นี่หรอวิธีแก้ปัญหามหาวิทยาลัยราชภัฏอันดับหนึ่ง 10 ปีซ้อนที่เคยพูด!!

คือมหาวิทยาลัยที่นี่อยู่ ที่คณะต้องฝึกงานปี 4 เทอม 2 แล้วปีนี้มีโครงการพาเด็กไปฝึกงานที่ญี่ปุ่น มีคนสมัครไปประมาณ 200 กว่าคน ต้องเริ่มฝึกงาน 6 มกราคม 63 แต่ช่วงประมาณปลายๆธันวาคม 2562 ทางมหาวิทยาลัยออกมาประกาศยกเลิกโครงการ ซึ่งนี่ไม่ได้สมัครไปญี่ปุ่น ก็เข้าใจนะว่าอีกแค่ไม่มีวันจะให้หาที่ฝึกงานที่ไทยก็คงไม่ทัน ทางมหาลัยเลยให้ฝึกช้ากว่า 1 เดือน ให้เวลาหาที่ฝึกก่อน หรือใครไม่อยากหาเองทางมหาลัยก็มีบริษัทส่งไปฝึก (ขอพูดก่อนนะว่าทั้งที่ว่ามาทางมหาลัยไม่ได้ออกมาจี้แจ้งให้ทราบกันทั่ว แต่ประกาศให้เด็กที่จะไปญี่ปุ่นทราบเท่านั้น ข้อมูลทั้งหมดมาจากการที่นี่คุยกับเพื่อน) พอมาถึงสิ้นมกราคมที่ผ่านมา นี่ก็ถามเพื่อนประมาณว่าสรุปได้ฝึกงานที่ไหน สรุปว่าทางมหาวิทลัยได้ให้ผลประโยชน์ว่าจะฝึกรึไม่ฝึกก็ได้แล้วแต่ ใครอยากฝึกก็ฝึก ไม่อยากฝึกก็ไม่ต้องฝึกนอนรอใบจบพร้อมๆเพื่อน (คนฟังนี่ถึงกับห้ะ ได้หรออออ และคือถ้าใครอยากฝึก ฝึกที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ ทีตอนนี่ไปขอฝึกต่างจังหวัด เขาบอกว่าไม่ได้ค่ะ ฝึกได้แค่เขตปริมณฑล ทั้งที่ตอนนั้นอยากฝึกต่างจังหวัดเพราะเห็นว่าฝึกจบแล้วมีโอกาศต่อยอดกับที่บริษัทนั้น คือมีญาติอยู่บริษัทนั้น) ละนี่คือบางคนฝึกอยู่ต่างจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่ในเขตปริมณฑล บางคนหางานพาททามทำ บางคนไม่ทำ ละตัดภาพมานี่นั่งฝึกงานหัวหมุน นี่ก็ไม่รู้นะว่าใบจบของคนที่ไม่ได้ฝึกงานอ่ะ จะได้ลงในประวัติฝึกงานรึป่าว จะได้ผ่านฝึกงานไหม ถ้าในประวัติไม่ได้กรอกว่าฝึกงานก็โอเค แฟร์ๆไม่ฝึกในใบก็ไม่ต้องกรอก แต่ถ้าไม่ฝึกแต่ในใบกรอกการทำงานละ เอาเปรียบยันบริษัทที่รับไปเลยนะ รับโดยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วจบมาโดยไม่ฝึกงานเลย รู้นะจะรับผิดชอบกับเด็กที่ไม่ได้ไปญี่ปุ่นอ่ะ แต่ไม่คิดหรอว่าทำแบบนี้มันเกินไปอ่ะ เด็กคนอื่นจะมองยังไงอ่ะ มีหน้ามาบอกอย่าเล่าให้เล่าคนอื่นฟังอีกนะ รู้นะว่าเรียนภาษาญี่ปุ่นเสาร์อาทิตมา 3 เดือนอ่ะ ก็ยืดเวลาฝึกงานไปเดือนนึงไม่พอหรอ

*ที่โพสต์คือน้อยใจนะ ทำไมเราต้องฝึก ทั้งที่บ้างคนไม่ต้องฝึกก็ได้ ไม่มีความเท่าเทียมกันเลย สองมาตรฐานทั้งที่ก็จ่ายค่าเทอมเท่ากัน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่