
ตอน 3
สนามบินนานาชาติปีนังตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะปีนัง ต้องนั่งรถเมล์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อไปยังเมืองจอร์จทาวน์ รถเมล์แล่นผ่านถนนสายต่างๆ ผ่านตึกรามบ้านช่องก็ไม่ต่างกับเมืองไทย มองไม่ออกเลยว่าเกาะปีนังจะเป็นที่ตั้งของเมืองเก่าได้อย่างไร ใช้เวลากว่าชั่วโมงรถเมล์ก็มาจอดใกล้กับอาคารคอมต้า (Komtar) ผมลงรถพร้อมทั้งเปิดดูแผนที่จับทิศทางที่ตั้งของโรงแรม จากนั้นก็เริ่มแบกเป้เดินไปตามถนนใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงโรงแรมที่จองเอาไว้จนได้ ในสภาพที่เรียกว่าทุลักทุเลพอสมควร สำหรับโรงแรมที่พักในคืนแรกตั้งอยู่นอกเมืองจอร์จทาวน์ห่างกันเพียงแค่เดินออกจากซอย ข้ามถนนก็เข้าสู่เมืองจอร์จทาวน์แล้ว โรงแรมมีสภาพเป็นอาคารเก่าโบราณอย่างที่ต้องการ แต่เมื่อมองไปโดยรอบ จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ระหว่างโลกเก่าที่เป็นเหมือนไข่แดงอยู่ท่ามกลางโลกใหม่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาคารเก่าเลือกที่จะหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม และถูกโอบล้อมโดยตึกสูง อาคารสมัยใหม่ แม้แต่อาคารที่ติดกันก็ยังโรงแรมสมัยใหม่เลย โรงแรมโบราณน่าพักแห่งนี้มีสองชั้นคงรักษาสภาพโครงสร้างเก่าดั่งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน ส่วนภายในห้องพักถูกปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต่างจากโรงแรมสมัยใหม่ เรียกได้ว่าได้ทั้งกลิ่นไอความเก่าแก่ และสะดวกสบายในคราวเดียวกัน
ก่อนเข้านอนผมใช้เวลานั่งดูโบร์ชัวร์แผนที่ที่หยิบมาจากเคาท์เตอร์ที่สนามบินเพื่อวางแผนเส้นทางการค้นหาภาพศิลปะบนท้องถนนหรือสตรีทอาร์ต (Street Art) ที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองจอร์จทาวน์ จนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วดึกดื่นเกือบตีสอง เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลานอน ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางทำให้หลับสนิทในทันที!
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ ผมสะดุ้งตื่นตกใจสุดขีด ด้วยภาพชายชราชาวจีนผมสีขาวนั่งอยู่บนเตียงตรงบริเวณปลายเท้า ชายแก่กำลังหัวเราะเชิงหยอกล้อมองมาทางผม ภาพที่เห็นชัดเจนมาก ผมตื่นแล้วไม่ได้ฝันไป ผมเห็นชายชราจริงๆ และด้วยความตกใจอย่างสุดขีด ผมลุกขึ้นนั่งใช้มือปัดป้องไปมา แล้วภาพนั้นก็ค่อยจางหายไปราวกับหมอกควัน
ผมมั่นใจอย่างที่สุดว่า ไม่ได้เป็นความฝัน ผมมองเห็นชายชราจริงๆ ภาพที่เห็นไม่ใช่เป็นเงาดำหรือกลุ่มควัน แต่เป็นภาพคนจริงๆ มานั่งอยู่บนปลายเตียง ทุกอย่างชัดเจนมาก
หลังจากนั้นผมก็ลุกขึ้นมาดูเวลาจากนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างของเตียง เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงแค่ห้านาที นับแต่ที่เริ่มนอน สำหรับความรู้สึกในตอนนั้น เป็นความตื่นตกใจมากกว่าความกลัว เพราะสัมผัสได้ว่าชายชรามาดี ไม่ได้จะมาทำร้าย อาจจะเป็นเจ้าของบ้านโบราณหลังนี้ก็เป็นได้ ที่ออกมาทักทายแขกที่เข้ามาพัก ถ้าหากจะถามตัวเองว่า ตั้งแต่เกิดมาเคยเจอผีสางวิญญาณมาก่อนหรือไม่ ก็ตอบได้เลยว่าเคยเจอมาบ้าง แต่ไม่มีครั้งไหนชัดเจนเท่าครั้งนี้
ปีนัง... ชัดจริง แรงจริง ของเขาแรงจริงๆ
สำหรับคืนแรกของปีนังก็ผ่านไปด้วยดี ผมนอนหลับต่อได้อย่างสบายใจ และไม่มีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นอีก ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ...ในคืนแรก
ทุกอย่างเป็นไปตามคำเตือนของเพื่อนเรื่องโรงแรมเก่า
...ที่ผมไม่เคยคิดจะใส่ใจ
โดย
กบในกะลาแก้ว
ตามภาพ ตามฝัน ไปปีนัง (ตอน 3)
ตอน 3
สนามบินนานาชาติปีนังตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะปีนัง ต้องนั่งรถเมล์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อไปยังเมืองจอร์จทาวน์ รถเมล์แล่นผ่านถนนสายต่างๆ ผ่านตึกรามบ้านช่องก็ไม่ต่างกับเมืองไทย มองไม่ออกเลยว่าเกาะปีนังจะเป็นที่ตั้งของเมืองเก่าได้อย่างไร ใช้เวลากว่าชั่วโมงรถเมล์ก็มาจอดใกล้กับอาคารคอมต้า (Komtar) ผมลงรถพร้อมทั้งเปิดดูแผนที่จับทิศทางที่ตั้งของโรงแรม จากนั้นก็เริ่มแบกเป้เดินไปตามถนนใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงโรงแรมที่จองเอาไว้จนได้ ในสภาพที่เรียกว่าทุลักทุเลพอสมควร สำหรับโรงแรมที่พักในคืนแรกตั้งอยู่นอกเมืองจอร์จทาวน์ห่างกันเพียงแค่เดินออกจากซอย ข้ามถนนก็เข้าสู่เมืองจอร์จทาวน์แล้ว โรงแรมมีสภาพเป็นอาคารเก่าโบราณอย่างที่ต้องการ แต่เมื่อมองไปโดยรอบ จะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ระหว่างโลกเก่าที่เป็นเหมือนไข่แดงอยู่ท่ามกลางโลกใหม่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อาคารเก่าเลือกที่จะหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม และถูกโอบล้อมโดยตึกสูง อาคารสมัยใหม่ แม้แต่อาคารที่ติดกันก็ยังโรงแรมสมัยใหม่เลย โรงแรมโบราณน่าพักแห่งนี้มีสองชั้นคงรักษาสภาพโครงสร้างเก่าดั่งเดิมเอาไว้อย่างครบถ้วน ส่วนภายในห้องพักถูกปรับปรุงให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันไม่ต่างจากโรงแรมสมัยใหม่ เรียกได้ว่าได้ทั้งกลิ่นไอความเก่าแก่ และสะดวกสบายในคราวเดียวกัน
ก่อนเข้านอนผมใช้เวลานั่งดูโบร์ชัวร์แผนที่ที่หยิบมาจากเคาท์เตอร์ที่สนามบินเพื่อวางแผนเส้นทางการค้นหาภาพศิลปะบนท้องถนนหรือสตรีทอาร์ต (Street Art) ที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมืองจอร์จทาวน์ จนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วดึกดื่นเกือบตีสอง เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลานอน ความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางทำให้หลับสนิทในทันที!
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ ผมสะดุ้งตื่นตกใจสุดขีด ด้วยภาพชายชราชาวจีนผมสีขาวนั่งอยู่บนเตียงตรงบริเวณปลายเท้า ชายแก่กำลังหัวเราะเชิงหยอกล้อมองมาทางผม ภาพที่เห็นชัดเจนมาก ผมตื่นแล้วไม่ได้ฝันไป ผมเห็นชายชราจริงๆ และด้วยความตกใจอย่างสุดขีด ผมลุกขึ้นนั่งใช้มือปัดป้องไปมา แล้วภาพนั้นก็ค่อยจางหายไปราวกับหมอกควัน
ผมมั่นใจอย่างที่สุดว่า ไม่ได้เป็นความฝัน ผมมองเห็นชายชราจริงๆ ภาพที่เห็นไม่ใช่เป็นเงาดำหรือกลุ่มควัน แต่เป็นภาพคนจริงๆ มานั่งอยู่บนปลายเตียง ทุกอย่างชัดเจนมาก
หลังจากนั้นผมก็ลุกขึ้นมาดูเวลาจากนาฬิกาที่วางอยู่บนโต๊ะด้านข้างของเตียง เวลาเพิ่งผ่านไปเพียงแค่ห้านาที นับแต่ที่เริ่มนอน สำหรับความรู้สึกในตอนนั้น เป็นความตื่นตกใจมากกว่าความกลัว เพราะสัมผัสได้ว่าชายชรามาดี ไม่ได้จะมาทำร้าย อาจจะเป็นเจ้าของบ้านโบราณหลังนี้ก็เป็นได้ ที่ออกมาทักทายแขกที่เข้ามาพัก ถ้าหากจะถามตัวเองว่า ตั้งแต่เกิดมาเคยเจอผีสางวิญญาณมาก่อนหรือไม่ ก็ตอบได้เลยว่าเคยเจอมาบ้าง แต่ไม่มีครั้งไหนชัดเจนเท่าครั้งนี้
ปีนัง... ชัดจริง แรงจริง ของเขาแรงจริงๆ
สำหรับคืนแรกของปีนังก็ผ่านไปด้วยดี ผมนอนหลับต่อได้อย่างสบายใจ และไม่มีเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นอีก ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ...ในคืนแรก
ทุกอย่างเป็นไปตามคำเตือนของเพื่อนเรื่องโรงแรมเก่า
...ที่ผมไม่เคยคิดจะใส่ใจ
โดย
กบในกะลาแก้ว