จากกระทู้ก่อนที่เคยรีวิวเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dibea F20 Max ที่ได้รับการสนับสนุนมาจากทาง Autobot มาใช้งาน จากการใช้งานซักระยะรู้สึกว่าใช้งานได้ดี ถ้าเทียบกับราคาและเทียบกับสินค้ายี่ห้ออื่นที่มีขายอยู่ในตลาดตอนนี้ สำหรับผมถือว่ามันอยู่ในอันดับต้นๆเลยครับถ้าจะแนะนำให้เพื่อนๆซื้อมาใช้ (ซึ่งหลังจากผมทดลองใช้ ก็มีน้องๆในกลุ่มมาสอบถามไปหาซื้อมาใช้กัน 5-6 คน)
และถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนที่ผมเริ่มสนใจหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาใช้งาน หลังจากเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้าน ก็ได้หาเจ้า Xiaomi Roborock S50 มาใช้งาน 2 ตัว ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ใช้งานอยู่ ถึงแม้จะมีระบบถูพื้นด้วย แต่ก็เป็นการถูพื้นแบบลากผ่าน ซึ่งมันก็ช่วยให้พื้นสะอาดแค่ระดับหนึ่ง ผมยังต้องถูพื้นเองบ้าง พอได้รับการติดต่อรีวิวเจ้าตัว F20 Max ระหว่างหาข้อมูล เลยได้ไปเจอหุ่นยนต์ถูพื้นในเครือของ Autobot เป็นแบรนด์ Everybot ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี จึงลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า มันเป็นเครื่องราคาไม่แพงมาก ระดับไม่ถึงหมื่นบาท เป็นเครื่องถูพื้นแบบมีแรงกดลงไปบนพื้น ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดีกว่าแบบลากผ่าน ก็เลยลองหาจากเว็ปช็อปปิ้งต่างๆ เผื่อจะมีราคาโปรโมชั่นดีๆ
ราคาปกติที่หาเจอจะอยู่ราวๆ 6,990 บาท เคยเจอโปรอยู่ครั้งนึงมาอยู่ที่ราคาเกือบๆ 6 พันบาท แต่กดซื้อไม่ทันเพราะมาเห็นหลังหมดโปรไปแล้ว และจังหวะที่ดีก็มา เพราะเจอโฆษณาบน Fackbook เป็นโปรจากเว็ปช็อปปิ้งรายใหม่ที่ผมไม่เคยใช้คือ NocNoc.com ซึ่งเป็นโปร 27.28.29 คือซื้อสินค้าระหว่างวันที่วันที่ 27-29 กุมพาภันธ์ จะได้รับส่วนลด 30% แต่ต้องซื้อสินค้ามูลค่าตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
พอไปหาดูราคาเจ้าเครื่อง Everybot Edge ก็เห็นมันขายเป็นแพ็คคู่กันกับเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dibea F20 Max ในราคา 10,990 บาท และด้วยโปรบังคับให้ต้องซื้อเกิน 15,000 บาทถึงจะได้ส่วนลด 30% เลยถามน้องๆที่ยังหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dibea F20 Max อยู่ว่ามีใครยังต้องการอีกมั้ย ก็เลยรวมตัวกันมาสั่งได้ 2 ชุด ราคารวมเป็นเท่าไหร่ผมจำไม่ได้ เพราะลืมเซฟหน้าจอไว้ แต่ราคาที่ได้มาคือ 13,123.60 บาท ตกแล้วเหลือชุดละ 6,561.80 บาท ได้ Everybot Edge กับ Dibea F20 Max อย่างละเครื่อง
