ณ ปี 2020 ท่านใดธุรกิจกำลังแย่บ้าง VS ท่านใดธุรกิจกำลังไปได้สวยบ้างครับ

ณ เวลานี้ท่านกำลังอยู่ในหมวดไหนครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
อสังหาผมขาขึ้นครับ ขึ้นไปก่ายอยู่บนหน้าผากแล้ว
ความคิดเห็นที่ 28
เราทำงานประจำนะคะ รายได้เสริมส่วนใหญ่ทำเพราะชอบ อันไหนไม่ชอบแล้วก็เลิกทำค่ะ 555 แต่เอาจริงๆรายได้เสริมแอบเยอะกว่าเงินเดือน แหะๆ

ขายของออนไลน์ คู่แข่งเยอะขึ้น ลูกค้าจองไม่โอนเยอะขึ้นจากแต่ก่อนไม่ค่อยเจอ เราเลยว่าจะเลิกแล้วค่ะ เหนื่อยมาก กำไรแต่ละชิ้นหลักสิบ ทุนแต่ละรอบที่สำรองจ่ายหลักหมื่น ทำมาสัก 2-3 ปี แต่ตอนนี้คงต้องหยุดแล้ว

ทำขนมขายออนไลน์ ยังพอไปได้ ใน Shopee มีออเดอร์เข้ามาเกือบทุกวัน กำไรหลักร้อยต่อออเดอร์ เราทำแค่เสาร์อาทิตย์ ส่งขนมอาทิตย์ละ 1 ครั้งพอ ทำมาได้สัก 2 ปี ออเดอร์ลดลงจากช่วงแรกๆเยอะนะคะ เราไม่ได้ขยันโปรโมทด้วย ช่วงแรกๆคืออาทิตย์ละ 2000 ชิ้นก็ทำมาแล้ว ยืนจนขาแข็ง กำไรคูณ 10 บาทเข้าไป ช่วงนั้นเฉลี่ยอาทิตย์ละ 500 ชิ้น ตอนนี้ลดเหลืออาทิตย์ละ 100-200 ชิ้นได้ 555 แต่ก็ยังทำเพราะชอบทำขนมอ่ะ

รับจ้างออกบูธ ไปขายของตามงานแฟร์ต่างๆ ถ้าขายได้เยอะก็ได้คล้ายๆจะเป็นค่าคอม แต่เค้าเฉลี่ยให้ค่ะ วันละ 2000-2800 รวมค่ารถแล้วนะ บางงานบ้านไกลก็เจ็บตัวกับค่ารถหน่อย ทำเสาร์-อาทิตย์ ถ้าอาทิตย์ไหนออกบูธก็ต้องหยุดขายขนม 2-3 เดือนมีงานทีนึง ไม่ได้รับเป็นอาชีพประจำเพราะเหนื่อยมากกกก 555 ทำงาน 10.00-20.30 วันสุดท้ายช่วยเก็บบูธถึง 21.30 วันต่อมาไปทำงานอีก เหนื่อยแต่สนุกค่ะ

ตอนนี้เริ่มหันมาจับตลาด E-Book กำลังอยู่ในช่วงศึกษาและทดลอง ลองส่งนิยายลงขายใน meb ได้สักพักแล้วค่ะ ยอดโหลดเยอะจนน่าตกใจ(เป็น Paid Download Count นะคะ)  แต่ยังไม่เห็น Sales Report เลยยังบอกไม่ได้ว่าจะได้เงินจริงๆรึเปล่า แต่เล่มที่ลองลงเล่นๆไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วมีรายงานเงินเข้าแล้ว ประมาณ 600 บาท(ขายได้ 7 โหลด) ส่วนของเดือนนี้ยอดโหลด 600 กว่าโหลด ไม่กล้าคูณจำนวณเงิน บอกแล้วว่าตกใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ยังไม่ได้เห็นเป็นตัวเงินเด้อค่ะ เลยคิดว่าทางนี้อาจจะพอไปได้ กำลังลองพยายามมากขึ้นค่ะ

สรุปโดยคร่าวๆ ของออนไลน์จะเลิกขายแล้วค่ะ ขนมก็ยังจะทำต่อไป รับจ้างออกบูธนานๆทีถ้ามีคนติดต่อมาก็ไปทำค่ะ ส่วน E-Book ก็ใช้เวลาวันละนิด ถือว่าได้ทำงานที่รัก ผลตอบแทนเอาไว้ค่อยว่ากัน
ส่วนงานที่ออฟฟิศเราก็เต็มที่นะ จ-ศ เลิกงานก็กลับมาเขียนนิยายก่อนนอนก๊อกแก๊ก ส-อา ทำขนม อันไหนไม่รอดก็ปล่อยไป หาอะไรใหม่ๆทำเรื่อยๆค่ะ ภาระเยอะ 55
ความคิดเห็นที่ 20
ตอนนี้ต่อให้ใครขึ้นมาเป็นนายก เศรษฐกิจก็คงไม่ได้ดีขึ้นหรือแย่ลงไปมากกว่านี้ คงทรงๆตัวและค่อยๆซึมลง เป็นแบบนี้ทั่วโลก ประเทศอื่นก็ประสบปัญหาเศรษฐกิจเหมือนกัน คนรวย คนจน มีหมด

