วันนี้เราจะมารีวิวเที่ยวญี่ปุ่นแบง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก การรีวิวครั้งนี้ เป็นการรีวิวครั้งแรกของเรา ตั้งแต่เที่ยวญี่ปุ่นมา เราไปเมื่อ 17-21 กพ 63 แต่ตอนนี้ จขกท
ก็กักตัวเอง 14 วันเพื่อรอดูอาการ ว่างๆ เลยมานั่งรีวิวเล่นๆ ให้เพื่อนได้อ่านกัน เผื่อใครอยากไปเมืองนี้แล้วคิดไม่ออกว่าจะไปยังงัย เริ่มต้นยังงัย
v
v
v
v
เรามาเริ่มกันเลย
เราเริ่มจากการจองตั๋วของ Air asia ซึ่งเราได้ตั๋วค่อนข้างถูกจากการจองข้ามเดือนข้ามปี เราแพลนว่าอยากไปดูซากุระที่ คาวาสึ ซึ่งมันจะบานก่อนใครๆ
ราวๆ วันที่ 15 เป็นต้นไป จนถึง ต้น มี.ค ช่วงกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟ แต่ตอนกลางคืนเราไม่ได้ออกมาดู เพราะที่พักมันอยู่บนเขา
ซึ่งการไปเมืองนี้เป็นการไปครั้งแรก เราหาข้อมูลได้นิดหน่อย จากคนที่ไปเที่ยวแล้วรีวิวเอาไว้ เราเลยไปค้างที่คาวาสึ 1 คืนแต่ก็ไม่ผิดหวัง
ที่พักสวยอยู่บนเขา อากาศดี เงียบสงบ มีออนเซนเล็กๆ ให้แช่
สนามบินดอนเมือง คนน้อยมากๆ ส่วนใหญ่จะเห็นคนไทยเที่ยวเยอะ คนจีนเบาบางมาก แต่ก็ดีนะ ปลอดโรค และก็มีฝรั่งนิดหน่อย
พอถึงสนามบิน นาริตะ คนก็น้อยเช่นกัน
จากนั้นก็ทำการ ซื้อ Jr Wide Pass
เราลงเครื่องถึงนาริตะ ก็ 19.45 กว่าจะผ่าน ตม รับกระเป๋า ก็ ปาไป 2 ทุ่มกว่า เราก็เลยยอมนั่ง สกายไลน์เนอร์แพงหน่อยเพื่อเข้าไปยังที่พัก
แต่บังเอิญว่า ตั๋วสกายไลน์เนอร์ มีขายบนเครื่อง เลยได้ราคาพิเศษ จากนั้นก็มารับ ตั๋ว ที่เคาน์เตอร์
เราจองที่พักไว้ที่ โรงแรม คินูย่า อูเอโน๊ะ ซึ่งหาง่ายมากๆ ค่ะ ขึ้นจาก สถานี Keisei line ก็เจอเลย
แต่โรงแรมค่อนข้างเก่ามาก ดีแค่ทำเลดี ไปไหนก็สะดวก ใกล้ตลาดอเมโยโก๊ะ สถานี Ueno ซึ่งสะดวกมากๆ และวันที่เราไป คนไทยก็พักเยอะเช่นกัน
หลังจากเราเข้าถึงที่พัก เก็บของและก็ไปเดินเล่น ค่าห้องที่เราจอกจาก Booking ในตอนแรกมันราคา 1600 กว่าบาท แต่ตอนหลังมันลดอีก
เราเลยยกเลิกและจองใหม่ได้ราคาที่ 1266 บาท/คืน
วันรุ่งขึ้นเราก็ไปจองที่นั่ง เพื่อไป เมืองคาวาสึ โดยการใช้ pass ใหญ่ที่ซื้อมา ( ราคาอยู่ที่ 10000 เยน มี vat อีก 10 %)
เราไปจอง รถไฟ สาย ltd.exp Odoriko เพื่อล๊อกที่นั่ง โดยต้องไปจองที่สถานีโตเกียว การนั่งจาก อูเอโน๊ะไปโตเกียวก็ง่ายๆ นั่งรถไฟ JR Yamanote Line ซึ่งก็ใช้ pass เดิมไม่ต้องจ่ายเงินซื้อตั๋วใหม่แต่อย่างใด ใช้เวลา ในการนั่งไป คาวาสึ ประมาณ 2 ชม.กว่าๆ ก็ถึงเมือง ติดทะเลที่ชื่อคาวาสึ เป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก
เราจองที่พักที่ คาวาสึไว้ 1 คืน อยากลองนอนต่างจังหวัดมากๆ ของญี่ปุ่นดู เราจองแบบไม่รู้เลยว่า โรงแรมที่นี่เป็นยังงัย อยู่ที่ไหน
จองแบบเดาสุ่ม แล้วชื่อโรงแรมนี้มันก็เด้งขึ้นมา Sunny All the way
จะเป็นโรงแรมก็ไม่ใช่ เป็นเหมือนกึ่งๆ เกสต์เฮ้าส์ แต่สวย เงียบ สงบ อากาศดีมากๆ ที่สำคัญ พนักงานที่อยู่ที่นั้น เป็นผู้หญิง อยู่กัน 2 คน
บริการดีมาก ดูแลเอาใจใส่
โรงแรมอยู่ไกลจากสถานี ไม่มาก เราจำเป็นต้องใช้บริการแท๊กซี่ญี่ปุ่น คุณลุงแท๊กซี่ก็น่ารัก ตอนแรกแกก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่แกก็หาจนเจอ
แกคงโทรถามศูนย์หละเราว่า ว่าไอ้เจ้า รร นี้อยู่ที่ไหน อยู่บนเขาอันเงียบสงบ แต่อย่าได้เดินลงมานะ เพราะมันไกลจากตลาด ไกลจากสถานีรถไฟอยู่พอสมควร อยู่แล้วอยู่เลย
แต่ในตัวที่พักมีอาหารการกินพร้อมมูล ไม่อด มีตู้กดน้ำ ตัว รร ตามรูปเลยค่ะ มีห้องพักไม่กี่ห้อง
อาหารอร่อยใช้ได้เลยที่เดียว โดยรวมแล้วดีมากๆ ทั้งบรรยากาศรอบๆ
เด่วเราจะพาไปดูซากุระสีชมพู บานสพรั่งรับลมเย็นๆ ริมทะเลกัน
หลังจาก check out เราก็กลับเข้าโตเกียวไปเที่ยวรอบๆ แต่ก็ไม่ได้เยอะเพราะมาถึงโตเกียวก็ 4 โมงเย็นละ หลังจากนั้นก็ไปเที่ยววัดอาซากุสะ
วันรุ่งขึ้นเราก็ไป ยูซาวะ เพื่อจะได้เจอกับหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิต
[SR] เที่ยวญี่ปุ่นดูซากุระ ที่คาวาสึก่อนใคร
ก็กักตัวเอง 14 วันเพื่อรอดูอาการ ว่างๆ เลยมานั่งรีวิวเล่นๆ ให้เพื่อนได้อ่านกัน เผื่อใครอยากไปเมืองนี้แล้วคิดไม่ออกว่าจะไปยังงัย เริ่มต้นยังงัย
v
v
v
v
เรามาเริ่มกันเลย
เราเริ่มจากการจองตั๋วของ Air asia ซึ่งเราได้ตั๋วค่อนข้างถูกจากการจองข้ามเดือนข้ามปี เราแพลนว่าอยากไปดูซากุระที่ คาวาสึ ซึ่งมันจะบานก่อนใครๆ
ราวๆ วันที่ 15 เป็นต้นไป จนถึง ต้น มี.ค ช่วงกลางคืนก็จะมีการเปิดไฟ แต่ตอนกลางคืนเราไม่ได้ออกมาดู เพราะที่พักมันอยู่บนเขา
ซึ่งการไปเมืองนี้เป็นการไปครั้งแรก เราหาข้อมูลได้นิดหน่อย จากคนที่ไปเที่ยวแล้วรีวิวเอาไว้ เราเลยไปค้างที่คาวาสึ 1 คืนแต่ก็ไม่ผิดหวัง
ที่พักสวยอยู่บนเขา อากาศดี เงียบสงบ มีออนเซนเล็กๆ ให้แช่
สนามบินดอนเมือง คนน้อยมากๆ ส่วนใหญ่จะเห็นคนไทยเที่ยวเยอะ คนจีนเบาบางมาก แต่ก็ดีนะ ปลอดโรค และก็มีฝรั่งนิดหน่อย
พอถึงสนามบิน นาริตะ คนก็น้อยเช่นกัน
จากนั้นก็ทำการ ซื้อ Jr Wide Pass
เราลงเครื่องถึงนาริตะ ก็ 19.45 กว่าจะผ่าน ตม รับกระเป๋า ก็ ปาไป 2 ทุ่มกว่า เราก็เลยยอมนั่ง สกายไลน์เนอร์แพงหน่อยเพื่อเข้าไปยังที่พัก
แต่บังเอิญว่า ตั๋วสกายไลน์เนอร์ มีขายบนเครื่อง เลยได้ราคาพิเศษ จากนั้นก็มารับ ตั๋ว ที่เคาน์เตอร์
เราจองที่พักไว้ที่ โรงแรม คินูย่า อูเอโน๊ะ ซึ่งหาง่ายมากๆ ค่ะ ขึ้นจาก สถานี Keisei line ก็เจอเลย
แต่โรงแรมค่อนข้างเก่ามาก ดีแค่ทำเลดี ไปไหนก็สะดวก ใกล้ตลาดอเมโยโก๊ะ สถานี Ueno ซึ่งสะดวกมากๆ และวันที่เราไป คนไทยก็พักเยอะเช่นกัน
หลังจากเราเข้าถึงที่พัก เก็บของและก็ไปเดินเล่น ค่าห้องที่เราจอกจาก Booking ในตอนแรกมันราคา 1600 กว่าบาท แต่ตอนหลังมันลดอีก
เราเลยยกเลิกและจองใหม่ได้ราคาที่ 1266 บาท/คืน
วันรุ่งขึ้นเราก็ไปจองที่นั่ง เพื่อไป เมืองคาวาสึ โดยการใช้ pass ใหญ่ที่ซื้อมา ( ราคาอยู่ที่ 10000 เยน มี vat อีก 10 %)
เราไปจอง รถไฟ สาย ltd.exp Odoriko เพื่อล๊อกที่นั่ง โดยต้องไปจองที่สถานีโตเกียว การนั่งจาก อูเอโน๊ะไปโตเกียวก็ง่ายๆ นั่งรถไฟ JR Yamanote Line ซึ่งก็ใช้ pass เดิมไม่ต้องจ่ายเงินซื้อตั๋วใหม่แต่อย่างใด ใช้เวลา ในการนั่งไป คาวาสึ ประมาณ 2 ชม.กว่าๆ ก็ถึงเมือง ติดทะเลที่ชื่อคาวาสึ เป็นเมืองเล็กๆ น่ารัก
เราจองที่พักที่ คาวาสึไว้ 1 คืน อยากลองนอนต่างจังหวัดมากๆ ของญี่ปุ่นดู เราจองแบบไม่รู้เลยว่า โรงแรมที่นี่เป็นยังงัย อยู่ที่ไหน
จองแบบเดาสุ่ม แล้วชื่อโรงแรมนี้มันก็เด้งขึ้นมา Sunny All the way
จะเป็นโรงแรมก็ไม่ใช่ เป็นเหมือนกึ่งๆ เกสต์เฮ้าส์ แต่สวย เงียบ สงบ อากาศดีมากๆ ที่สำคัญ พนักงานที่อยู่ที่นั้น เป็นผู้หญิง อยู่กัน 2 คน
บริการดีมาก ดูแลเอาใจใส่
โรงแรมอยู่ไกลจากสถานี ไม่มาก เราจำเป็นต้องใช้บริการแท๊กซี่ญี่ปุ่น คุณลุงแท๊กซี่ก็น่ารัก ตอนแรกแกก็ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน แต่แกก็หาจนเจอ
แกคงโทรถามศูนย์หละเราว่า ว่าไอ้เจ้า รร นี้อยู่ที่ไหน อยู่บนเขาอันเงียบสงบ แต่อย่าได้เดินลงมานะ เพราะมันไกลจากตลาด ไกลจากสถานีรถไฟอยู่พอสมควร อยู่แล้วอยู่เลย
แต่ในตัวที่พักมีอาหารการกินพร้อมมูล ไม่อด มีตู้กดน้ำ ตัว รร ตามรูปเลยค่ะ มีห้องพักไม่กี่ห้อง
อาหารอร่อยใช้ได้เลยที่เดียว โดยรวมแล้วดีมากๆ ทั้งบรรยากาศรอบๆ
เด่วเราจะพาไปดูซากุระสีชมพู บานสพรั่งรับลมเย็นๆ ริมทะเลกัน
หลังจาก check out เราก็กลับเข้าโตเกียวไปเที่ยวรอบๆ แต่ก็ไม่ได้เยอะเพราะมาถึงโตเกียวก็ 4 โมงเย็นละ หลังจากนั้นก็ไปเที่ยววัดอาซากุสะ
วันรุ่งขึ้นเราก็ไป ยูซาวะ เพื่อจะได้เจอกับหิมะเป็นครั้งแรกในชีวิต
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม