คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
การแข่งขันลากยาวมาถึงช่วงเล่ม 3 ผลเป็นไปตามที่คาดว่าอินาชิโระชนะ ซึ่งแอดก็พอเดาได้นะอันนี้ ก็เมย์จังเก่งขนาดนั้นอะใครมันจะไปโค่นได้ หลังจบแมตท์ทีมดัง อาจารย์ก็พากลับมาอัพเดทสถานการณ์ฝั่งเซโด ได้เห็นบรรยากาศการฝึกที่น่าคิดถึง ช่วงเวลาการฝึกของเซโดเป็นอะไรที่ฮีลจิตใจแอดที่สุดแล้ว เพราะแอดรู้สึกเหมือนตัวเองได้ผ่อนคลายจากการเชียร์เหล่าน้องๆ ของแอด ได้เห็นซาวามูระฝึกตีลูกซึ่งเริ่มโดนเป็นปลื้มมาก ได้เห็นคาเนมารุพูดกระตุ้นรุ่นน้อง ตรงนี้แอดชอบมาก เอาจริงๆ แอดขอเดาไว้ก่อนนะ แอดรู้สึกได้ว่าคาเนมารุเหมาะแก่การเป็นกัปตันมาก ราศีนางได้นะ กล้าพูดกล้าดุ ทั้งเพื่อนทั้งรุ่นน้อง แถมยังคอยดูแลเจ้าพวกบ้าอย่างเอจุนคุงกับฟุรุยะ เราเชียร์คาเนมารุนะถ้าต้องเลือกใครสักคนเป็นกัปตัน
ทุกคนยังจำรายชื่อน้องใหม่ที่แอดบอกว่าพวกน้องมีของได้ไหม ในเล่มนี้น้องได้โชว์ของจริงๆ เว้ย และทุกคนคือทำได้ดีมาก แอดเห็นแล้วคืนขนลุก พวกเด็กใหม่ปีที่แล้วยังไม่เก่งเท่าน้องปีนี้เลยจริงๆ เด็กใหม่ปีนี้คือไปไกลมาก
เราว่าเนื้อเรื่องเล่มนี้ไปเร็วพอสมควรนะๆ แปปๆ ก็พาไปถึงการแข่งรอบต่อไปแล้ว ในรอบนี้ฟุรุยะได้ขว้าง และแอดก็ได้เห็นบางอย่างคือการขว้างของฟุรุยะที่มันดูแปลกๆ และไม่ค่อยน่ากลัว ฟุรุยะคือดูดรอปลงมาก การแข่งรอบนี้ก็มีเจ้าเด็กใหม่ 2 คน ได้เข้าทีมคือ ยุย และ ยูกิ ตรงนี้แอดเซอร์ไพรส์มากนะ ไม่คิดว่าจะเป็น 2 คนนี้ ยูกิอะไม่เท่าไร แต่เจ้าหนูยุยคือตะลึงมาก อาจด้วยเพราะอาจารย์กล่าวถึงน้อยมาก น้องไม่ค่อยมีซีนแอดเลยไม่ค่อยได้โฟกัสกับน้อง แต่หลังจากนี้คงต้องจับตามองแล้วแหละ ไม่ธรรมดามาก
และช่วงท้ายเล่มเป็นอะไรที่พีคและตลกมาก น้องใหม่ที่ชื่อ โอคุมูระ โคชู นางด่าเอจุนคุงเว้ย 55555+ ตลกจริงอันนี้ เอจุนคุงลูกแม่คือไปไม่เป็นเลยอะ โกรธเกรี้ยวและสู้ไม่ได้ถึงขนาดต้องไปฟ้องมิยูกิ ตลกสุด น้องโคชูที่มีกลิ่นเป็นแคชเชอร์รุ่นต่อไปในอนาคตเล่นไม่ถูกกันกับเอจุนคุงตั้งแต่เข้าทีมบันเทิงอะบอกเลย
