ผมเป็นลูกคนโต ตอนนี้รู้สึกเบื่อหน่ายทั้งแม่และน้องชายมาก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาแม่มักจะใจอ่อนกับน้องชายเสมอ ผมเองก็พอเข้าใจว่าความเป็นแม่ไม่สามารถทนเห็นลูกลำบากได้ แต่น้องชายอายุใกล้จะ 40 แม่ช่วยน้องตั้งแต่เรียน ป.ตรี หาเงินขายตึกแถวให้เรียน ราชภัฎหรือรัฐบาลไม่เอาจะเรียนเอกชน เรียนจบมาเป็น sale ขายรถก็ต้องมีรถแม่ก็หาเงินดาวน์ให้ พอจะไปทำงานธนาคารก็หาเงินปิดยอดหนี้ให้เกือบแสน จะมีครอบครัวก็ทำผู้หญิงท้อง ต้องรีบแต่งแม่ก็หาเงินสินสอดให้ ลูกจะคลอดแม่ก็หาเงินค่าคลอดให้ พอจะเปิดธุรกิจแม่ก็วิ่งหาเงินให้ ทุกวันนี้ถ้ามีสายเข้าทั้งแม่และน้องโชว์จะมีแต่ปัญหาเรื่องเงินเสมอ
และที่หนักที่สุดที่ผมตัดสินใจแบบนี้คือน้องชายมีปัญหาเรื่องธุรกิจ แม่เลยเอาโฉนดทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ของแม่ไปสลักหลังให้น้องชายเอาไปทำธุรกรรมกับธนาคารเพื่อหมุนธุรกิจ โดยไม่บอกผมสักคำปกปิดกันทั้งแม่และน้องชา ผมมารู้ที่หลังเพราะแม่จะขายบ้านเอาไปให้ช่วยน้องชาย
ลึก ๆ ผมก็คิดมาตลอดว่าสมบัติของแม่คือของแม่ เค้าจะให้ใครก็เรื่องของเค้า แต่ที่ผมรู้สึกเฟล มาก ๆ เพราะเหมือนคนไร้ค่ามาก ๆ เวลาน้องมีปัญหา หรือแม่เครียดคนแรกที่ต้องรับฟังและแก้ปัญหาคือผม สายเข้ามาทุกครั้งผมก็ต้องรับเรื่องทุกเรื่อง ทุกวันนี้เงินที่ผมเก็บน้องชายก็ยืมไปหมุนธุรกิจ ขนาดใผ้ผมเอาเงินจากบัตรเคนดิตเป็นเงินสดโอนไปให้ก็ยังช่วย แต่มาปิดผมเรื่องแบบนี้ผมรู้สึกรับไมได้จริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาช่วงที่พ่อผมโดนรถชนประสบอุบัติเหตุ 4 ปีผมเป็นผู้อนุบาลฟ้องร้องคดีแพ่งแทนพ่อจน พ่อสีย คู่กรณียอมจ่าย 2 ล้าน กว่าผมบอกกับแม่กับน้องชายว่าจะเก็บเอาไว้ดูแลแม่ แต่สุดท้ายน้องเอาไปใช้หมดเกลี้ยงไม่หลือ ขนาดผมตอนผมจะปิดหนี้บัตรเครดิตผมยังไม่กล้าเอาเงินแม่มาใช้เลยพูดแล้วเศร้ามาก
ถ้าผมจะตัดความช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างกับน้องชายกับแม่ แบบนี้ผมจะผิดมากไหมครับโดยเฉพาะแม่ ถ้าผมจะปล่อยทุกอย่างให้น้องรับผิดชอบไปแทน ถ้าเป็นเพื่อน ๆ จะทำยังไงกับเคสนี้ครับ
จะผิดไหมถ้าผมจะตัดการสื่อสารทั้งแม่และน้องชาย
และที่หนักที่สุดที่ผมตัดสินใจแบบนี้คือน้องชายมีปัญหาเรื่องธุรกิจ แม่เลยเอาโฉนดทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ของแม่ไปสลักหลังให้น้องชายเอาไปทำธุรกรรมกับธนาคารเพื่อหมุนธุรกิจ โดยไม่บอกผมสักคำปกปิดกันทั้งแม่และน้องชา ผมมารู้ที่หลังเพราะแม่จะขายบ้านเอาไปให้ช่วยน้องชาย
ลึก ๆ ผมก็คิดมาตลอดว่าสมบัติของแม่คือของแม่ เค้าจะให้ใครก็เรื่องของเค้า แต่ที่ผมรู้สึกเฟล มาก ๆ เพราะเหมือนคนไร้ค่ามาก ๆ เวลาน้องมีปัญหา หรือแม่เครียดคนแรกที่ต้องรับฟังและแก้ปัญหาคือผม สายเข้ามาทุกครั้งผมก็ต้องรับเรื่องทุกเรื่อง ทุกวันนี้เงินที่ผมเก็บน้องชายก็ยืมไปหมุนธุรกิจ ขนาดใผ้ผมเอาเงินจากบัตรเคนดิตเป็นเงินสดโอนไปให้ก็ยังช่วย แต่มาปิดผมเรื่องแบบนี้ผมรู้สึกรับไมได้จริง ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาช่วงที่พ่อผมโดนรถชนประสบอุบัติเหตุ 4 ปีผมเป็นผู้อนุบาลฟ้องร้องคดีแพ่งแทนพ่อจน พ่อสีย คู่กรณียอมจ่าย 2 ล้าน กว่าผมบอกกับแม่กับน้องชายว่าจะเก็บเอาไว้ดูแลแม่ แต่สุดท้ายน้องเอาไปใช้หมดเกลี้ยงไม่หลือ ขนาดผมตอนผมจะปิดหนี้บัตรเครดิตผมยังไม่กล้าเอาเงินแม่มาใช้เลยพูดแล้วเศร้ามาก
ถ้าผมจะตัดความช่วยเหลือทุกสิ่งอย่างกับน้องชายกับแม่ แบบนี้ผมจะผิดมากไหมครับโดยเฉพาะแม่ ถ้าผมจะปล่อยทุกอย่างให้น้องรับผิดชอบไปแทน ถ้าเป็นเพื่อน ๆ จะทำยังไงกับเคสนี้ครับ