ยาวหน่อยต้องขออภัย เราเครียดจริงๆ ค่ะ
สวัสดีค่ะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงจากตัวเราเองทั้งหมด (ลูก2คน หญิง 6 ขวบ ชาย 3 ขวบ) ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
> เราได้ออกจากบ้านมาวันที่ 25 พศจิกายน 2562 ตัดสินใจเลิกพ่อเด็ก โดยเหตุผลดังนี้ (27 พฤศจิกายน เป็นวันเกิดที่เศร้าที่สุด)
1. อยู่ด้วยกันมา 6 ปี เราทำงานประจำคนเดียว (ตอนนี้เราตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิต) เค๊าอยู่บ้าน ลูกอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด90% ลูกมาบ้างบางครั้ง , เค๊าใช้เหตุผลนี้กับคนอื่นไม่ไปทำงาน ว่าต้องดูลูกและไปรับส่งลูก เราบอกทางออกมันมี ให้ลูกไปเรียนทางไปที่ทำงานเราก็ได้ ตอนเช้าเราไปส่งได้ เค๊าใช้เหตุผลว่าเราไม่มีเวลา
2. เมื่อปี 2016 เราเปิดบริษัท เป็นชื่อเรา เงินลงทุนของเราทั้งหมด แล้วเปลี่ยนเป็นชื่อเค๊า ปี2017 (เราลงทุน พอได้เงินมา เค๊าไม่เคลียร์ให้เรา ใช้เหตุผลว่าจะเก็บไว้ให้ลูก แต่เค๊าใช้เงินไปเที่ยว ต่างประเทศ ซื้อของที่เค๊าอยากได้ ) แต่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเราออกหมด ตั้งแต่ท้อง จนคลอดลูก ค่าวัคซีน ค่าเที่ยว ทุกอย่าง เวลามีงานบริษัทส่วนตัว เราต้องลางานไปทำงานคนเดียว รวมถึงเสาร์อาทิตย์ เราก็ไม่ได้หยุด เป็นงานรับเหมาก่อสร้าง เค๊าจะเลื่อกเฉพาะงานที่ซื้อมาแล้วขายไปถึงจะทำ แต่กำไรส่วนใหญ่อยู่ที่งานรับเหมา
3. ไม่เคยช่วยเหลืองานบ้าน เราไปทำงานกลับมาเค๊านอน เราหาข้าวหาน้ำไว้ให้ ตื่นแต่ตี4-5 ทำกับข้าวไว้ให้ และให้เงินไว้ วันละ 100 บาท บางวันยังต้องซื้อบุหรี่มาให้
4. เค๊าเคยตบตีเรา 2 ครั้ง (เค๊าเอาแต่ใจต้องทำตามทุกคำสั่งแบบห้ามผิดเพี้ยน)
5. เค๊าชอบดูดบุหรี่ในห้องนอน ห้องน้ำ เคยทะเลาะกัน เค๊าใช้เหตุผลว่านี่คือการแอบดูด พอเค๊าโมโหเค๊าขู่ว่า ถ้าเรางี่เง่าอีก จะดูดแล้วพ่นควันใส่หน้าลูก มีวันหนึ่งทะเลาะกันเรื่องนี้ เค๊าได้สูบบุหรี่ในบ้านให้ลูกเห็นที่ห้องนั่งเล่น เราแอบ ถ่ายคลิปไว้
6. เค๊าเล่นยาไอซ์ เคยโดยตรวจฉี่ เราจ่ายไป 2 หมื่น
