เรื่องนี้เคยเป็นข่าวดังที่ญี่ปุ่นพักนึง ไม่รู้ว่ายังจำได้กันไหม
*** อันนี้ค่อนข้างเศร้านะ ใครไม่ไหวข้ามไปก่อน
ปี 2018 มีข่าวเด็กคนหนึ่งนอนเสียชีวิตเพียงลำพังอยู่ในอพาร์ตเมนต์ เนื้อตัวของเธอซูบผอม #และมีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายทั่วตัว ( 170 จุด )
หลังเหตุการณ์ผ่านไป 3 เดือน ตำรวจก็จับกุมคนร้ายได้ คือ “ แม่และพ่อเลี้ยงของหนูน้อยนั่นเอง “
**********
**********
คนเป็นแม่ ยังมีลูกเล็กๆ อีกคน เป็นผู้ชาย ( แม่ชื่อยูริ)
ยูริแต่งงานตั้งแต่จบชั้น ม. ปลายกับเพื่อนร่วมชั้น ( 19 ปี ) และมียูอิ
เมื่อคลอดยูอิ พ่อและแม่ ก็เริ่มมีปัญหากัน พ่อไม่มีงานทำ ถึงพ่อจะรักยูอิมาก แต่ก็ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูยูอิ พ่อมอบหมายให้เป็นเรื่องของแม่คนเดียว
เมื่อหาเงินได้ พ่อจะใช้จ่าย ส่วนตัว ซื้อข้าวของทุกอย่างให้ตัวเอง แต่ไม่เคยรับผิดชอบครอบครัว
#แม่จึงทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน
ไม่นานพ่อก็มีชู้ และหย่ากับแม่เพื่อไปอยู่กับชู้
*********
*********
ยูริเริ่มทำงานที่คาบาเร่ หลังจากหย่าและต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
ยูริเป็นผู้หญิงหัวอ่อน และโหยหาความรัก เธอเจอกับผู้ชายที่ทำงาน
เค้าเป็นคนมีความรู้ เข้าสังคมเก่ง ฉลาดและมีความเป็นผู้นำสูง
#ยูริจึงตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ทันที
เค้ากลายมาเป็นพ่อใหม่ของยูอิในเวลาอันรวดเร็ว
**********
**********
ไม่นาน #ยูริก็ตั้งท้องลูกคนที่ 2
เมื่ออยู่กันไป ยูริถึงได้รู้ว่า สามีใหม่ มีนิสัยเข้มงวด จุกจิก เจ้าระเบียบ
เค้ามักจะบอกว่ายูอิเป็นเด็กเอาแต่ใจ ควรเลิกตามใจ และยูริควรปล่อยให้เค้าเป็นคนดูแลสั่งสอนยูอิเอง
เค้าเริ่มจาก การให้ยูอินอนคนเดียว
เค้ามักจะดุด่า และตีเด็กน้อยเสมอๆ เมื่อเด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ โดยใช้เหตุผลว่า นี่คือการกระทำเพื่อฝึกวินัยให้ยูอิ และทุกสิ่งที่ทำไปมาจาก “ ความรัก “
*******
*******
นอกจากเข้มงวดกับยูอิแล้ว ยูริผู้เป็นแม่เองก็ได้รับความกดดันเช่นกัน เค้ามักเรียกยูริมานั่งฟังเค้าเทศน์ทุกๆ วัน บางวันนานถึง 3 ชั่วโมง โดยที่ยูริต้องก้มหน้าฟังอย่างเดียว ห้ามโต้เถียง ใดๆ
#ครั้งหนึ่ง
เมื่อครอบครัวไปเที่ยวทะเล ยูอิที่เป็นโรคกลัวทะเลถูกบังคับให้ลงไปว่ายน้ำ ผู้เป็นพ่อเลี้ยงสั่งว่า ถ้าไม่ลงไป จะจับโยนลงไปเอง เด็กน้อยจึงต้องค่อยๆ เดินลงไปในทะเลทั้งน้ำตาด้วยความหวาดกลัว
หลายครั้งที่เพื่อนบ้านรายงานเรื่องเสียงร้องไห้ของเด็ก เสียงดุด่า และการทำโทษที่เกินพอดี ต่อเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่มีผลอะไร
ยูริและยูอิ ถูกสั่งควบคุมอาหาร ทั้งสองคนไม่สามารถกินอาหารหรือของหวานต่อหน้าพ่อเลี้ยงได้
แม้อีกฝ่ายจะเป็นคนท้องแก่ #หรือเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุ 5 ขวบ
*******
*******
ยูริคลอดลูกชายคนที่ 2 ในเดือนกันยายน
ส่วนยูอิ ผู้เป็นพ่อเลี้ยงสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งกับแม่ และ น้องชาย เด็กน้อยจึงอยู่ในความดูแลของพ่อเลี้ยงทุกอย่าง
เมื่อยูอิเข้าไปหาแม่ หรือไปนอนเล่นกับน้อง ก็จะถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย โดยการเตะแรงๆที่ท้อง เหมือนลูกฟุตบอล
ไม่ว่าเด็กน้อยจะร้องอ้อนวอนเท่าไหร่เค้าก็ไม่หยุด
*******
*******
ทุกครั้งที่เด็กน้อยถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ จะได้รับความคุ้มครองชั่วคราวจากเจ้าหน้าที่ แต่เพียงไม่นาน เด็กน้อยก็จะถูกส่งกลับคืนครอบครัว
( ตรงนี้เป็นเพราะยูอิเองก็คิดถึงแม่ จึงจำใจเขียนจดหมายให้เจ้าหน้าที่ตามคำบอกของพ่อเลี้ยง ว่าที่ผ่านมาตนไม่เคยถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายใดๆ เลย เด็กน้อยแค่สร้างเรื่องโกหก )
#ชีวิตเด็กน้อยวนเวียนอยู่แบบนั้น
ถูกพ่อเลี้ยงทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย ถูกส่งไปคุ้มครองชั่วคราว และถูกส่งกลับ
ผู้เป็นแม่ ไม่สามารถปกป้องลูกสาวได้ นั่นทำให้เธอเริ่มมีอาการทางจิต จนต้องพบจิตแพทย์
ผู้เป็นสามีบอกกับทุกคนว่า คนที่ทำร้ายลูกคือตัวเธอเอง เธอทั้งโกหกและทำร้ายร่างกายของลูก
บางวันหนูน้อยโดนทุบตี ปากแตก ตัวฟกช้ำ จนต้องหนีไปนอนอยู่ตามซอกๆ มุมตึก
************
************
ไม่นาน #ผู้เป็นพ่อเลี้ยงก็ย้ายไปทำงานที่โตเกียว
ยูริพาลูกๆ กลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ เป็น 1 เดือน ที่มีความสุขสำหรับทั้ง 3 คนแม่ลูก
แต่ไม่นาน สามีก็มารับทั้งหมดไปอยู่ด้วย
#39วันสุดท้ายในชีวิตของเด็กหญิงเริ่มตอนนี้
********
********
เมื่อขึ้นมาอยู่โตเกียว ยูริถูกบอกให้ออกไปทำงาน ส่วนยูอิ เด็กน้อยต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงตามลำพัง และถูกพ่อเลี้ยงทารุณกรรม และล่วงละเมิดในขณะที่แม่ไม่อยู่ทุกๆวัน
#เธอแทบไม่ได้กินอาหาร แค่ 39 วัน น้ำหนักเด็กน้อยหายไปเกือบครึ่ง ร่างกายมีแต่ร่องรอยฟกช้ำดำเขียวจากการถูกทุบตี
กว่ายูริจะกลับถึงบ้าน ก็มืดค่ำ เธอถูกบอกให้ไม่ต้องไปยุ่งกับลูกสาวที่นอนหลับไปแล้ว
เธอได้แต่ภาวนาว่าลูกจะสามารถผ่านมันไปได้ เพราะเธออ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องลูกใว้ได้จริงๆ
#สภาพร่างกายของยูอิเริ่มเปลี่ยนไป แต่ยูริมีเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในช่วงเช้าที่จะใส่ใจยูอิ
เธอสังเกตเห็นร่องรอยต่างๆ บนตัวลูกสาว แต่ก็กลัวสามีเกินกว่าจะพูดถึงเรื่องนี้
