❣❣❣❣มาลาริน/ชวนอ่านค่ะ....ก่อนดูการอภิปรายของฝ่ายค้านที่เคยเป็นฝ่ายถูกอภิปรายในนโยบายจำนำข้าว

ชวนอ่านค่ะ....ก่อนดูการอภิปรายของฝ่ายค้านที่เคยเป็นฝ่ายถูกอภิปรายในนโยบายจำนำข้าว



เปิดรัฐสภาซักฟอกรัฐบาลวันที่2 อภิสิทธิ์อภิปรายนายกฯยิ่งลักษณ์ ประเด็นโครงการรับจำนำข้าว

ที่รัฐสภา นายบุญทรง  รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ว่า นายกรัฐมนตรีจะชี้แจงการอภิปรายของฝ่ายค้านในภาพรวมของนโยบายต่างๆ แต่หากถูกพาดพิงก็จะใช้สิทธิชี้แจง โดยเฉพาะเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ขอยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องทบทวนการดำเนินโครงการรับจำนำข้าว เพราะไม่มีสิ่งใดผิดพลาดที่ผ่านมาก็เปิดเผยการดำเนินการทุกขั้นตอน แต่ยอมรับรายละเอียดตัวเลขการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ที่จำเป็นต้องปิดเป็นความลับ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมากกว่าประเด็นการเมือง ส่วนการอภิปรายฯรัฐมนตรีทั้ง 3 คน เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ถือว่ารัฐมนตรีชี้แจงกับฝ่ายค้านได้ แต่เห็นว่าข้อมูลที่ฝ่ายค้านเตรียมมานั้นยังไม่ละเอียดพอ

https://www.posttoday.com/politic/news/190148

เกียรติ' นำทีม ส.ส.ประชาธิปัตย์ อัดนายกฯปมทุจริตจำนำข้าว ซัดเป็นนโยบายที่พบทุจริตอื้อ
 
26 พ.ย. 55 - การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล วันที่สอง ในช่วงบ่าย ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้สลับขึ้นอภิปรายรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ต่อประเด็นการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาล โดยนายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่าจากการตรวจสอบตัวเลขของกรมศุลกากรระบุว่าการส่งออกข้าวทั้งระบบของประเทศได้เพียง 4.7 ล้านตันเท่านั้นไม่ใช่ 5 ล้านกว่าตันตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง อยากตั้งข้อสังเกตว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเวียนเทียนข้าวในโครงการ เพราะในปีที่ผ่านเกษตรกรประสบภัยพิบัติน้ำท่วมและข้าวเปลือกเสียหายกว่า 8 ล้านตัน
 
นายเกียรติ อภิปรายอีกว่า นอกจากจะมีการเวียนเทียนนำสต๊อกเก่า รวมถึงข้าวในประเทศเพื่อนบ้านมาจำนำ แล้วการที่รัฐบาลบอกว่าได้ทำสัญญาขายข้าว 7.3 ล้านตันแล้วนั้นถือเป็นการส่งออกที่จะเสร็จสิ้นในปี 56 และกว่าจะได้เงินต้องบวกไปอีกกว่า 2 ปี และจะยิ่งขาดทุนเพราะเท่าที่ทราบรัฐบาลขายข้าวได้ต่ำกว่าราคากลางของตลาดที่กำหนดไว้ 600 เหรียญ หรือ 1.8 หมื่นบาทต่อตัน แต่ความจริงขายได้เพียง 400 เหรียญต่อตันเท่านั้น โดยอ้างว่าเป็นราคามิตรภาพ ไม่ทราบว่าใครให้สิทธินายกรัฐมนตรีไปขายข้าวในราคามิตรภาพ
 
"วันนี้ในวงการข้าวเขาทราบกันดีว่าถ้าโรงสีใดอยากได้ข่าวต้องติดต่อเจ๊ ด.คนเดียว และที่ผ่านมามีบริษัท ส.ได้สิทธิกระจายข้าวจากโครงการรับจำนำมีการจัดเป็นระบบในการส่งมอบ จัดหาข้าวและแบ่งกำไรให้โรงสีกิโลกรัมละ 1 บาท ที่ผ่านมามีผู้เตือนรัฐบาลเกี่ยวกับโครงการนี้ผ่านการเขียนบทความกว่า 3,500 บทความในประเทศ และบทความต่างประเทศถึง 356 บทความ แต่รัฐบาลไม่เคยรับฟัง" นายเกียรติ อภิปราย
 
นายเกียรติ กล่าวต่อว่า หากเทียบงบประมาณที่รัฐบาลใช้กับโครงการรับจำนำพบว่าขาดทุนมหาศาล เพราะมติคณะรัฐมนตรีอนุมัติเงิน 4.05 แสนล้านบาทต้องรับจำนำข้าวได้ 26 ล้านตันครอบคลุมเกษตรกร 4 ล้านครัวเรือน แต่รัฐบาลกลับใช้เงิน 4.05 แสนล้านรับจำนำข้าวได้เพียง 18 ล้านตันและครอบคลุมเกษตรกรเพียง 1.7 ล้านครัวเรือนเท่านั้น เท่ากับเงินหายไปถึง 1.2 แสนล้านบาท นอกจากนี้ตัวเลขจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติยังระบุว่ารัฐบาลใช้เงินโครงการรับจำนำข้าวนาปีและนาปรังในปี 54/55 รวมถึงข้าวนาปรังรวมเป็นงบที่ไม่ใช่เพียงเบิกออกมาแต่ใช้ไปแล้วถึง 5.17 แสนล้านบาท หากเทียบกับสูตร 4.05 แสนล้านบาทต้องได้ 26 ล้านตันแล้ว เท่ากับว่าเงินหายไปจากงบประมาณ 5.17 แสนล้านบาทถึง 1.8 แสนล้านบาท แต่ผลประโยชน์ที่ได้กลับพบว่าไม่ถึงมือชาวนา แต่กลับมีโรงสีเท่านั้นที่ได้รายได้อย่างมหาศาล โดยเป็นโรงสีพื้นที่ภาคกลาง จาการตรวจสอบโรงสีแห่งหนึ่ง มียอดรายได้ปี 54 ถึง 44 ล้านบาท ทั้งที่ยอดรายได้ในปี 53 มีเพียง 19 ล้านบาท หรือในโรงสีที่อยู่ใกล้ กทม. มีรายได้ปี 54 สูงถึง 114 บาท ทั้งที่ปี 53 มีรายได้แค่ 3หมื่นบาท
 
"โครงการนี้ผมมองว่าไม่ใช่โครงการทุจริตเชิงนโยบาย เรียกว่า เป็นการทุจริตด้วยนนโยบาย เพราะนโยบายทำให้เกิดทุจริตทั้งระบบ ชาวนาไม่ได้อะไร และนโยบายจะทำให้ประเทศล้มละลาย โครงการนี้ทุจริตทุกเม็ด มีคนโกยแล้วโกยอีก อยากถามว่าต่อมสำนึกนายกฯ อยู่ที่ไหน" นายเกียรติ อภิปราย
 