ผมได้รับสินค้าเร็วกว่ากำหนดคือได้รับเมื่อวันที่ 3 มีนาคม และเพิ่งเอามาลองใช้งานดู
ก่อนเปิดกล่อง เห็นสติกเกอร์ที่ปิดทับตรงลิ้นล็อคกล่องถูกตัดออก จึงไลน์ไปสอบถามกับทาง NocNoc.com ซึ่งแอดมินประสานงานกับผู้ขายและตอบกลับมาค่อนข้างเร็วมาก ได้คำตอบมาจากทางผู้ขายว่า สติกเกอร์ถูกกรีดออกเพราะทางบริษัทต้องติดสติกเกอร์การรับประกันที่ใต้ตัวเครื่อง ดังนั้น ถ้าใครสั่งสินค้าแล้วเจอแบบผม อย่าเพิ่งตกใจว่าของที่ได้รับเป็นตัวโชว์รึเปล่า หรือโดนหยิบชิ้นส่วนบางอย่างออกไปรึเปล่า ให้ลองสอบถามกลับไปที่ผู้ขายก่อน
เริ่มมาแกะกล่องกันดูเลย ตัวเครื่องแพ็คมาอย่างดีในกล่องขนาดไม่ใหญ่มาก
ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- หุ่นยนต์ถูพื้น Everybot Edge
- แท้งค์ใส่นำ้วงกลม 2 ชิ้น
- ผ้าม็อบไมโครไฟเบอร์เส้นหนา 1 คู่ (สีเทา)
- ผ้าม็อบไมโครไฟเบอร์เส้นบาง 1 คู่ (สีเขียว)
- คู่มือการใช้งาน
- รีโมท มาพร้อมแบตเตอรี่ AAA
- แปรงสำหรับขัดทำความสะอาดผ้าม็อบ
- สายชาร์จไฟ
ตัวเครื่องมีไฟอยู่เล็กน้อย จึงต้องทำการชาร์จไฟก่อน
ไฟแสดงสถานะบนเครื่องเมื่อเสียบชาร์จไฟจะเป็นสีเหลือง แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน จนเมื่อไฟดับจึงจะเป็นการชาร์จเต็ม
เวลาในการชาร์จไฟจนเต็ม ตามคู่มือแจ้งว่า 100 นาที ผมลืมจับเวลาว่าใช้เวลาชาร์จนานเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่าน่าจะราวๆนั้น
หลังจากทำการชาร์จไฟจนเต็มแล้ว ก็เริ่มมาใช้งานกันเลยครับ
เริ่มจากนำแท้งค์น้ำไปเติมน้ำให้เต็มทั้ง 2 อัน ติดแผ่นม็อบถูพื้นเข้าไป ผมใช้สีเทาเพราะจากการหาข้อมูลมา สีเทาเอาไว้ขจัดคราบได้ดีกว่า
(รูปนี้เซฟมาจากในอินเตอร์เน็ท)
การติดแท้งค์น้ำ ที่ใต้เครื่องจะมีจุดให้ล็อคแท้งค์น้ำเป็นรูป 6 เหลี่ยมอยู่ วางให้ตรงแล้วกดเข้าไปให้มันล็อคเลย
ใช้รีโทมในการสั่งงาน โดยลักษณะการทำงานจะมี 8 รูปแบบตามภาพด้านล่างครับ (ภาพนี้เซฟมาจากอินเตอร์เนท)
เนื่องจากเป็นเครื่องราคาไม่แพงมาก การสั่งงานจึงเป็นการสั่งทางรีโมท ไม่มีแอปสำหรับเชื่อมต่อ
ในคู่มือบอกว่า เครื่องสามารถทำงานได้ถึง 100 นาทีเมื่อชาร์จไฟเต็ม แต่จากการหาข้อมูล เห็นมีคนบอกว่าแท้งค์น้ำใช้งานได้ราวๆ 50 นาที ผมจึงลองแบบ 50 นาทีดูก่อน
มีถ่ายคลิปการทำงานไว้ แต่ผมใส่ในนี้ไม่เป็น
จากการสังเกตระหว่างการทำงาน จะเห็นว่า เครื่องเดินแบบสุ่ม ไม่ใช่เป็นแบบการทำแผนที่ และเสียงเครื่องค่อนข้างเงียบ ปล่อยให้มันเดินทำงานไปเรื่อยๆ จะไม่ค่อยได้ยินเสียงเลยแทบไม่รู้เลยว่ามันไปทำงานอยู่ตรงไหน พอทำงานจบ เครื่องจะร้องเตือน เป็นอันจบการทำงาน
