เราอาจเป็นพาหะ ‘COVID-19’ โดยที่ไม่ได้ป่วย
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้ยินข่าวเรื่องโรคปอดอักเสบปริศนาที่อูฮั่น จนถึงวันนี้ ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้ว ‘ไวรัสโคโรนา’ หรือ ‘COVID-19’ ได้ระบาดไปแล้วกว่า 40 ประเทศ มียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกือบ 80,000 คน และล่าสุด ยังมีข้อมูลใหม่จากนักวิทย์ฯ อีกว่า ไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ โดยที่คนแพร่เชื้อไม่มีอาการป่วยอะไรเลย
จาก Case Study ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกา (American Medical Association) ที่นำเสนอประเด็นเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และวิเคราะห์ว่าทำไมถึงเป็นเรื่องยากที่จะหยุดการระบาด ไปตรงกับข้อมูลของ Dr. William Schaffner ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Vanderbilt ที่กล่าวไว้ว่า “เป็นไปได้ที่เราจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา และไม่มีอาการป่วย”
จากรายงานของ Dr. Meiyun Wang แพทย์จากโรงพยาบาลเพื่อประชาชน มหาวิทยาลัย Zhengzhou (The People’s Hospital of Zhengzhou University) ระบุว่า มีเคสหญิงสาววัย 20 ปี ที่เดินทางจากอู่ฮั่น ไปเยี่ยมญาติที่อันหยาง (Anyang) เมืองที่ห่างออกไปเกือบ 700 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 10 มกราคม โดยที่เธอไม่ได้มีอาการป่วยใดๆ ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้นที่อันหยางยังไม่มีการระบาด
ญาติของเธอที่อันหยาง 5 คน ถูกตรวจพบเชื้อ COVID-19 และมีอาการป่วยหลังจากนั้น แต่หญิงสาวที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นก็ยังไม่มีอาการใดๆ ซึ่งการตรวจในครั้งแรกนั้นไม่พบเชื้อในตัวเธอ แต่สุดท้ายก็มาเจอเชื้อในการตรวจครั้งต่อมา ซึ่งสิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ถึงกับไปไม่เป็นในเคสนี้ก็คือ เวลาล่วงเลยมาจนเกินระยะฟักตัวของเชื้อแล้ว หญิงสาวรายนี้ก็ยังไม่มีอาการอะไรเลย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ยิ่งไปกว่านั้น ผล CT Scan ยังพบว่าปอดของเธอปกติดี ไม่ได้ถูกเชื้อไวรัสทำลายแม้แต่น้อย
จากเคสดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญต่างตั้งข้อสังเกตว่า การป้องกัน COVID-19 จะยากขึ้นไปอีก เพราะหลายคนอาจจะมีเชื้อในตัวแล้ว แต่ที่ไม่ป่วยเพราะร่างกายแข็งแรงเกินกว่าที่ไวรัสจะจู่โจมได้ แต่เชื้อก็ยังสามารถติดต่อได้อยู่ดี และเราอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่คนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ซึ่งโรคนี้จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรง
เรื่อง By CHANAVEE / 4 FEB 2020
Cr.
