เราคบกันมา 5 ปี มีลูก 1คน อายุ 3ขวบ
ระยะเวลาที่คบกันมา ผมคิดว่าผมดูแลเธอสุดความสามารถผมแล้ว
ตอนเธอท้อง เธอต้องลาออกจากงาน ผมก็คอยดูแลเธอตลอด และผมตัดสินใจกู้ธนาคารสร้างบ้านให้เธอกับลูกได้อยู่
หลังจากคลอดลูก เธอต้องกลับไปอยู่บ้านพร้อมลูก ดูแลแม่ที่ไม่สบาย ผมจึงไม่สามารถซับพอร์ตไม่ได้ 100% เรามีปัญหากันบ่อย เรื่องการเอาใจใส่เลี้ยงดูลูกเพราะผมอยู่ห่าง และเงิน
ที่ผ่านมาผมแสดงความรัก และความรู้สึกที่ดีกับเธอน้อยมาก แต่ทะเลาะกันทีไร ผมจะเป็นฝ่ายยอม และอยากกอดเธอไว้ เพราะสงสารลูก
และตอนมีลูก ผมก็รักเธอและตัดสินใจไปแล้วว่าเธอคือผู้หญิงคนสุดท้ายที่จะเข้ามาในชีวิต
ผมไปหาไปเยี่ยมเธอ 1-2เดือนครั้ง รู้สึกผิดทุกครั้งกับแม่เธอ เพราะไม่เคยไปสู่ขอเธอกับท่านเลย แต่ท่านก็ดีกับผมเหมือนลูกคนหนึ่ง
มาวันนึง ลูกเกือบ3ขวบ มีเหตุจำใจให้เธอต้องทำงานใช้หนี้ทางบ้านและหาเงินเพื่ออนาคตลูก ด้วยเศรษฐกิจไทย จึงจำเป็นต้องไปเมืองนอก ก่อนหน้านี้เธอและครอบครัวอยากให้ผมไป แต่ถ้าผมลาออกงาน ระหว่างไปเรียนภาษา สอบ คัดตัว คงไม่มีเงินใช้เลย เลยคุยกันว่าให้เธอไปตั้งตัวให้ได้ก่อน ผมจะตามไป โดยให้ผมดูแลลูกที่บ้าน เราได้ไปจดทะเบียนสมรสกัน และมีพายานรัก 1คน สัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งกันและกัน
หลังจากเธอไปได้ 5เดือน (ถึง พ.ย.) เราคุยกันแทบทุกวัน ผมเข้าใจรับรู้ถึงความเหนื่อยของเธอที่ต้องเลี้ยงทั้งลูกทั้งดูแลแม่ มันทำให้ผมรักเธอมากขึ้นๆ ผมคอยให้กำลังใจเธอ เป็นห่วงอยู่เสมอ ตัดเหล้า บุหรี่ สังคมเพื่อน เพราะต้องเลี้ยงลูก ให้เวลาลูกมากๆ ทำให้เธอสบายใจที่สุด แต่เธอก็มีสังคมใหม่เข้ามา ปาร์ตี้ เพื่อน พี่ น้อง ทำให้ผมรู้สึกห่างเธอ มองย้อนไป 5เดือน เธอไม่เคยโพสเฟสอะไรเกี่ยวกับผมเลย แต่ยังจะรูปผมเก่าๆอยู่บ้าง ยิ่งทำให้เหมือนผมคอยวิ่งตามเธอ เรื่องนี้ก็เกิดการทะเลาะกันด้วย
เดือน ธ.ค. ผมเริ่มระแวงเธอ จากที่ไม่ค่อยเล่นเฟส ผมเข้าไปส่องเฟส เช็คทุกโพส ทุกคอมเม้น จนมาเจอคนที่สงสัย แต่ก็ไม่แกล้งโง่ไป ไม่อย่างถามมาก เพราะเธอบอกว่า เฟสบุ๊คคือพื้นที่ส่วนตัวของเธอ คุยกันมาถึง ม.ค. นี้ ผมจับได้ว่าเธอโกหก และไปเที่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่ผมสงสัย โทรหาไม่รับ ข้อความไปกว่าจะตอบ เลยคิดเลยว่าใช่ละ ไปเที่ยว3วัน 2คืน
