Hooray ! เข้าเดือนกุมภาพันธ์ทีไร หัวใจมันกระชุ่มกระชวยอยากออกไปเที่ยวกับคนรู้ใจทุกที
ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทริปปี 2020 ที่ไหนดี เราขอส่งจังหวัด
“Saitama” ประเทศญี่ปุ่น
เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงค่ะ รับรองถ้าได้ไปเที่ยวดูสักครั้งล่ะก็ฟินแน่นอน
โดยเฉพาะ Chichibu หนึ่งเมืองสวยในจังหวัดไซตามะ อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว เป็นเมืองที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เที่ยวได้ทุกฤดู แถมยังมีกิจกรรมฮิต ๆ ที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อและเคยได้ยินกันบ้าง นั่นก็คือการล่องเรือ
Nagatoro, กิจกรรมชมดอกพิ้งค์มอส หรือ Shibazakura แถมเดินทางง่ายด้วย
รถไฟสายเซบุ (Seibu) เหมาะสำหรับการเที่ยวพักผ่อนแบบสั้น ๆ จะไปเช้า-เย็นกลับก็โอเค หรือมีเวลาแค่ 1-2 วันก็เที่ยวได้ค่ะ เพราะการเดินทางสะดวกสบาย มาจากโตเกียวใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเอง
ครั้งนี้เราเดินทางไปเที่ยวเมือง Chichibu เมือง Saitama กัน 2 วัน เพื่อเป็นการประหยัดค่าเดินทาง เราเลยเลือกซื้อพาส
SEIBU 1 Day Pass + Nagatoro และอีกใบหนึ่งเป็น MOOMINVALLEY PARK Ticket&Travel Pass ซึ่งเราเปิดใช้งานคนละวัน บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ เพราะสามารถแวะที่เที่ยวได้เยอะมาก แต่ทั้งนี้การเลือกใช้พาส เพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้ได้ให้เหมาะสมกับเส้นทางและสถานที่ ๆ จะไปได้เลยนะคะ
เอาล่ะ เดี๋ยวเราจะแนะนำทีละพาสนะจะได้ไม่งง เรามาเริ่มกันที่พาสแรกก่อนเลย
“SEIBU 1 Day Pass + Nagatoro”
พาสนี้ใช้นั่งรถไฟสาย Seibu ทั้งหมด และ Chichibu (ระหว่างสถานี Nogami, Nagatoro - Mitsumineguchi โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง พาสนี้เป็นพาสที่เหมาะสำหรับการเที่ยวชิลล์ ๆ จากโตเกียวแบบเช้า-เย็นกลับได้ภายใน 1 วัน และยังสามารถแวะเที่ยวระหว่างทางได้ด้วย พาสมีอายุ 1 วัน ราคา ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก 750 เยน และยังมีพาสสำหรับ 2 วัน “SEIBU 2 Day Pass + Nagatoro” ด้วย สำหรับผู้ใหญ่ราคา 3,000 เยน, เด็ก 1,500 เยนค่ะ (พาสไม่ครอบคลุมสาย Tamagawa สำหรับขบวน Limited Express มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม)
สถานที่จำหน่าย
- Limited Express Ticket Office ชั้น 1 และชั้นใต้ดิน สถานี Ikebukuro
- Limited Express Ticket Office สถานี Seibu-Shinjuku
- SEIBU Tourist Information Center Ikebukuro
วิธีการใช้
- หากอยู่บนสาย Seibu ให้สอดตั๋วผ่านเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ
- หากอยู่บนสาย Chichibu ให้เข้าช่องพิเศษด้านข้างแล้วเสนอตั๋วกับเจ้าหน้าที่ได้เลย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ :
https://www.seiburailway.jp/railways/tourist/english/ticket/daypass.html
“MOOMINVALLEY PARK Ticket&Travel Pass”
แฟน ๆ มูมินพลาดไม่ได้กับพาสใหม่ล่าสุด พาสนี้เพิ่งเปิดจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2019 คุ้มมาก ๆ เพราะนอกจากเราจะได้เข้าไปสนุก และเพลิดเพลินใน
