[CR] Ep.0 เตรียมตัวไปประเทศญี่ปุ่นชมซากุระครั้งแรกด้วยตัวเอง 2024

เราเองเป็นคนที่ชอบเปิดอัลบั้มภาพเก่าๆของคุณนายแม่และชอบฟังคุณนายแม่เม้าเรื่องสนุกๆตอนไปทำงานที่ญี่ปุ่น แล้วเราก็เก็บความสงสัยมาตลอดเลยว่า ประเทศญี่ปุ่นดีขนาดนั้นเลยหรอ?
พอโตขึ้นหน่อยก็ตามกระแสเนอะ เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น หาดูหาฟังหมด ถึงขั้นตั้งเพลง Come back tome - Utada Hikaru เป็นเพลงบนหน้า Hi5 ชอบมากกกก แล้วไม่ต้องถามถึงรายการท่องเที่ยวนะ ดูหมด ที่ชอบมากเป็นพิเศษคือรายการ สุโค่ย japan ของคุณฮิโระ และรายการหนังพาไป ของพี่บอลพี่ยอด ทางช่อง Thai PBS. เข้าขั้นถึงขนาดไปงานแฟนมีตติ้งหนังพาไป 555555

หลังจากทำงานแล้ว เราก็มีเป้าหมายเล็กๆที่แอบซ่อนอยู่ในใจอยู่เสมอ คือ การพาตัวเองออกสู่โลกกว้าง เราจึงคุยและวางแผนกับคุณปลาเพื่อเตรียมตัวไปต่างประเทศ ซึ่งคุณปลาเป็นคนเลือกประเทศได้ตรงใจเรามาก รายนั้นก็ฝันจะได้เห็นคุณฟูจิ เลยลองศึกษาดูว่ามีความเป็นไปได้มากแค่ไหนกับคนสองคนที่ไม่เคยออกนอกประเทศและพาสปอร์ตขาวจั๊วแบบเรา
เริ่มสิงตัวในกลุ่มท่องเที่ยว อ่านหนังสือท่องเที่ยวและดูยูทูปเป็นที่พึ่งของเรา เริ่มศึกษา อ่านและดูทุกวัน เพราะกังวลเรื่องภาษาและการเดินทางมากๆ จนมาถึงช่วงเวลาที่ต้องตัดสินใจแล้วว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ มันก็ยากที่จะถอดใจ เพราะเรามักจะนึกถึงคำสอนที่ลุงกับป้าสอนเสมอเลยว่า "ทางอยู่ที่ปาก ยากอยู่ที่ใจ" วินาทีที่กดจองตั๋วเครื่องบินและตัดเงินเรียบร้อย เป็นจุดที่ใจวูบวาบพอสมควร ต้องลุยอย่างเดียวแล้วหล่ะ