ผมแทบบ้า ไม่โดนปิดหูปิดตา ความคิดมืดไปหมด ผมก็กดแอดเฟสผู้ชายคนนั้นไป พอเธอกลับมาผมก็ถามตรงๆเลยอะไรยังไง โดยบอกไปก่อนว่าอยากได้ความจริง ถ้ามันผิดพลั้งไปมีคนอื่น ผมให้อภัย และขอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเพื่อลูกของเราได้ไหม เธอบอกผมว่า ไม่มีอะไรเลย เป็นพี่น้องกัน คุยแบบชิวมาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นเราก็กลับมาคืนดีกัน ผมทำใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ให้มันผ่านไป เพราะแค่อ้าปากเธอก็บอกว่าผมจับผิดทุกอย่าง ไม่อยากทะเลาะ
ผ่านมาได้ 1 สัปดาห์ พี่คนนั้น ข้อความมาบอกเธอว่าผมแอดเฟสไป ทันไดนั้นเธอข้อความมาด่าผมว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง และเธอลบเฟสผมทิ้งไป และจะเลิกเล่นเฟสแล้ว 2-3วันที่ผ่านมา ผมก็ถามเธอตลอดว่าหากไม่มีอะไร จะปิดบังทำไม จนมาวันนี้ เธอถามผมว่าได้ข้อความอะไรไปไหม เธอเผลอพลาดไป หลงรักพี่เขาไปแล้ว นอนด้วยกันแล้ว ไม่รู้จะบอกผมยังไง พี่เขาไม่คุยกับเธออีกแล้ว เธอขอเวลาผมคิดทบทวน เธอบอกผมว่าเธอจะส่งเงินให้ผมเรียนเพื่อไปทำงานที่นั่น โดยตอนนี้ใจเธอยังไม่เหมือนเดิม และเฟสก็ยังไม่พร้อมเล่น บอกแค่ว่าเธอกับพี่เขาจบแล้ว ให้ผมเชื่อใจ หากจะเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกัน
ผมควรทำยังไงดีครับ ตอนนี้ผมเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า ขาดกำใจ นอนน้อยมาก ไม่กล้าปรึกษาใคร กลัวคนจะมองว่าฌะอไม่ดี
จะทำไงดี แฟนไปทำงานเมืองนอก แล้วมีคนอื่น
ระยะเวลาที่คบกันมา ผมคิดว่าผมดูแลเธอสุดความสามารถผมแล้ว
ตอนเธอท้อง เธอต้องลาออกจากงาน ผมก็คอยดูแลเธอตลอด และผมตัดสินใจกู้ธนาคารสร้างบ้านให้เธอกับลูกได้อยู่
หลังจากคลอดลูก เธอต้องกลับไปอยู่บ้านพร้อมลูก ดูแลแม่ที่ไม่สบาย ผมจึงไม่สามารถซับพอร์ตไม่ได้ 100% เรามีปัญหากันบ่อย เรื่องการเอาใจใส่เลี้ยงดูลูกเพราะผมอยู่ห่าง และเงิน
ที่ผ่านมาผมแสดงความรัก และความรู้สึกที่ดีกับเธอน้อยมาก แต่ทะเลาะกันทีไร ผมจะเป็นฝ่ายยอม และอยากกอดเธอไว้ เพราะสงสารลูก
และตอนมีลูก ผมก็รักเธอและตัดสินใจไปแล้วว่าเธอคือผู้หญิงคนสุดท้ายที่จะเข้ามาในชีวิต
ผมไปหาไปเยี่ยมเธอ 1-2เดือนครั้ง รู้สึกผิดทุกครั้งกับแม่เธอ เพราะไม่เคยไปสู่ขอเธอกับท่านเลย แต่ท่านก็ดีกับผมเหมือนลูกคนหนึ่ง
มาวันนึง ลูกเกือบ3ขวบ มีเหตุจำใจให้เธอต้องทำงานใช้หนี้ทางบ้านและหาเงินเพื่ออนาคตลูก ด้วยเศรษฐกิจไทย จึงจำเป็นต้องไปเมืองนอก ก่อนหน้านี้เธอและครอบครัวอยากให้ผมไป แต่ถ้าผมลาออกงาน ระหว่างไปเรียนภาษา สอบ คัดตัว คงไม่มีเงินใช้เลย เลยคุยกันว่าให้เธอไปตั้งตัวให้ได้ก่อน ผมจะตามไป โดยให้ผมดูแลลูกที่บ้าน เราได้ไปจดทะเบียนสมรสกัน และมีพายานรัก 1คน สัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งกันและกัน