7. เค๊าตีลูกหลายครั้งแบบไม่มีเหตุผลและตีหนัก แล้วพาลูกไปที่อื่น ถ้ายิ่งแรง เค๊ายิ่งขึ้น, วันที่ เราออกมาจากบ้าน เราให้ลูกไปอยู่ย่า โดยผู้เป็นย่ารับรู้ ว่าลูกชายเค๊าร้ายแค่ไหน เรากลับมาจากทำงาน เห็นลูกนั้งร้องไหอยู่หน้าบ้าน บอกว่าพ่อจะเอาน้ำฟาดหน้า เด็ก6 ขวบ เราอัดคลิปไว้ และเราได้นอนนอกห้องเนื่องจากเรารู้สึกไม่สบายหนาวเมื่อยตัวประจำเดือนจะมา เลยไม่นอนห้องแอร์ แล้วลูกออกมานอนด้วย พ่อเด็กถือไม้ แล้วบอกไปนอนในห้อง เด็กก็กลัว วิ่งเข้าไป พอ4 ทุ่ม ลูกสาวเราแอบเปิดประตูออกมา แล้วกอดบอกว่าอยากนอนกับแม่ ตี2 พ่อตื่นมา ลากลูกตกลงจากโซฟา เอาฟุตเหล็กตี 2 ครั้ง ไม้แขวนเสื้อ 3 ครั้ง ตั้งแต่นั้นมา ลูกเราเดินตามพ่อ ทุกคำพูด
เราคิดว่าทำดีให้มากขึ้นเผื่อแฟนจะดีขึ้น แต่กลับแย่ลง
> เดือนธันวา เราจะไปเอาลูกที่โรงเรียนโดยลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพัก ไปพร้อมกับทนาย ไปถึงวันนั้น ย่ามารับกลับตั้งแต่ เที่ยงไม่สำเร็จ ตั้งวันนั้น เค๊าไม่ให้ลูกชายไปโรงเรียนเลย ให้แต่ลูกสาว เนื่องจากครูที่โรงเรียนโทรไปบอกย่าเค๊า เค๊าบอกคนอื่นและลูกว่าแม่เมิงทิ้งไปกินเหล้ากับเพื่อน และบอกเราถ้ายังส่งค่าเลี้ยงดูจะได้คุยกับลูก เราจ่ายให้ไปเดือนละ 7800 บาท กับย่าเค๊า (ตัวย่าปกติรับจ๊อบโบกธง) เราเลิกให้เดือน มคกราคม ย่าคงโกรธ ตอนนี้เราvdo call ไปเค๊าไม่รับแล้ว
> เราติดต่อมูลนิธิพิทักษ์เด็ก ให้ข้อมูลว่าเราต้อง ไปยื่นให้ ศคช ช่วย เราไปปรึกษามาแล้วเป็นการยื่นขอบุตรคืน
> เราติดต่อคนในมูลนิธิปวีณา ให้ข้อมูลเราว่าเหตุการแบบนี้มีเยอะ โตขึ้นเด็กกลับมาหาเอง
> เราไปแจ้งความไว้ ว่าพรากผู้เยาว์ ตำรวจบอกทำไม่ได้
> ช่วงปีใหม่ น้องสาวแฟนเรา โทรมา บอกเราว่า พ่อเด็กขู่ จะทำให้ลูกหายไปจากโลกพร้อมเค๊า และอยากให้เรา รีบพาตำรวจมาเอาลูกไป แล้วพ่อเด็กได้ติดต่อมาที่เรา บอกอยากคุยกับเรา แค่ 2 ต่อ2 ให้มา ถ้ายังอยากเจอลูกอีก โดยไลน์มา เราได้ไปหาตำรวจอีกครั้ง ตำรวจบอกให้เอาเบอร์สายตรวจไป เกิดเรื่องก็แจ้งมา , เราเลยได้ไปพบพ่อเด็ก โดยเอาโทรออกไปยังเครื่องน้องสาวเค๊า น้องเค๊าแอบอยู่ข้างนอกกับเพื่อนอีก 2 คน เผื่อฉุกเฉิน เข้ามาช่วยได้ทัน วันนั้นเค๊าดึงเราเข้าไปให้ห้อง 2 คน แล้วเอาเอกสารมาให้เราเซ็นต์ บอกว่าเรายินยอมเซ็นต์รับรองบุตรให้ และ จะยอมให้มารับลูกได้สลับอาทิตย์กัน และค่าเลี้ยงดู เราบอกเค๊ามาตลอดว่าช่าย เด็กต้องมีพ่อและแม่ และเราขอเค๊าไป สถานี ตำรวจ ว่าเราขอให้เธอตรวจสารเสพติด และ ภาวะทางจิต น้องสาวเค๊าบอกเราว่า เค๊าใช้ยามาตั้งแต่ ม 2 จนตอนนี้ เค๊าอายุ35 ปี แต่พอไปเขต ลูกเล็กเกิน เขตไม่รับ เค๊าไม่ไปโรงพักกับเรา เราเลยไปโรงพักว่าจะขอกำลังตำรวจไป เอาลูก ตำรวจเชิญมาโรงพัก แล้วพูดว่า เรื่องของพวกคุณ มาทำให้เค๊าวุ่นวาย และพ่อเด็กก็เอาเอกสาร ที่เราเซ็นต์ ให้ตำรวจ ว่าเรายอม ตำรวจบอกว่า ไม่ต้องมาเล่าว่าใครดีใครชั่วยังไง ให้เด็กกลับไปกับพ่อ เราพูดไม่ออกเลย
> เค๊าบอกอยากเจอก็ไปที่โรงเรียนเอา คือเราทำงานบางพลี ลูกไปอยู่ดอนเมืองบ้านย่า เราลางานไป 2 ครั้ง ลูกบอกว่า ถ้าแม่มาดูงานที่หนูเต้น พ่อกับย่าจะกลับหนูก็ไม่ได้เต้น แล้วเค๊าร้องไห้ เราได้แต่บอกว่า เราจะไม่ไปดู หนูจะได้เต้น ครูคุมเราตลอด ไม่ให้เราเอาลูกไป แต่เราได้แอบไปหาลูก จนลูกพูดว่า หนูอยากให้แม่มา แล้วย่าติดต่อมา บอก พ่อไม่ยอม ซื้อรองเท้าเต้นให้ สงสารหลาน เราได้ไปดูลูกเต้น 25 ม.ค.63 จบงาน ลูกชาย จับมือเราวิ่งบอกจะกลับกับแม่ พ่อไม่ยอม เอาลูกไป ส่งvdo มาให้เราดู และ บอกว่าเราคือสาเหตุ ทำให้ลูกร้องไห้ หา ทำไมเราไม่รอให้ลูกโต แล้ว ค่อยมาเจอ รับรองว่าลูกจะลืมเราได้แล้ว แน่นอน เพราะตอนนี้เค๊า ได้หางานทำ และ ดีกับลูก ไม่ตี เลิกยามา 2 เดือน และบอกลูกว่าแม่ทิ้งไป เราได้แต่ร้องไห้คิดถึง เพราะย่าเค๊าก็ไม่มีเงิน แถมยังต้องเลี้ยงแม่ และพี่สาวที่พิการขาขาด แขนขาด และตาบอด วันไหนพา2 คนนี้ไปหาหมอ บอกว่าฝากลูกเราไว้กับคนอื่น
> เค๊าส่งรูปเราเปลือยท่อนบน มาบอก จะทำให้เราอับอาย และเค๊าจะทำทุกอย่าง แล้วเค๊าก็กล้าทำทุกอย่าง เราน่าจะรู้ดีนี่ แล้วบอกเราว่า พ่อเค๊าที่ออกราชการมามีเพื่อนเป็นนายพล เยอะแยะ ยังไงพ่อเค๊าก็ต้องช่วยเค๊าอยู่แล้ว (เค๊าเคยเล่นยาแล้วไปขับรถชน เราโงเองจ่ายเงิน ซ่อมรถ เอง แล้วเค๊าก็ไม่ไปเคลียร์ที่โรงพัก เราอุ้มลูกไปพร้อมกับเพื่อนไปเคลียร์ที่โรงพักให้เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว)
> แล้วเราก็ได้รับหมายศาล ว่าพ่อเด็กยื่นขอเป็นผู้ปกครองเด็กเพียงผู้เดียว
> เราได้ให้ทนายไปยื่นคัดค้านและจะไปขึ้นศาลอยุธยา วันที่16 มีนาคม นี้แล้ว เราไม่รู้จริงๆ ว่าผลจะออกมายังไง ถ้าศาลให้พ่อไปโดยตัดสินว่าเราไม่มีเวลา เพราะพ่อเด็กพยายามอยู่ตลอดให้เราไม่เจอลูก และดีแบบไม่เคยเป็นมาก่อน จะยืนยาวแค่ไหน เราไม่รู้ เราก็เตรียมใจไว้แล้ว เก็บเงินไว้ให้ลูกในอนาคต