ปิดท้ายเล่มด้วยการแข่งขันรอบ 8 ทีม กับ คาสุงะอิจิ ทีมจากฝั่งโตเกียวตะวันออก ฟุรุยะไม่ได้ลงขว้างคนแรกเพราะเขาดูแปลกๆ ขอโทษนะฟุรุยะที่แอดแอบดีใจ ก็ฉันเมนน้องเอจุนอะ ในรอบนี้น้องได้ลงคนแรก แม่ปลื้มมากลูก และแอดก็ฟินมากเมื่อน้องขว้างได้ดีจนมิยูกิยังชม และทั้งคู่ก็เหมือนกำลังจะลองของใหม่ที่เอจุนคุงฝึกมาด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดสุดบอกเลย ปิดท้ายด้วยยูกิที่ลงตีลูกเป็นครั้งแรกในการแข่งขัน และก็ทำเราทั้งพีคทั้งตลกได้ในครั้งเดียวเพราะอะไรเราว่าทุกคนควรลองอ่านหรือดูอนิเมะดูนะ
และนั่นคือเรื่องราวและความรู้สึกทั้งหมดหลังจากได้อ่าน act II ทั้ง 3 เล่ม
เอาจริงๆ แอดเองเคยตามอ่านแปลไทยตอนที่ยังไม่ถูกตีพิมพ์มาก่อน ก็เลยกลายเป็นอ่านล่วงหน้าจากเล่ม 3 ไปไกลแล้ว แถมดูอนิเมะภาคใหม่ไปไกลแล้วเหมือนกัน แต่แอดยึคความรู้สึกตอนอ่านครั้งแรกมาเขียนในบทความนี้ แต่ถ้าพูดในฐานะคนที่วนอ่านมาแล้วหลายรอบก็ยังรู้สึกว่ามันทำให้หัวใจแอดมีความสุขทุกครั้งเหมือนเดิม ยิ่งเป็นหนังสือที่จับต้องได้ เวลาเบื่อๆ หรือไม่มีอะไรทำ แอดก็มักจะหยิบน้องมาอ่านตลอด ทุกวันนี้แอดยังย้อนกลับไปดูอนิเมะด้วยแทบทุกตอน วนดูมาแล้วเป็นสิบรอบ ความรู้สึกก็ยังคงเหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วย
สรุปสุดท้าย ใครที่ชอบมังงะหรืออนิเมะแนวกีฬา แอดว่าเรื่องนี้ควรค่าแก่การเก็บมากจริงๆ มันมีคุณค่าและสอนอะไรหลายๆ อย่างที่แอดรู้สึกว่าตัวคุณต้องลองหามาเสพเองถึงจะเข้าใจ เพราะสำหรับตัวแอด การ์ตูนเรื่องนี้มันเปิดโลกกให้แอดหลายอย่างมาก ตัวแอดจากตอนแรกที่ไม่เข้าใจและไม่รู้จักกีฬาเบสบอลเลย ตอนนี้ให้ลองพูดศัพท์เบสบอลมา แอดอธิบายได้หมด ไหนจะยังเรื่องของความพยายาม การไม่ย่อท้อต่อเป้าหมาย การดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย การมีหัวใจนักสู้ การทำงานเป็นทีม มิตรภาพต่างๆ รายละเอียดมันเยอะมากจริงๆ ทุกคน ควรค่ายิ่งแก่การเสพ แอดให้เป็นการ์ตูนขึ้นหิ้งเรื่องหนึ่งในใจแอดเลย
เอาเป็นว่าดีไม่ดีทุกคนต้องลองด้วยตัวเองเนอะ แอดก็ขอจบการแชร์และแนะนำไว้ตรงนี้ เจอกับใหม่ครั้งหน้า ตอนที่เล่ม 4 ออก แอดจะมาแชร์อีกนะคะ ตั้งใจว่าจะทำเป็นซีรี่ย์ Ace of Diamond เลย ดังนั้นก็อยู่ด้วยกันไปยาวๆ น้า
ใครที่มีความรู้สึกอะไรยังไงก็มาแชร์กันนะ เราชอบมากๆ ที่จะได้อ่านความคิดเห็นคนอื่นที่มีต่อการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะตัวเรารักเรื่องนี้มากๆ มาแชร์กันนะ