https://www.healthaddict.com/content/health_snap/ข้อมูลใหม่-เราอาจเป็นพาหะ-‘COVID-19’-โดยที่ไม่ได้ป่วย
ชาวเน็ตจีนสงสัย COVID-19 แพร่เชื้อผ่านการ “ตด” ได้หรือไม่
ข้อสงสัยนี้เกิดขึ้นหลังจากผลวิจัยชิ้นล่าสุดนำโดย ดร. จง หนานชาน (Zhong Nanshan) ที่ปรึกษาทางการแพทย์ชั้นนำของจีน ได้ตรวจพบไวรัสในตัวอย่างอุจจาระและปัสสาวะของผู้ติดเชื้อ
การตรวจพบครั้งนี้เองจึงเกิดความหวั่นวิตกว่า การผายลมของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จะเป็นอีกช่องทางของการแพร่เชื้อได้หรือไม่ บางคนถึงขนาดเรียกร้องให้มีการผลิตอุปกรณ์ป้องกันแบบเดียวกับหน้ากาก N95 แต่สำหรับใช้กับก้นโดยเฉพาะกันเลย
และเมื่อหลายคนอยากจะรู้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เขตถงโจว ในกรุงปักกิ่ง ได้ตอบคำถามซีเรียสแต่แฝงความขบขันนี้ผ่านทางแอป WeChat ว่า “โดยปกติแล้ว แก๊สที่เกิดจากการผายลมไม่ได้เป็นช่องทางของแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 เว้นแต่จะมีใครที่อยู่ใกล้ผู้ป่วย และได้สูดดมแก๊สในระยะประชิดจากผู้ป่วยที่ไม่สวมกางเกง”
CDC ยังกล่าวไว้ว่า ก่อนจะมาตอบคำถามนี้ ได้ทำการค้นคว้ามาก่อนแล้ว โดยอ้างถึงการทดลองการผายลมเมื่อหลายปีก่อนของ คาร์ล ครูสเซลนิคกี (Karl Kruszelnicki) และ ลุก เทนเนนท์ (Luke Tennent) ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ discovermagazine พร้อมข้อสรุปก็คือ กางเกงสามารถช่วยสกัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปก็คือ ตราบใดที่ทุกคนสวมกางเกงอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลว่า การผายลมจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคออกมา ในทางเดียวกันว่า การผายลมก็ไม่สามารถแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ได้เช่นกันหากผู้ป่วยเชื้อสวมกางเกง
แต่หากผู้ติดเชื้อไม่ได้สวมกางเกง แล้วเกิดตดออกมาปริมาณมาก ๆ จนคนที่อยู่ใกล้สูดดมเข้าไป งานนี้ก็ตัวใครตัวมัน เพราะทุกอย่างก็อาจเกิดขึ้นได้
ที่มา : globaltimes , discovermagazine
Cr.
https://zpore.com/do-farts-spread-novel-coronavirus-044/ ก.พ. 26, 2020
พบความเป็นไปได้ในการติดเชื้อ COVID-19 ในสุนัขที่ฮ่องกง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมารัฐบาลของฮ่องกงมีรายงานว่า พบความเป็นไปได้ในการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวหนึ่งเป็นเคสแรก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะการติดเชื้อนี้เป็นการตรวจพบแบบ “อ่อนๆ” ซึ่งทางการได้ทำการกักกันเจ้าสุนัขตัวดังกล่าว เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันติดเชื้อจริงๆ หรือไม่? และสามารถแพร่เชื่อได้หรือไม่?
สำนักข่าว Foxnews เปิดเผยว่าเจ้าของของเจ้าสุนัขตัวนี้ เป็นผู้ป่วยที่ติดเขื้อ COVID-19 และถูกส่งตัวเข้ามารับการรักษาเมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563
จากการสอบประวัติพบว่าผู้ป่วยรายนี้มีการเลี้ยงสุนัขเอาไว้ในอพาร์ตเมนต์ด้วย ในวันต่อมาจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปรับสุนัขของผู้ป่วยมา และทำการตรวจสอบอย่างละเอียด
เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างจากอวัยวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในช่องปาก ช่องจมูก หรือทางทวารหนักเพื่อไปตรวจผลว่ามีการติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่
และผลที่ได้ก็คือพบว่ามีผลเป็นบวก แต่เป็นบวกในระดับที่ต่ำมากๆ ขณะเดียวกันจากการเฝ้าสังเกตการณ์ก็พบว่าเจ้าสุนัขตัวนี้ไม่ได้มีอาการเซื่องซึมแต่อย่างใด
ตอนนี้เจ้าสุนัขตัวนี้ถูกกักกันและเฝ้าระวังโดยเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 14 วัน เพื่อทำการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งว่ามันติดเชื้อจริงๆ หรือไม่?
