับผู้ชายคนนั้นให้พ้นๆ

*แก้ไขคำผิด
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
อัพเดทนะคะ
-ตอนนี้ได้พูดคุยกับหลานว่าห้ามพาผู้ชายมาที่ห้องอีก เรื่องมีแฟนเราไม่เคยห้ามหรือเข้าไปยุ่ง แต่ขออย่างเดียวอย่าพามาที่ห้องโดยเด็ดขาด ตอนพูดไม่ได้ใช้อารมณ์ใดๆทั้งสิ้น แต่ก็ไม่ได้ใช้น้ำเสียงอ่อนหวาน หรือแสดงออกถึงการไม่ใส่ใจสิ่งที่เกิดขึ้น หลานมีท่าทีคือหน้าเสียและพยักหน้ารับฟัง

-ยังไม่ได้บอกแม่ของหลาน แต่ได้บอกพี่สาวอีกคนและคุณพ่อของเราที่มีศักดิ์เป็นตาถึงพฤติกรรมของหลาน และเชื่อว่าในเร็ววันนี้น่าจะรู้ไปถึงหูของแม่ของหลาน
-กุญแจ ได้ทำการเปลี่ยนกุญแจใหม่เรียบร้อย โดยตัดสินใจว่าจะไม่ให้หลานพกกุญแจห้อง ให้เวลาเยียวยามาสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจกันใหม่ ซึ่งถ้าเค้าคิดได้และคิดจะปรับปรุงสักวันเราคงกลับมาไว้ใจเค้าใหม่อีก

ขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์และทุกคำแนะนำดีๆนะคะ ตอนนี้ก็ให้เวลาเยียวยาจริงๆค่ะ หลานจะคิดได้ไหมอันนั้นคงสุดแต่ใจจะไขว่คว้า คนถ้ามันไม่รักดี ก็ทำได้แต่ตัดให้ไปเผชิญโลกด้วยเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่