จุดที่แย่สุดอยู่ที่ตรงไหน
ถ้าจีนฟื้นกำลังการผลิตต่างๆในฐานะโรงงานของโลกจะเริ่มดีขึ้น
แต่ในขณะที่โรงงานของโลกเริ่มค่อยๆเปิดโรงงาน
จีนจะกล้ารับคนจากทั่วโลกที่เริ่มมีการระบาดหรือไม่
พูดง่ายๆคือ ตอนนี้ตัวเองหายแล้ว จะออกไปเดินเล่นรับเชื้อหรือเปล่า
เพราะอย่างที่ทราบโรคนี้มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก
และอีกอย่างโรงงานเปิดก็จริง แต่ก็ต้องการคำสั่งซื้อ
ถ้าโลกกำลังมีปัญหา การสั่งซื้อก็น่าจะยังไม่มาก
ในส่วนแรกคงยังได้อยู่เพราะขายเฉพาะในประเทศตัวเองก็คงรองรับกำลังการผลิตได้ระดับนึง
แต่ก็คงไม่ได้ใช้กำลังการผลิตเต็มประสิทธิภาพเหมือนก่อนหน้านี้
จุดที่แย่ที่สุด ก็น่าจะเป็นช่วงที่หลายๆประเทศเริ่มมาตรการกักกัน ตรวจเชื่อแบบแหตาถี่มากๆเหมือนที่พี่จีนทำเพื่อหยุดยั้งวงจรการแพร่ระบาด
ซึ่งจากที่ของพี่จีนทำ ก็เหมือนจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะกลับมาหายกัน
แต่กว่าแต่ละประเทศจะเริ่มมาตรการเด็ดขาดเหมือนจีนจะเกิดขึ้นตอนไหน
ประเทศที่เสรีมากๆจะยอมให้ทำเหมือนจีนมั้ย เดินไปคุยถึงหน้าบ้าน พวกนายต้องอยู่แต่ในบ้านนะห้ามออก ไม่เชื่อ จับล็อคจากด้านนอกไปเลย
คนในประเทศจะรับได้มั้ยถ้าโดนบังคับให้ใส่หน้ากากเวลาจะไปไหนก็ห้ามถอดเลย
ประเมินสถานการณ์ยังไง จีนดีขึ้นเรื่อยๆ แต่ทั่วโลกยังไม่จบ
ถ้าจีนฟื้นกำลังการผลิตต่างๆในฐานะโรงงานของโลกจะเริ่มดีขึ้น
แต่ในขณะที่โรงงานของโลกเริ่มค่อยๆเปิดโรงงาน
จีนจะกล้ารับคนจากทั่วโลกที่เริ่มมีการระบาดหรือไม่
พูดง่ายๆคือ ตอนนี้ตัวเองหายแล้ว จะออกไปเดินเล่นรับเชื้อหรือเปล่า
เพราะอย่างที่ทราบโรคนี้มีโอกาสเป็นซ้ำได้อีก
และอีกอย่างโรงงานเปิดก็จริง แต่ก็ต้องการคำสั่งซื้อ
ถ้าโลกกำลังมีปัญหา การสั่งซื้อก็น่าจะยังไม่มาก
ในส่วนแรกคงยังได้อยู่เพราะขายเฉพาะในประเทศตัวเองก็คงรองรับกำลังการผลิตได้ระดับนึง
แต่ก็คงไม่ได้ใช้กำลังการผลิตเต็มประสิทธิภาพเหมือนก่อนหน้านี้
จุดที่แย่ที่สุด ก็น่าจะเป็นช่วงที่หลายๆประเทศเริ่มมาตรการกักกัน ตรวจเชื่อแบบแหตาถี่มากๆเหมือนที่พี่จีนทำเพื่อหยุดยั้งวงจรการแพร่ระบาด
ซึ่งจากที่ของพี่จีนทำ ก็เหมือนจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนถึงจะกลับมาหายกัน
แต่กว่าแต่ละประเทศจะเริ่มมาตรการเด็ดขาดเหมือนจีนจะเกิดขึ้นตอนไหน
ประเทศที่เสรีมากๆจะยอมให้ทำเหมือนจีนมั้ย เดินไปคุยถึงหน้าบ้าน พวกนายต้องอยู่แต่ในบ้านนะห้ามออก ไม่เชื่อ จับล็อคจากด้านนอกไปเลย
คนในประเทศจะรับได้มั้ยถ้าโดนบังคับให้ใส่หน้ากากเวลาจะไปไหนก็ห้ามถอดเลย