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ช็อกโลกได้เลยทีเดียว
ทางด้านกระทรวงการเกษตร ประมง และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของฮ่องกง (Agriculture, Fisheries and Conservation Department หรือ AFCD) ได้ออกมาเปิดเผยว่า
“ขณะนี้หน่วยงานของ AFCD ยังไม่ได้รับรายงานว่าสัตว์เลี้ยงสามารถติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือ จะกลายเป็นแหล่งพาหะที่เผยแพร่เชื้อไวรัสไปสู่มนุษย์แต่อย่างใด จึงไม่อยากให้ทุกท่านตื่นตระหนก”
“เคสที่เราพบในเมือง Tang Hai นั้นเรากำลังตรวจสอบ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสุขภาพของพวกมันเจ้าหน้าที่จะรายงานมาให้ทุกท่านได้ทราบเพราะถือเป็นเคสเร่งด่วน”
ที่มา : cnbc, foxnews
Cr.
https://www.catdumb.tv/dog-covid-119/ By เหมียวหง่าว - 29 February 2020
“เบียร์โคโรนา” ขาดรายได้กว่า 5,360 ล้านบาท หลังการระบาดของไวรัส COVID-19
ก่อนหน้านี้หากพูดถึงคำว่า โคโรนา บางคนก็คงนึกไปถึงเบียร์สัญชาติเม็กซิโกยี่ห้อหนึ่งที่ได้ไปโผล่อยู่ในหนังเรื่อง Fast&Furious
แต่ปัจจุบันหากเราพูดถึงคำว่าโคโรนาแล้ว แทบทุกคนก็คงจะไม่ได้นึกถึงเบียร์อีกต่อไป หากแต่เป็นไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดหนักอยู่ในปัจจุบัน “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” หรือที่ตอนนี้มันถูกตั้งชื่อว่า COVID-19
และล่าสุดทางบริษัท Anheuser-Busch InBev เจ้าของเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว พวกเขาก็ได้ออกมาเผยว่าหลังจากที่ไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่ระบาดก็ส่งผลทำให้พวกเขาขาดรายได้ไปมากกว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็คือมากกว่า 5,360 ล้านบาท
Carlos Briton ประธานบริษัท กล่าวว่าในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมา พวกเขาสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล กำไรในประเทศจีนตกฮวบ ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี
และนั่นก็เป็นผลมาจากการระบาดของไวรัส COVID-19 เพราะมันทำให้ชาวจีนส่วนใหญ่ไม่ออกมาจากที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ร้านอาหารและร้านเหล้าหลายแห่งก็เลือกที่จะปิดร้านชั่วคราว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่างไรก็ตาม มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวจีนจะให้ความสำคัญกับไวรัสโคโรนา มากกว่าที่จะมาคิดเรื่องเบียร์โคโรนาในขณะนี้
เพราะอย่างนั้น ทางบริษัทจึงกล่าวว่าพวกเขายังคงทำได้เพียงเฝ้ารอให้วิกฤตนี้หายไปโดยเร็ว เพื่อหวังว่ารายได้ของพวกเขานั้นจะกลับมาสูงดังเดิม
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Bloomberg , CNBC , Unilad , LadBible
Cr.
https://www.catdumb.tv/corona-beer-loss-money-339/ 29 February 2020
"ไวรัสโควิด-19" อยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานแค่ไหน?