หลังจากเธอไปได้ 5เดือน (ถึง พ.ย.) เราคุยกันแทบทุกวัน ผมเข้าใจรับรู้ถึงความเหนื่อยของเธอที่ต้องเลี้ยงทั้งลูกทั้งดูแลแม่ มันทำให้ผมรักเธอมากขึ้นๆ ผมคอยให้กำลังใจเธอ เป็นห่วงอยู่เสมอ ตัดเหล้า บุหรี่ สังคมเพื่อน เพราะต้องเลี้ยงลูก ให้เวลาลูกมากๆ ทำให้เธอสบายใจที่สุด แต่เธอก็มีสังคมใหม่เข้ามา ปาร์ตี้ เพื่อน พี่ น้อง ทำให้ผมรู้สึกห่างเธอ มองย้อนไป 5เดือน เธอไม่เคยโพสเฟสอะไรเกี่ยวกับผมเลย แต่ยังจะรูปผมเก่าๆอยู่บ้าง ยิ่งทำให้เหมือนผมคอยวิ่งตามเธอ เรื่องนี้ก็เกิดการทะเลาะกันด้วย
เดือน ธ.ค. ผมเริ่มระแวงเธอ จากที่ไม่ค่อยเล่นเฟส ผมเข้าไปส่องเฟส เช็คทุกโพส ทุกคอมเม้น จนมาเจอคนที่สงสัย แต่ก็ไม่แกล้งโง่ไป ไม่อย่างถามมาก เพราะเธอบอกว่า เฟสบุ๊คคือพื้นที่ส่วนตัวของเธอ คุยกันมาถึง ม.ค. นี้ ผมจับได้ว่าเธอโกหก และไปเที่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่ผมสงสัย โทรหาไม่รับ ข้อความไปกว่าจะตอบ เลยคิดเลยว่าใช่ละ ไปเที่ยว3วัน 2คืน
ผมแทบบ้า ไม่โดนปิดหูปิดตา ความคิดมืดไปหมด ผมก็กดแอดเฟสผู้ชายคนนั้นไป พอเธอกลับมาผมก็ถามตรงๆเลยอะไรยังไง โดยบอกไปก่อนว่าอยากได้ความจริง ถ้ามันผิดพลั้งไปมีคนอื่น ผมให้อภัย และขอให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเพื่อลูกของเราได้ไหม เธอบอกผมว่า ไม่มีอะไรเลย เป็นพี่น้องกัน คุยแบบชิวมาก เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นเราก็กลับมาคืนดีกัน ผมทำใจว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก็ให้มันผ่านไป เพราะแค่อ้าปากเธอก็บอกว่าผมจับผิดทุกอย่าง ไม่อยากทะเลาะ
ผ่านมาได้ 1 สัปดาห์ พี่คนนั้น ข้อความมาบอกเธอว่าผมแอดเฟสไป ทันไดนั้นเธอข้อความมาด่าผมว่ายุ่งไม่เข้าเรื่อง และเธอลบเฟสผมทิ้งไป และจะเลิกเล่นเฟสแล้ว 2-3วันที่ผ่านมา ผมก็ถามเธอตลอดว่าหากไม่มีอะไร จะปิดบังทำไม จนมาวันนี้ เธอถามผมว่าได้ข้อความอะไรไปไหม เธอเผลอพลาดไป หลงรักพี่เขาไปแล้ว นอนด้วยกันแล้ว ไม่รู้จะบอกผมยังไง พี่เขาไม่คุยกับเธออีกแล้ว เธอขอเวลาผมคิดทบทวน เธอบอกผมว่าเธอจะส่งเงินให้ผมเรียนเพื่อไปทำงานที่นั่น โดยตอนนี้ใจเธอยังไม่เหมือนเดิม และเฟสก็ยังไม่พร้อมเล่น บอกแค่ว่าเธอกับพี่เขาจบแล้ว ให้ผมเชื่อใจ หากจะเริ่มต้นใหม่ไปด้วยกัน
ผมควรทำยังไงดีครับ ตอนนี้ผมเหมือนคนเป็นโรคซึมเศร้า ขาดกำใจ นอนน้อยมาก ไม่กล้าปรึกษาใคร กลัวคนจะมองว่าฌะอไม่ดี