ยาวหน่อยกับชีวิตห่วยๆ และได้เรียนรู้ ตอนนี้คิดถึงลูกจับใจ พิมพ์ไปร้องไห้
คิดถึงลูก แต่ โดนกีดกัน และอยู่ระหว่างศาลพิจารณา '' "
สวัสดีค่ะ เรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงจากตัวเราเองทั้งหมด (ลูก2คน หญิง 6 ขวบ ชาย 3 ขวบ) ไม่ได้จดทะเบียนสมรส
> เราได้ออกจากบ้านมาวันที่ 25 พศจิกายน 2562 ตัดสินใจเลิกพ่อเด็ก โดยเหตุผลดังนี้ (27 พฤศจิกายน เป็นวันเกิดที่เศร้าที่สุด)
1. อยู่ด้วยกันมา 6 ปี เราทำงานประจำคนเดียว (ตอนนี้เราตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายผลิต) เค๊าอยู่บ้าน ลูกอยู่กับยายที่ต่างจังหวัด90% ลูกมาบ้างบางครั้ง , เค๊าใช้เหตุผลนี้กับคนอื่นไม่ไปทำงาน ว่าต้องดูลูกและไปรับส่งลูก เราบอกทางออกมันมี ให้ลูกไปเรียนทางไปที่ทำงานเราก็ได้ ตอนเช้าเราไปส่งได้ เค๊าใช้เหตุผลว่าเราไม่มีเวลา
2. เมื่อปี 2016 เราเปิดบริษัท เป็นชื่อเรา เงินลงทุนของเราทั้งหมด แล้วเปลี่ยนเป็นชื่อเค๊า ปี2017 (เราลงทุน พอได้เงินมา เค๊าไม่เคลียร์ให้เรา ใช้เหตุผลว่าจะเก็บไว้ให้ลูก แต่เค๊าใช้เงินไปเที่ยว ต่างประเทศ ซื้อของที่เค๊าอยากได้ ) แต่ค่าใช้จ่ายทุกอย่างในบ้านเราออกหมด ตั้งแต่ท้อง จนคลอดลูก ค่าวัคซีน ค่าเที่ยว ทุกอย่าง เวลามีงานบริษัทส่วนตัว เราต้องลางานไปทำงานคนเดียว รวมถึงเสาร์อาทิตย์ เราก็ไม่ได้หยุด เป็นงานรับเหมาก่อสร้าง เค๊าจะเลื่อกเฉพาะงานที่ซื้อมาแล้วขายไปถึงจะทำ แต่กำไรส่วนใหญ่อยู่ที่งานรับเหมา
3. ไม่เคยช่วยเหลืองานบ้าน เราไปทำงานกลับมาเค๊านอน เราหาข้าวหาน้ำไว้ให้ ตื่นแต่ตี4-5 ทำกับข้าวไว้ให้ และให้เงินไว้ วันละ 100 บาท บางวันยังต้องซื้อบุหรี่มาให้
4. เค๊าเคยตบตีเรา 2 ครั้ง (เค๊าเอาแต่ใจต้องทำตามทุกคำสั่งแบบห้ามผิดเพี้ยน)
5. เค๊าชอบดูดบุหรี่ในห้องนอน ห้องน้ำ เคยทะเลาะกัน เค๊าใช้เหตุผลว่านี่คือการแอบดูด พอเค๊าโมโหเค๊าขู่ว่า ถ้าเรางี่เง่าอีก จะดูดแล้วพ่นควันใส่หน้าลูก มีวันหนึ่งทะเลาะกันเรื่องนี้ เค๊าได้สูบบุหรี่ในบ้านให้ลูกเห็นที่ห้องนั่งเล่น เราแอบ ถ่ายคลิปไว้
6. เค๊าเล่นยาไอซ์ เคยโดยตรวจฉี่ เราจ่ายไป 2 หมื่น