(ขอบคุณภาพจาก
https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/193409/ )
(28 ก.พ.63) หลายคนเกิดความสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด-19 นั้น สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานแค่ไหน โดยข้อมูลจากนพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ตามปกติไวรัสต้องอยู่ในเซลล์ร่างกายคนหรือสัตว์ แต่หากอยู่ในสภาพแวดล้อมนอกร่างกายคนมันจะบอบบางและอ่อนแอลง รวมถึงไวรัสโควิด-19
- หากอยู่ในอากาศ เป็นน้ำมูก เสมหะ น้ำลาย น้ำตา อยู่ได้ 5 นาที
- หากอยู่บนพื้น โต๊ะ ลูกบิดประตู อยู่ได้ 7-8 ชั่วโมง
- ในผ้า หรือทิชชู่ อยู่ได้ 8-12 ชั่วโมง
- หากอยู่บนโต๊ะพื้นเรียบ อยู่ได้ 24-48 ชั่วโมง
- ในน้ำ อยู่ได้ 4 วัน
- ตู้เย็นหรือที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส อยู่ได้ 1 เดือน
เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้โพสต์ข้อความ และเนื้อหาดังนี้ การเอามือไปสัมผัสสารคัดหลั่ง แล้วเอามือมาแตะปาก แตะตา แตะจมูก ก็เป็นอีกช่องทางในการติดต่อของ covid-19 และจากข้อมูลล่าสุด เราพบว่า covid-19 เนี่ย น่าจะอยู่บนสภาพแวดล้อม ได้นานกว่าที่เราคาด
ดังนั้น ของที่เราใช้มือหยิบจับบ่อยๆ เช่น ธนบัตร นี่ก็ต้องระวัง เช่น ถ้ามีคนที่ติดเชื้อ ไอจาม เอามือที่เปื้อนเสมหะ น้ำมูก ไปจับธนบัตร แล้วเรารับธนบัตรนั้นมา แล้วมือไปแตะตรงที่มีเชื้อ แล้วเอามาแตะปาก แตะจมูกเรา ก็มีสิทธิโดนได้
ถ้าใครตามข่าวจะเห็นว่าก่อนหน้านี้ ที่จีน ก็มีการเอาธนบัตรเก่ามาทำความสะอาดเพื่อลดการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV หรือผ่านความร้อน และกักธนบัตรไว้สองสัปดาห์ ก่อนจะเอากลับไปหมุนเวียนใช้งานกันต่อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ covid-19 ผ่านธนบัตรเหล่านี้
ดังนั้น ทุกคนจึงควรกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในที่ชุมชน หรือที่คนหนาแน่น และย้ำเรื่องการล้างมือบ่อยๆ เพราะเชื้อไวรัสอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้นาน
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงหลัก "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" ยืนยันว่า มาตรการนี้เป็นคำแนะนำสำหรับประชาชนเพื่อป้องกันโรคเวลาไอ จาม หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการทานร้อน คือ การปรุงอาหารให้สุกใหม่ หรืออุ่นอาหารให้ร้อนก่อนจะทานเสมอ ส่วนช้อนกลาง คือ การใช้ช้อนตักอาหารจากสำรับ เป็นเสมือนกำแพงกั้นเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย และการล้างมือ คือ ต้องล้างอย่างถูกวิธี โดยต้องล้างทั้งก่อนและหลังทานอาหาร
ที่มา website: www.TNNThailand.com
อ้างอิง
https://brandinside.asia/covid-19-outbreak-china-quarantin…/
https://www.bloomberg.com/…/china-quarantines-cash-to-sanit…
Cr.
