ข้อเปรียบเทียบของพระทุศีลกับคนทั่วไปทุศีลที่พระพุทธเจ้า,พระนาคเสนกล่าวไว้ น่าจะเป็นการกล่าวเปรียบเทียบที่ถูกทั้งหมด

ข้อเปรียบเทียบระหว่างพระทุศีลกับคนปกติทุศีลได้มี 2 บุคคลชี้แจงเปรียบเทียบไว้ คือ พระพุทธเจ้าและพระนาคเสน ในการชี้แจงข้อเปรียบเทียบก็ชี้แจงเนื้อหาคนละรูปแบบ อธิบายในมุมที่ต่างกันไป เนื้อหาการชี้แจงของพระพุทธเจ้าที่ดูมาจะบอกถึงโทษทุกข์จากการที่พระทำผิดศีล แต่เนื้อหาของพระนาคเสนจะกล่าวในส่วนที่ดีส่วนที่บุญของพระ แม้ว่าพระนั้นได้มีการทุศีลอยู่ก็ตาม

เพราะฉะนั้น ถ้าตั้งคำถามว่า พระทุศีลกับชาวบ้านทุศีล อย่างไหนที่ได้รับบาปกรรมมากกว่ากัน ให้ดูที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้
" พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕
อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต
อัคคิขันธูปมสูตร
             [๖๙] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศลชนบท
พร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จดำเนินไปสู่ทางไกล ได้ทอดพระเนตรเห็น
ไฟกองใหญ่ กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วงอยู่ในที่แห่งหนึ่ง จึงเสด็จแวะจากทาง
ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูไว้ใกล้โคนไม้แห่งหนึ่ง ครั้นแล้วตรัสถามภิกษุทั้งหลายว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายเห็นไฟกองใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง
อยู่หรือไม่ ภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า เห็น พระเจ้าข้า ฯ.......
.....................................................................................
พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจะขอบอกเธอทั้งหลาย จะขอเตือนเธอ
ทั้งหลาย การที่บุคคลผู้ทุศีล มีธรรมลามก มีความประพฤติสกปรกน่ารังเกียจ
ปกปิดกรรมชั่ว มิใช่สมณะ แต่ปฏิญาณว่าเป็นสมณะ มิใช่ผู้ประพฤติพรหมจรรย์
แต่ปฏิญาณว่าประพฤติพรหมจรรย์ เน่าใน มีความกำหนัดกล้า เป็นดังหยากเยื่อ
เข้าไปนั่งกอดหรือนอนกอดพระราชธิดา บุตรสาวพราหมณ์หรือบุตรสาวคฤหบดี
จะประเสริฐอย่างไร การเข้าไปนั่งกอดนอนกอดกองไฟใหญ่โน้นที่กำลังลุกรุ่งโรจน์
โชติช่วงอยู่ นี้ดีกว่า ข้อนั้นเพราะเหตุไร..............................
........................................................................................
ย่อมเป็นไปเพื่อความ
 มิใช่ประโยชน์ เพื่อความทุกข์ตลอดกาลนานแก่เขา และผู้นั้นเมื่อ
ตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะ
สำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน การที่บุรุษมีกำลัง เอาเชือกหนังอันเหนียวแน่นพันแข้ง
ทั้งสองข้างแล้วชักไปมา เชือกหนังพึงบาดผิว บาดผิวแล้ว พึงบาดหนัง
บาดหนังแล้ว พึงบาดเนื้อ บาดเนื้อแล้ว พึงตัดเส้นเอ็น ตัดเส้นเอ็นแล้ว
พึงตัดกระดูก ตัดกระดูกแล้ว หยุดอยู่จดเยื่อในกระดูก ..........................
............................................................................................
พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจะขอบอกเธอทั้งหลาย จะขอเตือนเธอ
ทั้งหลาย การที่บุคคลผู้ทุศีล ฯลฯ เป็นดังหยากเยื่อ บริโภควิหารที่เขาถวาย
ด้วยศรัทธา ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล จะดี
อย่างไร การที่บุรุษมีกำลัง จับเอาเท้าขึ้น เอาหัวลง โยนลงในหม้อเหล็กแดง
ไฟกำลังลุกรุ่งโรจน์โชติช่วง ถูกไฟเผาเดือดดุจฟองน้ำ ในหม้อเหล็กแดงนั้น
บางครั้งลอยขึ้นข้างบน บางครั้งจมลงข้างล่าง บางครั้งลอยไปขวางๆ นี้ดีกว่า
ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะผู้นั้นพึงเข้าถึงความตายหรือทุกข์ปางตาย มีข้อนั้นเป็น
เหตุ แต่ผู้นั้นเมื่อตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะข้อนั้น
เป็นปัจจัย ส่วนการที่บุคคลผู้ทุศีล ฯลฯ เป็นดังหยากเยื่อ บริโภควิหารที่เขา
ถวายด้วยศรัทธา ของกษัตริย์มหาศาล พราหมณ์มหาศาล หรือคฤหบดีมหาศาล
นั้น ย่อมเป็นไปเพื่อความ
 มิใช่ประโยชน์ เพื่อทุกข์ตลอดกาลนาน แก่
บุคคลผู้ทุศีลนั้น และบุคคลผู้ทุศีลนั้น เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ
วินิบาต นรก ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะเหตุนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงศึกษา
อย่างนี้ว่า เราทั้งหลายบริโภคจีวร บิณฑบาต เสนาสนะและคิลานปัจจัยเภสัช
บริขาร ของชนเหล่าใด ปัจจัยของชนเหล่านั้น จักมีผลมาก มีอานิสงส์มาก
และการบรรพชาของเราทั้งหลายจักไม่เป็นหมัน มีผล มีกำไร ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แล อนึ่ง เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อพิจารณา
เห็นประโยชน์ตน ควรแท้ทีเดียวที่จะให้ประโยชน์นั้นสำเร็จด้วยความไม่ประมาท
เมื่อพิจารณาเห็นประโยชน์ผู้อื่น ก็ควรแท้ทีเดียวที่จะให้ประโยชน์นั้นสำเร็จด้วย
ความไม่ประมาท หรือเมื่อพิจารณาเห็นประโยชน์ทั้งสอง ก็ควรแท้ทีเดียวที่จะให้
ประโยชน์ทั้งสองนั้นสำเร็จด้วยความไม่ประมาท ฯ
             พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไวยากรณภาษิตนี้จบลงแล้ว และเมื่อกำลังตรัส
ไวยากรณภาษิตนี้อยู่ โลหิตร้อนพุ่งออกจากปากของภิกษุ ๖๐ รูป (พวกต้น)
ภิกษุ ๖๐ รูป (พวกกลาง) ลาสิกขา สึกมาเป็นคฤหัสถ์ ด้วยกราบทูลพระผู้มี
พระภาคว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ทำได้ยาก ข้าแต่พระผู้มีพระภาค ทำได้
แสนยาก อีก ๖๐ รูป จิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น ฯ

แต่ถ้าตั้งคำถามว่า พระทุศีลยังมีส่วนที่ประเสริฐที่ดีงามกว่าชาวบ้านทุศีลอย่างไรบ้าง ก็ให้ดูเนื้อหาที่พระนาคเสนเทศน์สอนไว้
พระนาคเสนจึงตรัสตอบพระเจ้ามิลินท์ว่า สมณะทุศีลยังดีกว่าคฤหัสถ์หรือคนธรรมดาที่ทุศีลทั่วไป 10 ประการดังนี้
1.สมณะทุศีลนั้นเคารพในพระพุทธเจ้า
2.สมณะทุศีลนั้นเคารพในพระธรรม
3.สมณะทุศีลนั้นเคารพในพระสงฆ์
4.สมณะทุศีลนั้นเคารพเพื่อนพรหมจารี
5.สมณะทุศีลนั้นเพียรที่จะบอกกล่าวเล่าเรียนพระบาลีและอรรถกถา
6.สมณะทุศีลนั้นมากในการฟังธรรม
7.สมณะทุศีลนั้นตัวสิ เป็นศีลเภท (กระทำผิดศีล)แล้ว แม้จะมาสู่สำนักบริษัท ย่อมตั้งไว้ซึ่งอากัปกิริยาเหมือนมีศีลบริสุทธิ์ สำรวมกาย วาจามิให้ มีครหาเกิด
8.สมณะทุศีลนั้นตั้งไว้ซึ่งจิตเป็นประธาน
9.สมณะทุศีลนั้นเป็นผู้ทรงไว้ซึ่งสมณเพศ
10.สมณะทุศีลนั้น แม้จะกระทำความชั่ว ก็ย่อมกระทำในที่ลับประดุจสตรีผู้มีสามี แอบสามีประพฤติความชั่วฉะนั้น
ไม่เพียงเท่านี้
สมณะทุศีลยังทำให้การทำทานของผู้ถวายสำเร็จประโยชน์ได้ด้วยเหตุ 10 ประการดังนี้
1.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้แม้เพราะความที่ทรงเสื้อเกราะ(ผ้ากาสาวพัสตร์) อันหาโทษมิได้
2.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะการได้ทรงเพศคนหัวโล้นที่แสวงหาคุณธรรม เปรียบดั่งไม้ เท้าที่ยึดหน่วงแห่งผู้ทำทานทั้งหลาย ผู้มีสมัญญาว่า ฤาษี (ภิกษุ)
3.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะตนปฏิบัติตามลัทธิของพระสงฆ์ คือ การที่จะกระทำวัตรปฏิบัติน้อย ใหญ่ เคยกระทำฉันใดก็กระทำฉันนั้น
4.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะความเป็นผู้เข้าถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะ
5.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะความเป็นผู้อยู่อาศัยในบ้านพักอาศัย คือความเพียร
6.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะมีการแสวงหาทรัพย์ คือพระศาสนาของพระชินวรพุทธเจ้า
7.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะมีการแสดงธรรมที่ยอดเยี่ยม
8. สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะความที่มีพระธรรมเป็นประทีปส่องคติที่ไปเบื้องหน้า
9. สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะความที่มีความเห็นตรงแน่นอนว่า "พระพุทธเจ้าทรงเป็นยอดบุคคล"
10.สมณะทุศีลย่อมทำให้การทำทานเกิดผลสำเร็จได้ แม้เพราะความที่การสมาทานอุโบสถ
เป็นความจริงว่า สมณะทุศีลแม้ว่าศีลวิบัติ ก็ยังทำให้การทำทานของทายก(ผู้ให้ทาน)เกิดผลสำเร็จได้. เปรียบเหมือนว่า น้ำ แม้ว่าแสนจะขุ่นข้น ก็ยังใช้กำจัดโคลนตม เหงื่อไคล ขี้ฝุ่นได้ ฉันใด สมณะทุศีล แม้ว่าศีลวิบัติ ก็ยังทำให้การทำทานของทายก(ผู้ให้ทาน)เกิดผลสำเร็จได้.ฉันนั้น

   เพราะฉะนั้น ควรแยกแยะข้อเปรียบระหว่างพระทุศีลกับคนธรรมดาทุศีลให้เป็นคนละกรณีไป ส่วนที่เป็นบุญก็เป็นบุญ ส่วนที่เป็นบาปก็เป็นบาป
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่