ทุกคนยังจำรายชื่อน้องใหม่ที่แอดบอกว่าพวกน้องมีของได้ไหม ในเล่มนี้น้องได้โชว์ของจริงๆ เว้ย และทุกคนคือทำได้ดีมาก แอดเห็นแล้วคืนขนลุก พวกเด็กใหม่ปีที่แล้วยังไม่เก่งเท่าน้องปีนี้เลยจริงๆ เด็กใหม่ปีนี้คือไปไกลมาก
เราว่าเนื้อเรื่องเล่มนี้ไปเร็วพอสมควรนะๆ แปปๆ ก็พาไปถึงการแข่งรอบต่อไปแล้ว ในรอบนี้ฟุรุยะได้ขว้าง และแอดก็ได้เห็นบางอย่างคือการขว้างของฟุรุยะที่มันดูแปลกๆ และไม่ค่อยน่ากลัว ฟุรุยะคือดูดรอปลงมาก การแข่งรอบนี้ก็มีเจ้าเด็กใหม่ 2 คน ได้เข้าทีมคือ ยุย และ ยูกิ ตรงนี้แอดเซอร์ไพรส์มากนะ ไม่คิดว่าจะเป็น 2 คนนี้ ยูกิอะไม่เท่าไร แต่เจ้าหนูยุยคือตะลึงมาก อาจด้วยเพราะอาจารย์กล่าวถึงน้อยมาก น้องไม่ค่อยมีซีนแอดเลยไม่ค่อยได้โฟกัสกับน้อง แต่หลังจากนี้คงต้องจับตามองแล้วแหละ ไม่ธรรมดามาก
และช่วงท้ายเล่มเป็นอะไรที่พีคและตลกมาก น้องใหม่ที่ชื่อ โอคุมูระ โคชู นางด่าเอจุนคุงเว้ย 55555+ ตลกจริงอันนี้ เอจุนคุงลูกแม่คือไปไม่เป็นเลยอะ โกรธเกรี้ยวและสู้ไม่ได้ถึงขนาดต้องไปฟ้องมิยูกิ ตลกสุด น้องโคชูที่มีกลิ่นเป็นแคชเชอร์รุ่นต่อไปในอนาคตเล่นไม่ถูกกันกับเอจุนคุงตั้งแต่เข้าทีมบันเทิงอะบอกเลย
ปิดท้ายเล่มด้วยการแข่งขันรอบ 8 ทีม กับ คาสุงะอิจิ ทีมจากฝั่งโตเกียวตะวันออก ฟุรุยะไม่ได้ลงขว้างคนแรกเพราะเขาดูแปลกๆ ขอโทษนะฟุรุยะที่แอดแอบดีใจ ก็ฉันเมนน้องเอจุนอะ ในรอบนี้น้องได้ลงคนแรก แม่ปลื้มมากลูก และแอดก็ฟินมากเมื่อน้องขว้างได้ดีจนมิยูกิยังชม และทั้งคู่ก็เหมือนกำลังจะลองของใหม่ที่เอจุนคุงฝึกมาด้วย กรี๊ดดดดดดดดดดสุดบอกเลย ปิดท้ายด้วยยูกิที่ลงตีลูกเป็นครั้งแรกในการแข่งขัน และก็ทำเราทั้งพีคทั้งตลกได้ในครั้งเดียวเพราะอะไรเราว่าทุกคนควรลองอ่านหรือดูอนิเมะดูนะ
และนั่นคือเรื่องราวและความรู้สึกทั้งหมดหลังจากได้อ่าน act II ทั้ง 3 เล่ม
เอาจริงๆ แอดเองเคยตามอ่านแปลไทยตอนที่ยังไม่ถูกตีพิมพ์มาก่อน ก็เลยกลายเป็นอ่านล่วงหน้าจากเล่ม 3 ไปไกลแล้ว แถมดูอนิเมะภาคใหม่ไปไกลแล้วเหมือนกัน แต่แอดยึคความรู้สึกตอนอ่านครั้งแรกมาเขียนในบทความนี้ แต่ถ้าพูดในฐานะคนที่วนอ่านมาแล้วหลายรอบก็ยังรู้สึกว่ามันทำให้หัวใจแอดมีความสุขทุกครั้งเหมือนเดิม ยิ่งเป็นหนังสือที่จับต้องได้ เวลาเบื่อๆ หรือไม่มีอะไรทำ แอดก็มักจะหยิบน้องมาอ่านตลอด ทุกวันนี้แอดยังย้อนกลับไปดูอนิเมะด้วยแทบทุกตอน วนดูมาแล้วเป็นสิบรอบ ความรู้สึกก็ยังคงเหมือนเดิมหรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วย
