การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะด้วยวิธีพิสดาร

ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะสักชิ้นนั้น มีวิธีการที่หลากหลายนับไม่ถ้วน เพราะศิลปินแต่งละคนมักจะมีวิธีการสร้างสรรค์ผลงานในแบบของตัวเอง บางคนอาจมีวิธีแปลกๆ จนคนธรรมดาดูแล้วอาจไม่เข้าใจ

 
Millie Brown จิตรกรสาวที่สร้างสรรค์ผลงานด้วยการอ้วก โดยเธอจะดื่มนมที่มีสีต้องการ แล้วก็ล้วงคออ้วกออกมาบนผืนผ้าใบหรือบนชุดของตัวเอง
เธอเป็นคนเข้าใจงานศิปละ แต่รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เมื่อนำความสามารถของเธอเองลงไปด้วย จึงทำให้การอ้วกของเธอออกมาเป็นภาพวาดแนวนามธรรมที่มีมูลค่าหลายแสนบาท
หนึ่งในผลงานของ Brown ที่ชื่อ ‘Nexus Vomitus’ ได้ขายให้กับนักร้องนามว่า Patricia Hammond และ Zita Syme ในมูลค่า 84,000 บาท
 

 
Hong Yi ได้สร้างสรรค์ภาพของ Yao Ming ผู้เล่นบาสเกตบอลที่เพิ่งเกษียณจาก Houston Rockets เธอบอกว่า ภาพของนักบาสก็ต้องใช้ลูกบาสถึงจะเหมาะมากกว่าใช้พู่กัน
(ที่มา neatorama)
 
 
Vinicius Quesada เป็นศิลปินข้างถนนจากบราซิล ที่ชอบเพิ่มมูลค่าของงานตัวเองด้วยวิธีการแปลกๆ เขามักจะสร้างงานศิลปะจากเลือดและปัสสาวะ
ส่วนรายละเอียดของภาพนั้นมักจะออกแนวหลอนๆ ดูรุนแรง และอื่นๆ ที่ไม่ค่อยคุ้นตา
(ที่มา amusingplanet l neatorama)
 

กลุ่มศิลปินในยูเครน ได้ดำลงไปสู่ใต้ทะเลลึกพร้อมถังออกซิเจนเพื่อวาดภาพ โดยสามารถอยู่ใต้น้ำนานถึง 40 นาที ในช่วงเวลานี้ พวกเขาก็ได้สีวาดภาพบนผืนผ้าใบ เกิดเป็นภาพที่สวยงามอย่างเหลือเชื่อ
(ที่มา euronews l neatorama)
 
 
Kira Ayn Varszegi ศิลปินชาวอเมริกันใช้หน้าอกของเธอที่มีขนาด 38DD แทนพูกัน เพื่อสร้างงานศิลปะแบบดั้งเดิม
เทคนิคของเธออาจจะเป็นวิธีดั้งเดิมแต่มันค่อนข้างง่าย เพราะเธอแค่น้ำสีมาทาบนหน้าอก จากนั้นก็นาบลงไปบนผืนผ้าใบ แต่กระบวนการนี้ทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จนกว่าเธอจะได้ภาพที่ถูกใจ
เธอบอกว่า เคล็ดลับของเธออยู่ที่การผสมสี เพราะต้องให้แน่ใจว่ามีองค์ประกอบสีที่สมดุลกัน เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบ
วัตถุประสงค์หลักของเธอคือ เพื่อกระตุ้นอารมณ์คนดู ทำให้สิ่งที่ว่างเปล่าดูมีชีวิตชีวา และที่สำคัญคือเพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับคนดู
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านี้ เธอจึงใช้วัสดุอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นพูกันธรรมดา ของเล่น ผัก และส่วนต่างๆ ของร่างกาย
เธอได้ขายงานผ่าน eBay ด้วยราคาที่ไม่ค่อยสูงมากนัก เพราะเธออยากให้ผู้คนทั่วโลกสามารถซื้องานของเธอได้ และมีติดไว้ตามผนังในแต่ละรัฐของสหรัฐฯ
(ที่มา odditycentral)
 
 

Ani K licks วาดภาพด้วยลิ้นของเขา แน่นอนว่าเขาต้องผ่านการคลื่นไส้ ลิ้นเกรง และอาการเวียนหัวนับครั้งไม่ถ้วน เพราะครั้งแรกที่เขาเริ่มทำงานด้วยลิ้น เขาปวดหัวอย่างรุนแรงและปวดเมื่อยตามร่างกายแทบทุกครั้ง
จากนั้นเขาก็ป่วยเพราะมีสารเข้าร่างกายมากเกินไป แต่เขากลับอ้างว่า มันเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
ในการวาดภาพแต่ละครั้ง เขาต้องใช้อย่างน้อย 20 สี โดยเขาจะวาดภาพกว้าง 2.4 เมตร ภาพวาดมักจะเป็นแนวประวัติศาสตร์ ซึ่งแต่ละภาพใช้เวลาประมาณ 5 เดือนกว่าจะเสร็จ
(ที่มา metro)
(ขอบคุณรูปจาก : https://missiongalacticfreedom.files.wordpress.com/2014/02/tongue-art.jpg)
 

Chris Trueman ศิลปินที่มีเทคการวาดรูปแปลกๆ ที่เขาเรียกว่า “Self-Portrait With Gun” เขาใช้มดที่ตายแล้วถึง 200,000 ตัวในการวาดภาพ
เขาไม่ได้ฆ่ามดด้วยตัวเอง แต่ให้น้องชายเป็นคนฆ่าให้ เพราะ Chris เป็นคนที่เกลียดการฆ่ามดมาก และผลงานที่ออกมานั้นก็คุ้มค่ากับการฆ่ามดจำนวนมากนี้ เพราะมีคนเสนอราคาให้มากกว่าล้านบาทในแต่ละชิ้น
(ที่มา trendhunter)
 
 

Xiang Chen ศิลปินตจากมณฑลหูหนานประเทศจีน ใช่พูกันหนัก 2 กิโลกรัมใส่ในตาของตัว ตามด้วยโลหะแบนใส่ไว้ที่ใต้เปลือกตา จากนั้นก็ลากแปรงด้วยลูกตาออกมาเป็นตัวอักษรหรือภาพ
แม้ว่าภาพที่ออกมา อาจไม่ได้ดีอะไรมากมาย แต่นี่ก็เป็นเทคนิคที่น่าทึ่งมาก
(ที่มา weirdasianews)
 
 

การใช้ขี้เถ้ามนุษย์ทำงานศิลปะนั้น ต้องอาศัยการโน้มเน้าเพื่อน ลูกค้า และครอบครัว และแน่นอนว่า มันไม่ง่ายเลย เพราะมักไม่มีใครยอมให้ง่ายๆ
Val Thompson จึงได้นำขี้เถ้ามาผสมกับสี แล้ววาดลงผืนผ้าใบ และดูเหมือนเธอจะติดใจจนสร้างสรรค์ผลงานที่ไม่ซ้ำกัน และยืดเป็นอาชีพตามคำแนะนำของพี่ชาย
(ที่มา news)
 
 

ในปี ค.ศ.1885 ศิลปินชาวญี่ปุ่นชื่อ Hananuma Masakichi Masakichi ได้สร้างผลงานชิ้นนี้ขึ้นในห้องที่เต็มไปด้วยกระจกเพื่อเขาจะได้เห็นรายละเอียดทุกอย่างของร่างกายตัวเอง ตั้งแต่เส้นเลือดไปจนถึงรูขุมขน หุ่นนี้ทำจากไม้สีเข้มยึดต่อกันด้วยหมุด กาว และสลัก ซึ่งรอยต่อนั้นก็เนียนซะจนมองไม่เห็นแม้จะใช้แว่นขยายส่องดูก็ตาม และที่เนียนไปมากกว่านั้นคือได้มีการนำผม เล็บ และฟันของศิลปินเองจริงๆ มาใส่ลงไปแทนตำแหน่งที่ตรงกับร่างกายของเขา และจัดแสดงงานชั้นนี้ขึ้น
ซึ่งหลังจากที่เขารอดชีวิตจากวัณโรคเขาก็อยู่ต่อได้ถึง 10 ปีและจากไป หลังจากนั้นหุ่นจำลองของเขาถูกขายไปให้กับ Robert Ripley ผู้ก่อตั้ง Ripley’s Believe It or Not ในราคาเพียง 10 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐในช่วงต้นศตวรรษที่ 20

Honore Fragonard เป็นนักกายวิภาคชาวฝรั่งเศสในช่วงยุคศตวรรษที่ 18 เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนักวาดภาพที่มีชื่อเสียง Jean-Honore Fragonard และอาจจะด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจเข้าสู่โลกแห่งศิลปะด้วยคน โดยการเปลี่ยนร่างคนตายให้กลายเป็นรูปแกะสลัก เขาได้ศพพวกนี้มาจากลานประหาร โรงเรียนแพทย์ หรือแม้แต่ศพที่ขุดมาจากหลุมแบบสดๆ ร้อนๆ ซึ่งในปัจจุบันเองก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาใช้วิธีการอย่างไรบ้างในการสร้างงานให้ออกมาแบบที่เห็น โดยเขาสร้างผลงานแนวนี้มาประมาณ 700 ชิ้น แต่มีเพียง 21 ชิ้นเท่านั้นที่เหลือรอดมาจนปัจจุบัน

 
ที่มา oddee
ที่มา : http://www.catdumb.com/incredibly-bizarre-painters-777/
http://petmaya.com/human-blood-head
https://board.postjung.com/668524.html
Cr. https://www.catdumb.com/incredibly-bizarre-painters-777/  By เหมียวขี้ส่อง
Cr.https://www.plotter.in.th/?p=5400

ขอขอบคุณที่มาข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา