แวะเมืองลิง เยือนถิ่น “โคก หนอง นา”


(อารัมภบท)
"If you want to live a happy life,
tie it to a goal, not to people or things"
- Albert Einstein
 
เคยตั้งคำถามกับตัวเองหรือคนรอบข้างหรือไม่ ว่า,
ทุกวันนี้, อะไรคือความสุขที่แท้จริงของคุณ? 

(บทที่หนึ่ง, ฉัน สังคม ธรรมชาติ และความเรียบง่าย)
เมื่อธรรมชาติไร้ความหมาย, มนุษย์มุ่งหน้าสู่ชีวิตโรงงานจวบจนแสงสีแห่งเมืองกรุง วัยเด็ก, จากทุ่งนาเขียวขจี เสียงพลิ้วไหวของป่าไม้ 
สัมผัสจากลมหนาวอันแสนบริสุทธิ์พัดผ่านกาย เหล่านั้น, สู่โรงงานอุตสาหกรรมแปรผันตามกาลเวลา ข้าวยากหมากแพง ความมีหน้ามีตาในสังคม 
ภาระหนี้สิ้นกลายเป็นเรื่องง่ายดาย แต่อาจต้องก่ายหน้าผากในยามนอน 
 
การเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกันของคนในสังคม “ความสัมพันธ์เชิงอำนาจ” หรือการมองเห็น “ผลประโยชน์ส่วนตน” มากกว่าส่วนรวม 
สู่ “ความเหลื่อมล้ำทางสังคม” ซึ่งแท้จริงมิเคยเลือนหายไปไหน 
อาจเป็นอสูรกายที่กำลังกลืนกินวิถีที่ฉันรู้จักไปแทบสิ้น
 
ฉัน, ไม่อาจปฏิเสธอย่างเต็มปากได้เลยว่า ชีวิตเด็กต่างจังหวัดอย่างฉัน หมู่บ้านที่มีแต่ป่าไม้และภูเขา วัยเด็กที่เคยวิ่งเล่น ปั่นจักรยาน
 มีเหล่าน้องหมาเป็นพรรคพวกและหนังสือซักเล่มช่วงปิดเทอม สู่คนที่, หันหลังจากธรรมชาติ (อย่างไม่เต็มใจเลย) กลายเป็นคนไกลบ้าน 
ไกลจากความสงบที่รู้ตัวว่าเคยชอบมากแค่ไหน สู่พนักงานออฟฟิศ ป่วยทั้งสุขภาพจิตทั้งสุขภาพกาย แต่ฉันกล้าพูดได้อย่างเต็มปากว่า 
“ฉันกำลังกลับสู่ธรรมชาติที่เคยโอบล้อมรอบตัวฉันดั่งเช่นวัยเด็กอีกครั้ง”
 
เหนืออื่นใด, ฉันกำลังเห็นและรับรู้ได้ว่า 
“ยังมีผู้คนอีกมากมายดั่งเช่นฉัน ที่เห็นถึงคุณค่าของธรรมชาติ ให้เค้าได้กลับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต 
ได้เลือกอยู่กับธรรมชาติ ได้ทำเกษตรกรรม เป็นเกษตรกร อะไรเล่าจะเท่าการมีความสุขแบบเรียบง่าย”
.

(บทที่สอง, เมื่อเขามีเป้าหมาย)
เมื่อ ‘เขา’, มีความฝันอยากใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ
“น้องรู้จักโคก หนอง นา โมเดลหรือเปล่า?”  คำถามที่เคยเอ่ยถามฉันเมื่อนานมาแล้ว พร้อมกับท่าทางและคำอธิบายมากมายกับโครงการปลูกป่าของเขา 
และสายตาที่ฉันรู้ว่าเขามีความสุขแค่ไหน, ฉันรับรู้ได้ดี
.
“ถ้าพี่จะจริงจังกับสิ่งนี้  พี่ต้องเรียนรู้ พี่ต้องทดลอง แล้วพี่จะตอบตัวเองได้ว่า พี่ชอบมันจริงๆ หรือเปล่า” เพราะลึกๆ ในความเป็นเด็กต่างจังหวัดของฉัน, 
มันไม่ง่ายและสนุกเหมือนตอนที่เขาเล่าให้ฉันฟังหรอก, ฉันรู้
“บนโลกที่แสนจะวุ่นวาย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ นะมนุษย์, โดยเฉพาะถ้าเราไม่ได้จริงจังจากใจของเราที่แท้จริง” 
คติยอดฮิตที่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ในชีวิต, ลองสังเกตซิ
.