สรุปสุดท้าย ใครที่ชอบมังงะหรืออนิเมะแนวกีฬา แอดว่าเรื่องนี้ควรค่าแก่การเก็บมากจริงๆ มันมีคุณค่าและสอนอะไรหลายๆ อย่างที่แอดรู้สึกว่าตัวคุณต้องลองหามาเสพเองถึงจะเข้าใจ เพราะสำหรับตัวแอด การ์ตูนเรื่องนี้มันเปิดโลกกให้แอดหลายอย่างมาก ตัวแอดจากตอนแรกที่ไม่เข้าใจและไม่รู้จักกีฬาเบสบอลเลย ตอนนี้ให้ลองพูดศัพท์เบสบอลมา แอดอธิบายได้หมด ไหนจะยังเรื่องของความพยายาม การไม่ย่อท้อต่อเป้าหมาย การดูแลตัวเอง การออกกำลังกาย การมีหัวใจนักสู้ การทำงานเป็นทีม มิตรภาพต่างๆ รายละเอียดมันเยอะมากจริงๆ ทุกคน ควรค่ายิ่งแก่การเสพ แอดให้เป็นการ์ตูนขึ้นหิ้งเรื่องหนึ่งในใจแอดเลย
เอาเป็นว่าดีไม่ดีทุกคนต้องลองด้วยตัวเองเนอะ แอดก็ขอจบการแชร์และแนะนำไว้ตรงนี้ เจอกับใหม่ครั้งหน้า ตอนที่เล่ม 4 ออก แอดจะมาแชร์อีกนะคะ ตั้งใจว่าจะทำเป็นซีรี่ย์ Ace of Diamond เลย ดังนั้นก็อยู่ด้วยกันไปยาวๆ น้า
ใครที่มีความรู้สึกอะไรยังไงก็มาแชร์กันนะ เราชอบมากๆ ที่จะได้อ่านความคิดเห็นคนอื่นที่มีต่อการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะตัวเรารักเรื่องนี้มากๆ มาแชร์กันนะ
แสดงความคิดเห็น
Ace of Diamond act II [ เล่ม 1-3 ] อ่านแล้วมาแชร์กัน (มีสปอยด์)
Ace of Diamond act II [ เล่ม 1-3 ]
อ่านแล้วมาแชร์ความรู้สึกกัน
คำเตือน เนื้อหามีการสปอยด์ ผู้อ่านท่านใดไม่ชื่นชอบการสปอยด์ แนะนำให้อ่านมาก่อนนะคะ
แปลไทยและจัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์
Ace of Diamond เป็นเรื่องราวของเด็กหนุ่มที่มีชื่อว่า ซาวามูระ เอจุน ในช่วง ม. ต้น เขาเล่นเบสบอลท้องถิ่นกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่โรงเรียน เขาเล่นเป็น พิชเชอร์ (ตัวขว้าง) และเป็นเอสของทีม เป็นกัปตันทีม เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจและคอยสร้างบรรยากาศต่างๆ ในทีม เขาเป็นพิชเชอร์ที่ขว้างลูกด้วยมือซ้าย เป็นลูกมูฟวิ่งบอลที่ทำให้บอลเคลื่อนที่ไร้ทิศทาง ทำให้แบตเตอร์ (ตัวตี) จับทางลูกได้ยาก และด้วยความโดดเด่นแบบนี้ของเขา ทำให้มีคนมาทาบทามให้เอจุนเข้าทีมเบสบอล ม. ปลายของเซโด ซึ่งเป็นโรงเรียนดังและมีชื่อเสียงด้านเบสบอลในโตเกียว