MOOMINVALLEY PARK (สวนสนุกธีมมูมิน) ยังสามารถใช้พาสเดินทางเที่ยวแวะสถานที่ต่าง ๆ ตามเส้นทางรถไฟสาย Seibu อย่าง Kawagoe และ Chichibu ราคาพิเศษได้ภายใน 1 วัน (ยกเว้นสาย Tamagawa) แถมพาสก็น่ารักน่าใช้ น่าเก็บเป็นของที่ระลึกมาก ๆ ด้วย
พาสนี้สามารถใช้เข้าชม
MOOMINVALLEY PARK (ไม่รวมค่าเครื่องเล่นและค่าบริการอื่น ๆ) และสามารถใช้นั่งบัสไปยังสวนสนุกได้ฟรี โดยไป-กลับได้ 1 เที่ยว จุดขึ้นบัสรับส่งระหว่างสถานีไปยังสวนสนุก คือจุดบริการ Metsä จะอยู่ที่บริเวณทางออกทิศเหนือของสถานี Hanno และทางออกฝั่งตะวันออกของสถานี Higashi Hanno ซึ่งสามารถใช้นั่งบัสของ Seibu, Kokusai Kogyo และ Eagle ได้อีกด้วย พาสมีอายุ 1 วัน ราคา ผู้ใหญ่ 2,700 เยน, เด็ก 1,600 เยนค่ะ (สำหรับรถไฟขบวน Limited Express มีค่าบริการเพิ่มเติม)
สถานที่จำหน่าย
- Limited Express Ticket Office (B/1F) สถานี Ikebukuro
- Limited Express Ticket Office สถานี Seibu-Shinjuku
- สถานี Takadanobaba
- Seibu Tourist Information Center Ikebukuro.
วิธีการใช้
- แสดงพาสกับเจ้าหน้าที่เมื่อขึ้นรถไฟช่องพิเศษ
- แสดงพาสกับพนักงานขับรถตอนลงจากบัส
- และแสดงพาสตอนเข้าชมสวนสนุกได้เลยค่ะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ :
https://www.seiburailway.jp/railways/tourist/english/ticket/metsa.html
*หมายเหตุ* สำหรับคนที่สามารถซื้อและใช้พาสได้ต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่ถือ Passport ต่างชาติเท่านั้นค่ะ
กายพร้อม ใจพร้อม ! เริ่มออกเดินทางกันเลย
แต่ก่อนอื่นเรามาดูรถไฟที่เราใช้เดินทางจากโตเกียวไปยังจิจิบุ และเดินทางจากจิจิบุกลับเข้าโตเกียวกันนั่นก็คือ
“Laview” รถไฟขบวนของ Seibu ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว เพิ่งเปิดตัวและให้บริการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง โดยรถไฟจะวิ่ง 2 เส้นทางด้วยกันคือ จาก Seibu-Shinjuku ไปยัง Hon-Kawagoe และจาก Ikebukuro ไปยัง Seibu-Chichibu ใช้เวลาเพียง 1.20 ชม. เร็วม๊ากกก ใครอยากนั่งต้องซื้อตั๋วไว้ก่อนนะคะ โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่ Ticket Office ที่สถานีรถไฟของ Seibu ได้เลย
รถไฟขบวนนี้ ภายนอกสวยงาม ดูแปลกใหม่ไม่เหมือนใครเลยค่ะ หัวรถไฟมีความโค้งมน โครงสร้างทำจากอลูมิเนียมสีเงินดูเรียบหรูมาก ๆ ส่วนภายในออกแบบได้เอ็กซ์คลูซีฟไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง ทางเดิน หน้าต่างขนาดใหญ่ ชมวิวระหว่างทางได้แบบเต็มอิ่ม พื้นที่ภายในรถก็มีความกว้างขวาง สวยงามด้วยการตกแต่งโทนสีเหลืองตัดขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายสบายเหมือนนั่งอยู่ห้องนั่งเล่นที่บ้านเลย แถมยังมีจอขนาดใหญ่ให้ข้อมูลการเดินทางเป็นภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลี และจีนได้ด้วย บริเวณที่นั่งมีปลั๊กสำหรับชาร์ตแบต และมีไวไฟฟรีบริการตลอดเส้นทาง ดีไปอีก
*หมายเหตุ* หากต้องการนั่งรถไฟขบวน Laview ต้องเป็นเที่ยวที่เป็น Limited Express เท่านั้น!!
ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่า ในจิจิบุจะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจกันบ้าง
ศาลเจ้าจิจิบุ (Chichibu Shrine)
พิกัดแรกเราแวะมาเอาฤกษ์เอาชัยเสริมสิริมงคลกันที่ศาลเจ้าจิจิบุ ที่นี่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Chichibu จังหวัด Saitama ศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุมากกว่า 2,100 ปี แขกไปใครมาก็ต้องมาสักการะขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล
ศาลเจ้าแห่งนี้สวยงามมากค่ะ เพราะสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสมัยเอโดะ ที่ศาลเจ้าจะมีลวดลายการแกะสลักไม้เป็นลวดลายต่าง ๆ เช่นรูป เสือ มังกร และลิง 3 ตัว โดยศิลปินผู้สร้างนั้นคือ “Hidari Jingoro” เป็นศิลปินที่มีฝีมือมาก ๆ ในยุคเอโดะ และเป็นคนเดียวกับที่สร้างผลงานประติมากรรมที่ศาลเจ้า Toshogu อันงดงามที่นิกโกะด้วยค่ะ
มาดูบรรยากาศภายในศาลเจ้ากันค่ะ จะเห็นว่ามีความสงบ ร่มรื่นมาก ๆ
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมี เทศกาล “Chichibu Yomatsuri” (เป็นงานขบวนแห่เกี้ยวสุดยิ่งใหญ่ มีการตกแต่งเกี้ยวสุดอลังการซึ่งจะแห่ไปตามเส้นทางบนศาลเจ้า และมีการจุดพลุเฉลิมฉลองที่สวยงามค่ะ) จัดมานานกว่า 300 ปีแล้ว เรียกว่าเป็น
เทศกาลที่สวยงามและน่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะ
ที่อยู่ : 1-3 Banbamachi, Chichibu-shi, Saitama 368-0041
เวลาเปิด-ปิด : 6.00 -20.00 น. ※Summer Time *5.00-20.00 น. (เปิดทุกวัน)
การเดินทาง : จากสถานี Chichibu เดินประมาณ 3 นาที หรือจากสถานี Seibu-Chichibu เดินประมาณ 10 นาที
ศาลเจ้าโฮโดซัง (Hodosan Shrine)
ที่นี่เป็นศาลเจ้าชินโต มีอายุและประวัติยาวนานมาเกือบ 2,000 ปี ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาโฮโดของเมือง Nagatoro จังหวัดไซตามะ เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีประติมากรรมสีสันสวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ปกคลุม โดยศาลเจ้าแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศาลเจ้าแห่งโชคลาภและด้านการแก้ไขปัญหา จึงมีความเชื่อว่าหากใครที่ได้มาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้จะได้รับแต่โชคลาภกลับไป พร้อมปัดเป่าความโชคร้ายและสิ่งไม่ดีออกไป แคล้วคลาดจากภัยอันตราย ทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาเพื่ออธิษฐานขอพรเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัวกันไม่ขาดสายเลยค่ะ
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมากมาย ทั้งการขึ้นกระเช้าไปชมวิวบนยอดเขาโฮโด, เข้าชมสวนสัตว์โฮโดซัง และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะได้ชื่นชมความสวยของดอกโรไบ และดอกบ๊วยด้วย หรือใครที่ชื่นชอบการเดินป่า ที่นี่ถือเป็นเส้นทางการเดินป่าที่ดีอีกเส้นทางหนึ่งเลยล่ะค่ะ อีกทั้งยังสามารถชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไซตามะที่สวยงามผลัดกันไปในแต่ละฤดู มาที่นี่ได้ทั้งธรรมชาติ ได้ทำบุญและขอพรเลย
