อ.รัฐศาสตร์ ม.รังสิต กังวลใจ หลัง 'บิ๊กแดง' บอก 'กองทัพบกเป็นองค์กรแห่งความศักดิ์สิทธิ์'
https://www.matichon.co.th/politics/news_1971153
สืบเนื่องกรณี พล.อ.
อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงข่าวกรณีทหารกราดยิงประชาชนที่จังหวัดนครราชสีมา โดยระบุว่า จะสังคายนากองทัพนั้น
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.
วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต แสดงความเห็นว่า ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ จ.นครราชสีมา ทำให้ พล.อ.
อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตัดสินใจสังคายนาองค์กรตัวเองใหม่ อย่าเพิ่งเรียกว่าปฏิรูป เพราะเป็นเพียงการสังคายนาองค์กรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาใหม่ให้กับสังคม เช่นการที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือนายทหารที่เคยอยู่บ้านพักหลวงที่เกษียณอายุราชการมานานแล้ว จะต้องย้ายออกภายในเดือนนี้ เพื่อพัฒนากำลังพลให้ท่านอื่นเข้ามาอยู่ใหม่ได้ เหล่านี้ คือสิ่งที่สังคมไทย หรือฝ่ายการเมืองที่เห็นต่างเคยใช้ข้อนี้โจมตีมานาน เป็นการค่อยๆ แก้ไขในบางเรื่อง
ประการต่อมา คือ เรื่องสวัสดิการต่างๆ จะเห็นว่าตั้งแต่ คุณ
อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เข้ามา ก็มีการพยายามยกระดับสวัสดิการ ความเป็นอยู่ของพลทหารชั้นผู้น้อยเพื่อป้องกันความเห็นข้อวิพากษ์ เช่น มีการสุ่มตรวจเรื่องคุณภาพอาหารกลางวันของพลทหาร จะเห็นได้ว่า คุณ
อภิรัชต์ค่อนข้างมีความเข้มงวดในการจัดระเบียบองค์กร แบบที่ไม่เป็นข่าว ซึ่งความจริงแล้วมีการทำอย่างเนื่อง แต่ด้วยที่ผ่านมาอาจจะมองเรื่องการวิวาทะทางการเมืองมากจนเกินไป จนไม่ได้พื้นที่ในการประชาสัมพันธ์งานของตนเอง
“
นัยยะที่คุณอภิรัชต์แสดงออกมาในการแถลงข่าวเมื่อวาน เปรียบเหมือนสภาวะที่พ่อไม่สามารถควบคุมลูกที่ไปทำร้ายประชาชนได้ ทำร้ายไม่พอ ท้ายที่สุดยังต้องยอมเห็นลูกถูกวิสามัญฯ แน่นอนว่าเป็นความรู้สึกเจ็บปวดแม้ลูกในที่นี้คือผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นความเจ็บปวดที่คุณอภิรัชต์ยอมรับ ที่ต้องขอโทษในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา ใช่ว่าจะเสียน้ำตาหรืออ่อนไหวไม่ได้
ด้วยถูกสถานการณ์บีบคั้น จน ผบ.ทบ.อยู่ในจุดที่ต้องอธิบายกับสังคมให้เกิดความกระจ่าง และนำไปสู่การตรวจสอบ ซึ่งหมายความว่านับจากนี้ไปจะมีการลงไปจัดการขบวนการที่ไม่ชอบมาพากล จัดการเหลือบไรที่มาหาผลประโยชน์ในกองทัพบก เช่น ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้านพักสวัสดิการของกองทัพบก ในกรณีที่เกิดเงินทอนขึ้น หรือ การแสวงหาผลประโยชน์ของขบวนการเหล่านี้จะต้องหมดไป คุณอภิรัชต์คงจะลงไปจัดการ ซึ่งความคืบหน้าหลังจากนี้จะนำไปสู่การโยกย้ายประจำปี ระดับนายพลในเดือนเมษายน และหลังจากนั้นเป็นชั้นผู้พัน แม้อาจไม่ประกาศรายชื่อว่าใครเป็นคนผิด แต่สื่อมวลชนก็คงจะเอาไปขยายข่าวกันภายหลังว่าผู้ถูกย้ายออกจากตำแหน่งเหล่านั้นน่าจะมีมูลเหตุ มาจากอะไร เป็นการยกระดับมาตรฐานให้กองทัพภายใต้คุณอภิรัชต์มีความเป็นสากลมากขึ้น”
ผศ.