https://www.tnnthailand.com/content/30311
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
ความเป็นไปได้ในการติดเชื้อ COVID-19
นับตั้งแต่ครั้งแรกที่เราได้ยินข่าวเรื่องโรคปอดอักเสบปริศนาที่อูฮั่น จนถึงวันนี้ ผ่านไปเกือบสองเดือนแล้ว ‘ไวรัสโคโรนา’ หรือ ‘COVID-19’ ได้ระบาดไปแล้วกว่า 40 ประเทศ มียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกเกือบ 80,000 คน และล่าสุด ยังมีข้อมูลใหม่จากนักวิทย์ฯ อีกว่า ไวรัสสามารถแพร่กระจายได้ โดยที่คนแพร่เชื้อไม่มีอาการป่วยอะไรเลย
จาก Case Study ในวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกา (American Medical Association) ที่นำเสนอประเด็นเรื่องการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา และวิเคราะห์ว่าทำไมถึงเป็นเรื่องยากที่จะหยุดการระบาด ไปตรงกับข้อมูลของ Dr. William Schaffner ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัย Vanderbilt ที่กล่าวไว้ว่า “เป็นไปได้ที่เราจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา และไม่มีอาการป่วย”
จากรายงานของ Dr. Meiyun Wang แพทย์จากโรงพยาบาลเพื่อประชาชน มหาวิทยาลัย Zhengzhou (The People’s Hospital of Zhengzhou University) ระบุว่า มีเคสหญิงสาววัย 20 ปี ที่เดินทางจากอู่ฮั่น ไปเยี่ยมญาติที่อันหยาง (Anyang) เมืองที่ห่างออกไปเกือบ 700 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 10 มกราคม โดยที่เธอไม่ได้มีอาการป่วยใดๆ ซึ่งแน่นอนว่าในตอนนั้นที่อันหยางยังไม่มีการระบาด
ญาติของเธอที่อันหยาง 5 คน ถูกตรวจพบเชื้อ COVID-19 และมีอาการป่วยหลังจากนั้น แต่หญิงสาวที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นก็ยังไม่มีอาการใดๆ ซึ่งการตรวจในครั้งแรกนั้นไม่พบเชื้อในตัวเธอ แต่สุดท้ายก็มาเจอเชื้อในการตรวจครั้งต่อมา ซึ่งสิ่งที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ถึงกับไปไม่เป็นในเคสนี้ก็คือ เวลาล่วงเลยมาจนเกินระยะฟักตัวของเชื้อแล้ว หญิงสาวรายนี้ก็ยังไม่มีอาการอะไรเลย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่เจ็บคอ ยิ่งไปกว่านั้น ผล CT Scan ยังพบว่าปอดของเธอปกติดี ไม่ได้ถูกเชื้อไวรัสทำลายแม้แต่น้อย
จากเคสดังกล่าว ผู้เชี่ยวชาญต่างตั้งข้อสังเกตว่า การป้องกัน COVID-19 จะยากขึ้นไปอีก เพราะหลายคนอาจจะมีเชื้อในตัวแล้ว แต่ที่ไม่ป่วยเพราะร่างกายแข็งแรงเกินกว่าที่ไวรัสจะจู่โจมได้ แต่เชื้อก็ยังสามารถติดต่อได้อยู่ดี และเราอาจจะเป็นพาหะนำเชื้อไปสู่คนรอบข้างโดยไม่รู้ตัว ซึ่งโรคนี้จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงมากในผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และผู้ที่ร่างกายไม่แข็งแรง
เรื่อง By CHANAVEE / 4 FEB 2020
Cr.https://www.healthaddict.com/content/health_snap/ข้อมูลใหม่-เราอาจเป็นพาหะ-‘COVID-19’-โดยที่ไม่ได้ป่วย
ชาวเน็ตจีนสงสัย COVID-19 แพร่เชื้อผ่านการ “ตด” ได้หรือไม่
ข้อสงสัยนี้เกิดขึ้นหลังจากผลวิจัยชิ้นล่าสุดนำโดย ดร. จง หนานชาน (Zhong Nanshan) ที่ปรึกษาทางการแพทย์ชั้นนำของจีน ได้ตรวจพบไวรัสในตัวอย่างอุจจาระและปัสสาวะของผู้ติดเชื้อ