ที่อยู่: 1828 Nagatoro, Nagatoro-machi, Chichibu-gun, Saitama 369-1305
เวลาเปิด-ปิด : 8.30 -17.00 น.(Apr.-Sept.) / 8.30 -16.30 น.(Oct.-Mar.) (เปิดทุกวัน)
การเดินทาง : จากสถานี Nagatoro สาย Chichibu เดินประมาณ 13 นาที
[BR] Saitama ธรรมชาติสวยสุดฟิน กินเที่ยว Chichibu บุก MOOMINVALLEY PARK สุดคิ้วท์ที่ฮันโน
ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นทริปปี 2020 ที่ไหนดี เราขอส่งจังหวัด “Saitama” ประเทศญี่ปุ่น
เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงค่ะ รับรองถ้าได้ไปเที่ยวดูสักครั้งล่ะก็ฟินแน่นอน
โดยเฉพาะ Chichibu หนึ่งเมืองสวยในจังหวัดไซตามะ อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว เป็นเมืองที่อยู่ท่ามกลางหุบเขา มีทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เที่ยวได้ทุกฤดู แถมยังมีกิจกรรมฮิต ๆ ที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อและเคยได้ยินกันบ้าง นั่นก็คือการล่องเรือ Nagatoro, กิจกรรมชมดอกพิ้งค์มอส หรือ Shibazakura แถมเดินทางง่ายด้วยรถไฟสายเซบุ (Seibu) เหมาะสำหรับการเที่ยวพักผ่อนแบบสั้น ๆ จะไปเช้า-เย็นกลับก็โอเค หรือมีเวลาแค่ 1-2 วันก็เที่ยวได้ค่ะ เพราะการเดินทางสะดวกสบาย มาจากโตเกียวใช้เวลาเพียงชั่วโมงครึ่งเอง
ครั้งนี้เราเดินทางไปเที่ยวเมือง Chichibu เมือง Saitama กัน 2 วัน เพื่อเป็นการประหยัดค่าเดินทาง เราเลยเลือกซื้อพาส SEIBU 1 Day Pass + Nagatoro และอีกใบหนึ่งเป็น MOOMINVALLEY PARK Ticket&Travel Pass ซึ่งเราเปิดใช้งานคนละวัน บอกเลยว่าคุ้มสุด ๆ เพราะสามารถแวะที่เที่ยวได้เยอะมาก แต่ทั้งนี้การเลือกใช้พาส เพื่อน ๆ สามารถเลือกใช้ได้ให้เหมาะสมกับเส้นทางและสถานที่ ๆ จะไปได้เลยนะคะ
เอาล่ะ เดี๋ยวเราจะแนะนำทีละพาสนะจะได้ไม่งง เรามาเริ่มกันที่พาสแรกก่อนเลย
พาสนี้ใช้นั่งรถไฟสาย Seibu ทั้งหมด และ Chichibu (ระหว่างสถานี Nogami, Nagatoro - Mitsumineguchi โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง พาสนี้เป็นพาสที่เหมาะสำหรับการเที่ยวชิลล์ ๆ จากโตเกียวแบบเช้า-เย็นกลับได้ภายใน 1 วัน และยังสามารถแวะเที่ยวระหว่างทางได้ด้วย พาสมีอายุ 1 วัน ราคา ผู้ใหญ่ 1,500 เยน, เด็ก 750 เยน และยังมีพาสสำหรับ 2 วัน “SEIBU 2 Day Pass + Nagatoro” ด้วย สำหรับผู้ใหญ่ราคา 3,000 เยน, เด็ก 1,500 เยนค่ะ (พาสไม่ครอบคลุมสาย Tamagawa สำหรับขบวน Limited Express มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม)
สถานที่จำหน่าย
- Limited Express Ticket Office ชั้น 1 และชั้นใต้ดิน สถานี Ikebukuro
- Limited Express Ticket Office สถานี Seibu-Shinjuku
- SEIBU Tourist Information Center Ikebukuro
วิธีการใช้
- หากอยู่บนสาย Seibu ให้สอดตั๋วผ่านเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติ
- หากอยู่บนสาย Chichibu ให้เข้าช่องพิเศษด้านข้างแล้วเสนอตั๋วกับเจ้าหน้าที่ได้เลย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ :
https://www.seiburailway.jp/railways/tourist/english/ticket/daypass.html