วันวิชิต กล่าวว่า โลกปัจจุบันอยู่ในภาวะไร้พรมแดนของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่เข้ามามีผลต่อการติดตามการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งของสื่อมวลชน ทั้งสะท้อน วิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงติดตามการทำงานของกองทัพ ซึ่งจะเห็นว่ากองทัพก็ยอมรับฟัง ไม่ได้ปกป้องพวกเดียวกัน อย่างกรณีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ผบ.ทบ.ท่านที่แล้ว ก็มีการย้ายนายทหารที่เป็นเพื่อร่วมรุ่นที่เกี่ยวข้องกับกรณีโรฮีนจา ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 โดยนำนายพลท่านนั้นเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย จะเห็นว่ากองทัพเองก็ไม่ได้มองว่าเป็นพวกพ้องจะต้องปกปิด และดูเหมือนว่ากองทัพจะใช้หัวใจฟังสังคมมากขึ้นด้วยซ้ำ พล.อ.
อภิรัชต์ทำได้ในช่วง 7-8 เดือนที่เหลืออยู่ก่อนเกษียณ และแม้บางเรื่องอาจทำไม่ทัน ก็สามารถส่งมอบให้ ผบ.ทบ.คนต่อไปรับช่วงต่อได้ ท้ายที่สุด กองทัพจะต้องรับฟังข้อเรียกร้องจากสังคมมากขึ้น แน่นอนว่าหลายคนแยกแยะเรื่องปัจเจก และเรื่องของสถาบันกองทัพ ไม่เอามารวมกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่กังวลใจ คือถ้อยคำที่คุณอภิรัชต์พูดว่า กองทัพบกเป็นองค์กรแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์
“
กองทัพเป็นของประชาชน ดังนั้น ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น ตลอดจนความปรารถนาดีเพื่อให้กองทัพเป็นกองทัพมืออาชีพแห่งศตวรรษที่ 21 ให้อยู่ท่ามกลางสากลอย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรี ต้องระมัดวะวังในการตีความ คนที่รักคุณอภิรัชต์ก็จะไม่สงสัยในคำนี้
แต่คนที่มองต่างจะตั้งคำถามว่าจะเป็นการปิดกั้นไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่างหรือไม่ คืออีกเรื่องที่ ผบ.ทบ.จะต้องเปิดใจให้กว้างขึ้นด้วย”
'ทิชา' ร่วมอาลัยเหยื่อกราดยิง จี้ 'บิ๊กแดง' ลาออก ชี้สอบตกเกินซ่อม
https://www.matichon.co.th/politics/news_1971253
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นาง
ทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและสตรี เดินทางไปร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในจังหวัดนครราชสีมา ณ หอศิลป์ฯ กรุงเทพ แยกปทุมวันซึ่งในช่วงเย็นวันนี้มีการรวมตัวจุดเทียน เขียนข้อความไว้อาลัย
นาง
ทิชา ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผอ.ทบ.ต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดังนี้
ร่วมไว้อาลัย …
ผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากการกราดยิงที่โคราช
สรุปข้อเรียกร้องจากการแถลง การฟัง ดังนี้
• ผบ.ทบ.ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยลาออก
• การปฏิรูปกองทัพ และอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบการจัดเก็บอาวุธสงครามในค่ายที่หละหลวม