จากนั้น นายยุพราช บัวอินทร์ ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายว่าในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ พบว่ามีการโกงชาวนาเกิดขึ้น โดยโรงสี ทั้งในขั้นตอนการตรวจวัดความชื้น นอกจากนั้นแล้วยังพบด้วยว่าโรงสี ซึ่งไม่ได้เข้าในโครงการรับจำนำ ดำเนินการรับจำนำข้าวของเกษตรกร และนำไปขายให้กับ อตก. ทั้งนี้โรงสีที่รับซื้อข้าวดังกล่าวถูกตำรวจจับดำเนินคดี ทำให้ประเด็นนี้สงสัยว่า อตก. มีความผิดในข้อหารับของโจรหรือไม่ นอกจากนั้นแล้วยังพบว่ามีกระบวนการทำทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในพื้นทีโดยมีเจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้ที่ดำเนินการ
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงท้ายของการอภิปราย นายยุพราช ได้เปิดคลิปวีดีโอ ภาพการสนทนาระหว่างกลุ่มบุคคล โดยมี ชายรูปร่างอ้วน สวนเสื้อโปโลสีน้ำเงิน ที่ถูกคาดหน้าด้วยแถบสีดำ ระบุว่า “การจ่ายเงิน ต้องทำต่อหน้าผู้ว่าฯ เท่านั้น เพราะกฎหมายกำหนด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการยักยอกทรัพย์ เพราะผมได้เอาทรัพย์ของพวกท่านมาแล้ว” ทั้งนี้มีชายคนหนึ่งสอบถามขึ้นว่า “หากจะให้ออกใบประทวน หรือ จ่ายเงินสดก็บริการได้ใช่ไหม” ผู้ชายสวมเสื้อสีน้ำเงิน กล่าวตอบว่า “ได้เลย แต่การจ่ายเงินสด ต้องจ่ายผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเป็นกฎหมาย ไม่สามารถจ่ายเงินสดได้ด้วยตัวผมเอง เพราะผิดเงื่อนไขจำนำ” จากนั้นนายยุพราช อภิปรายต่อว่า คลิป วิดีโอดังกล่าวเป็นตัวอย่างความล้มเหลวขอโครงการรับจำนำของรัฐบาล ที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เป็นประธานกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ จ.เพชรบูรณ์ ขึ้นอีก
 
จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ขอใช้สิทธิ์ชี้แจงในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ว่า ตนขอข้อมูลที่นำมาเสนอ โดยตนจะเรียกตำรวจให้มารับคำร้องทุกข์ จากนั้นตนจะดำเนินการจับกุมผู้ที่ทุจริต แต่ยังไม่ทันที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะชี้แจงจบ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้ลุกประท้วงว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่มีสิทธิ์ที่จะชี้แจงต่อที่ประชุม โดยการประท้วงดังกล่าวได้ใช้เวลานานกว่า 30 นาที จึงสามารถเข้าสู่การอภิปรายตามปกติได้ โดยส่วนใหญ่เป็นการอภิปรายประกอบคลิปวิดีโอในประเด็นการลักลอบนำข้าวจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาสู่ประเทศไทย เพื่อสวมสิทธิ์ข้าวในโครงการรับจำนำ
 
 
'อรรถพร' เปิดคลิปอภิปรายสารพัดวิธีทุจริตจำนำข้าว
 
เมื่อเวลา 16.00 นายอรรถพร พลบุตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์  ได้อภิปรายพร้อมนำเสนอคลิปวีดีโอที่ทางพรรคบันทึกไว้เกี่ยวกับการทุจริตของโครงการรับจำนำข้าว โดยพบขั้นตอนการทุจริตในหลายรูปแบบและหลายพื้นที่ เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือง ภาคเหนือ และภาคกลาง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสานพบว่ามีการนำข้าวจากกัมพูชาเข้ามาจำนำในไทย ได้กำไรเฉลี่ยตันละหมื่นกว่าบาท
 
พร้อมกันนี้ยังมีเครือข่ายนักการเมืองร่วมมือกับโรงสีทำการเวียนเทียนข้าว โดยใช้วิธีการจำนำข้าวในจังหวัดหนึ่งและนำไปจำนำต่ออีกจังหวัดหนึ่ง ซึ่งจากคลิปเป็นการนำข้าวจากจ.อุบลราชธานีไปจำนำต่อที่จ.สุรินทร์ ทั้งนี้ พบว่ามีการนำข้าวนาปีที่นำไปเข้าโครงการรับจำนำข้าวแล้ว นำมาเทและบรรจุกระสอบใหม่แล้วนำไปเข้าโครงการรับจำนำข้าวนาปรัง ต่อ ขณะเดียวกันพบว่ามีการนำข้าวเหลืองซึ่งเป็นข้าวเสื่อมคุณภาพนำมาซ่อนไว้ในกองข้าวที่ได้คุณภาพด้านใน จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบ
 