(บทที่สาม, ออกเดินทางค้นหาตัวตน)
ยามเย็นวันหนึ่งช่วงที่ฉันเมื่อยล้าจากการทำงาน, มือหยิบโทรศัพท์เลื่อนผ่านหน้าฟีดบนแอพ ไล่ผ่านข้อความมากมาย
จนสายตาไปสะดุดเข้ากับข้อความประชาสัมพันธ์เพื่อร่วมลงทะเบียนในโครงการ “รวมพลคนสร้าง โคก หนอง นา ตอนมีป่า มีน้ำ มีกิน ครั้งที่ 1” 
ซึ่งสถานที่จัดงานอยู่ที่จังหวัดลพบุรี 
(กฎข้อแรก, ถ้าใจมาก็ไม่มีอะไรไกลไปสำหรับเรา อิอิ) และที่ทำให้ฉันสะดุดสายตาแบบสุดๆ คงไม่พ้น รูป Background โคก หนอง นา 
ที่ฉันคุ้นเคยจากการนำเสนอของเขาไม่รู้กี่ครั้ง แน่หละ ฉันกดลงทะเบียน และไม่บอกให้เขารู้ 
เพราะฉันมีแผนว่าจะ Surprise เขาด้วยการหลอกว่าต้องไปดูงานพิพิธภัณฑ์ที่ลพบุรี ฮ่าๆ 
.
 
แต่แผนก็ไม่เป็นแผนเท่าไหร่, เรียกว่าล้มไม่เป็นท่า เพราะเชื่อว่าเขาต้องซักถามแน่นอนว่าน้องไปทำพิพิธภัณฑ์อะไร งานใหม่น้องเหรอ และที่สำคัญ, 
เขาให้เวลาทั้งหมดกับฉันตลอด ฉันไม่อยากให้เขาปฏิเสธหรือเลื่อนงานของเขาออกไป 
ฉันจึงเลือกที่จะบอกเขาถึงโครงการนี้ออกไปตรงๆ 
และอีกอย่างฉันอยากทดสอบใจเขาว่า,
 
“เขาจะจริงจังกับเจ้าสิ่งนี้แค่ไหนกันนะ” และเขาก็แสดงให้ฉันเห็น
“พรุ่งนี้เราออกตอนตี 5 เลยนะ จะได้เข้าโครงการแต่เช้า”, โอ้ย บางทีก็เกินเบอร์ไปนะ ฮ่าๆ
“น้องไม่ไปนะตี 5 อ่ะ” 
“น้องหลับเลย พี่ขับเอง” 
(มันแน่อยู่แล้วหละ ตั้งแต่รู้จักกันมา ไม่ค่อยจะยอมให้น้องขับรถให้เลย เป็นห่วงนู้นนี่นั่นเกินเบอร์ทุกครั้ง 
ใครก็ได้บอกทีว่าเราแมนมากแค่ไหน)
“น้องว่า, #$%^&*@” และอีกสารพัดเหตุผลจนเขาที่ทำงานหนักหน่วงติดกันมาหลายวันและทำท่าจะไม่สบายให้คล้อยตามอย่างง่ายได้ 
และตกลงกันว่า ตื่นเมื่อไหร่ไปเมื่อนั้น เข้าทาง.....
“มารไม่มีบารมีไม่เกิด” จริงแท้แน่นอน และฉันคือมารของเขาในเคสนี้
.
ระหว่างทาง, 
ในใจของฉัน, ถ้าไม่ได้เห็นเจ้าจ๋อเกินสามตัว แปลว่ามาไม่ถึงลพบุรี 
ในที่สุดก็สามารถออดอ้อนจนได้แวะสถานที่ไฮไลท์อย่าง “พระปรางค์สามยอด”
หลังจากที่เขาจะตั้งหน้าตั้งตาจะไปให้ถึง “วัลลภาฟาร์ม” สถานที่จัดงานให้ได้อย่างเดียว
สุดท้าย, โดนไอ้จ๋อตัวใหญ่ ท่าทางวางกล้ามเป็นหัวหน้าเจ้าถิ่น ดึงพวงกุญแจ “Peppa Pig” องค์รักษ์เฝ้ากระเป๋าของฉันไปอย่างหน้าตาเฉย
แถมฉีกน้องต่อหน้าต่อหน้า 
.
 (1) & (2) พระปรางค์สามยอดที่ฉันกลับมาเยือนอีกครั้ง และเจ้าจ๋อสองตัวที่กำลังวุ่นอยู่กับการแกะเมล็ดทานตะวัน