ในตอนแรกตัวเอจุนนั้นปฏิเสธ เพราะเขาอยากที่จะเล่นเบสบอลกับเพื่อนๆ และไม่อยากทิ้งเพื่อนเอาไว้ แต่แล้วเขาก็ต้องเปลี่ยนความตั้งใจของตัวเองในตอนแรก เมื่อได้ลองไปทัศนศึกษาทีมเบสบอลเซโดที่โตเกียว เขาค้นพบบางสิ่งบางอย่างที่นี่ ตัวเขาเลยตัดสินใจเข้าเรียนที่โรงเรียนเซโดในฐานะนักกีฬาเบสบอล
และนั่นคือเรื่องย่อคร่าวๆ ของมังงะเรื่องนี้ จริงๆ เรียกเรื่องย่อไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะเนื้อหาของมังงะเรื่องนี้ดำเนินมาไกลมากแล้ว
มังงะภาคแรก จะพูดถึงตอนที่ ซาวามูระ เอจุน อยู่ปี 1 (ม.4) ซึ่งก็จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางการเป็นนักกีฬาเบสบอลของเขา โดยที่เป้าหมายของเอจุนนั้นคือการเป็นเอส แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เอจุนต้องเจอกับเหล่าผู้เล่นที่มีทั้ง ทักษะ ร่างกาย และพรสวรรค์ที่เหนือกว่าตัวเขาอีกหลายขุม ไหนยังจะต้องแข่งกับพิชเชอร์ปีเดียวกันอย่าง ฟุรุยะ ซาโตรุ ที่ขว้างลูกฟาสบอลที่เร็วและแรง ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดของเอจุนด้วย
เอาจริงๆ เนื้อหาภาคแรกมันมีรายละเอียดยิบย่อยเยอะมาก ซึ่งแอดไม่สามารถเล่าให้จบในบทความเดียวได้เพราะเดี๋ยวจะยาวเกินไป ที่พิมพ์มานี้ก็ยาวโคตรๆ แล้ว เอาเป็นว่าแอดแนะนำอย่างยิ่งที่อยากจะให้ทุกคนไปหาชมหรือหามาอ่านกัน แอดเสียน้ำตาไปเยอะมากกับเรื่องนี้
เสียน้ำตา? ทุกคนอาจจะงงว่าแค่การ์ตูนกีฬาต้องขนาดนั้นเลยหรอ? แต่เชื่อแอดเถอะค่ะว่าทุกคนจะอินจริง เนื้อเรื่องมันจะพาเราฝึกฝนไปพร้อมๆ กับตัวละคร ผ่านอุปสรรคผ่านบททดสอบไปด้วยกัน ตอนที่ทีมชนะเราก็จะดีใจโคตร แต่พอทีมแพ้เราก็จะเสียใจโคตรๆ ประหนึ่งว่าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
ช่วงแชร์ความรู้สึกเกี่ยวกับภาคแรก
บอกตรงๆ ตอนแรกแอดไม่เคยนึกสนใจการ์ตูนกีฬามาก่อนเลย โดยเฉพาะเบสบอลแอดโคตรไม่อิน ด้วยความที่ว่ากีฬาเบสบอลคนไทยอย่างเราไม่ค่อยเล่น ไม่ค่อยคุ้นเคย แอดเลยเฉยๆ มากๆ เวลาพูดถึงเรื่องเบสบอล กลับกันแอดจะอินกับพวกบาสเก็ตบอลมากกว่า เพราะด้วยความที่แอดเป็นชะนีก็มักจะมีมายด์เซตว่าผู้ที่เล่นบาสนั้นหล่อ แอดเลยดูอนิเมะกีฬาเรื่องหนึ่งคือ คุโรโกะโนะ บาสเก็ต ถ้าใครรู้จักก็คงจะรู้ใช่ไหมว่าอนิเมะเรื่องนี้คือดีมากแม่ ซึ่งหลังจากดูจบแอดก็รู้สึกว่า เฮ้ย!! ทำไมการ์ตูนกีฬามันดีจัง