นอกจากนี้ พบการทุจริตที่น่าอับอายที่สุดในพื้นที่จ.นครปฐม อ.ดอนตูม บ้านลาดสะแก ที่มีโรงสีแห่งหนึ่งร่วมมือกับชาวบ้านที่ไม่ได้ประกอบอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ซึ่งส่วนให้ประกอบอาชีพบ่อเลี้ยงปลาและสวนผัก โดยนำชาวบ้านไปลงทะเบียนชาวนา พร้อมแจ้งพื้นที่นาอันเป็นเท็จ จากนั้นจะทำการออกใบประทวนปลอม โดยโกงน้ำหนักรวมถึงราคารับจำนำข้าว เพื่อไปหลอกรัฐบาลให้ได้เงินจากโครงการมากกว่าความเป็นจริง และเมื่อได้เงินมาโรงสีจะแบ่งส่วนแบ่งให้กับชาวนาปลอม อีกทั้ง พบว่ามีคนในตระกูล “กุลดิลก” เป็นหุ้นส่วนอยู่ในโรงสีดังกล่าวด้วย
 
จากนั้น บรรยากาศการอภิปรายได้มีเกิดการประท้วงจากผู้ที่ถูกพาดพิงจากฝั่งรัฐบาลตลอดเวลา โดยร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ได้พยายามขออนุญาตประธานเพื่อทำการชี้แจงในประเด็นที่ถูกพาดพิง แต่นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งที่ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ไม่อนุญาตให้ร.ต.อ.เฉลิมชี้แจง รวมทั้งขอให้นายบุญทรง นั่งลง เพื่อขอทำความเข้าใจกับสมาชิก ว่า นายกรัฐมนตรีพูดภาพรวมแล้ว และสามารถมอบหมายให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องชี้แจงในรายละเอียดแทนได้
 
โดยนายถาวร เสนเนียม สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้ประท้วงว่าในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในขณะนั้นนายอภิสิทธิ์ ได้มอบหมายให้ตนชี้แจงแทน แต่ประธานในที่ประชุมกลับวินิจฉัยว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเป็นการเสนอญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ ดังนั้น ขอยืนยันว่าต้องเป็นนายกฯเท่านั้นที่ต้องชี้แจง และขอให้ประธานตีความกฎหมายอย่างเคร่งครัดตามตัวอัษรด้วย
 
ขณะที่นายสมศักดิ์ วินิจฉัยยืนยันว่า ตามข้อบังคับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องสามารถชี้แจงได้รวมถึงใช้สิทธิ์อภิปรายเมื่อมีการอภิปรายพาดพิงได้ จากนั้นร.ต.อ.เฉลิม .ใช้สิทธิ์ชี้แจงว่า ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการตรวจสอบเพื่อป้องกันการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว  และที่ผ่านมามีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่ทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวถึง 81 คดี และขณะนี้ศาลได้พิพากษาไปแล้วจำนวน 2 คดี
 
ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างดำเนินการ ดังนั้น รัฐบาลขอแสดงความจริงใจในประเด็นการปราบทุจริต ขอให้ฝ่ายค้านนำหลักฐานการทุจริตข้าวมามอบให้ตน โดยจะเปิดห้อง 3310 รอ และจะเชิญตำรวจที่เกี่ยวข้องมารับเรื่องร้องทุกข์โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่มีการปาหี่
 

อุ๊ย...กำลังอ่านเพลินๆ 

มีต่อค่ะ  ติดตามนะคะ....

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่