การตรวจพบครั้งนี้เองจึงเกิดความหวั่นวิตกว่า การผายลมของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จะเป็นอีกช่องทางของการแพร่เชื้อได้หรือไม่ บางคนถึงขนาดเรียกร้องให้มีการผลิตอุปกรณ์ป้องกันแบบเดียวกับหน้ากาก N95 แต่สำหรับใช้กับก้นโดยเฉพาะกันเลย
และเมื่อหลายคนอยากจะรู้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) เขตถงโจว ในกรุงปักกิ่ง ได้ตอบคำถามซีเรียสแต่แฝงความขบขันนี้ผ่านทางแอป WeChat ว่า “โดยปกติแล้ว แก๊สที่เกิดจากการผายลมไม่ได้เป็นช่องทางของแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 เว้นแต่จะมีใครที่อยู่ใกล้ผู้ป่วย และได้สูดดมแก๊สในระยะประชิดจากผู้ป่วยที่ไม่สวมกางเกง”
CDC ยังกล่าวไว้ว่า ก่อนจะมาตอบคำถามนี้ ได้ทำการค้นคว้ามาก่อนแล้ว โดยอ้างถึงการทดลองการผายลมเมื่อหลายปีก่อนของ คาร์ล ครูสเซลนิคกี (Karl Kruszelnicki) และ ลุก เทนเนนท์ (Luke Tennent) ที่เผยแพร่บนเว็บไซต์ discovermagazine พร้อมข้อสรุปก็คือ กางเกงสามารถช่วยสกัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุปก็คือ ตราบใดที่ทุกคนสวมกางเกงอยู่ ก็ไม่ต้องกังวลว่า การผายลมจะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรคออกมา ในทางเดียวกันว่า การผายลมก็ไม่สามารถแพร่เชื้อไวรัส COVID-19 ได้เช่นกันหากผู้ป่วยเชื้อสวมกางเกง
แต่หากผู้ติดเชื้อไม่ได้สวมกางเกง แล้วเกิดตดออกมาปริมาณมาก ๆ จนคนที่อยู่ใกล้สูดดมเข้าไป งานนี้ก็ตัวใครตัวมัน เพราะทุกอย่างก็อาจเกิดขึ้นได้
ที่มา : globaltimes , discovermagazine
Cr.https://zpore.com/do-farts-spread-novel-coronavirus-044/ ก.พ. 26, 2020
พบความเป็นไปได้ในการติดเชื้อ COVID-19 ในสุนัขที่ฮ่องกง
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมารัฐบาลของฮ่องกงมีรายงานว่า พบความเป็นไปได้ในการติดเชื้อไวรัส COVID-19 ในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนตัวหนึ่งเป็นเคสแรก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะการติดเชื้อนี้เป็นการตรวจพบแบบ “อ่อนๆ” ซึ่งทางการได้ทำการกักกันเจ้าสุนัขตัวดังกล่าว เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด และตรวจสอบให้แน่ใจว่ามันติดเชื้อจริงๆ หรือไม่? และสามารถแพร่เชื่อได้หรือไม่?
สำนักข่าว Foxnews เปิดเผยว่าเจ้าของของเจ้าสุนัขตัวนี้ เป็นผู้ป่วยที่ติดเขื้อ COVID-19 และถูกส่งตัวเข้ามารับการรักษาเมื่อวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2563
จากการสอบประวัติพบว่าผู้ป่วยรายนี้มีการเลี้ยงสุนัขเอาไว้ในอพาร์ตเมนต์ด้วย ในวันต่อมาจึงส่งเจ้าหน้าที่ไปรับสุนัขของผู้ป่วยมา และทำการตรวจสอบอย่างละเอียด
เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างจากอวัยวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในช่องปาก ช่องจมูก หรือทางทวารหนักเพื่อไปตรวจผลว่ามีการติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่
และผลที่ได้ก็คือพบว่ามีผลเป็นบวก แต่เป็นบวกในระดับที่ต่ำมากๆ ขณะเดียวกันจากการเฝ้าสังเกตการณ์ก็พบว่าเจ้าสุนัขตัวนี้ไม่ได้มีอาการเซื่องซึมแต่อย่างใด
ตอนนี้เจ้าสุนัขตัวนี้ถูกกักกันและเฝ้าระวังโดยเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดเป็นเวลา 14 วัน เพื่อทำการตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งหนึ่งว่ามันติดเชื้อจริงๆ หรือไม่?