และจุดเริ่มต้นจากตรงนั้นทำให้แอดหาอนิเมะกีฬาดูเยอะขึ้น จนกระทั่งถึงจุดอิ่มตัวที่ไม่รู้จะดูอะไรดีก็เลยมาเจอเข้ากับ Ace of Diamond ที่อยู่ในหมวดอนิเมะกีฬา
ซึ่งก่อนจะดูเมะเรื่องนี้ แอดแอบมีอคติกับมันด้วยนะว่ากีฬาแบบนี้มันจะมีอะไรให้เล่า มันจะดีจะสนุกเหมือนพวก บาส วอลเล่ย์ หรือฟุตบอลยังไง แต่ก็เอาเถอะ ไม่มีอะไรดูละ ลองหน่อยก็แล้วกัน
สรุปสุดท้าย… พีคจ๊ะแม่ ชะนีน้อยนางนี้ก็คือดูแบบข้ามวันข้ามคืนแทบไม่พัก มาราธอนหนักยิ่งกว่าซีรีย์เกาหลีบอกเลย คือเป็นเรื่องที่ดีมาก ดีแบบที่สุดจนแอดขอยกให้เป็นเบสมังงะ เบสอนิเมะ กีฬาอันดับ 1 ในดวงใจของแอดเลย รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆ ที่มีบุญวาสนามาเจอกับเรื่องนี้
และเมนผู้ชายของแอดในเรื่องนี้ก็คือ ซาวามูระ เอจุน แต่แอดจะชอบเรียกน้องว่า เอจุนคุง น้องอยู่ในโพลูกของแอดเอง และน้องก็คือบุคคลที่ทำให้แอดเสียน้ำตาเยอะมาก คือเนื้อเรื่องภาคแรกอะ คือดราม่าโคตรๆ ใครที่อ่านหรือดูมาแล้วจะเข้าใจ แล้วใครที่เชียร์น้องแบบเรา บางทีเวลาเห็นน้องถูกกระทำหรือโดนตัดกำลังใจ จะคิดอยู่ตลอดเวลาเลยว่า อาจารย์คนเขียนคือโกรธอะไรน้องรึเปล่า ทำร้ายน้องจัง เชื่อเราดิต้องมีคนคิดแบบเดียวกัน คือมันน้อยใจ มันเสียใจ โอเคแหละว่าน้องมักได้เป็นฮีโร่ในช็อตสำคัญ ช่วยทีมได้ในช่วงสำคัญๆ แต่มันเหมือนถูกตบหัวแล้วลูบหลังอะ แกล้งกันเสร็จแล้วก็มาโยนให้ดีใจ แล้วก็กลับไปแกล้งต่อ บอกตรงๆ ตอนแรกที่มังงะภาค 2 ยังไม่ออกนะ แอดที่คอยตามอยู่คิดมากตลอดเวลาเลยว่าเอจุนคุงลูกแม่จะมีโอกาสได้โชว์เทพไหม จะมีวาสนาได้เป็นเอสเปล่าน้า จะมีวันได้ขึ้นไปยืนบนเนินด้วยหมายเลขเสื้อเบอร์ 1 ไหมน้า ซึ่งส่วนที่เสียน้ำตาให้เอจุนคุงไปนั้นมากยิ่งกว่าเสียให้พระเอกซีรีย์อีกบอกเลย ชีวิตนี้ไม่เคยเสียน้ำตาให้ใครเท่านี้มาก่อน รักมากแหละดูออก
เอาเป็นว่าเรื่องราวของภาคแรกเราจะแชร์กันไว้เท่านี้ เพราะสาธยายมากกว่านี้เล่าวันเดียวก็ไม่จบ
จุดประสงค์หลักของการตั้งโพสต์นี้จริงๆ แล้ว เพื่อที่จะมาแชร์ความรู้สึกหลังจากได้อ่าน Ace of Diamond act II เล่ม 1-3 หลังจากที่รอคอยมาเนิ่นนานก็มีแบบแปลไทยที่ถูกลิขสิทธิ์ตีพิมพ์ออกมาแล้วนะค่ะ
กราบขอบพระคุณสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์จริงๆ ที่ยังไม่ทิ้งเรื่องนี้นะ ตอนแรกยังกังวลอยู่ว่าจะมีรวมเล่มแปลไทยไหม พอได้ข่าวว่ามีคือคือดีใจมาก เก็นตังค์รอตั้งแต่ตอนนั้นเลยจริงๆ และเมื่อหนังสือออกมาแล้วก็ไม่ผิดหวังเลย
พูดถึงเรื่องปกก่อน ถ้าอ่านที่บทความท้ายเล่มเนี่ย อาจารย์ผู้เขียนเขาบอกไว้ว่า ถือโอกาสที่เอจุนขึ้น ปี 2 (ม.5) เปลี่ยนเลขบอกเล่มและหน้าปกใหม่ เพื่อถือเป็นการเริ่มต้นอะไรบางอย่าง เราในฐานะผู้บริโภคที่เสพงานอาจารย์มาขอบอกเลยว่าโอเคมาก ปกใหม่คือสวยสุด สวยลืม ลายเส้นสวยงามสบายตา มีสีสันและดูดีกว่าปกเก่ามาก ปกเก่าคือเชยมากสำหรับแอด แต่ก็ต้องเข้าใจอะนะเป็นปกที่ทำเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว มันก็เชยเป็นเรื่องปกติ
พูดถึงเนื้อเรื่อง ใน act II หรือภาค 2 เป็นตอนที่เหล่าตัวละครต่างๆ เลื่อนชั้นเรียน แน่นอนว่าเอจุนคุงของแอดก็อยู่ปี 2 กลายเป็นรุ่นพี่แล้ว โดยที่เปิดเรื่องเนี่ย อาจารย์ก็เขียนเรื่องราวต่อจากเล่มก่อน ที่ทีมเบสบอลเซโดเอาชนะการแข่งขันจังหวัดโตเกียวเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีที่แล้ว ทำให้ผ่านการคัดเลือกมาแข่งที่โคชิเองฤดูใบไม้ผลิหรือที่เรียกว่า เซ็มบัทสึ เอาจริงๆ ในฐานะคนที่ตามอยู่อย่างแอดคือเซอร์ไพรส์นะที่เปิดมาคือแข่งในโคชิเองเลย นึกว่าจะต้องอยู่ปี 3 ซะอีกถึงจะได้ไปโคชิเอง แต่ขั้นกว่าของการเซอร์ไพรส์คือทัวร์นาเมนต์นี้จบไวมาก เพราะทีมเซโดแพ้ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แพ้ให้กับทีมที่มาจากจังหวัดฮอกไกโด (ตรงนี้เราแอบหัวร้อนนิดนึง เพราะเสียชื่อทีมตัวแทนโตเกียวมาก เซโด้วววววววว) แพ้กันตั้งแต่เล่ม 1 แพ้โดยที่ลูกรักของแอดไม่ได้โชว์โหดอะไรด้วยซ้ำ นี่คือการแกล้งกันที่แท้ทรูของอาจารย์อะเอาจริง แต่แอดก็เข้าใจได้นะ เพราะทีมที่พวกรุ่นพี่เพิ่งลาออกไปมันยังไม่เข้ารูปเข้ารอย ต้องฟอร์มทีมกันอีกเยอะเลย ที่เข้ามาถึงรอบลึกขนาดนี้ได้ส่วนใหญ่ก็อาศัยแรงใจกันล้วนๆ จะแพ้ก็ไม่แปลกจริงๆ
ในส่วนของเล่ม 2 บอกเลยว่าแอดกรี๊ดมาก อาจารย์เปิดตัวละครน้องปี 1 ที่เข้าชมรมมาใหม่ได้น่าสนใจทุกคน ไม่ว่าจะเป็นน้องชายของคุณเท็ตสึ อดีตกัปตันทีมเซโดอย่าง ยูกิ มาซาชิ , ยุย คาโอรุ ที่เล่นเป็นแคชเชอร์และกัปตันทีมตัวแทนญี่ปุ่นไปแข่งระดับโลกตอนม.ต้น!!! คุณคะ ระดับโลกเลยนะ หนูนึกยังไงมาเข้าเซโดเนี่ยลูก!! ตามมาด้วย เซโตะ ทาคุมะ เขาเล่นตำแหน่งเซคันด์เบส มาจากไดเกียวซีเนียร์ ซึ่งเป็นทีมดังจากจังหวัดคานางาวะ ตอนแอดเห็นครั้งแรกนะแอดเดาไว้เลยว่าเจ้าหนูคนนี้จะต้องมารับไม้ต่อจากคุณโย (คุราโมจิ โยอิจิ) แน่ๆ และกลายเป็นคู่หูคนต่อไปคู่กับฮารุจจี้ (โคมินาโตะ ฮารุอิจิ) แน่นอน กลิ่นมันได้ และสุดท้ายที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ โอคุมูระ โคชู จากไดเกียวซีเนียร์เช่นเดียวกัน น้องคนนี้นางเล่นตำแหน่งแคชเชอร์จ่ะแม่ และตอนพูดแนะนำตัวกับโค้ชนะ คุณขา น้องเขามีกลิ่นบางอย่างที่แอดสัมผัสได้ว่าเจ้าคนนี้แหละ แคชเชอร์คนต่อไปที่จะมารับไม้ต่อจากมิยูกิ จริงๆ ในเล่มมีแนะนำเด็กใหม่อีกหลายคนเลยนะ แต่เราจะขอพูดถึงแค่ตัวท็อปๆ ที่เคยเห็นหน้าในภาคแรกก็แล้วกัน ซึ่งตัวแอดขอบอกว่าปลื้มมากเลยนะที่ได้เด็กใหม่ที่ดูมีของกันขนาดนี้มาเข้าทีม ใจชื้นได้เปราะหนึ่งแล้วแหละว่าถ้าหมดยุคผู้เล่นดีๆ จากรุ่นมิยูกิ ก็มีน้องใหม่ที่พึ่งพาได้แน่นอน
แต่เหตุการณ์เล่ม 2 ยังไม่หมดเท่านั้นจ่ะ ทีมเซโดก็ลงแข่งขันเบสบอลฤดูการใหม่ทันที เป็นการแข่งขันช่วงฤดูใบไม้ผลิ เหล่ารุ่นพี่ต่างก็โชว์ฟอร์มการเล่นต่างๆ ที่ทำให้รุ่นน้องที่เพิ่งเข้าทีมมาใหม่ต่างประทับใจ หลังจากที่เราบ่นในเล่มที่แล้วว่าเอจุนคุงไม่ค่อยได้โชว์เลย เล่มนี้อาจารย์ก็จัดให้เต็มที่ด้วยการให้น้องโชว์ขว้างลูกตรงสุดแข็งแกร่งที่แม่นยำ บรรยากาศรอบตัวน้องตอนที่ขว้างลูกบนเนิน เราจะรู้สึกได้ทันทีเลยว่าตัวน้องนั้นเปลี่ยนไปจากปีที่แล้วมาก และอาจารย์ก็ยังคงพาไปเห็นสถานการณ์ของทีมอื่นที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน ทีมอิจิไดซังโค ที่ผ่านการแข่งขันรอบที่สาม สารภาพตามตรงจากความทรงจำแอด แอดจำทีมนี้ไม่ค่อยได้เท่าไรในภาคที่แล้ว เลยไม่รู้จะแชร์อะไรเกี่ยวกับทีมนี้
ต่อด้วยแมตท์ระหว่าง 2 ทีม ดังที่เราทุกคนเห็นชื่อต้องคันไม้คันมืออยากเรียกเซโดมาแข่งด้วยทุกครั้งอย่าง อินาชิโระจิสึเกียวที่ได้รอบรองชนะเลิศหน้าร้อนปีที่แล้ว พร้อมด้วยเอสที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคิงของโตเกียวอย่าง นารุมิยะเมย์ กับทีมยาคุชิ ที่ได้เข้าไปถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายเซ็มบัทสึ และทุกคนต้องรู้ดีว่าทีมนี้มีแบตเตอร์สัตว์ประหลาดที่ตีลูกเก่งอย่าง โทโดโรกิ ไรจิ อื้อหือออออ 2 ทีมโหดที่สร้างน้ำตาเป็นปี๊ปให้แอดในปีที่แล้วมาเจอกันอะทุกคน นึกดูว่าจะมันส์ขนาดไหน