เล่าประสบการณ์ อุบัติเหตุในงานแข่งไตรกีฬาที่ทำให้เกือบตาบอดไปตลอดชีวิต Singapore Triathlon

งานแข่งไตรที่ว่าเกิดขึ้นเมื่อสักปลายปีที่ผ่านมา 
ตอนนั้นพึ่งจะเป็นการลงแข่งไตรครั้งที่ 4 ของชิ 
ที่ผ่านมา 3 สนามเราลงแข่งว่ายน้ำในแม่น้ำและก็บึงทั้งหมด มีเจ้าพระยา งานสัตหีบก็ว่ายบึง
และอุทัยธานี ก็เป็นแม่น้ำสะแกรกรัง 5555
ชิไม่เคยลงว่ายน้ำในทะเลเลยสักครั้งเดียว

ปีที่แล้วพึ่งจะมาเล่นไตรใหม่ๆและอยากแข่ง ห้าวมากลงสมัครในหลายๆสนามไม่ทัน 
แล้วก็มีความคิดว่า อยากลองไปแข่งต่างประเทศดู 55555 ห้าวปะหล่ะ
เอาใกล้ๆไทย เดินทางง่ายหน่อย
หวยเลยไปออกที่สิงคโปร์
และก็ได้อย่างหวัง คือ จะได้ว่ายในทะเลแน่นอนล่ะคราวนี้

ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าตอนนั้นชิยังไม่มีจักรยานเป็นของตัวเองค่ะ 
เวลาไปแข่งก็ไปเช่าที่เมืองใกล้ๆกับงานเอา หรือยืมคนอื่นบ้าง 
เขียนเล่าเรื่องไว้ในกระทู้นี้ค่ะ เผื่อใครอยากไปอ่าน
https://pantip.com/topic/39300715
 
วันแรกที่บินไปถึงก็ยังไม่ได้ไปดูสถานที่จัดงานอะไร ก็กิน เที่ยวปกติค่ะ 
วันที่สอง เค้าเปิดให้เราไปเทสน้ำทะเล ดูคลื่น ซึ่งตอนนั้นตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ 

จะเป็นการว่ายในทะเลครั้งแรกเลย (ชิเป็นคนเชียงใหม่ การซ้อมส่วนใหญ่คือซ้อมในสระว่ายน้ำเท่านั้นค่ะ) 
วันนี้ตื่นเต้นมาก ออกที่พักแต่เช้า นั่งรถเมล์ไปลงสวน Angsana Eastcoast Parkway 
 






งานนี้ชิลงระยะ sprint ค่ะ ว่ายแค่ 750 เมตร

มาถึงเจองานวิ่ง ซึ่งปล่อยตัวกันช้ามาก 8 โมง พึ่งจะปล่อยตัว
เราก็เดินมาหาจุดที่ให้ซ้อมว่าย พอดีเจอกับ staff ในงานก็เลยสอบถามรายละเอียดการซ้อมไป
 
เค้าบอกว่า แล้วแต่เราจะซ้อมเลย 
เราก็เลยลงไปว่ายดูถึงแค่บุยสีเขียวๆ วนขวาแล้วอ้อมกลับมา ว่ายอยู่สัก
500 เมตร พอละ 55555



ความรู้สึกครั้งแรกในการว่ายน้ำทะเลคือ รู้สึกว่า เค็มมากกกกก 55555
คลื่นไม่แรง ว่ายได้ปกติ น้ำขุ่นและเค็มสุด
ก่อนมาแข่งที่นี่ชิซ้อมว่ายหนักมาก (ว่ายสระ) ระยะไกลสุดคือเกือบๆ 1800 เมตร
มีการซ้อม interval ด้วย อาทิตย์นึงซ้อมว่าย 2-3 วัน 
เลยไม่กังวลมาก จะมีก็แค่ความตื่นเต้นค่ะ

อันนี้เป็นคลิปที่ทำไว้ค่ะ ชิไม่ค่อยมีรูปถ่ายเยอะ เพราะพอกลับมาพบว่าเมมกล้องใหญ่พัง
มีแต่ action cam กับมือถือ ที่ยังพอมีรูปบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะถ่ายเป็นคลิปค่ะ
ไว้จะแทรกคลิปไปเป็นระยะๆนะคะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

พอซ้อมเสร็จ อาบน้ำเรียบร้อย เราก็ไปเที่ยวต่อ แล้วตอนเย็นๆก็กลับมารับ bib ที่เดิม 



เช้าวันแข่ง รีบมาในงานก่อนเวลาเป็นพิเศษเพื่อจะติดต่อเอาจักรยานที่จองไว้
ราคา 1500 บาท เป็นเสือหมอบแต่รถนี่หนักมาก แต่ทำใจไว้แล้ว 



ได้รถแล้วก็รีบไปต่อคิวเขียนเลข ก่อนจะจูงจักรยานเข้า transition 






พอใกล้ถึงเวลา เราก็ไปรอที่จุดปล่อยตัวเป็นปกติ เจอกลุ่มพี่คนไทยอีก 3 คน
ที่ลงระยะเดียวกัน รู้สึกสบายใจขึ้นมานิดหน่อย ตอนแรกตื่นเต้นมากๆ 5555
ถามเลขบิบอะไรกันแล้ว คิดว่าแข่งเสร็จจะได้ไปถ่ายรูปกัน