- ลูกสาวที่ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของความเจ็บปวด
- สามีใหม่เจ้าอารมณ์และติดยา
- แม่ที่อ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องลูก
#จุดจบจึงไม่เคยสวยงาม
- ยูอิตายตอนอายุ 5 ขวบ ( หลังจากย้ายขึ้นมาอยู่โตเกียวได้ 39 วัน )
- ส่วนสามีใหม่ โดนโทษ 13 ปี
- สำหรับผู้เป็นแม่ โดนโทษจำคุก 8 ปี
สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ #เด็กน้อยถูกทิ้งศพใว้อย่างนั้นหลังจากที่เสียชีวิต
เด็กน้อยยูอิเสียชีวิตจากการที่ร่างกายขาดสารอาหาร ขั้นรุนแรง เธอยังป่วยหนักด้วยโรคปอดบวม ด้วยความที่ร่างกายไม่ได้รับอาหาร ทำให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำ หนูน้อยจึงติดเชื้อและเสียชีวิตในที่สุด
#สิ่งที่ทำให้น้ำตาไหลอีกอย่างคือ ตำรวจที่ค้นอพาร์ตเมนต์เจอข้อความที่หนูน้อยเอาแต่พร่ำขอโทษอยู่เต็มไปหมด
“ให้อภัยหนูเถอะ ให้อภัยหนูเถอะ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำอีก” “หนูจะตั้งใจทำให้พรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้ “
เด็กน้อยยังบอกว่ารู้สึกผิดที่ชอบเล่น #และสัญญาว่าจะไม่ทำอีก
*********
*********
นี่ก็เป็นเพียงแค่ 1 เคส 1 ครอบครัวในญี่ปุ่น มันน่าตกใจที่ว่า ประเทศญี่ปุ่นมีข่าวการทำร้ายและทารุณกรรมเด็กๆ โดยผู้ปกครองหรือผู้ดูแลมากจริงๆ
เรื่องนี้มีมานาน และไม่เคยหายไปจากสังคมญี่ปุ่นไม่ว่าจะยุคสมัยใด
เด็กบางคน ทนมีชีวิตรอดได้ ที่เหลือก็ใช้ชีวิตแบบบิดๆ เบี้ยวๆ จากปมวัยเด็ก
ที่ตายจากไปก็มาก
#มันน่าเศร้าเหลือเกิน
******
******
ป.ล. ถ้าจะเอาไปโพสต์ที่อื่นให้เครดิตเพจนี้ด้วยนะคะ
“ พ่อยกโทษให้ฉันด้วย “ จดหมายก่อนตายของหนูที่ถูกทารุณกรรม
*** อันนี้ค่อนข้างเศร้านะ ใครไม่ไหวข้ามไปก่อน
ปี 2018 มีข่าวเด็กคนหนึ่งนอนเสียชีวิตเพียงลำพังอยู่ในอพาร์ตเมนต์ เนื้อตัวของเธอซูบผอม #และมีร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายทั่วตัว ( 170 จุด )
หลังเหตุการณ์ผ่านไป 3 เดือน ตำรวจก็จับกุมคนร้ายได้ คือ “ แม่และพ่อเลี้ยงของหนูน้อยนั่นเอง “
**********
**********
คนเป็นแม่ ยังมีลูกเล็กๆ อีกคน เป็นผู้ชาย ( แม่ชื่อยูริ)
ยูริแต่งงานตั้งแต่จบชั้น ม. ปลายกับเพื่อนร่วมชั้น ( 19 ปี ) และมียูอิ
เมื่อคลอดยูอิ พ่อและแม่ ก็เริ่มมีปัญหากัน พ่อไม่มีงานทำ ถึงพ่อจะรักยูอิมาก แต่ก็ไม่เคยส่งเสียเลี้ยงดูยูอิ พ่อมอบหมายให้เป็นเรื่องของแม่คนเดียว
เมื่อหาเงินได้ พ่อจะใช้จ่าย ส่วนตัว ซื้อข้าวของทุกอย่างให้ตัวเอง แต่ไม่เคยรับผิดชอบครอบครัว
#แม่จึงทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน
ไม่นานพ่อก็มีชู้ และหย่ากับแม่เพื่อไปอยู่กับชู้
*********
*********
ยูริเริ่มทำงานที่คาบาเร่ หลังจากหย่าและต้องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว
ยูริเป็นผู้หญิงหัวอ่อน และโหยหาความรัก เธอเจอกับผู้ชายที่ทำงาน
เค้าเป็นคนมีความรู้ เข้าสังคมเก่ง ฉลาดและมีความเป็นผู้นำสูง
#ยูริจึงตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ทันที
เค้ากลายมาเป็นพ่อใหม่ของยูอิในเวลาอันรวดเร็ว
**********
**********
ไม่นาน #ยูริก็ตั้งท้องลูกคนที่ 2
เมื่ออยู่กันไป ยูริถึงได้รู้ว่า สามีใหม่ มีนิสัยเข้มงวด จุกจิก เจ้าระเบียบ
เค้ามักจะบอกว่ายูอิเป็นเด็กเอาแต่ใจ ควรเลิกตามใจ และยูริควรปล่อยให้เค้าเป็นคนดูแลสั่งสอนยูอิเอง
เค้าเริ่มจาก การให้ยูอินอนคนเดียว
เค้ามักจะดุด่า และตีเด็กน้อยเสมอๆ เมื่อเด็กน้อยไม่ได้ดั่งใจ โดยใช้เหตุผลว่า นี่คือการกระทำเพื่อฝึกวินัยให้ยูอิ และทุกสิ่งที่ทำไปมาจาก “ ความรัก “
*******
*******
นอกจากเข้มงวดกับยูอิแล้ว ยูริผู้เป็นแม่เองก็ได้รับความกดดันเช่นกัน เค้ามักเรียกยูริมานั่งฟังเค้าเทศน์ทุกๆ วัน บางวันนานถึง 3 ชั่วโมง โดยที่ยูริต้องก้มหน้าฟังอย่างเดียว ห้ามโต้เถียง ใดๆ
#ครั้งหนึ่ง
เมื่อครอบครัวไปเที่ยวทะเล ยูอิที่เป็นโรคกลัวทะเลถูกบังคับให้ลงไปว่ายน้ำ ผู้เป็นพ่อเลี้ยงสั่งว่า ถ้าไม่ลงไป จะจับโยนลงไปเอง เด็กน้อยจึงต้องค่อยๆ เดินลงไปในทะเลทั้งน้ำตาด้วยความหวาดกลัว
หลายครั้งที่เพื่อนบ้านรายงานเรื่องเสียงร้องไห้ของเด็ก เสียงดุด่า และการทำโทษที่เกินพอดี ต่อเจ้าหน้าที่ แต่ก็ไม่มีผลอะไร
ยูริและยูอิ ถูกสั่งควบคุมอาหาร ทั้งสองคนไม่สามารถกินอาหารหรือของหวานต่อหน้าพ่อเลี้ยงได้
แม้อีกฝ่ายจะเป็นคนท้องแก่ #หรือเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ อายุ 5 ขวบ
*******
*******
ยูริคลอดลูกชายคนที่ 2 ในเดือนกันยายน
ส่วนยูอิ ผู้เป็นพ่อเลี้ยงสั่งห้ามไม่ให้ยุ่งกับแม่ และ น้องชาย เด็กน้อยจึงอยู่ในความดูแลของพ่อเลี้ยงทุกอย่าง
เมื่อยูอิเข้าไปหาแม่ หรือไปนอนเล่นกับน้อง ก็จะถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย โดยการเตะแรงๆที่ท้อง เหมือนลูกฟุตบอล
ไม่ว่าเด็กน้อยจะร้องอ้อนวอนเท่าไหร่เค้าก็ไม่หยุด
*******
*******
ทุกครั้งที่เด็กน้อยถูกทำร้ายจนบาดเจ็บ จะได้รับความคุ้มครองชั่วคราวจากเจ้าหน้าที่ แต่เพียงไม่นาน เด็กน้อยก็จะถูกส่งกลับคืนครอบครัว
( ตรงนี้เป็นเพราะยูอิเองก็คิดถึงแม่ จึงจำใจเขียนจดหมายให้เจ้าหน้าที่ตามคำบอกของพ่อเลี้ยง ว่าที่ผ่านมาตนไม่เคยถูกพ่อเลี้ยงทำร้ายใดๆ เลย เด็กน้อยแค่สร้างเรื่องโกหก )
#ชีวิตเด็กน้อยวนเวียนอยู่แบบนั้น
ถูกพ่อเลี้ยงทารุณกรรม ทำร้ายร่างกาย ถูกส่งไปคุ้มครองชั่วคราว และถูกส่งกลับ
ผู้เป็นแม่ ไม่สามารถปกป้องลูกสาวได้ นั่นทำให้เธอเริ่มมีอาการทางจิต จนต้องพบจิตแพทย์
ผู้เป็นสามีบอกกับทุกคนว่า คนที่ทำร้ายลูกคือตัวเธอเอง เธอทั้งโกหกและทำร้ายร่างกายของลูก
