รายงานพิเศษ : ถอดรหัส SUPER โตโนลิมิต พบสูตรกำไรพิเศษ-ไม่ต้องเพิ่มทุน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.share2trade.com/index.php?mod=talk&file=view&id=5772

"วางแผน-สร้าง-ดูแลรักษา-ขาย-ขยาย" 5 คำนี้คือรหัสที่ "จอมทรัพย์ โลจายะ" ประธานคณะกรรมการ และฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ พิสูจน์แล้วว่า ทำให้ บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER สามารถเติบโตจนปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งแสงอาทิตย์ พลังงานลมที่ขายไฟฟ้าเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ร่วมพันเมกะวัตต์ มีกำไรสุทธิทะลุหลักพันล้านบาทติดต่อกัน 3 ปีซ้อนแล้ว (60-62) และดูท่าว่าผลงานจะสดใสขึ้นได้อีก

เป้าหมายการเติบโตของ SUPER ภายใต้การนำของ "จอมทรัพย์" มองไว้ที่ระดับเฉลี่ยอย่างน้อย 15% ต่อปีต่อเนื่อง และมีผลตอบแทนลงทุน 13-15% พร้อมกับการันตีผู้ถือหุ้นว่า ด้วยโมเดลธุรกิจที่เป็นอยู่จะทำให้ลงทุนต่อไปเรื่อยๆ ได้โดยไร้ความจำเป็นเพิ่มทุนอีกต่อไป...

"เราไม่มีนโยบายเพิ่มทุนรบกวนผู้ถือหุ้นอีกแล้ว เพราะเรามี 2 อย่าง 1. ทรัพย์สินระยะยาวที่เราถือลงทุนไว้ และ 2. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เราจึงสามารถขายทรัพย์สินบางส่วนเข้ากองทุนได้กลายเป็นกำไรพิเศษ แล้วก็เอากำไรส่วนนี้มาสร้างเพิ่มเติมในโครงการใหม่ได้อีก"

ผู้บริหารมองว่าสูตรธุรกิจนี้ ทำให้ SUPER เสมือน "เสือนอนกิน" สามารถเลือกได้จะรับผลตอบแทนไปเรื่อยๆ ไปพร้อมกับสร้างโครงการใหม่โดยมีทางเลือกขายเข้ากองทุนเพื่อรับกำไรพิเศษเช่นปี 62 ที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งขายโรงไฟฟ้าจำนวน 118 เมกะวัตต์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี หรือ SUPEREIF เป็นมูลค่าขายขณะนั้น 4,120 ล้านบาท

ขณะที่แผนงานในปี 63 ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วเช่นกัน แต่ยังไม่สรุปตัดสินใจว่าจะขายโรงไฟฟ้าออกไปให้กองทุน หรือพาร์ทเนอร์ รวมไปถึงยังไม่มีความชัดเจนเรื่องช่วงเวลาและจำนวนที่จะขายสินทรัพย์ เนื่องจากกระแสเงินสดมีเหลือมากเพียงพอรองรับโครงการตามแผนได้อยู่  

ทั้งนี้จุดตัดสินใจว่า จะขายสินทรัพย์บางส่วนออกไปเมื่อใดคือ โอกาสทางธุรกิจ หากผลตอบแทนคุ้มค่ากว่าการทยอยรอรับผลตอบแทนระยะยาวตามที่ได้คำนวณไว้ ก็จะตัดสินใจขายรับกำไรพิเศษเพิ่มอีกทันที

ปัจจุบัน SUPER นับเป็น 1 ในผู้นำธุรกิจพลังงานทดแทนระดับประเทศที่โกอินเตอร์ได้สง่างาม มีโรงไฟฟ้าที่ขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เข้าระบบเชิงพาณิชย์ที่เวียดนาม 286 เมกะวัตต์แล้ว ส่วนในประเทศมี 700 เมกะวัตต์ (ไม่นับรวม 118 เมกะวัตต์ ที่อยู่ใน SUPEREIF) และมีเป้าหมายมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าให้ได้ 1,200 เมกะวัตต์ในปี 63 นี้

โครงการพลังงานทดแทนในต่างประเทศคือความท้าทายในปีหน้า ซึ่งคาดว่าที่เวียดนามจะขายไฟฟ้าพลังงานลมเฟสแรกเข้าระบบเชิงพาณิชย์ได้ 422 เมกะวัตต์ (ยังมีเฟสต่อไปอีก 3 พันเมกะวัตต์) สำหรับประเทศอื่นๆ ที่น่าสนใจได้แก่ ไต้หวัน อินโดนีเซีย และญี่ปุ่น ซึ่งมั่นใจว่าจะอนาคตมีโครงการน่าลงทุนในประเทศเหล่านี้อีกมหาศาล

ต่อให้เศรษฐกิจโลกและในประเทศไทยจะสะดุด ไฟฟ้าก็เป็นปัจจัยสำคัญที่มนุษย์ต้องพึ่งพา วันข้างหน้าพลังงานทดแทนจะกลายเป็นพลังงานกระแสหลักของโลก SUPER จึงเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีโอกาสเติบโตสูง เป็นอีกทางเลือกการลงทุนที่มั่นคง

"สภาพเศรษฐกิจไม่มีผลต่อธุรกิจอย่างเรา ผลตอบแทนจะยังเป็นไปตามเป้าหมาย สำหรับนักลงทุนที่ถือหุ้นเราอยู่ขอให้มั่นใจ ผมพูดอะไรมากไม่ได้ แค่อยากให้รอดูงบปลายปีที่ออกมาแล้วจะรู้เอง... "จอมทรัพย์ โลจายะ ประธานคณะกรรมการ SUPER กล่าวทิ้งท้าย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่