หลังจากจบการทำงาน 50 นาทีแล้ว พอเอาแท้งค์น้ำมาดู จะเห็นว่าเหลือน้ำอยู่เพียงเล็กน้อย
สรุปโดยรวมแล้ว หุ่นยนต์ถูพื้น Everybot Edge ถูพื้นได้ดีในระดับที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวแล้ว ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าสำหรับผม
ตามความเห็นส่วนตัวของผม เครื่องนี้น่าจะเหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 60 ตารางเมตร หลังจากหักพวกเฟอร์นิเจอร์แล้ว พื้นที่ทำความสะอาดน่าจะเหลือไม่เกิน 40 ตารางเมตร ซึ่งเครื่องน่าจะเดินทำงานได้ครอบคลุมพอสมควร และเพราะเป็นการเดินแบบสุ่ม จึงไม่แนะนำให้ใช้สำหรับห้องหรือพื้นที่ขนาดใหญ่มาก
และด้วยเครื่องเป็นระบบแบบมีแรงกดลงไปบนผ้าถูพื้น และการทำงานแบบหมุนผ้าม็อบ จึงทำความสะอาดได้ดีกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบบมีผ้าถูพื้นที่การทำงานเป็นแบบการลากผ้าผ่านพื้น
หากต้องการความสะอาดเพิ่ม สามารถฉีดน้ำยาทำความสะอาดที่ม็อบผ้าได้
ไม่ควรเติมน้ำยาทำความสะอาดลงในแท้งค์น้ำ เพราะอาจทำให้ตัวฟิลเตอร์ที่ปล่อยน้ำจากแท้งค์สู่ม็อบผ้าเสียหายได้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านข้อมูลครับ
ถ้ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆมาลองใช้ จะพยายามเขียนรีวิวเพื่อให้คนที่กำลังอยู่ระหว่างหาสินค้านั้นๆได้มีข้อมูลในการตัดสินใจครับ
[CR] หุ่นยนต์ถูพื้น Evarybot Edge ผู้ช่วยตัวใหม่ ราคาไม่แพง
และถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนที่ผมเริ่มสนใจหาหุ่นยนต์ดูดฝุ่นมาใช้งาน หลังจากเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการทำความสะอาดบ้าน ก็ได้หาเจ้า Xiaomi Roborock S50 มาใช้งาน 2 ตัว ซึ่งปัจจุบันก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่ตอนนี้เริ่มรู้สึกว่า หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ใช้งานอยู่ ถึงแม้จะมีระบบถูพื้นด้วย แต่ก็เป็นการถูพื้นแบบลากผ่าน ซึ่งมันก็ช่วยให้พื้นสะอาดแค่ระดับหนึ่ง ผมยังต้องถูพื้นเองบ้าง พอได้รับการติดต่อรีวิวเจ้าตัว F20 Max ระหว่างหาข้อมูล เลยได้ไปเจอหุ่นยนต์ถูพื้นในเครือของ Autobot เป็นแบรนด์ Everybot ซึ่งเป็นสินค้าที่ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี จึงลองหาข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่า มันเป็นเครื่องราคาไม่แพงมาก ระดับไม่ถึงหมื่นบาท เป็นเครื่องถูพื้นแบบมีแรงกดลงไปบนพื้น ทำให้สามารถทำความสะอาดได้ดีกว่าแบบลากผ่าน ก็เลยลองหาจากเว็ปช็อปปิ้งต่างๆ เผื่อจะมีราคาโปรโมชั่นดีๆ
