[CR] ล่องใต้ไปร่วมงานประจำปี ศาลเจ้าลิ้มกอเหนี่ยว ปัตตานี แวะเบตงและหาดใหญ่อีกนิดหน่อย

ปัตตานี จังหวัดที่หาโอกาสค่อนข้างยากที่จะลงไปเยือน ทริปนี้ได้รับการชักชวนจากพี่ที่เคยไปทริปถ่ายรูปที่คุนหมิง-แชงกรีล่าด้วยกันเมื่อปีที่แล้ว นัดแนะให้ลงไปช่วงมาฆบูชาเพราะมีงานประจำปีศาลเจ้าลิ้มกอเหนี่ยวและศาลเจ้าที่สายบุรี ซึ่งทางพี่ที่เป็นคนพื้นที่อาสาจะนำเที่ยวในปัตตานีและอำนวยความสะดวกในการเก็บภาพบรรยากาศงานศาลเจ้าทั้ง 2 ที่

เดิมทีกะว่าจะไปคนเดียวเพราะทริปยาวๆ ไม่น่าจะมีคนไปกันได้ ลองเช็คข้อมูลเรื่องสายการบินเจอว่า ต้องนั่งเครื่องไปลงนราธิวาสแล้วหารถต่อมายังปัตตานีอีกที ซึ่งราคาตั๋วเครื่องบินถ้ามีโปรก็ต้องมี 1,100 กว่าบาทขึ้นไป และยังไม่รู้ราคาค่ารถจากนราธิวาสมาปัตตานีอีกว่าเท่าไหร่ เลยมาหาข้อมูลเรื่องรถไฟ จึงได้พบว่าถ้านั่งชั้นสองแบบตู้นอนลงไป มีขบวนจากหัวลำโพง-ปัตตานีโดยตรงเลย และราคาตู้นอนรถแอร์ชั้นสองไม่ถึงพันบาท และด้วยความที่มีเวลาพอสมควร ไม่จำเป็นต้องประหยัดเวลาในการเดินทาง จึงตัดสินใจเดินทางโดยรถไฟ

หลังจากคุยกับพี่ที่ปัตตานีถึงแผนการเดินทางคร่าวๆแล้ว ก็มาลองสอบถามน้องๆในกลุ่มถ่ายรูปที่รู้จักกัน เผื่อมีใครสนใจจะลงไปด้วยกัน เพราะจังหวัดปัตตานีโดยปกติแล้วไม่น่าจะมีโอกาสได้เดินทางกันลงไป ก็ได้น้องคนนึงมาร่วมทริปด้วย (ถึงขนาดลงทุนลางานหลายวันลงไปด้วยกัน)

พอคุยกันคร่าวๆแล้วว่า หลังจากจบที่ปัตตานีแล้ว จะแวะไปเบตงซักคืนนึง แล้วกลับมานอนหาดใหญ่อีกคืนนึง เพราะเหตุผลโดยส่วนตัวของผมที่อยากไปเดินเล่นตลาดกิมหยง กินติ่มซำกับบักกุ๋ดเต๋ และลองนอนบนรถไฟตู้นอนขบวนใหม่ที่เบาะสีแดงๆ ซึ่งไปเช็คข้อมูลมาว่า ขบวนนี้วิ่งแค่กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่ ก็เลยจะนั่งเป็นเที่ยวกลับจากหาดใหญ่

เริ่มจากเข้าไปจองที่นั่งในเว็ปของการรถไฟ เลือกสถานีต้นทาง-ปลายทาง วันเดินทาง แล้วกดปุ่ม “ค้นหาขบวนรถ”


ผมเลือกรถด่วนขบวน 37 ออกจากกรุงเทพเวลา 15.10 น. และไปถึงปัตตานีเช้าวันถัดไปเวลา 8.56 น. กดปุ่ม “เลือกตู้” ก็จะมายังหน้าต่อไป


หน้านี้ เลือกตู้นอนชั้น 2 ราคาเตียงล่าง 932 บาท / เตียงบน 862 บาท กดปุ่ม “ที่นั่งว่าง” เพื่อไปยังหน้าต่อไปเพื่อเลือกที่นั่ง (ผมมาเซฟรูปทีหลัง ปุ่มเลยโชว์ว่าไม่มีที่นั่งว่างแล้ว)


