Bombshell (Jay Roach / 2019)
SCORE : 7/10
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อหญิงสาวสามคนผู้เป็นพิธีกรและผู้ประกาศสาว เมจิน เคลลี, เกรตเชน คาร์ลสัน, เคย์ลา พอสพิซิล ถูกคุกคามทางเพศจาก โรเจอร์ ไอล์ส เจ้าพ่อวงการข่าวผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ Fox News นำไปสู่การที่พวกเธอต้องร่วมมือกันเพื่อแฉและเปิดโปงเบื้องลึกของการกระทำนี้ให้ถึงที่สุด
.
นี่คือหนังอีกเรื่องที่เรารอคอยให้เข้าฉายในไทยตั้งแต่ปีก่อน ด้วยความที่ตัวเรื่องถูกสร้างจากเรื่องจริง พร้อมทั้งการรวมตัวกันของนักแสดงคุณภาพที่เราชอบ หลังจากเราดูจบ เราก็ค้นพบว่ามันมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดีเช่นเดียวกัน
.
ตัวหนังถาโถมเราด้วยข้อมูลอันมากมายสไตล์เดียวกับ Spotlight มันคือการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ Bombshell ถูกออกแบบวิธีการเล่าเรื่องมาในรูปแบบเดียวกับ The Big Short (คนเขียนบทคนเดียวกัน) คือหนังที่เน้นไปที่การ “ให้ข้อมูล” มากกว่า “สร้างอารมณ์ร่วม” ซึ่งจุดนี้เลยทำให้เราเสียดายมากๆ เพราะด้วยประเด็นของมัน หนังน่าจะเล่าไปได้ไกลกว่านี้
.
เราค้นพบว่าประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องของสิทธิสตรีเป็นประเด็นที่รุนแรงและควรได้รับการแก้ไข ซึ่งมันเป็นปัญหาระดับชาติที่เกิดขึ้นในทุกๆ วงการ ความไม่เท่าเที่ยมทางด้านเพศ การถูกกดขี่ ซึ่งมีหนังหลายเรื่องมากที่พยายามหยิบยกประเด็นนี้มานำเสนอ (เช่นเดียวกับ Hidden Figures) ซึ่งในพาร์ทข้อมูลของหนังมันทำได้ดีมากๆ มีทั้งจุดที่หนังพยายามทำให้คนดูขำ แต่ก็ขำไม่ออกเยอะแยะไปหมด ซึ่งนอกจากมันจะนำเสนอข้อมูลในด้านนี้ สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจที่มันพูดถึงคือเรื่องของ “จิตใจและผลกระทบของผู้หญิงที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ถูกกดขี่” เราค้นพบว่าพาร์ทนี้ของหนังคือพาร์ทที่พร้อมขยี้อารมร์ให้ฆ่าคนดูให้ตายได้ แต่ตัวหนังกลับเลือกที่จะไม่ไปฟูมฟายในจุดนั้นเท่าที่ควร ซึ่งจุดนี้เราไม่แน่ใจว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ส่วนตัวเราไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะมันดูขัดกับสิ่งที่หนังพยายามสื่อให้ผู้ชมเข้าถึงผู้สมควร
.
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะถูกออกแบบมาเป็นหนังส่วนผสมระหว่าง Spotlight และ The Big Short จนทำให้หนังมันไปไม่สุดในทางที่ควรจะเป็น แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องบอกว่าเราชอบและรักมากๆ คือการแสดงของ Charlize Theron, Nicole Kidman และ Margot Robbie ที่งัดทุกอย่างที่มีมาฟาดใส่กันไม่ยั้ง เป็นการแสดงที่ทำให้หนังเรื่องนี้สนุกและบันเทิงมากๆ เชื่อว่าใครที่ตั้งใจมาดูหนังเรื่องนี้เพราะนักแสดง เรารับประกันเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน (โดยเฉพาะ Margot Robbie นี่ทำเราน้ำตาคลอเบาๆ เลย)
.
โดยรวม Bombshell เป็นหนังที่เน้นไปการให้ข้อมูลที่ค่อนข้างดีและน่าสนใจ หนังมีวัตถุดิบหลายอย่างที่แข็งแรง อีกทั้งพอมันสร้างมาจากเรื่องจริง มันยิ่ง impact มากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่าพอมันไม่มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องสักเท่าไหร่ ประเด็นของหนังมันเลยไม่ได้ตอกย้ำถึงความร้ายแรงเท่าที่ควรจะรู้สึก (ในแง่ของความรู้สึก ไม่ใช่ข้อเท็จจริงนะ เพราะในแง่ข้อเท็จจริง มันรุนแรงมากอยู่แล้ว) อาจจะไม่ใช่หนังที่เน้นไปทางความบันเทิแบบ 100% แต่ก็เป็นหนังที่ควรค่าจะดูเพื่อรับรู้ว่าสิทธิสตรีนั้นควรได้รับการปกป้องมากแค่ไหน .