สาเหตุ
** พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีสิ่งใหม่ให้เลือกเสพ เลือกซื้อเยอะ
** ยุคนี้และในอนาคตการแข่งขันจะสูงมากขึ้น สงครามการค้า แย่งตลาดกัน ยกตัวอย่าง สมัยก่อนคนไทยในต่างแดนเวลาไปซื้อของกินของใช้ในร้านไทย จะอุดหนุนสินค้าไทย เช่น ข้าวสาร ผักต่างๆ แต่ตอนนี้คนไทยส่วนใหญ่หันไปซื้อข้าวสาร เวียดนาม ผักต่างๆ อย่างมะละกอก็ไปซื้อของอินเดีย เพราะราคาถูกกว่า ประหยัดเงินไปได้หลายยูโร
** โรคระบาด กระทบการท่องเที่ยว  สายการบิน โดนกันหมดทั่วโลก
** และยังจะมีอื่นๆ ตามมาอีกมาก

โลกมันเปลี่ยนไปเยอะ บางธุรกิจล้มหาย และก็มีธุรกิจใหม่ๆโผล่ขึ้นมา ใครจับธุรกิจดีๆ ถูกจุด บริหารเก่งๆมีศักยภาพหน่อยก็จะรอด ส่วนคนที่ไม่ปรับตัวไม่พัฒนาตัวเอง มีแต่บ่นและโอดครวญ โทษนั่น โทษนี่ ก็จะอยู่ยากหน่อย

ผมทำงานด้านชิปปิ้งแอนด์โลจิสติกส์ ลูกค้าที่นำเข้าสินค้าจากจีนก็จะกระทบนิดหน่อย ยอดสั่งของน้อยลงส่วนลูกค้ารายอื่นที่ทำนำเข้าส่งออกสินค้าที่ประเทศอื่นไม่ใช่จีน ก็ยังปกติ ไม่ได้ลดลง บางเดือนเพิ่มมากขึ้น บางเดือน ยังคงทรงๆตัว ไม่ได้กระทบมาก งานยังเยอะเหมือนเดิม ผลกำไรก็พออยู่ได้ พอประครองไปได้

ผมว่า คนที่ผลิตอาหารเองและยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงตามคำสอนของในหลวง จะอยู่ได้อย่างยั่งยืนและมีความสุข ปลูกข้าวเอง ปลูกผักเอง เลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เป็นเกษตรกรที่ไม่สร้างหนี้ แต่ขยันปลูกนี่โน่นนั่น ได้กินตลอดทั้งปี ต่อให้เศรษฐกิจจะดีจะแย่ก็จะไม่เดือดร้อน แรกๆจะเหนื่อยหน่อย พออยู่ตัวก็จะสบายแล้ว
ความคิดเห็นที่ 4
ออนไลน์ผมโตขึ้น 60%
ออฟไลน์ลดลง 50%
ชดเชยกำไรให้เพิ่มขึ้นโดย ลดค่าใช้จ่ายในส่วนออฟไลน์ลง   ไม่ได้ปรับเปลี่ยนตัวสินค้า  แต่ต้องเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงลูกค้าใหม่   ผมเชือว่า  ลูกค้าลดลงโดยภาพรวมตามกำลังซื้อ  แต่เกิดการกระจุกตัวของลูกค้า ตามเทรนด์ออนไลน์   ถ้าเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการรวมถึงการเข้าถึงลูกค้า   ก็จะแก้ปัญหาเพื่อความอยู่รอดได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 17
สำนักงานบัญชี = โตขึ้น ลูกค้ามากขึ้น (ที่จริงต้องระบุว่า มาถามมากขึ้น) แต่สัดส่วนกำไรอาจลดลง เพราะสำนักงานับญชี เริ่มตัดราคากัน ... แต่ทางเราไม่ค่อยอยากลดราคานะ เพราะมั่นใจในความรู้ (มีผู้สอบบัญชีประจำสำนักงาน) อาจเป็นผลมาจากการที่สรรพากร ขู่หรือเอาจริงก็ไม่รู้แหละ กับผู้ประกอบการ(ใหม่ๆ) ไว้เยอะ

บริการสอบบัญชี = ยังเป็นอาชีพที่ Heaven career เพราะมีแค่หลักหมื่นคน แต่กิจการต้องส่งงบการเงินปละหาที่ปรึกษาเก่งๆแม่นๆ หลายแสนกิจการ และจริงๆแล้ว การสอบบัญชีสามารถต่อยอดได้เยอะนะ มองดีดีมีจุดขายตาม Timeline ของธุรกิจ ได้ตลอด แต่ที่สำคัญที่สุดคือ.. ผู้สอบบัญชีต้องเพิ่มมูลค่าให้ลูกค้า มิเช่นนั้นเหมือนเป็นแค่คนขายหมึกปากกา ไม่มีคุณค่าใดใด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่