มาถึงขั้นตอนนี้ หากยังไม่เคยลงทะเบียนกับการรถไฟ จะต้องไปลงทะเบียนใส่ข้อมูลให้เรียบร้อยก่อน (ผมไม่ได้เซฟข้อมูลมา แต่ลงทะเบียนไม่ยาก ทำตามขั้นตอนไปเรื่อย ใช้เวลาไม่นาน) จากนั้นจะมาถึงหน้าที่ให้ใส่ชื่อผู้โดยสารและเลือกที่นั่ง โดยที่นั่งที่ยังว่างอยู่ จะขึ้นเป็นสีส้ม เลขคู่คือเตียงล่าง / เลขคี่คือเตียงบน พอเลือกแล้วก็กด “ยืนยันการเลือกที่นั่ง” ระบบก็จะพาไปยังหน้าต่อไปที่มีข้อมูลการเดินทาง และจำนวนเงินที่ต้องชำระ


จะมีค่าบริการจองทางออนไลน์คนละ 30 บาท รวมเป็นเงิน 962/892 บาท ก็กดชำระเงินไปโดยให้หักบัตรเครดิต (จำไม่ได้อีกเช่นกันว่าถ้าไม่ชำระด้วยบัตรเครดิต จะสามารถใช้วิธีไหนชำระได้บ้าง)


จากนั้นให้พิมพ์ตั๋วออกมาเป็นกระดาษเพื่อเอาไปใช้แสดงให้เจ้าหน้าที่ดูในวันเดินทาง 
***ตรงนี้สำคัญมาก เพราะเจ้าหน้าที่จะไม่ดูตั๋วจากหน้าจอมือถือ ต้องใช้แบบเป็นกระดาษพิมพ์ออกมาเท่านั้น***
หน้าตาก็จะประมาณนี้ มีรายละเอียดครบถ้วน 


ส่วนขากลับจองจากหาดใหญ่-กรุงเทพ เนื่องจากเป็นตู้นอนแบบใหม่ ถึงแม้ระยะทางจะใกล้กว่า แต่ราคาแพงกว่า โดยค่าตั๋วอยู่ที่ เตียงล่าง 1,135 บาท / เตียงบน 1,035 บาท รวมค่าธรรมเนียมแล้ว

ถึงวันเดินทาง วันพฤหัสที่ 6 กุมภาพันธ์ รถไฟออก 15.10 น. แต่ผมนัดกันไปถึงหัวลำโพงราวๆบ่ายโมง 15 เผื่อเวลาไว้หาอะไรกินและถ่ายรูปในสถานีเป็นที่ระลึก เพราะครั้งหน้าถ้ามีโอกาสได้ใช้บริการ อาจจะถูกย้ายให้ไปใช้ที่สถานีบางซื่อแล้ว

เดินสำรวจสถานที่ หาทางลงรถไฟใต้ดินไว้ก่อน เพราะขากลับจะต้องใช้บริการ และก็เป็นครั้งแรกอีกเช่นกันที่จะได้ใช้เส้นทางรถไฟใต้ดินสายนี้ ใกล้ทางลงสถานี MRT (ทางออก 2) ได้กลิ่นหอมๆจากร้าน Mr. Bun เลยจัดการซื้อติดไปซักลูกเผื่อไว้กินบนรถไฟ 


ลองเดินทะลุในสถานี MRT ไปขึ้นทางออก 3 แล้วแวะเข้า 7-11 ซื้อขนมติดไปนิดหน่อย (ถ้าออกจากด้านหน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง 7-11 จะอยู่ทางซ้าย ข้ามถนนไปนิดนึง) แล้วก็มานั่งรอเวลาขึ้นรถไฟ


บ่าย 2 โมงก็ขึ้นมานั่งรอบนรถไฟ ตรวจดูหมายเลขขบวนให้ถูกต้องจากป้ายหน้าชานชาลา และดูหมายเลขตู้ได้จากข้างขบวน ภายในรถเปิดแอร์ไว้เย็นฉ่ำ ที่นั่งแบบเก่าอาจจะเล็กไป แต่ก็พอนั่งและวางของได้นิดหน่อย ส่วนกระเป๋าเดินทาง มีชั้นสแตนเลสให้วางได้ข้างๆที่นั่ง ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง เริ่มมีผู้โดยสารทยอยขึ้นมานั่งรอตามที่นั่งตัวเองแล้ว เพราะน่าจะดีกว่านั่งรอในสถานี

เนื่องจากเป็นตู้รถไฟแบบเก่า ปลั๊กไฟสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ต่างๆจึงมีอยู่เพียงแค่ 2 จุดคือข้างที่นั่ง 6 และ 30 ซึ่งถ้าจะชาร์จไฟ ก็ต้องคอยเฝ้าและรับผิดชอบกันเอง


ระหว่างนั่งรอ ก็มีคนถือถาดขึ้นมาขายข้าวกล่อง พวกข้าวไก่กระเทียม ข้าวกะเพราไก่+ไข่ดาว และน้ำดื่มแช่เย็น ไม่ต้องกลัวหิวละ