(FINAL CHAPTER, หรือนี่คือความสุขที่แท้จริง)
และในที่สุดเราก็มาถึงในเวลา 17.00 น. 
เห็นรถยนต์ที่จอดหน้าทางเข้าฟาร์มนับ 30 คัน, เขาและฉันมีท่าทีกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที 
วัลลภาฟาร์ม, พื้นที่เน้นการใช้สอยตามธรรมชาติ มีคอกม้า คอกวัว แหล่งเพาะพันธุ์ปลากัด ภายในฟาร์มแบ่งพื้นที่จัดงานออกเป็นโซนต่างๆ  ทั้ง
(1) การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอย่างกล้วยตากแห้ง, เมล็ดพันธุ์ ตลอดจนปุ๋ยสูตรพิเศษ
(2) โซนทำกิจกรรม Workshop เรียนรู้เรื่อง “ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง”
และโซนที่ฉันชอบมากที่สุดและน่าจะเป็นไฮไลท์ของที่นี่คือ  (3) “โคก หนอง นา” ที่จัดทำบนแปลงสาธิตขนาดไม่ใหญ่โตมากนัก
การปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการสไลด์ของหน้าดิน “คลองไส้ไก่” ขนาดไม่ลึกและไม่ใหญ่มากนัก เพื่อให้ที่ดินโดยรอบมีความชุ่มชื้นและป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกจากบริเวณ และใช้ดักน้ำฝนเรียกว่า “หลุมขนมครก” การทำกสิกรรม เช่น การเลี้ยงหมู ไก่ หรือเป็ด
การปลูกผักสวนครัวบริเวณรอบทั้งพริก มะเขือเปราะ
นอกจากนั้นยังมี (4) เวทีเสวนา ผ่านการพูดคุยกับอ. ยักษ์ กูรูทางด้านนี้โดยเฉพาะ เรื่องราวของน้ำหมักจุลินทรีย์สำหรับต้นไม้ที่แปรรูปจากนมวัว
.

 (3) แนวคิดเกษตรทฤษฎีใหม่ แนวทางในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร 
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในการบริหารการจัดการที่ดินและน้ำ บนที่ดินขนาดเล็กให้เกิดประโยชน์สูงสุด

(4) Wokshop เรียนรู้เรื่อง โคก หนอง นา โมเดล และ แนวคิด ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง
 (5) (6) & (7) บัดดี้ เจ้าหมู แนะนำเพื่อนๆ และพาชมแปลงสาธิต
(8) & (9) ความสุขของเบบี๋หมู 
(10) (11) & (12) ศาสตร์พระราชาและฟาร์มออร์แกนิค: พืชผักสวนครัวแข่งกันออกดอกออกผล
(13) & (14)  สุขตามธรรมชาติ
สุดท้าย, การได้เห็นผู้คนมากมายบนพื้นที่แห่งนี้ ช่างเหนือความคาดหมายของฉันและเขาไปมากโข 
คนที่ไม่เคยรู้จักกัน แต่กลับให้เกียรติและเคารพกันและกัน นั่งกินเมนูธรรมดาที่รสชาติไม่ธรรมดา บนความเรียบง่ายเหล่านั้น 
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคนร่วมงานตอนนั่งจับกลุ่มแชร์เรื่องราว การได้พูดคุยกับคนที่มีอุดมการณ์คล้ายกัน 
แววตาที่มุ่งมั่นและจริงจัง มันช่างมีพลังเหนือสิ่งอื่นใด 
แล้วเหตุใดผู้คนถึงพยายามตามหาความสุขบางอย่าง 
ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านี้ อาจเหมือนหรือไม่ ล้วนอยู่รอบตัวเราตลอดเวลา รอแค่เรามองเห็นและสัมผัสได้ ฉันคิดว่าเพียงเท่านั้นจริงๆ 
.
(15) สุดท้าย, ความเรียบ ง่าย แต่ไม่ธรรมดา
คืนนั้นเรากางเต็นท์นอนกันกลางทุ่ง แม้ลมแรงมากตลอดทั้งคืนจนเต็นท์ทำท่าจะไม่ไหว 
แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ฉันและเขามีความสุขมาก และอีกมากมายที่ฉันไม่สามารถถ่ายทอดได้บนพื้นที่แห่งนี้, 
แม้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเล็กๆ แต่มันกลับกลายเป็นความรู้สึกที่เป็นสุข เห็นเขามีความสุข ยิ้มแย้ม เล่าเรื่องที่เขาได้ยิน ได้ฟัง 
และการเห็นเขา ฉัน และเรา ที่เริ่มก้าวไปกับสิ่งๆ นี้อีกขั้น ฉันดีใจ
.
ด้วยรัก, และเป็นสุข

ฉัน, แชร์เรื่องราวบางส่วนในชีวิตบน
Instagram: Nokkadart
Facebook Page: Wanderluster
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่