,ระบบอำนาจนิยมที่นำไปสู่การตรวจสอบยาก ไม่โปร่งใส และภาวะผู้นำในภาวะวิกฤติที่สอบตกเกินซ่อม
และต้องออกสถานเดียว
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3662505640489798&id=100001911932080
JJNY : อ.รัฐศาสตร์ ม.รังสิตกังวลใจบิ๊กแดง/ทิชาร่วมอาลัย จี้บิ๊กแดงลาออก/จุดเทียนหน้าหอศิลป์อาลัย/ตาย‘โควิด-19’พุ่ง1,489
https://www.matichon.co.th/politics/news_1971153
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ ม.รังสิต แสดงความเห็นว่า ด้วยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ จ.นครราชสีมา ทำให้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตัดสินใจสังคายนาองค์กรตัวเองใหม่ อย่าเพิ่งเรียกว่าปฏิรูป เพราะเป็นเพียงการสังคายนาองค์กรเพื่อสร้างความเชื่อมั่นขึ้นมาใหม่ให้กับสังคม เช่นการที่นายทหารชั้นผู้ใหญ่ หรือนายทหารที่เคยอยู่บ้านพักหลวงที่เกษียณอายุราชการมานานแล้ว จะต้องย้ายออกภายในเดือนนี้ เพื่อพัฒนากำลังพลให้ท่านอื่นเข้ามาอยู่ใหม่ได้ เหล่านี้ คือสิ่งที่สังคมไทย หรือฝ่ายการเมืองที่เห็นต่างเคยใช้ข้อนี้โจมตีมานาน เป็นการค่อยๆ แก้ไขในบางเรื่อง
ประการต่อมา คือ เรื่องสวัสดิการต่างๆ จะเห็นว่าตั้งแต่ คุณอภิรัชต์ คงสมพงษ์ เข้ามา ก็มีการพยายามยกระดับสวัสดิการ ความเป็นอยู่ของพลทหารชั้นผู้น้อยเพื่อป้องกันความเห็นข้อวิพากษ์ เช่น มีการสุ่มตรวจเรื่องคุณภาพอาหารกลางวันของพลทหาร จะเห็นได้ว่า คุณอภิรัชต์ค่อนข้างมีความเข้มงวดในการจัดระเบียบองค์กร แบบที่ไม่เป็นข่าว ซึ่งความจริงแล้วมีการทำอย่างเนื่อง แต่ด้วยที่ผ่านมาอาจจะมองเรื่องการวิวาทะทางการเมืองมากจนเกินไป จนไม่ได้พื้นที่ในการประชาสัมพันธ์งานของตนเอง
“นัยยะที่คุณอภิรัชต์แสดงออกมาในการแถลงข่าวเมื่อวาน เปรียบเหมือนสภาวะที่พ่อไม่สามารถควบคุมลูกที่ไปทำร้ายประชาชนได้ ทำร้ายไม่พอ ท้ายที่สุดยังต้องยอมเห็นลูกถูกวิสามัญฯ แน่นอนว่าเป็นความรู้สึกเจ็บปวดแม้ลูกในที่นี้คือผู้ใต้บังคับบัญชา เป็นความเจ็บปวดที่คุณอภิรัชต์ยอมรับ ที่ต้องขอโทษในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา ใช่ว่าจะเสียน้ำตาหรืออ่อนไหวไม่ได้
ด้วยถูกสถานการณ์บีบคั้น จน ผบ.ทบ.อยู่ในจุดที่ต้องอธิบายกับสังคมให้เกิดความกระจ่าง และนำไปสู่การตรวจสอบ ซึ่งหมายความว่านับจากนี้ไปจะมีการลงไปจัดการขบวนการที่ไม่ชอบมาพากล จัดการเหลือบไรที่มาหาผลประโยชน์ในกองทัพบก เช่น ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องกู้ยืมเงินเพื่อซื้อบ้านพักสวัสดิการของกองทัพบก ในกรณีที่เกิดเงินทอนขึ้น หรือ การแสวงหาผลประโยชน์ของขบวนการเหล่านี้จะต้องหมดไป คุณอภิรัชต์คงจะลงไปจัดการ ซึ่งความคืบหน้าหลังจากนี้จะนำไปสู่การโยกย้ายประจำปี ระดับนายพลในเดือนเมษายน และหลังจากนั้นเป็นชั้นผู้พัน แม้อาจไม่ประกาศรายชื่อว่าใครเป็นคนผิด แต่สื่อมวลชนก็คงจะเอาไปขยายข่าวกันภายหลังว่าผู้ถูกย้ายออกจากตำแหน่งเหล่านั้นน่าจะมีมูลเหตุ มาจากอะไร เป็นการยกระดับมาตรฐานให้กองทัพภายใต้คุณอภิรัชต์มีความเป็นสากลมากขึ้น”