7. เค๊าตีลูกหลายครั้งแบบไม่มีเหตุผลและตีหนัก แล้วพาลูกไปที่อื่น ถ้ายิ่งแรง เค๊ายิ่งขึ้น, วันที่ เราออกมาจากบ้าน เราให้ลูกไปอยู่ย่า โดยผู้เป็นย่ารับรู้ ว่าลูกชายเค๊าร้ายแค่ไหน เรากลับมาจากทำงาน เห็นลูกนั้งร้องไหอยู่หน้าบ้าน บอกว่าพ่อจะเอาน้ำฟาดหน้า เด็ก6 ขวบ เราอัดคลิปไว้ และเราได้นอนนอกห้องเนื่องจากเรารู้สึกไม่สบายหนาวเมื่อยตัวประจำเดือนจะมา เลยไม่นอนห้องแอร์ แล้วลูกออกมานอนด้วย พ่อเด็กถือไม้ แล้วบอกไปนอนในห้อง เด็กก็กลัว วิ่งเข้าไป พอ4 ทุ่ม ลูกสาวเราแอบเปิดประตูออกมา แล้วกอดบอกว่าอยากนอนกับแม่ ตี2 พ่อตื่นมา ลากลูกตกลงจากโซฟา เอาฟุตเหล็กตี 2 ครั้ง ไม้แขวนเสื้อ 3 ครั้ง ตั้งแต่นั้นมา ลูกเราเดินตามพ่อ ทุกคำพูด
เราคิดว่าทำดีให้มากขึ้นเผื่อแฟนจะดีขึ้น แต่กลับแย่ลง
> เดือนธันวา เราจะไปเอาลูกที่โรงเรียนโดยลงบันทึกประจำวันไว้ที่โรงพัก ไปพร้อมกับทนาย ไปถึงวันนั้น ย่ามารับกลับตั้งแต่ เที่ยงไม่สำเร็จ ตั้งวันนั้น เค๊าไม่ให้ลูกชายไปโรงเรียนเลย ให้แต่ลูกสาว เนื่องจากครูที่โรงเรียนโทรไปบอกย่าเค๊า เค๊าบอกคนอื่นและลูกว่าแม่เมิงทิ้งไปกินเหล้ากับเพื่อน และบอกเราถ้ายังส่งค่าเลี้ยงดูจะได้คุยกับลูก เราจ่ายให้ไปเดือนละ 7800 บาท กับย่าเค๊า (ตัวย่าปกติรับจ๊อบโบกธง) เราเลิกให้เดือน มคกราคม ย่าคงโกรธ ตอนนี้เราvdo call ไปเค๊าไม่รับแล้ว
> เราติดต่อมูลนิธิพิทักษ์เด็ก ให้ข้อมูลว่าเราต้อง ไปยื่นให้ ศคช ช่วย เราไปปรึกษามาแล้วเป็นการยื่นขอบุตรคืน
> เราติดต่อคนในมูลนิธิปวีณา ให้ข้อมูลเราว่าเหตุการแบบนี้มีเยอะ โตขึ้นเด็กกลับมาหาเอง
> เราไปแจ้งความไว้ ว่าพรากผู้เยาว์ ตำรวจบอกทำไม่ได้
> ช่วงปีใหม่ น้องสาวแฟนเรา โทรมา บอกเราว่า พ่อเด็กขู่ จะทำให้ลูกหายไปจากโลกพร้อมเค๊า และอยากให้เรา รีบพาตำรวจมาเอาลูกไป แล้วพ่อเด็กได้ติดต่อมาที่เรา บอกอยากคุยกับเรา แค่ 2 ต่อ2 ให้มา ถ้ายังอยากเจอลูกอีก โดยไลน์มา เราได้ไปหาตำรวจอีกครั้ง ตำรวจบอกให้เอาเบอร์สายตรวจไป เกิดเรื่องก็แจ้งมา , เราเลยได้ไปพบพ่อเด็ก โดยเอาโทรออกไปยังเครื่องน้องสาวเค๊า น้องเค๊าแอบอยู่ข้างนอกกับเพื่อนอีก 2 คน เผื่อฉุกเฉิน เข้ามาช่วยได้ทัน วันนั้นเค๊าดึงเราเข้าไปให้ห้อง 2 คน แล้วเอาเอกสารมาให้เราเซ็นต์ บอกว่าเรายินยอมเซ็นต์รับรองบุตรให้ และ จะยอมให้มารับลูกได้สลับอาทิตย์กัน และค่าเลี้ยงดู เราบอกเค๊ามาตลอดว่าช่าย เด็กต้องมีพ่อและแม่ และเราขอเค๊าไป สถานี ตำรวจ ว่าเราขอให้เธอตรวจสารเสพติด และ ภาวะทางจิต น้องสาวเค๊าบอกเราว่า เค๊าใช้ยามาตั้งแต่ ม 2 จนตอนนี้ เค๊าอายุ35 ปี แต่พอไปเขต ลูกเล็กเกิน เขตไม่รับ เค๊าไม่ไปโรงพักกับเรา เราเลยไปโรงพักว่าจะขอกำลังตำรวจไป เอาลูก ตำรวจเชิญมาโรงพัก แล้วพูดว่า เรื่องของพวกคุณ มาทำให้เค๊าวุ่นวาย และพ่อเด็กก็เอาเอกสาร ที่เราเซ็นต์ ให้ตำรวจ ว่าเรายอม ตำรวจบอกว่า ไม่ต้องมาเล่าว่าใครดีใครชั่วยังไง ให้เด็กกลับไปกับพ่อ เราพูดไม่ออกเลย
> เค๊าบอกอยากเจอก็ไปที่โรงเรียนเอา คือเราทำงานบางพลี ลูกไปอยู่ดอนเมืองบ้านย่า เราลางานไป 2 ครั้ง ลูกบอกว่า ถ้าแม่มาดูงานที่หนูเต้น พ่อกับย่าจะกลับหนูก็ไม่ได้เต้น แล้วเค๊าร้องไห้ เราได้แต่บอกว่า เราจะไม่ไปดู หนูจะได้เต้น ครูคุมเราตลอด ไม่ให้เราเอาลูกไป แต่เราได้แอบไปหาลูก จนลูกพูดว่า หนูอยากให้แม่มา แล้วย่าติดต่อมา บอก พ่อไม่ยอม ซื้อรองเท้าเต้นให้ สงสารหลาน เราได้ไปดูลูกเต้น 25 ม.ค.63 จบงาน ลูกชาย จับมือเราวิ่งบอกจะกลับกับแม่ พ่อไม่ยอม เอาลูกไป ส่งvdo มาให้เราดู และ บอกว่าเราคือสาเหตุ ทำให้ลูกร้องไห้ หา ทำไมเราไม่รอให้ลูกโต แล้ว ค่อยมาเจอ รับรองว่าลูกจะลืมเราได้แล้ว แน่นอน เพราะตอนนี้เค๊า ได้หางานทำ และ ดีกับลูก ไม่ตี เลิกยามา 2 เดือน และบอกลูกว่าแม่ทิ้งไป เราได้แต่ร้องไห้คิดถึง เพราะย่าเค๊าก็ไม่มีเงิน แถมยังต้องเลี้ยงแม่ และพี่สาวที่พิการขาขาด แขนขาด และตาบอด วันไหนพา2 คนนี้ไปหาหมอ บอกว่าฝากลูกเราไว้กับคนอื่น
> เค๊าส่งรูปเราเปลือยท่อนบน มาบอก จะทำให้เราอับอาย และเค๊าจะทำทุกอย่าง แล้วเค๊าก็กล้าทำทุกอย่าง เราน่าจะรู้ดีนี่ แล้วบอกเราว่า พ่อเค๊าที่ออกราชการมามีเพื่อนเป็นนายพล เยอะแยะ ยังไงพ่อเค๊าก็ต้องช่วยเค๊าอยู่แล้ว (เค๊าเคยเล่นยาแล้วไปขับรถชน เราโงเองจ่ายเงิน ซ่อมรถ เอง แล้วเค๊าก็ไม่ไปเคลียร์ที่โรงพัก เราอุ้มลูกไปพร้อมกับเพื่อนไปเคลียร์ที่โรงพักให้เมื่อ 2 ปี ที่แล้ว)
> แล้วเราก็ได้รับหมายศาล ว่าพ่อเด็กยื่นขอเป็นผู้ปกครองเด็กเพียงผู้เดียว
> เราได้ให้ทนายไปยื่นคัดค้านและจะไปขึ้นศาลอยุธยา วันที่16 มีนาคม นี้แล้ว เราไม่รู้จริงๆ ว่าผลจะออกมายังไง ถ้าศาลให้พ่อไปโดยตัดสินว่าเราไม่มีเวลา เพราะพ่อเด็กพยายามอยู่ตลอดให้เราไม่เจอลูก และดีแบบไม่เคยเป็นมาก่อน จะยืนยาวแค่ไหน เราไม่รู้ เราก็เตรียมใจไว้แล้ว เก็บเงินไว้ให้ลูกในอนาคต
ยาวหน่อยกับชีวิตห่วยๆ และได้เรียนรู้ ตอนนี้คิดถึงลูกจับใจ พิมพ์ไปร้องไห้