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่ช็อกโลกได้เลยทีเดียว
ทางด้านกระทรวงการเกษตร ประมง และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของฮ่องกง (Agriculture, Fisheries and Conservation Department หรือ AFCD) ได้ออกมาเปิดเผยว่า
“ขณะนี้หน่วยงานของ AFCD ยังไม่ได้รับรายงานว่าสัตว์เลี้ยงสามารถติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือ จะกลายเป็นแหล่งพาหะที่เผยแพร่เชื้อไวรัสไปสู่มนุษย์แต่อย่างใด จึงไม่อยากให้ทุกท่านตื่นตระหนก”
“เคสที่เราพบในเมือง Tang Hai นั้นเรากำลังตรวจสอบ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับสุขภาพของพวกมันเจ้าหน้าที่จะรายงานมาให้ทุกท่านได้ทราบเพราะถือเป็นเคสเร่งด่วน”
ที่มา : cnbc, foxnews
Cr.https://www.catdumb.tv/dog-covid-119/ By เหมียวหง่าว - 29 February 2020
“เบียร์โคโรนา” ขาดรายได้กว่า 5,360 ล้านบาท หลังการระบาดของไวรัส COVID-19
ก่อนหน้านี้หากพูดถึงคำว่า โคโรนา บางคนก็คงนึกไปถึงเบียร์สัญชาติเม็กซิโกยี่ห้อหนึ่งที่ได้ไปโผล่อยู่ในหนังเรื่อง Fast&Furious
แต่ปัจจุบันหากเราพูดถึงคำว่าโคโรนาแล้ว แทบทุกคนก็คงจะไม่ได้นึกถึงเบียร์อีกต่อไป หากแต่เป็นไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดหนักอยู่ในปัจจุบัน “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019” หรือที่ตอนนี้มันถูกตั้งชื่อว่า COVID-19
และล่าสุดทางบริษัท Anheuser-Busch InBev เจ้าของเบียร์ยี่ห้อดังกล่าว พวกเขาก็ได้ออกมาเผยว่าหลังจากที่ไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่ระบาดก็ส่งผลทำให้พวกเขาขาดรายได้ไปมากกว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นเงินไทยก็คือมากกว่า 5,360 ล้านบาท
Carlos Briton ประธานบริษัท กล่าวว่าในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2020 ที่ผ่านมา พวกเขาสูญเสียรายได้จำนวนมหาศาล กำไรในประเทศจีนตกฮวบ ซึ่งนับว่าเป็นการสูญเสียที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี
และนั่นก็เป็นผลมาจากการระบาดของไวรัส COVID-19 เพราะมันทำให้ชาวจีนส่วนใหญ่ไม่ออกมาจากที่พักอาศัย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส ร้านอาหารและร้านเหล้าหลายแห่งก็เลือกที่จะปิดร้านชั่วคราว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่างไรก็ตาม มันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ชาวจีนจะให้ความสำคัญกับไวรัสโคโรนา มากกว่าที่จะมาคิดเรื่องเบียร์โคโรนาในขณะนี้
เพราะอย่างนั้น ทางบริษัทจึงกล่าวว่าพวกเขายังคงทำได้เพียงเฝ้ารอให้วิกฤตนี้หายไปโดยเร็ว เพื่อหวังว่ารายได้ของพวกเขานั้นจะกลับมาสูงดังเดิม
เรียบเรียงโดย #เหมียวตะปู
ที่มา: Bloomberg , CNBC , Unilad , LadBible
Cr.https://www.catdumb.tv/corona-beer-loss-money-339/ 29 February 2020
"ไวรัสโควิด-19" อยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานแค่ไหน?
(ขอบคุณภาพจาก https://www.xn--42c2dgos8bxc2dtcg.com/193409/ )
(28 ก.พ.63) หลายคนเกิดความสงสัยว่า ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ ไวรัสโควิด-19 นั้น สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมได้นานแค่ไหน โดยข้อมูลจากนพ.พิเชฐ บัญญัติ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุว่า ตามปกติไวรัสต้องอยู่ในเซลล์ร่างกายคนหรือสัตว์ แต่หากอยู่ในสภาพแวดล้อมนอกร่างกายคนมันจะบอบบางและอ่อนแอลง รวมถึงไวรัสโควิด-19
- หากอยู่ในอากาศ เป็นน้ำมูก เสมหะ น้ำลาย น้ำตา อยู่ได้ 5 นาที
- หากอยู่บนพื้น โต๊ะ ลูกบิดประตู อยู่ได้ 7-8 ชั่วโมง
- ในผ้า หรือทิชชู่ อยู่ได้ 8-12 ชั่วโมง
- หากอยู่บนโต๊ะพื้นเรียบ อยู่ได้ 24-48 ชั่วโมง
- ในน้ำ อยู่ได้ 4 วัน
- ตู้เย็นหรือที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส อยู่ได้ 1 เดือน
เพจเฟซบุ๊ก Drama-addict ได้โพสต์ข้อความ และเนื้อหาดังนี้ การเอามือไปสัมผัสสารคัดหลั่ง แล้วเอามือมาแตะปาก แตะตา แตะจมูก ก็เป็นอีกช่องทางในการติดต่อของ covid-19 และจากข้อมูลล่าสุด เราพบว่า covid-19 เนี่ย น่าจะอยู่บนสภาพแวดล้อม ได้นานกว่าที่เราคาด
ดังนั้น ของที่เราใช้มือหยิบจับบ่อยๆ เช่น ธนบัตร นี่ก็ต้องระวัง เช่น ถ้ามีคนที่ติดเชื้อ ไอจาม เอามือที่เปื้อนเสมหะ น้ำมูก ไปจับธนบัตร แล้วเรารับธนบัตรนั้นมา แล้วมือไปแตะตรงที่มีเชื้อ แล้วเอามาแตะปาก แตะจมูกเรา ก็มีสิทธิโดนได้
ถ้าใครตามข่าวจะเห็นว่าก่อนหน้านี้ ที่จีน ก็มีการเอาธนบัตรเก่ามาทำความสะอาดเพื่อลดการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV หรือผ่านความร้อน และกักธนบัตรไว้สองสัปดาห์ ก่อนจะเอากลับไปหมุนเวียนใช้งานกันต่อ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของ covid-19 ผ่านธนบัตรเหล่านี้
ดังนั้น ทุกคนจึงควรกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัยเมื่อต้องอยู่ในที่ชุมชน หรือที่คนหนาแน่น และย้ำเรื่องการล้างมือบ่อยๆ เพราะเชื้อไวรัสอยู่ได้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้นาน
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงหลัก "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ" ยืนยันว่า มาตรการนี้เป็นคำแนะนำสำหรับประชาชนเพื่อป้องกันโรคเวลาไอ จาม หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งการทานร้อน คือ การปรุงอาหารให้สุกใหม่ หรืออุ่นอาหารให้ร้อนก่อนจะทานเสมอ ส่วนช้อนกลาง คือ การใช้ช้อนตักอาหารจากสำรับ เป็นเสมือนกำแพงกั้นเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย และการล้างมือ คือ ต้องล้างอย่างถูกวิธี โดยต้องล้างทั้งก่อนและหลังทานอาหาร
ที่มา website: www.TNNThailand.com
อ้างอิง https://brandinside.asia/covid-19-outbreak-china-quarantin…/
https://www.bloomberg.com/…/china-quarantines-cash-to-sanit…
Cr.https://www.tnnthailand.com/content/30311
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)