ราคาปกติที่หาเจอจะอยู่ราวๆ 6,990 บาท เคยเจอโปรอยู่ครั้งนึงมาอยู่ที่ราคาเกือบๆ 6 พันบาท แต่กดซื้อไม่ทันเพราะมาเห็นหลังหมดโปรไปแล้ว และจังหวะที่ดีก็มา เพราะเจอโฆษณาบน Fackbook เป็นโปรจากเว็ปช็อปปิ้งรายใหม่ที่ผมไม่เคยใช้คือ NocNoc.com ซึ่งเป็นโปร 27.28.29 คือซื้อสินค้าระหว่างวันที่วันที่ 27-29 กุมพาภันธ์ จะได้รับส่วนลด 30% แต่ต้องซื้อสินค้ามูลค่าตั้งแต่ 15,000 บาทขึ้นไป
พอไปหาดูราคาเจ้าเครื่อง Everybot Edge ก็เห็นมันขายเป็นแพ็คคู่กันกับเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dibea F20 Max ในราคา 10,990 บาท และด้วยโปรบังคับให้ต้องซื้อเกิน 15,000 บาทถึงจะได้ส่วนลด 30% เลยถามน้องๆที่ยังหาเครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dibea F20 Max อยู่ว่ามีใครยังต้องการอีกมั้ย ก็เลยรวมตัวกันมาสั่งได้ 2 ชุด ราคารวมเป็นเท่าไหร่ผมจำไม่ได้ เพราะลืมเซฟหน้าจอไว้ แต่ราคาที่ได้มาคือ 13,123.60 บาท ตกแล้วเหลือชุดละ 6,561.80 บาท ได้ Everybot Edge กับ Dibea F20 Max อย่างละเครื่อง
ผมได้รับสินค้าเร็วกว่ากำหนดคือได้รับเมื่อวันที่ 3 มีนาคม และเพิ่งเอามาลองใช้งานดู
ก่อนเปิดกล่อง เห็นสติกเกอร์ที่ปิดทับตรงลิ้นล็อคกล่องถูกตัดออก จึงไลน์ไปสอบถามกับทาง NocNoc.com ซึ่งแอดมินประสานงานกับผู้ขายและตอบกลับมาค่อนข้างเร็วมาก ได้คำตอบมาจากทางผู้ขายว่า สติกเกอร์ถูกกรีดออกเพราะทางบริษัทต้องติดสติกเกอร์การรับประกันที่ใต้ตัวเครื่อง ดังนั้น ถ้าใครสั่งสินค้าแล้วเจอแบบผม อย่าเพิ่งตกใจว่าของที่ได้รับเป็นตัวโชว์รึเปล่า หรือโดนหยิบชิ้นส่วนบางอย่างออกไปรึเปล่า ให้ลองสอบถามกลับไปที่ผู้ขายก่อน
เริ่มมาแกะกล่องกันดูเลย ตัวเครื่องแพ็คมาอย่างดีในกล่องขนาดไม่ใหญ่มาก
ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- หุ่นยนต์ถูพื้น Everybot Edge
- แท้งค์ใส่นำ้วงกลม 2 ชิ้น
- ผ้าม็อบไมโครไฟเบอร์เส้นหนา 1 คู่ (สีเทา)
- ผ้าม็อบไมโครไฟเบอร์เส้นบาง 1 คู่ (สีเขียว)
- คู่มือการใช้งาน
- รีโมท มาพร้อมแบตเตอรี่ AAA
- แปรงสำหรับขัดทำความสะอาดผ้าม็อบ
- สายชาร์จไฟ
ตัวเครื่องมีไฟอยู่เล็กน้อย จึงต้องทำการชาร์จไฟก่อน
ไฟแสดงสถานะบนเครื่องเมื่อเสียบชาร์จไฟจะเป็นสีเหลือง แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน จนเมื่อไฟดับจึงจะเป็นการชาร์จเต็ม
เวลาในการชาร์จไฟจนเต็ม ตามคู่มือแจ้งว่า 100 นาที ผมลืมจับเวลาว่าใช้เวลาชาร์จนานเท่าไหร่ แต่ก็รู้สึกว่าน่าจะราวๆนั้น