[SR] Movie Review : Bombshell - แฉกระฉ่อนโลก (7/10)
SCORE : 7/10
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อหญิงสาวสามคนผู้เป็นพิธีกรและผู้ประกาศสาว เมจิน เคลลี, เกรตเชน คาร์ลสัน, เคย์ลา พอสพิซิล ถูกคุกคามทางเพศจาก โรเจอร์ ไอล์ส เจ้าพ่อวงการข่าวผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ Fox News นำไปสู่การที่พวกเธอต้องร่วมมือกันเพื่อแฉและเปิดโปงเบื้องลึกของการกระทำนี้ให้ถึงที่สุด
.
นี่คือหนังอีกเรื่องที่เรารอคอยให้เข้าฉายในไทยตั้งแต่ปีก่อน ด้วยความที่ตัวเรื่องถูกสร้างจากเรื่องจริง พร้อมทั้งการรวมตัวกันของนักแสดงคุณภาพที่เราชอบ หลังจากเราดูจบ เราก็ค้นพบว่ามันมีทั้งส่วนที่ดีและไม่ดีเช่นเดียวกัน
.
ตัวหนังถาโถมเราด้วยข้อมูลอันมากมายสไตล์เดียวกับ Spotlight มันคือการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมเช่นเดียวกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ Bombshell ถูกออกแบบวิธีการเล่าเรื่องมาในรูปแบบเดียวกับ The Big Short (คนเขียนบทคนเดียวกัน) คือหนังที่เน้นไปที่การ “ให้ข้อมูล” มากกว่า “สร้างอารมณ์ร่วม” ซึ่งจุดนี้เลยทำให้เราเสียดายมากๆ เพราะด้วยประเด็นของมัน หนังน่าจะเล่าไปได้ไกลกว่านี้
.
เราค้นพบว่าประเด็นที่ว่าด้วยเรื่องของสิทธิสตรีเป็นประเด็นที่รุนแรงและควรได้รับการแก้ไข ซึ่งมันเป็นปัญหาระดับชาติที่เกิดขึ้นในทุกๆ วงการ ความไม่เท่าเที่ยมทางด้านเพศ การถูกกดขี่ ซึ่งมีหนังหลายเรื่องมากที่พยายามหยิบยกประเด็นนี้มานำเสนอ (เช่นเดียวกับ Hidden Figures) ซึ่งในพาร์ทข้อมูลของหนังมันทำได้ดีมากๆ มีทั้งจุดที่หนังพยายามทำให้คนดูขำ แต่ก็ขำไม่ออกเยอะแยะไปหมด ซึ่งนอกจากมันจะนำเสนอข้อมูลในด้านนี้ สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจที่มันพูดถึงคือเรื่องของ “จิตใจและผลกระทบของผู้หญิงที่ต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ถูกกดขี่” เราค้นพบว่าพาร์ทนี้ของหนังคือพาร์ทที่พร้อมขยี้อารมร์ให้ฆ่าคนดูให้ตายได้ แต่ตัวหนังกลับเลือกที่จะไม่ไปฟูมฟายในจุดนั้นเท่าที่ควร ซึ่งจุดนี้เราไม่แน่ใจว่ามันดีหรือไม่ดี แต่ส่วนตัวเราไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะมันดูขัดกับสิ่งที่หนังพยายามสื่อให้ผู้ชมเข้าถึงผู้สมควร
.
ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะถูกออกแบบมาเป็นหนังส่วนผสมระหว่าง Spotlight และ The Big Short จนทำให้หนังมันไปไม่สุดในทางที่ควรจะเป็น แต่สิ่งหนึ่งที่เราต้องบอกว่าเราชอบและรักมากๆ คือการแสดงของ Charlize Theron, Nicole Kidman และ Margot Robbie ที่งัดทุกอย่างที่มีมาฟาดใส่กันไม่ยั้ง เป็นการแสดงที่ทำให้หนังเรื่องนี้สนุกและบันเทิงมากๆ เชื่อว่าใครที่ตั้งใจมาดูหนังเรื่องนี้เพราะนักแสดง เรารับประกันเลยว่าคุ้มค่าแน่นอน (โดยเฉพาะ Margot Robbie นี่ทำเราน้ำตาคลอเบาๆ เลย)
.
โดยรวม Bombshell เป็นหนังที่เน้นไปการให้ข้อมูลที่ค่อนข้างดีและน่าสนใจ หนังมีวัตถุดิบหลายอย่างที่แข็งแรง อีกทั้งพอมันสร้างมาจากเรื่องจริง มันยิ่ง impact มากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ทั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่าพอมันไม่มีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องสักเท่าไหร่ ประเด็นของหนังมันเลยไม่ได้ตอกย้ำถึงความร้ายแรงเท่าที่ควรจะรู้สึก (ในแง่ของความรู้สึก ไม่ใช่ข้อเท็จจริงนะ เพราะในแง่ข้อเท็จจริง มันรุนแรงมากอยู่แล้ว) อาจจะไม่ใช่หนังที่เน้นไปทางความบันเทิแบบ 100% แต่ก็เป็นหนังที่ควรค่าจะดูเพื่อรับรู้ว่าสิทธิสตรีนั้นควรได้รับการปกป้องมากแค่ไหน .
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้