พอได้เวลาปล่อยตัว
เราก็วิ่งๆๆๆ ลงน้ำ เหมือนที่ทุกๆคนทำกัน
ปกติ 750 เมตร ชิจะใช้เวลา 23-24 นาที 
รอบนี้ลงทะเลครั้งแรก ก็กะเวลาไม่ถูก ไม่รู้จะมากกว่าเดิมหรือน้อยกว่าเดิม
ว่ายไปถึงบุยที่สอง ใช้เวลาไปเยอะมาก 
ดูเหมือนแค่ว่ายตรงๆออกไป แต่มันทำไมไกลมากขึ้นทุกที 

ช่วงว่ายไป ถ้าเจอปลาตีน ก็เป็นเรื่องปกติ แต่นี่เจอขอนไม้ 
เจอถุงพลาสติก ทำให้เสียทรงการว่ายไปเป็นช่วงๆเพราะตกใจ (เป็นคนกลัวปลา นึกว่าเจอปลา)
มีช่วงที่น้ำเข้าแว่นตา ก็แวะถอดแว่นแล้วสวมไปใหม่  
ซึ่งปกติน้ำก็ไม่ค่อยเข้าแว่น แต่ครั้งนี้เหมือนโดนคลื่นด้วยมั้งคะ น้ำเข้ามาข้างนึง 

ตอนว่ายรู้สึกว่ามันยาวนานมาก ว่ายเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที 
พอขึ้นมาบนบก ดูนาฬิกา 
แม่เจ้า
ใช้เวลาไปเกือบๆ 50 นาที 
ซึ่งเป็นอะไรที่บ้าบอมาก

ถ้าใครซ้อมมาน้อย บอกเลย ไม่น่าไหว 
อยู่ในทะเลยาวนานขนาดนี้ ทำไปได้ยังไง 

ตอนกลับไทยมาคุยกับโค้ช แกบอกว่าเห็นแล้วว่าคลื่นแรงแค่ไหน
เธอใช้เวลาไปเยอะขนาดนี้ก็ไม่แปลกหรอก 

พอวิ่งเข้าทรานซิชั่นเสร็จ รีบไปเอาจักรยานออกมาปั่น
bike course คือ ปั่นในสวน 2 รอบ 
ทำเวลาไม่ได้ แต่มาถึงจุดนี้ ไม่พูดถึงเรื่องเวลาละค่ะ

ระหว่างปั่น ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรเข้าตา 
ชิก็เอาน้ำในกระบอกน้ำที่เตรียมไว้ดื่มยกขึ้นมาล้าง
จนปั่นไปเรื่อยๆ แล้วก็จอดแวะล้างไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่หาย 
งงมากว่ามีอะไรเข้าตา เพราะล้างแล้วไม่หาย

จนเอาจักรยานมาเก็บ แล้วไปวิ่งต่อ 
ตลอดเวลาที่ไปวิ่ง เราก็รู้สึกแสบตามาก แวะล้างตาทุก station 
วิ่งท่ามกลางแดดร้อนระอุมากๆ บอกเลย race นี้ใช้เวลาแต่ละพาร์ทไปเยอะ
และ พัง สุดๆ 
ตอนนี้คิดแต่เพียง อะไรเข้าตาวะ 

จนวิ่งขากลับเข้าเส้นชัย แฟนมารอรับ (แฟนก็ลงแข่ง และเข้าก่อน .... เป็นไปได้ไง เข้าก่อนเรา) 
เข้าเส้นชัยเสร็จ ชิพูดคำเดียวว่า เคืองตา ช่วยด้วย

พี่เค้าพาไปที่บูธพยาบาล ตอนนั้นตาซ้ายเริ่มปิดแล้ว 
เราหลับตาข้างนั้นมาตลอดการวิ่งแล้วดังหาก
จนตอนนี้ตามันลืมไม่ขึ้น 

สตาฟช่วยกันล้างตาให้ แต่ก็ไม่ดีขึ้น 
เหมือนยิ่งเคืองหนักไปอีก

ตอนนี้การมองเห็นเริ่มแย่ลงทุกทีๆ 
เราตัดสินใจบอกว่า ขอไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด 
เพราะตอนนี้ตาข้างที่เป็น คือมองเห็นทุกอย่างเป็นสีขาวโพลนไปหมด 
เหมือนเป็นฝ้าๆ 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ที่ผู้จัดมีรถพยาบาล แต่ไม่เอารถพยาบาลไปส่ง 
บอกให้เรานั่ง taxi ไปเอง แต่กระนั้นเค้าก็จัดการหา taxi ประสานงานให้อะนะ คือคนที่ช่วยประสานงาน
คือช่วยดีมากๆ 
เราไม่รู้ว่าทำไมไม่ให้เอารถพยาบาลไป หรือจริงๆแล้วไม่มีก็ไม่รู้ การสื่อสารเราก็แย่มากตอนนั้น ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง
สมงสมองตอนนี้ไม่มีแล้ว เจ็บและทรมานมาก น้ำตาไหลตลอดเวลา
ในหัวมันคิดแค่ว่า ชั้นจะตาบอดไม่ได้ 

ระหว่างที่นั่งอยู่ในแทกซี่ เราก็พยายามถ่างตาข้างที่เจ็บตลอด
เหมือนจะหวังว่า มันจะมองเห็นชัดขึ้น 
แต่ไม่เลย 
เหมือนไม่มีหวัง

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่