*พิมพ์ผ่านมือถือ อาจมีคำตกหล่นหรือพิมพ์ผิดนะคะ
**เรียบเรียงคำไม่ค่อยเก่ง จะขออนุญาตเล่าแบบละเอียดเลยนะคะ (เราจับจุดที่จะเล่าไม่ถูกค่ะ)
***เพิ่งไปตัดแว่นมาค่ะ สายตาปัจจุบัน ขวาสั้น 800 เอียง 250 ซ้ายสั้น450 เอียง 300 ค่ะ
ปัจจุบันอายุ 30 ตัดแว่นมา 5 ครั้งแล้วค่ะ
แว่นตาอันที่1และ2 เราตัดตอนเรียนม.1กับม.ปลาย แว่นอันแรกที่ตัดสายตาสั้นประมาณ200 ใส่ได้ไม่ค่อยมีปัญหา ลอยๆนิดหน่อย แต่ไม่ได้ใส่ต่อเพราะญาติแกล้งเอาไปทิ้งขยะ แว่นอันที่2 สั้น400กับ250 และมีเอียงเพิ่มมา แต่ไม่ได้ใส่เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็น
แว่นอันที่3 ตัดตอนเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ค่าสายตาเรา 2 ข้างต่างกันค่อนข้างมาก ครั้งนี้เราพยายามใส่เพราะเวลานั่งเรียน ถ้าหลังห้องจะเห็นแบบเบลอมาก ต้องนั่งหน้าอย่างเดียว และเวลารอรถเมล์มามหาลัยจะมองไม่เห็นสายรถเมล์ ต้องรอให้รถมาใกล้ๆ พอมาใกล้ก็โบกไม่ทันละ แต่พอใส่แว่นจะมีอาการปวดหัว และเวลาเดินมันเดินจริงไม่ได้ กะระยะไม่ถูก(ต่างจากแว่นอันที่1และ2มาก) พยายามอยู่หลายเดือน เพราะใครๆก็บอกว่าใส่ๆไปจะชินเอง แต่ก็ไม่เห็นชินสักที เราก็เลิกใส่ไป ตอนนั้นคิดว่าแว่นเราตัดมาถูก คุณภาพอาจจะไม่ดีหรือเปล่า
พอเรียนจบ ตอนนี้เริ่มเหมือนคนหยิ่ง เจอคนยิ้มให้แต่ไม่ยิ้มตอบ เพราะถ้าระยะไกลเรามองเห็นแต่โครงหน้า ไม่เห็นรายละเอียดในใบหน้า ก็เลยตัดสินใจไปตัดกับโรงพยาบาลแถวๆเยาวราช (แว่นอันที่ 4) ตัดมาประมาณ 3,000 คุณหมอวัดแป๊บเดียว ให้ลองเลนส์แล้วลองเดิน มันก็โอเคนะคะ แต่พอใช้งานจริงมันอาการเหมือนแว่นอันที่3เลยค่ะ มันก็ใส่ไม่ได้อีกเหมือนเดิม ตอนนี้เราเริ่มหาข้อมูล จนมาเจอว่าเป็นเพราะสายตาเรา2ข้าง สั้นแตกต่างกันมากเกินไป เลยทำให้เกิดอาการปวด ซึ่งตอนนี้เรายังมองระยะใกล้ชัดอยู่ ก้ปล่อยปละละเลยไม่ใส่อีก
จนผ่านมา 7 ปี เพิ่งรู้สึกตัวว่าสายตาเรามันไม่โอเคแล้วนะ ที่ผ่านมาเรากินวิตามินและเลือกกินผักที่ช่วยบำรุงสายตา เพราะเคยอ่านเจอว่าสายตาสามารถกลับมาดีขึ้นได้จากการกิน เล่นมือถือน้อยลง ไม่เล่นในที่มืด และที่ทำให้รู้สึกว่าสายตาแย่จริงๆ คือไปดูหนัง นั่งแถวหน้าสุด แต่อ่านซับไม่เห็น เราเลยไปตัดกับเพื่อนบ้านที่บ้านอยู่ติดกัน ค่าสายตาก็คือตามข้างต้น 800กับ450 (ขอเสริมนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องที่ข้องใจมากๆค่ะ คือเราเคยไปคอมเมนท์ในโพสต์นึงเกี่ยวกับโลกของคนสายตาสั้น เราก็คอมเมนท์ประมาณว่า “ตอนนี้มองหน้าคนไม่ค่อยเห็น คนจะคิดว่าหยิ่งไหม สายตาสั้นมาก แต่ใส่แว่นแล้วปวดหัวจนใส่ไม่ได้ เพราะค่าสายตา 2 ข้าง ต่างกันเกือบครึ่ง” แล้วมีท่านนึงเข้ามาคอนเมนท์ตอบเราว่า เขาเป็นจักษุแพทย์ แล้วบอกว่า การที่เราใส่แว่นแล้วปวดหัว ไม่ใช่เพราะค่าสายตาที่ต่างกันหรอก แต่เป็นเพราะ ตอนตัดแว่น ไม่ได้วัดจุดโฟกัสต่างหากละ) ทีนี้เราก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนบ้านฟัง ซึ่งเขาก็มีการวัดจุดโฟกัสให้เราด้วย ส่วนค่าสายตาที่เขาจะตัดให้ข้างขวาที่สั้น 800 เขาตัดให้ที่ 650 และข้างซ้าย 450 ตามปกติ เขาบอกว่า เวลาเดินจะได้ไม่ลอย เราก็ลองเดินในร้าน มันก็ลอยนิดนึงแต่มันเดินได้ กะระยะได้
ครั้งนี้เราหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าจะต้องใส่แว่นให้ติดตาให้ได้เลย เพราะนับวันมันยิ่งสั้นลง เราคิดว่ามันต้องไม่มีปัญหาแน่ๆเพราะเขาวัดจุดโฟกัสแล้วนิ (ที่ผ่านมาไม่มีการวัด) แต่พอได้แว่น มันไม่เหมือนตอนลองค่ะ เวลาใส่จะรู้สึกว่าสิ่งที่เรามองมันเล็กลง เห็นชัดนะคะแต่เป็นภาพซ้อนและที่สำคัญคือมันเป็นภาพโค้ง ไม่ปวดหัวแต่ปวดจมูก ปวดขมับ รู้สึกจะอ้วก และเวลาใส่เดินกะระยะไม่ได้ สะดุดพื้นหน้าบ้านล้มเลยค่ะ ทีนี้เรามีจุดสังเกตว่า เวลาใส่แว่น เราลองปิดตาข้างขวา(สั้น800) แล้วข้างซ้ายเห็นชัด ไม่ลอย ไม่โค้ง แต่พอเปิดตา2ข้างปุ๊บก็อาการเดิม แล้วพอเราถอดแว่น ตาเราจะเบลอและปวดมาก ทุกวันนี้พยายามใส่วันละ1ชั่วโมง ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว เป็นอะไรที่ทรมานมากค่ะ เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิกแต่ติดที่เงิน คิดว่าอนาคตจะทำแน่ๆ แต่ตอนนี้ก็ต้องใส่แว่นไปก่อน เราอยากรู้ว่า
- สรุปอาการที่เราเป็นมันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ จุดโฟกัสก็วัดแล้ว ค่าวายตาที่ต่างกันผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่าไม่ใช่
- ถ้าเราไปตัดใหม่แล้วเอาเลนส์แบบเดียวกับข้างซ้าย คือใส่แค่ 450 ทั้ง2ข้างไปเลย มันจะเวิร์คไหมคะ?
- ถ้าเราใส่คอนแทคเลนส์ อาการจะเหมือนใส่แว่นไหมคะ?