บางวันหนูน้อยโดนทุบตี ปากแตก ตัวฟกช้ำ จนต้องหนีไปนอนอยู่ตามซอกๆ มุมตึก
************
************
ไม่นาน #ผู้เป็นพ่อเลี้ยงก็ย้ายไปทำงานที่โตเกียว
ยูริพาลูกๆ กลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ เป็น 1 เดือน ที่มีความสุขสำหรับทั้ง 3 คนแม่ลูก
แต่ไม่นาน สามีก็มารับทั้งหมดไปอยู่ด้วย
#39วันสุดท้ายในชีวิตของเด็กหญิงเริ่มตอนนี้
********
********
เมื่อขึ้นมาอยู่โตเกียว ยูริถูกบอกให้ออกไปทำงาน ส่วนยูอิ เด็กน้อยต้องอยู่กับพ่อเลี้ยงตามลำพัง และถูกพ่อเลี้ยงทารุณกรรม และล่วงละเมิดในขณะที่แม่ไม่อยู่ทุกๆวัน
#เธอแทบไม่ได้กินอาหาร แค่ 39 วัน น้ำหนักเด็กน้อยหายไปเกือบครึ่ง ร่างกายมีแต่ร่องรอยฟกช้ำดำเขียวจากการถูกทุบตี
กว่ายูริจะกลับถึงบ้าน ก็มืดค่ำ เธอถูกบอกให้ไม่ต้องไปยุ่งกับลูกสาวที่นอนหลับไปแล้ว
เธอได้แต่ภาวนาว่าลูกจะสามารถผ่านมันไปได้ เพราะเธออ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องลูกใว้ได้จริงๆ
#สภาพร่างกายของยูอิเริ่มเปลี่ยนไป แต่ยูริมีเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงในช่วงเช้าที่จะใส่ใจยูอิ
เธอสังเกตเห็นร่องรอยต่างๆ บนตัวลูกสาว แต่ก็กลัวสามีเกินกว่าจะพูดถึงเรื่องนี้
- ลูกสาวที่ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องของความเจ็บปวด
- สามีใหม่เจ้าอารมณ์และติดยา
- แม่ที่อ่อนแอเกินกว่าจะปกป้องลูก
#จุดจบจึงไม่เคยสวยงาม
- ยูอิตายตอนอายุ 5 ขวบ ( หลังจากย้ายขึ้นมาอยู่โตเกียวได้ 39 วัน )
- ส่วนสามีใหม่ โดนโทษ 13 ปี
- สำหรับผู้เป็นแม่ โดนโทษจำคุก 8 ปี
สิ่งที่น่าเศร้าก็คือ #เด็กน้อยถูกทิ้งศพใว้อย่างนั้นหลังจากที่เสียชีวิต
เด็กน้อยยูอิเสียชีวิตจากการที่ร่างกายขาดสารอาหาร ขั้นรุนแรง เธอยังป่วยหนักด้วยโรคปอดบวม ด้วยความที่ร่างกายไม่ได้รับอาหาร ทำให้ภูมิคุ้มกันลดต่ำ หนูน้อยจึงติดเชื้อและเสียชีวิตในที่สุด
#สิ่งที่ทำให้น้ำตาไหลอีกอย่างคือ ตำรวจที่ค้นอพาร์ตเมนต์เจอข้อความที่หนูน้อยเอาแต่พร่ำขอโทษอยู่เต็มไปหมด
“ให้อภัยหนูเถอะ ให้อภัยหนูเถอะ หนูสัญญาว่าจะไม่ทำอีก” “หนูจะตั้งใจทำให้พรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้ “
เด็กน้อยยังบอกว่ารู้สึกผิดที่ชอบเล่น #และสัญญาว่าจะไม่ทำอีก
*********
*********
นี่ก็เป็นเพียงแค่ 1 เคส 1 ครอบครัวในญี่ปุ่น มันน่าตกใจที่ว่า ประเทศญี่ปุ่นมีข่าวการทำร้ายและทารุณกรรมเด็กๆ โดยผู้ปกครองหรือผู้ดูแลมากจริงๆ
เรื่องนี้มีมานาน และไม่เคยหายไปจากสังคมญี่ปุ่นไม่ว่าจะยุคสมัยใด
เด็กบางคน ทนมีชีวิตรอดได้ ที่เหลือก็ใช้ชีวิตแบบบิดๆ เบี้ยวๆ จากปมวัยเด็ก
ที่ตายจากไปก็มาก
#มันน่าเศร้าเหลือเกิน
******
******
ป.ล. ถ้าจะเอาไปโพสต์ที่อื่นให้เครดิตเพจนี้ด้วยนะคะ