15.10 น. รถไฟออกตามเวลาเป๊ะ ช่วงนี้ยังวิ่งช้าๆเพราะยังไม่ออกต่างจังหวัด มีคนขึ้นมาขายชา-กาแฟเย็น น้ำแดง โอเลี้ยง น้ำอัดลม กล้วยฉาบ ขนมปังเนยกรอบ ส้มโอ ชมพู่ มะม่วง กุนเชียง ถั่วต้ม ไข่ต้ม เติมเงินมือถือ แม่ค้าสลับสับเปลี่ยนกันมาเดินขายตลอดเวลา 

ราวๆบ่าย 4 โมง เลยสถานีบางซื่อมาไม่ไกล เจ้าหน้าที่เริ่มเดินมาตรวจตั๋ว พอ 4 โมงครึ่งก็เริ่มออกมาถึงชานเมือง รถเริ่มทำความเร็ว น้องที่มาด้วยกันเลยเดินไปสำรวจตู้ขบวนอาหาร เจออาหารขายแบบเป็นชุด ชุดละ 130 บาท มีข้าว กับข้าว 1 อย่าง น้ำซุป 1 ถ้วย น้ำส้ม ราคานี้ ไม่น่าจะขายดี ไม่แปลกใจที่ผู้ที่ได้สัมปทานขายอาหารบนรถไฟถึงอยู่ไม่รอด

5 โมงเย็นก็มาถึงสถานีนครปฐม มีข้าวเหนียวหมูย่างขึ้นมาขาย ทั้งยังมีก๋วยเตี๋ยวแห้ง 10 บาท จัดมาซักห่อกินขำๆ และยังมีขนมหวานพวกฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด หม้อแกง บ้าบิ่น ทองม้วน ถั่วต้ม ส้มโอ สตรอเบอรี่ด้วย รวมถึง “ตะรี่ ป่ะค๊าบ” สำหรับนักเสี่ยงโชคไว้ลุ้น เผื่อจะได้ค่าทริป



6 โมงเย็น ถึงราชบุรี จัดก๋วยเตี๋ยวราชบุรีคนละ 2 กล่องๆละ 10 บาท เทียบกับของนครปฐมแล้ว เส้นจะเยอะกว่านิดหน่อย ลูกชิ้น 1 ลูก หื่อก้วย 2 ชิ้น และรสออกหวานกว่าหน่อย (ของนครปฐม ลูกชิ้น 2 ลูก) ให้เจ้าหน้าที่ช่วยเอาโต๊ะออกมากางเพื่อจะนั่งกินได้สะดวกขึ้น 



จัดหม้อแกงเผือกมาล้างปากซักถาดนึง ถาดละ 30 บาท 4 ถาดร้อย ยังอุ่นๆอยู่ รสกำลังดี ไม่หวานมาก


ราวๆ 6 โมงครึ่ง พนักงานก็เริ่มมาถามแต่ละที่นั่งเพื่อกางออกมาเป็นที่นอน กว่าผมจะแจ้งให้พนักงานจัดการให้ก็ปาเข้าไปทุ่มครึ่งแล้ว ที่นอนใช้ผ้าสีขาว ทั้งปูเบาะนอน ปลอกหมอน และผ้าห่ม ดูจากห่อพลาสติกเห็นว่าผ่านการซักทำความสะอาดจากซินไฉฮั๊ว ผู้บริการด้านงานซักรีดที่ได้ยินชื่อมานานกว่า 30-40 ปี 

ผ้าห่มค่อนข้างบาง ประกอบกับผมนอนเตียงบน ช่องแอร์เป่าเข้ามาในที่นอน หากใครขี้หนาวควรจะใส่เสื้อผ้าที่กันความเย็นมาเผื่อไว้ด้วย และภายในตู้นอนไม่มีการปิดไฟตบอดทั้งคืน ถ้าใครชินกับการนอนแบบปิดไฟ ก็คงต้องหาผ้าปิดตามาใช้ด้วย ส่วนที่นอนด้านล่างจะอุ่นกว่าและมืดกว่าหน่อย




รถไฟวิ่งมาถึงเช้าที่พัทลุงเกือบ 7 โมง เริ่มมีคนมาเดินขายของอีกรอบ เริ่มด้วยไข่ไก่กับไข่นกกระทาต้ม ตามมาด้วยกาละแมใบเตย/ทุเรียน ไข่เค็มไชยา (แบบดิบ) ส่วนทางด้านตู้อาหาร เจ้าหน้าที่เริ่มเดินมารับออเดอร์ ชา กาแฟร้อน ชุดอาหารเช้า จัดไข่เค็มดิบมาชุดนึง 3 กล่องร้อยไปฝากคนที่มารับที่ปัตตานี กล่องนึงมี 5 ฟอง ตกฟองละไม่ถึง 7 บาท ราคาก็โอเคอยู่ เพราะปกติซื้อจากตลาดแถวบ้านก็ฟองละ 7 บาท แต่แบบไข่ดิบจะหายากหน่อย