ปล. เราไม่กล้าบอกเพื่อนบ้าน เพราะตอนไปตัดเขาลดให้เรา 50% ไม่กล้าจู้จี้กับเขา จริงๆเราไม่อยากทำอะไรกับคนรู้จักเพราะเวลามีปัญหา มันจะติดเรื่องเกรงใจแบบนี้แหละ แต่โดนสามียุเลยยอม
ขอบคุณมากค่ะ
ตัดแว่นมาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ ทำยังไงดีคะ? รายละเอียดยาวมาก ขอโทษล่วงหน้าค่ะ
**เรียบเรียงคำไม่ค่อยเก่ง จะขออนุญาตเล่าแบบละเอียดเลยนะคะ (เราจับจุดที่จะเล่าไม่ถูกค่ะ)
***เพิ่งไปตัดแว่นมาค่ะ สายตาปัจจุบัน ขวาสั้น 800 เอียง 250 ซ้ายสั้น450 เอียง 300 ค่ะ
ปัจจุบันอายุ 30 ตัดแว่นมา 5 ครั้งแล้วค่ะ
แว่นตาอันที่1และ2 เราตัดตอนเรียนม.1กับม.ปลาย แว่นอันแรกที่ตัดสายตาสั้นประมาณ200 ใส่ได้ไม่ค่อยมีปัญหา ลอยๆนิดหน่อย แต่ไม่ได้ใส่ต่อเพราะญาติแกล้งเอาไปทิ้งขยะ แว่นอันที่2 สั้น400กับ250 และมีเอียงเพิ่มมา แต่ไม่ได้ใส่เพราะรู้สึกว่าไม่จำเป็น
แว่นอันที่3 ตัดตอนเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนี้ค่าสายตาเรา 2 ข้างต่างกันค่อนข้างมาก ครั้งนี้เราพยายามใส่เพราะเวลานั่งเรียน ถ้าหลังห้องจะเห็นแบบเบลอมาก ต้องนั่งหน้าอย่างเดียว และเวลารอรถเมล์มามหาลัยจะมองไม่เห็นสายรถเมล์ ต้องรอให้รถมาใกล้ๆ พอมาใกล้ก็โบกไม่ทันละ แต่พอใส่แว่นจะมีอาการปวดหัว และเวลาเดินมันเดินจริงไม่ได้ กะระยะไม่ถูก(ต่างจากแว่นอันที่1และ2มาก) พยายามอยู่หลายเดือน เพราะใครๆก็บอกว่าใส่ๆไปจะชินเอง แต่ก็ไม่เห็นชินสักที เราก็เลิกใส่ไป ตอนนั้นคิดว่าแว่นเราตัดมาถูก คุณภาพอาจจะไม่ดีหรือเปล่า
พอเรียนจบ ตอนนี้เริ่มเหมือนคนหยิ่ง เจอคนยิ้มให้แต่ไม่ยิ้มตอบ เพราะถ้าระยะไกลเรามองเห็นแต่โครงหน้า ไม่เห็นรายละเอียดในใบหน้า ก็เลยตัดสินใจไปตัดกับโรงพยาบาลแถวๆเยาวราช (แว่นอันที่ 4) ตัดมาประมาณ 3,000 คุณหมอวัดแป๊บเดียว ให้ลองเลนส์แล้วลองเดิน มันก็โอเคนะคะ แต่พอใช้งานจริงมันอาการเหมือนแว่นอันที่3เลยค่ะ มันก็ใส่ไม่ได้อีกเหมือนเดิม ตอนนี้เราเริ่มหาข้อมูล จนมาเจอว่าเป็นเพราะสายตาเรา2ข้าง สั้นแตกต่างกันมากเกินไป เลยทำให้เกิดอาการปวด ซึ่งตอนนี้เรายังมองระยะใกล้ชัดอยู่ ก้ปล่อยปละละเลยไม่ใส่อีก