เริ่มวางแพลน ทริปซากุระ 2024 แบบเที่ยวเองกันเลยยย
1. จองตั๋วเครื่องบิน
เลือกจองสายการบิน Full Service กบท. เพราะรู้สึกว่าปลอดภัยทั้งการเดินทางและภาษาที่ใช้ ได้มาในราคา 24,XXX บาท เพราะเราเลือกกลับตอนเย็น ค่าตั๋วขากลับจึงแพงกว่ากลับในตอนเช้า
2. จองที่พัก
ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างยากเพราะช่วงที่ไปเป็นไฮซีซั่น ราคาเอาเรื่องเลย ดูรีวิวเยอะมากๆ จนได้ที่พักในราคาที่พอใจ โดยเราตั้งงบที่พักไว้ 2,500-3,000 บาท/คืน เน้นสะอาด และใกล้ JR Yamanote line
ที่พักคืนที่1-2 เราเลือกที่ Toyoko Inn สถานี Otsuka 2 ได้มาในราคา 24,000เยน/2คืน พร้อมอาหารเช้า ตีเป็นเงินไทยประมาณ 5,760/2คืน จองล่วงหน้าประมาณ 5 เดือน 
คืนที่ 3 เราเลือกพักที่ Plaza Inn Kawaguchiko ได้มาในราคา 11,000 เยน ตีเป็นเงินไทยประมาณ 2,640 ได้ห้องเตียงคู่ วิวฟูจิ จองล่วงหน้า 3 เดือนก่อนเดินทาง อยู่ตรงข้ามสถานีเลย เดินมาใกล้มาก ลากกระเป๋าข้ามถนนมาถึงที่พักเลย
และที่พักคืนที่ 4 เราเลือกพักที่ Hotel Resol Ueno ได้มาในราคา 17,000 เยน/คืน ตีเป็นเงินไทยประมาณ 4,000 บาท/คืน โรงแรมคืนสุดท้ายเกินงบที่ตั้งไว้ไปมาก เพราะอยากคืนสุดท้ายอยากพักโรงแรมที่ใกล้อูเอโนะและสบายๆ นิดนึง จองล่วงหน้าประมาณ 4-5 เดือน ที่สำคัญคือโรงแรมนี้เดินจากสถานีอูเอโนะมาใกล้มากเช่นกัน
3. ทำพาสปอร์ต
ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต โดยเลือกทำแบบ 10 ปี ในราคา 1,500 บาท เมื่อทำเสร็จแล้ว รอประมาณ 3-5 วัน ได้รับพาสปอร์ตแล้วจ้า
4. จองตั๋วรถไฟ รถบัส ต่างๆจากไทย
โดยเราซื้อตั๋ว Kiesei skyliner เฉพาะขาไปในแอป Klook ได้มาในราคา 521 บาท และจองตั๋วรถบัสไปคาวากูจิโกะไป-กลับ ในราคา 1,056 บาท โดยเราจะพยายามจองจากไทยไปเลย เพื่อที่จะได้ไม่วุ่นวายเมื่อไปถึงญี่ปุ่น
5. ซื้อประกันการเดินทาง
เราเลือกประกันการเดินทางของ Sompo เพราะหากป่วยหรือมีเรื่องไม่คาดคิด จะมีเจ้าหน้าที่ประสานงานและไม่ต้องสำรองจ่ายหากป่วยต้องเข้าโรงพยาบาล 
6. แลกเงินเยน
โดยเราจะพยายามเข้าไปส่องดูค่าเงิน หากเห็นว่าลดลงก็จะทยอยแลกเก็บไว้ หรือพอเงินเดือนออกก็จะแบ่งเติมเงินใส่ไปในบัตรเพื่อรอแลกเงินในวันที่เรตดี โดยในครั้งนี้เราแลกเงินสดติดตัวไป 30,000 เยน และแลกเงินไว้ในบัตร SCB Planet อีก 100,000 เยน โดยเรตที่เราได้ประมาณ 0.23-0.24 
7. การเปิดโรมมิ่งเครือข่ายมือถือ
เลือกเปิดโรมมิ่งกับเครือข่ายที่เราใช้ ได้มา 399/10 วัน โดย ais จะต้องแจ้งทางเครือข่ายก่อนว่าจะใช้บริการโรมมิ่งที่ต่างประเทศแล้วจะได้รับ sms ตอบกลับมา ถึงจะใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ ถ้าง่ายสุดก็ให้ไปที่ศูนย์บริการและให้เจ้าหน้าที่ดูแลให้เพราะหากมีข้อสงสัย ก็จะได้ถามให้เข้าใจ จะได้ไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน
8. แพลนการเดินทาง
อาศัยดูจากรีวิว กางแผนที่และดูความสนใจ ความชอบของตัวเอง แล้วพยายามจัดหมวดหมู่ให้ใน 1 วันสามารถเที่ยวย่านเดียวกันได้ จะได้ไม่เหนื่อยกับการเดินทาง โดยแพลนการเดินทางของเรามีดังนี้ค่ะ
9. ยาสามัญพื้นฐาน 1 กระสอบ
ยาที่จำเป็นโดยเฉพาะ ยาที่เกี่ยวกับท้องไส้ ทริปนี้อยู่ดีๆ คุณปลาเป็นกรดไหลย้อน ดีนะว่าเตรียมจากไทยไป พอได้กินยาไป 2 วันก็ดีขึ้น
10. บัตรทราเวลการ์ด
11. กระเป๋าเดินทาง
เราเลือกกระเป๋าเดินทางขนาด 25 นิ้ว ใบไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป เหมาะกับผู้หญิง พร้อมกับเอากระเป๋างอกไปด้วยอีก 2 ใบ
12. ขออนุญาตจากหน่วยงานต้นสังกัด 
13. ลง Visit Japan
ศึกษาจากยูทูป แต่เมื่อไปถึง ตม.ที่สนามบินนาริตะ กลับต้องไปต่อแถวเดียวกับคนที่ไม่ได้ลง visit japan แล้วเปิดแค่ 5 เคาท์เตอร์ ใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมง
14. เตรียมของใช้ที่จำเป็น
เช่น หัวแปลงปลั๊กไฟ ยาฉีดบรรเทาอาการปวด พาวเวอร์แบงค์ เครื่องชั่งน้ำหนักกระเป๋า ประมาณนี้

ซึ่งทุกอย่างนั้นเตรียมตัวนานมาก แต่ไม่เคยรู้สึกเหนื่อยหรือท้อเลยนะ ยิ่งตอนแพลนการเดินทางอ่ะ ชอบมากกกก รู้สึกเพ้อฝันดี 55555
เมื่อความกล้ามีมากกว่าความกลัว การเดินทางสุดท้าทายของเราสองคนก็ได้เริ่มต้นขึ้นกับประเทศญี่ปุ่น 2024   
ชื่อสินค้า:   ประเทศญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง โตเกียว คาวาคูจิโกะ
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่