8 โมง 5 นาที รถไฟมาถึงหาดใหญ่ แวะจอดนานหน่อยเพราะต้องแยกตู้ออกบางส่วน พอมีเวลาลงไปสำรวจหาของกินหน้าสถานี ได้ข้าวมันไก่มากล่องนึง 45 บาท รสชาติใช้ได้ ข้าวร่วน ไก่หนุบ ให้ข้าวมาซะเยอะจนกินไม่หมด

ข้างสถานีมีร้านขายซาลาเปา ขนมจีบ และรถเข็นขายทั้งข้าวเหนียว ไก่ทอด ลูกชิ้น ไส้กรอก และผลไม้ต่างๆ ขึ้นมาบนรถก็มีแม่ค้าขึ้นมาขายข้าวเหนียว ไก่ทอด เนื้อเค็ม และน้ำต่างๆ เลยจัดกาแฟเย็นมาแก้วนึง 20 บาท หวานไปหน่อย แต่กาแฟหอมดี




กว่ารถไฟจะแยกขบวนเสร็จและออกจากหาดใหญ่ก็ 8 โมงครึ่ง ก่อนจะออกจากสถานี มีทหาร 3-4 คนพร้อมอาวุธครบมือเดินขึ้นมาตรวจบนรถไฟ พร้อมถามหาเจ้าของกระเป๋าเดินทางทุกใบที่วางอยู่ ตามตารางแล้วต้องถึงปัตตานี 8.56 น. แต่กว่าจะถึงก็ปาเข้าไป 11.05 น. เป็นปกติของการโดยสารรถไฟ 555 ถือซะว่าเรายังไม่ได้ใช้โชคไปกับการมาถึงได้ตรงเวลา เก็บโชคดีเอาไว้ใช้ระหว่างทริป

เพิ่มเติมรูปห้องน้ำและอ่างล้างหน้าบนขบวนรถไฟ แนะนำว่า ควรใช้สำหรับปล่อยเบาก็พอ ก่อนจะขึ้นรถพยายามปลดทุกข์หนักให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า เพราะสภาพห้องน้ำบนตู้แบบเก่ายังใช้ระบบปล่อยลงรางรถไฟ และดูเหมือนจะไม่มีการดูแลรักษาซักเท่าไหร่ สภาพจึงเป็นอย่างที่เห็น

ส่วนอ่างล้างหน้า ยังพออาศัยล้างมือล้างหน้าและแปรงฟันได้บ้าง



ออกจากสถานีรถไฟปัตตานี จุดแรกที่แวะไปคือวัดช้างให้ ไปสักการะวัดคู่เมืองปัตตานีเพื่อความเป็นศิริมงคลและขอให้ทริปนี้ราบรื่นตลอดจนจบทริป
ช่วงหลังๆก็วัดจะดูเงียบๆหน่อย นักท่องเที่ยวลดลง แต่ก็ยังพอมีมาเรื่อยๆ ยังได้ยินเสียงประทัดดังเป็นระยะๆ

หน้าทางเข้าวัด มีสถานีรถไฟ น่าจะชื่อสถานีวัดช้างให้ เคยเห็นมีคนรีวิวนั่งรถไฟจากหาดใหญ่มาลงที่สถานีนี้ โดยตารางการเดินรถไฟสามารถมาเที่ยวจากหาดใหญ่ได้ภายใน 1วัน ใครที่มาเที่ยวหาดใหญ่แล้วอยากลงมาวัดช้างให้ ก็ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ


เข้ามาภายในโบสถ์ ตรงหน้าจะเห็นองค์หลวงปู่ทวดให้กราบไหว้ 
ทางด้านซ้ายจะมีองค์หลวงปู่ทวดอีกองค์ให้ปิดทอง และด้านขวาเป็นอ่างน้ำมนต์ให้ตักไปใช้กันได้




ออกจากวัดช้างให้ก็มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง ก่อนจะถึงตัวเมืองปัตตานี จะเจอด่านประมาณ 3 ด่าน ตรวจค่อนข้างเข้มงวด ต้องลดกระจกลงมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูคนข้างใน เข้ามาถึงในตัวเมืองก็เที่ยงพอดี

(ไปต่อที่ความเห็น 1 ครับ)
ชื่อสินค้า:   ปัตตานี เบตง หาดใหญ่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่