หลังจากทำการชาร์จไฟจนเต็มแล้ว ก็เริ่มมาใช้งานกันเลยครับ
เริ่มจากนำแท้งค์น้ำไปเติมน้ำให้เต็มทั้ง 2 อัน ติดแผ่นม็อบถูพื้นเข้าไป ผมใช้สีเทาเพราะจากการหาข้อมูลมา สีเทาเอาไว้ขจัดคราบได้ดีกว่า
(รูปนี้เซฟมาจากในอินเตอร์เน็ท)
การติดแท้งค์น้ำ ที่ใต้เครื่องจะมีจุดให้ล็อคแท้งค์น้ำเป็นรูป 6 เหลี่ยมอยู่ วางให้ตรงแล้วกดเข้าไปให้มันล็อคเลย
ใช้รีโทมในการสั่งงาน โดยลักษณะการทำงานจะมี 8 รูปแบบตามภาพด้านล่างครับ (ภาพนี้เซฟมาจากอินเตอร์เนท)
เนื่องจากเป็นเครื่องราคาไม่แพงมาก การสั่งงานจึงเป็นการสั่งทางรีโมท ไม่มีแอปสำหรับเชื่อมต่อ
ในคู่มือบอกว่า เครื่องสามารถทำงานได้ถึง 100 นาทีเมื่อชาร์จไฟเต็ม แต่จากการหาข้อมูล เห็นมีคนบอกว่าแท้งค์น้ำใช้งานได้ราวๆ 50 นาที ผมจึงลองแบบ 50 นาทีดูก่อน
มีถ่ายคลิปการทำงานไว้ แต่ผมใส่ในนี้ไม่เป็น
จากการสังเกตระหว่างการทำงาน จะเห็นว่า เครื่องเดินแบบสุ่ม ไม่ใช่เป็นแบบการทำแผนที่ และเสียงเครื่องค่อนข้างเงียบ ปล่อยให้มันเดินทำงานไปเรื่อยๆ จะไม่ค่อยได้ยินเสียงเลยแทบไม่รู้เลยว่ามันไปทำงานอยู่ตรงไหน พอทำงานจบ เครื่องจะร้องเตือน เป็นอันจบการทำงาน
หลังจากจบการทำงาน 50 นาทีแล้ว พอเอาแท้งค์น้ำมาดู จะเห็นว่าเหลือน้ำอยู่เพียงเล็กน้อย
สรุปโดยรวมแล้ว หุ่นยนต์ถูพื้น Everybot Edge ถูพื้นได้ดีในระดับที่น่าพอใจ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวแล้ว ถือว่าค่อนข้างคุ้มค่าสำหรับผม
ตามความเห็นส่วนตัวของผม เครื่องนี้น่าจะเหมาะสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 60 ตารางเมตร หลังจากหักพวกเฟอร์นิเจอร์แล้ว พื้นที่ทำความสะอาดน่าจะเหลือไม่เกิน 40 ตารางเมตร ซึ่งเครื่องน่าจะเดินทำงานได้ครอบคลุมพอสมควร และเพราะเป็นการเดินแบบสุ่ม จึงไม่แนะนำให้ใช้สำหรับห้องหรือพื้นที่ขนาดใหญ่มาก
และด้วยเครื่องเป็นระบบแบบมีแรงกดลงไปบนผ้าถูพื้น และการทำงานแบบหมุนผ้าม็อบ จึงทำความสะอาดได้ดีกว่าหุ่นยนต์ดูดฝุ่นแบบมีผ้าถูพื้นที่การทำงานเป็นแบบการลากผ้าผ่านพื้น
หากต้องการความสะอาดเพิ่ม สามารถฉีดน้ำยาทำความสะอาดที่ม็อบผ้าได้
ไม่ควรเติมน้ำยาทำความสะอาดลงในแท้งค์น้ำ เพราะอาจทำให้ตัวฟิลเตอร์ที่ปล่อยน้ำจากแท้งค์สู่ม็อบผ้าเสียหายได้
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านข้อมูลครับ
ถ้ามีเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆมาลองใช้ จะพยายามเขียนรีวิวเพื่อให้คนที่กำลังอยู่ระหว่างหาสินค้านั้นๆได้มีข้อมูลในการตัดสินใจครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้