จนผ่านมา 7 ปี เพิ่งรู้สึกตัวว่าสายตาเรามันไม่โอเคแล้วนะ ที่ผ่านมาเรากินวิตามินและเลือกกินผักที่ช่วยบำรุงสายตา เพราะเคยอ่านเจอว่าสายตาสามารถกลับมาดีขึ้นได้จากการกิน เล่นมือถือน้อยลง ไม่เล่นในที่มืด และที่ทำให้รู้สึกว่าสายตาแย่จริงๆ คือไปดูหนัง นั่งแถวหน้าสุด แต่อ่านซับไม่เห็น เราเลยไปตัดกับเพื่อนบ้านที่บ้านอยู่ติดกัน ค่าสายตาก็คือตามข้างต้น 800กับ450 (ขอเสริมนิดนึงเกี่ยวกับเรื่องที่ข้องใจมากๆค่ะ คือเราเคยไปคอมเมนท์ในโพสต์นึงเกี่ยวกับโลกของคนสายตาสั้น เราก็คอมเมนท์ประมาณว่า “ตอนนี้มองหน้าคนไม่ค่อยเห็น คนจะคิดว่าหยิ่งไหม สายตาสั้นมาก แต่ใส่แว่นแล้วปวดหัวจนใส่ไม่ได้ เพราะค่าสายตา 2 ข้าง ต่างกันเกือบครึ่ง” แล้วมีท่านนึงเข้ามาคอนเมนท์ตอบเราว่า เขาเป็นจักษุแพทย์ แล้วบอกว่า การที่เราใส่แว่นแล้วปวดหัว ไม่ใช่เพราะค่าสายตาที่ต่างกันหรอก แต่เป็นเพราะ ตอนตัดแว่น ไม่ได้วัดจุดโฟกัสต่างหากละ) ทีนี้เราก็เลยเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนบ้านฟัง ซึ่งเขาก็มีการวัดจุดโฟกัสให้เราด้วย ส่วนค่าสายตาที่เขาจะตัดให้ข้างขวาที่สั้น 800 เขาตัดให้ที่ 650 และข้างซ้าย 450 ตามปกติ เขาบอกว่า เวลาเดินจะได้ไม่ลอย เราก็ลองเดินในร้าน มันก็ลอยนิดนึงแต่มันเดินได้ กะระยะได้
ครั้งนี้เราหมายมั่นปั้นมือไว้แล้วว่าจะต้องใส่แว่นให้ติดตาให้ได้เลย เพราะนับวันมันยิ่งสั้นลง เราคิดว่ามันต้องไม่มีปัญหาแน่ๆเพราะเขาวัดจุดโฟกัสแล้วนิ (ที่ผ่านมาไม่มีการวัด) แต่พอได้แว่น มันไม่เหมือนตอนลองค่ะ เวลาใส่จะรู้สึกว่าสิ่งที่เรามองมันเล็กลง เห็นชัดนะคะแต่เป็นภาพซ้อนและที่สำคัญคือมันเป็นภาพโค้ง ไม่ปวดหัวแต่ปวดจมูก ปวดขมับ รู้สึกจะอ้วก และเวลาใส่เดินกะระยะไม่ได้ สะดุดพื้นหน้าบ้านล้มเลยค่ะ ทีนี้เรามีจุดสังเกตว่า เวลาใส่แว่น เราลองปิดตาข้างขวา(สั้น800) แล้วข้างซ้ายเห็นชัด ไม่ลอย ไม่โค้ง แต่พอเปิดตา2ข้างปุ๊บก็อาการเดิม แล้วพอเราถอดแว่น ตาเราจะเบลอและปวดมาก ทุกวันนี้พยายามใส่วันละ1ชั่วโมง ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว เป็นอะไรที่ทรมานมากค่ะ เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเลสิกแต่ติดที่เงิน คิดว่าอนาคตจะทำแน่ๆ แต่ตอนนี้ก็ต้องใส่แว่นไปก่อน เราอยากรู้ว่า
- สรุปอาการที่เราเป็นมันเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ จุดโฟกัสก็วัดแล้ว ค่าวายตาที่ต่างกันผู้เชี่ยวชาญก็บอกว่าไม่ใช่
- ถ้าเราไปตัดใหม่แล้วเอาเลนส์แบบเดียวกับข้างซ้าย คือใส่แค่ 450 ทั้ง2ข้างไปเลย มันจะเวิร์คไหมคะ?
- ถ้าเราใส่คอนแทคเลนส์ อาการจะเหมือนใส่แว่นไหมคะ?
ปล. เราไม่กล้าบอกเพื่อนบ้าน เพราะตอนไปตัดเขาลดให้เรา 50% ไม่กล้าจู้จี้กับเขา จริงๆเราไม่อยากทำอะไรกับคนรู้จักเพราะเวลามีปัญหา มันจะติดเรื่องเกรงใจแบบนี้แหละ แต่โดนสามียุเลยยอม
ขอบคุณมากค่ะ