แฟน ๆ มูมินพลาดไม่ได้กับพาสใหม่ล่าสุด พาสนี้เพิ่งเปิดจำหน่ายเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2019 คุ้มมาก ๆ เพราะนอกจากเราจะได้เข้าไปสนุก และเพลิดเพลินใน MOOMINVALLEY PARK (สวนสนุกธีมมูมิน) ยังสามารถใช้พาสเดินทางเที่ยวแวะสถานที่ต่าง ๆ ตามเส้นทางรถไฟสาย Seibu อย่าง Kawagoe และ Chichibu ราคาพิเศษได้ภายใน 1 วัน (ยกเว้นสาย Tamagawa) แถมพาสก็น่ารักน่าใช้ น่าเก็บเป็นของที่ระลึกมาก ๆ ด้วย
พาสนี้สามารถใช้เข้าชม MOOMINVALLEY PARK (ไม่รวมค่าเครื่องเล่นและค่าบริการอื่น ๆ) และสามารถใช้นั่งบัสไปยังสวนสนุกได้ฟรี โดยไป-กลับได้ 1 เที่ยว จุดขึ้นบัสรับส่งระหว่างสถานีไปยังสวนสนุก คือจุดบริการ Metsä จะอยู่ที่บริเวณทางออกทิศเหนือของสถานี Hanno และทางออกฝั่งตะวันออกของสถานี Higashi Hanno ซึ่งสามารถใช้นั่งบัสของ Seibu, Kokusai Kogyo และ Eagle ได้อีกด้วย พาสมีอายุ 1 วัน ราคา ผู้ใหญ่ 2,700 เยน, เด็ก 1,600 เยนค่ะ (สำหรับรถไฟขบวน Limited Express มีค่าบริการเพิ่มเติม)
สถานที่จำหน่าย
- Limited Express Ticket Office (B/1F) สถานี Ikebukuro
- Limited Express Ticket Office สถานี Seibu-Shinjuku
- สถานี Takadanobaba
- Seibu Tourist Information Center Ikebukuro.
วิธีการใช้
- แสดงพาสกับเจ้าหน้าที่เมื่อขึ้นรถไฟช่องพิเศษ
- แสดงพาสกับพนักงานขับรถตอนลงจากบัส
- และแสดงพาสตอนเข้าชมสวนสนุกได้เลยค่ะ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ :
https://www.seiburailway.jp/railways/tourist/english/ticket/metsa.html
*หมายเหตุ* สำหรับคนที่สามารถซื้อและใช้พาสได้ต้องเป็นนักท่องเที่ยวที่ถือ Passport ต่างชาติเท่านั้นค่ะ
กายพร้อม ใจพร้อม ! เริ่มออกเดินทางกันเลย
แต่ก่อนอื่นเรามาดูรถไฟที่เราใช้เดินทางจากโตเกียวไปยังจิจิบุ และเดินทางจากจิจิบุกลับเข้าโตเกียวกันนั่นก็คือ “Laview” รถไฟขบวนของ Seibu ที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยว เพิ่งเปิดตัวและให้บริการเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี่เอง โดยรถไฟจะวิ่ง 2 เส้นทางด้วยกันคือ จาก Seibu-Shinjuku ไปยัง Hon-Kawagoe และจาก Ikebukuro ไปยัง Seibu-Chichibu ใช้เวลาเพียง 1.20 ชม. เร็วม๊ากกก ใครอยากนั่งต้องซื้อตั๋วไว้ก่อนนะคะ โดยสามารถซื้อตั๋วได้ที่ Ticket Office ที่สถานีรถไฟของ Seibu ได้เลย
รถไฟขบวนนี้ ภายนอกสวยงาม ดูแปลกใหม่ไม่เหมือนใครเลยค่ะ หัวรถไฟมีความโค้งมน โครงสร้างทำจากอลูมิเนียมสีเงินดูเรียบหรูมาก ๆ ส่วนภายในออกแบบได้เอ็กซ์คลูซีฟไม่ว่าจะเป็นที่นั่ง ทางเดิน หน้าต่างขนาดใหญ่ ชมวิวระหว่างทางได้แบบเต็มอิ่ม พื้นที่ภายในรถก็มีความกว้างขวาง สวยงามด้วยการตกแต่งโทนสีเหลืองตัดขาว ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลายสบายเหมือนนั่งอยู่ห้องนั่งเล่นที่บ้านเลย แถมยังมีจอขนาดใหญ่ให้ข้อมูลการเดินทางเป็นภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ เกาหลี และจีนได้ด้วย บริเวณที่นั่งมีปลั๊กสำหรับชาร์ตแบต และมีไวไฟฟรีบริการตลอดเส้นทาง ดีไปอีก
*หมายเหตุ* หากต้องการนั่งรถไฟขบวน Laview ต้องเป็นเที่ยวที่เป็น Limited Express เท่านั้น!!
