ในความคิดคือ ในธรรมชาติ สาเหตุที่ไม้ล้มลุกมีวงจรชีวิตสั้น ไม่ว่าจะเป็นปีเดียว (annual) หรือสองปี (biennial) นั้น ก็เพราะว่าเป็นการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมในช่วงหนึ่งของปี

- ถ้าเป็นประเทศในเขตหนาว ไม้ล้มลุกจะเจริญในช่วงฤดูใบไม้ผลิและจะออกดอกออกผลในช่วงฤดูร้อนและใบไม้ร่วง เพื่อที่จะให้เมล็ดซึ่งจะพักตัวและมีชีวิตรอดจนผ่านช่วงฤดูหนาวไปได้ (ในกรณีนี้ อุณหภูมิจะเป็นปัจจัยหลักในการทำให้เกิดวงจรชีวิตแบบล้มลุก)
- ถ้าเป็นประเทศในเขตร้อน ไม้ล้มลุกจะเจริญในหน้าที่มีน้ำ (ฤดูฝน-หนาว) และออกดอกออกผลในช่วงนั้น เพื่อที่จะให้เมล็ดอยู่รอดจนผ่านหน้าแล้ง (ฤดูร้อน) ไปได้ (ในกรณีนี้ ปริมาณน้ำจะเป็นปัจจัยหลัก)

อยากทราบว่า
1. ข้อความข้างต้นถูกไหมครับ?

2. การแทรกแซงโดยมนุษย์ที่นำไม้ล้มลุกมาปลูก คือ
2.1 นำไม้ล้มลุกเมืองหนาวมาปลูกในประเทศเขตร้อน จะทำให้ไม้ล้มลุกเมืองหนาวโตในฤดูไหนก็ได้รึเปล่า (ถ้าสมมติว่าอุณหภูมิอบอุ่น ไม่ร้อนเกินจนทำให้ตาย) ?
2.2 ปลูกไม้ล้มลุกเขตร้อนโดยให้น้ำอย่างเพียงพอ จะทำให้ไม้ล้มลุกนั้นโตในฤดูไหนก็ได้รึเปล่า (คือไม่ต้องเป็นต้องโตแล้วตายในช่วงหน้าร้อน) ?
2.3 สิ่งเร้าที่มีผลต่อนาฬิกาชีวภาพ (circadian rhythm) ของไม้ล้มลุกในแง่ของการมีชีวิตแบบล้มลุก มีอะไรมั่งครับ?

3. คำกล่าวที่ว่า "ถ้าปลูกต้น...ในฤดู... จะทำให้ออกดอก/ออกผลมาก" แสดงถึงว่าในฤดูดังกล่าว (ส่วนมากจะเป็นฤดูหนาว) ไม่ใช่แค่ปริมาณน้ำ แต่อุณหภูมิก็มีผลต่อการออกดอกออกผลของไม้ล้มลุกด้วยใช่ไหม?

4. เป็นธรรมชาติของไม้ล้มลุกที่จะตายหลังจากออกดอกออกผล ใช่หรือไม่? หากตัดดอก/ผลออกจะช่วยยืดอายุไม้ล้มลุกได้ ใช่รึเปล่า?

5. ปัจจัยอะไรทำให้ไม้ล้มลุกบางต้นมีอายุมากกว่า 1 หรือ 2 ปี? เห็นว่าบางคนปลูกไม้ล้มลุกได้เป็นสิบปีก็มี

6. (นอกเรื่อง) ในปัจจุบันมีการใช้ความรู้เกี่ยวกับ photoperiodism (พืชวันสั้น พืชวันยาว) ในพืชกรรมอย่างไรบ้าง?

พึ่งเข้าสู่ศาสตร์แห่งเกษตรกรรม วานผู้รู้มาช่วยตอบกันครับ ขอบคุณครับ

**แก้ไข
*แก้ภาษากับการเว้นวรรคเล็กน้อย