ผศ.วันวิชิต กล่าวว่า โลกปัจจุบันอยู่ในภาวะไร้พรมแดนของโซเชียลเน็ตเวิร์ก ที่เข้ามามีผลต่อการติดตามการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งของสื่อมวลชน ทั้งสะท้อน วิพากษ์วิจารณ์ รวมถึงติดตามการทำงานของกองทัพ ซึ่งจะเห็นว่ากองทัพก็ยอมรับฟัง ไม่ได้ปกป้องพวกเดียวกัน อย่างกรณีที่ผ่านมา ตั้งแต่ ผบ.ทบ.ท่านที่แล้ว ก็มีการย้ายนายทหารที่เป็นเพื่อร่วมรุ่นที่เกี่ยวข้องกับกรณีโรฮีนจา ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 โดยนำนายพลท่านนั้นเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย จะเห็นว่ากองทัพเองก็ไม่ได้มองว่าเป็นพวกพ้องจะต้องปกปิด และดูเหมือนว่ากองทัพจะใช้หัวใจฟังสังคมมากขึ้นด้วยซ้ำ พล.อ.อภิรัชต์ทำได้ในช่วง 7-8 เดือนที่เหลืออยู่ก่อนเกษียณ และแม้บางเรื่องอาจทำไม่ทัน ก็สามารถส่งมอบให้ ผบ.ทบ.คนต่อไปรับช่วงต่อได้ ท้ายที่สุด กองทัพจะต้องรับฟังข้อเรียกร้องจากสังคมมากขึ้น แน่นอนว่าหลายคนแยกแยะเรื่องปัจเจก และเรื่องของสถาบันกองทัพ ไม่เอามารวมกันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่กังวลใจ คือถ้อยคำที่คุณอภิรัชต์พูดว่า กองทัพบกเป็นองค์กรแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์
“กองทัพเป็นของประชาชน ดังนั้น ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความเห็น ตลอดจนความปรารถนาดีเพื่อให้กองทัพเป็นกองทัพมืออาชีพแห่งศตวรรษที่ 21 ให้อยู่ท่ามกลางสากลอย่างสมเกียรติ สมศักดิ์ศรี ต้องระมัดวะวังในการตีความ คนที่รักคุณอภิรัชต์ก็จะไม่สงสัยในคำนี้
แต่คนที่มองต่างจะตั้งคำถามว่าจะเป็นการปิดกั้นไม่รับฟังความเห็นที่แตกต่างหรือไม่ คืออีกเรื่องที่ ผบ.ทบ.จะต้องเปิดใจให้กว้างขึ้นด้วย”
'ทิชา' ร่วมอาลัยเหยื่อกราดยิง จี้ 'บิ๊กแดง' ลาออก ชี้สอบตกเกินซ่อม
https://www.matichon.co.th/politics/news_1971253
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นางทิชา ณ นคร ผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กและสตรี เดินทางไปร่วมไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในจังหวัดนครราชสีมา ณ หอศิลป์ฯ กรุงเทพ แยกปทุมวันซึ่งในช่วงเย็นวันนี้มีการรวมตัวจุดเทียน เขียนข้อความไว้อาลัย
นางทิชา ได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผอ.ทบ.ต้องลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ดังนี้
ร่วมไว้อาลัย …
ผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตจากการกราดยิงที่โคราช
สรุปข้อเรียกร้องจากการแถลง การฟัง ดังนี้
• ผบ.ทบ.ต้องแสดงความรับผิดชอบด้วยลาออก
• การปฏิรูปกองทัพ และอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง เช่น ระบบการจัดเก็บอาวุธสงครามในค่ายที่หละหลวม
,ระบบอำนาจนิยมที่นำไปสู่การตรวจสอบยาก ไม่โปร่งใส และภาวะผู้นำในภาวะวิกฤติที่สอบตกเกินซ่อม
และต้องออกสถานเดียว
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3662505640489798&id=100001911932080