ทีนี้เรามาดูกันค่ะว่า ในจิจิบุจะมีที่เที่ยวไหนน่าสนใจกันบ้าง
พิกัดแรกเราแวะมาเอาฤกษ์เอาชัยเสริมสิริมงคลกันที่ศาลเจ้าจิจิบุ ที่นี่เป็นศาลเจ้าเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง ตั้งอยู่ใจกลางเมือง Chichibu จังหวัด Saitama ศาลเจ้าแห่งนี้มีอายุมากกว่า 2,100 ปี แขกไปใครมาก็ต้องมาสักการะขอพรเพื่อเป็นสิริมงคล
ศาลเจ้าแห่งนี้สวยงามมากค่ะ เพราะสร้างด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นสมัยเอโดะ ที่ศาลเจ้าจะมีลวดลายการแกะสลักไม้เป็นลวดลายต่าง ๆ เช่นรูป เสือ มังกร และลิง 3 ตัว โดยศิลปินผู้สร้างนั้นคือ “Hidari Jingoro” เป็นศิลปินที่มีฝีมือมาก ๆ ในยุคเอโดะ และเป็นคนเดียวกับที่สร้างผลงานประติมากรรมที่ศาลเจ้า Toshogu อันงดงามที่นิกโกะด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปีที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมี เทศกาล “Chichibu Yomatsuri” (เป็นงานขบวนแห่เกี้ยวสุดยิ่งใหญ่ มีการตกแต่งเกี้ยวสุดอลังการซึ่งจะแห่ไปตามเส้นทางบนศาลเจ้า และมีการจุดพลุเฉลิมฉลองที่สวยงามค่ะ) จัดมานานกว่า 300 ปีแล้ว เรียกว่าเป็น
เทศกาลที่สวยงามและน่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะ
ที่อยู่ : 1-3 Banbamachi, Chichibu-shi, Saitama 368-0041
เวลาเปิด-ปิด : 6.00 -20.00 น. ※Summer Time *5.00-20.00 น. (เปิดทุกวัน)
การเดินทาง : จากสถานี Chichibu เดินประมาณ 3 นาที หรือจากสถานี Seibu-Chichibu เดินประมาณ 10 นาที
ที่นี่เป็นศาลเจ้าชินโต มีอายุและประวัติยาวนานมาเกือบ 2,000 ปี ศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณตีนเขาโฮโดของเมือง Nagatoro จังหวัดไซตามะ เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่มีประติมากรรมสีสันสวยงาม เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ปกคลุม โดยศาลเจ้าแห่งนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศาลเจ้าแห่งโชคลาภและด้านการแก้ไขปัญหา จึงมีความเชื่อว่าหากใครที่ได้มาสักการะศาลเจ้าแห่งนี้จะได้รับแต่โชคลาภกลับไป พร้อมปัดเป่าความโชคร้ายและสิ่งไม่ดีออกไป แคล้วคลาดจากภัยอันตราย ทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาเพื่ออธิษฐานขอพรเสริมสิริมงคลให้แก่ตนเองและครอบครัวกันไม่ขาดสายเลยค่ะ
ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเยอะมากมาย ทั้งการขึ้นกระเช้าไปชมวิวบนยอดเขาโฮโด, เข้าชมสวนสัตว์โฮโดซัง และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะได้ชื่นชมความสวยของดอกโรไบ และดอกบ๊วยด้วย หรือใครที่ชื่นชอบการเดินป่า ที่นี่ถือเป็นเส้นทางการเดินป่าที่ดีอีกเส้นทางหนึ่งเลยล่ะค่ะ อีกทั้งยังสามารถชมซากุระและใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงของจังหวัดไซตามะที่สวยงามผลัดกันไปในแต่ละฤดู มาที่นี่ได้ทั้งธรรมชาติ ได้ทำบุญและขอพรเลย
เวลาเปิด-ปิด : 8.30 -17.00 น.(Apr.-Sept.) / 8.30 -16.30 น.(Oct.-Mar.) (เปิดทุกวัน)
การเดินทาง : จากสถานี Nagatoro สาย Chichibu เดินประมาณ 13 นาที
BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน